สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553
ท่าอากาศยานนานาชาติคุนหมิงฉางสุ่ย หรือ สนามบินนานาชาติคุณหมิง (Kunming Changshui International Airport) ตัวย่อสนามบิน: KMG ตั้งอยู่บริเวณทางเหนือของจีน ณ มณฑลยูนาน ประเทศจีน เริ่มก่อสร้างใน พ.ศ.2501 ภายใต้โครงการพัฒนาระบบคมนาคมของประเทศ ซึ่งเป็นนโยบาลแผนพัฒนาประเทศสมัย สี จิ้นผิง ผู้นำรุ่นที่ห้าของสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยเปิดให้ใช้บริการคมนาคม ในวันที่ 11 กันยายน พ.ศ.2512
เมืองคุนหมิง เป็นเมืองหลวงของมณฑลยูนนาน ตั้งอยู่ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศจีน มีฐานะเป็นศูนย์กลางทางการติดต่อระหว่างจีนกับเอเชียอาคเนย์ พรมแดนติดกับพม่า ลาว และเวียดนาม ทำให้มีความหลากหลายทางเชื้อชาติ วัฒนธรรม มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เช่น ป่าหิน ทะเลสาบเตียนฉือ ประตูมังกร เป็นอีกเมืองที่คนไทยนิยมมาเที่ยวพักผ่อน เนื่องจากใกล้กับประเทศไทยและค่าใช้จ่ายไม่สูงมากนั่นเอง
ตำหนักทองจินเตี้ยน (The Golden Temple Park | Jindian park) ตำหนักทองจินเตี้ยนตั้งอยู่บนภูเขาหมิงฟ่งซาน ด้านทิศตะวันออกของเมืองคุนหมิง สร้างโดยแม่ทัพในสมัยราชวงศ์หมิง อดีตเคยเป็นที่พักของอู๋ซันกุ้ยขุนศึกผู้ขายชาติ และนางงามเฉินหยวนหยวน ตำหนักหลังนี้มีความสูง 6.7 เมตร กว้าง 6.2 เมตร และเป็นตำหนักเพียงแห่งเดียวที่มีฝาผนัง และหลังคาที่สร้างด้วยทองเหลืองที่มีน้ำหนักถึง 380 ตัน นับว่าเป็นสิ่งปลูกสร้างทองเหลืองที่ใหญ่สุดของจีน จึงนับว่าที่นี่คือ วิหารทองเหลืองที่ใหญ่ที่สุดของจีน
สวนน้ำตกคุนหมิง (Kunming Waterfall Park หรือ Niulan River Waterfall Park) ตั้งอยู่ทางเหนือของเมืองคุนหมิง ประเทศจีน เป็นสวนสาธารณะใจกลางเมืองคุนหมิง ภายในประกอบไปด้วยน้ำตกและทะเลสาบอีก 2 แห่ง ที่สร้างขึ้นด้วยฝีมือมนุษย์ ไฮไลท์ของสวนอย่างน้ำตกใหญ่ยักษ์ ถือเป็นน้ำตกฝีมือมนุษย์ที่ยาวเป็นอันดับของเอเชียเลยทีเดียว ข้างล่างของน้ำตกเป็นทะเลสาบที่มีทางเดินพาดอยู่ สามารถเดินชมวิวสวยๆ ได้ นอกจากนี้รอบๆ ทะเลสาบยังมีทางเดินให้เดินเล่นเที่ยวชิลๆ อีกด้วย
เมืองต้าหลี่ (Dali) เป็นเมืองเอกของเขตปกครองตนเองชนชาติไป๋ ต้าหลี่ มณฑลยูนนาน ทางตอนใต้ของสาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นเขตปกครองตนเองทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ในมณฑลยูนนานตั้งอยู่ระหว่างทะเลสาบเอ๋อไห่กับภูเขาฉางซานที่ระดับ 1,975 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล โดยมีชนกลุ่มน้อยอาศัยอยู่ร่วมกันกว่า 20 เชื้อชาติ แต่ก็ยังคงเหลือร่องรอยอารยธรรมเก่าให้พบเห็นได้บนเส้นทางจากต้าหลี่ถึงลี่เจียง
วัดเจ้าแม่กวนอิมแปลงกาย (Dali Guanyin Temple) เป็นวัดที่มีประติมากรรมเยี่ยมยอดและมีชื่อเสียงของเมืองเก่าต้าหลี่ ตั้งอยู่ในทิศใต้ของเมือง จากตำนานโบราณเล่าขานกันว่าในสมัยราชวงศ์ถัง เจ้าแม่กวนอิมได้แปลงร่างเป็นหญิงชราอายุกว่า 80 ปี แบกก้อนหินใหญ่ไว้ข้างหลัง ยืนกีดขวางทางทหารไม่ให้เดินทางเข้ามาตึเมืองได้ ชาวเมืองต้าหลี่จึงร่วมใจกันสร้างวัดนี้ขึ้น กลายเป็นสัญลักษณ์ของเมือง หากใครมาเยือนที่เมืองนี้ ต้องมาสักการะและรำลึกถึงพระคุณของเจ้าแม่กวนอิม
เจดีย์สามองค์ ตั้งอยู่ที่วัดฉงเซิ่ง เป็นเจดีย์ที่สร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์ถัง พร้อมทั้งวัดแต่วัดถูกทำลายเสียหายหมดสิ้น เหลือเจดีย์สามองค์ ที่สร้างด้วยอิฐตั้งอยู่ริมทะเลสาบเอ๋อไห่ ลักษณะเหมือนเจดีย์ห่านป่าที่ซีอาน เจดีย์องค์ใหญ่สูง 69.13 เมตร เป็นเจดีย์ทึบ 16 ชั้น อีกสององค์เป็นเจดีย์อิฐทึบ 10 ชั้นสูง 42.19 เมตร เป็นสัญลักษณ์ของเมืองตาลีฟู เจดีย์สามองค์ ถือได้ว่าเป็นสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ในสมัยน่านเจ้าและต้าหลี่ ปัจจุบันเป็นสัญลักษณ์ของเมืองต้าหลี่
เมืองโบราณต้าหลี่ (Dali Ancient Town) เป็นเมืองโบราณแห่งที่ยังคงอยู่ในสภาพค่อนข้างสมบูรณ์ นักท่องเที่ยวจะเห็นประตูเมืองทั้งด้านใต้ และด้านเหนือที่มีสถาปัตยกรรมสอดรับกัน ตามสองฟากของถนนสายเก่าแก่มีบ้านโบราณ ร้านค้าต่าง ๆ ปลูกสร้างไว้อย่างกระจัดกระจาย มีถนนสายเก่าแก่ที่ตัดผ่านตัวเมืองโบราณสายหนึ่ง ซึ่งทุกวันนี้ได้กลายเป็นถนนย่านการค้าที่เจริญคึกคัก มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจ เช่น เจดีย์สามองค์ในวัด "ฉงเซิ่ง" ทะเลสาบเอ๋อไห่ น้ำพุ "หูเตี๋ย" เจดีย์สามองค์วัดฉงเซิ่ง ซุ้มประตู กำแพงเมือง เป็นต้น
เมืองจงเตี้ยน (Zhongdian City) หรือ แชงกรี-ลา (Shagri-La) เปรียบได้กับสวรรค์บนดินที่นักท่องเที่ยวจากทั่วโลก เนื่องจากเป็นเมืองสวยงาม ผู้คนล้วนมีมิตรไมตรี มีบรรยากาศเงียบสงบแบบสวรรค์บนดิน ทำให้หลายคนปรารถนามาสัมผัสบรรยากาศอันหนาวเย็นระดับ 1–2 องศา เป็นเมืองที่อยู่ทางตอนเหนือสุดของมณฑลยูนนาน ของสาธารณะรัฐประชาชนจีน และทางใต้สุดของมณฑลนี้ ก็อยู่ไม่ไกลจากประเทศไทยของเรา ปัจจุบันนี้เมืองจงเตี้ยน มีสิ่งก่อสร้างอาคารบ้านเรือนเกิดขึ้นใหม่อย่างมาก มีวัดวัดต้าฝอ วัดซงจ้านหลิน ตลาดเก่าเมืองจงเตี้ยน ฯลฯ
ช่องแคบเสือกระโจน (Tiger Leaping Gorge) เป็นช่องระหว่างหุบเขาเหนือแม่น้ำแยงซี ที่อยู่ระหว่างทางแยกของเมืองลี่เจียงและเมืองจงเตี้ยน อันเป็นบริเวณที่น้ำไหลผ่าน ระหว่างภูเขาหิมะมังกรหยกและภูเขาหิมะฮาป๋า อันเป็นจุดที่น้ำค่อนข้างไหลเชี่ยว โดยช่วงที่แคบที่สุดนั้นมีความกว้างเพียง 30 เมตรเท่านั้น ซึ่งตามตำนานมีเรื่องเล่าขานว่า ในอดีตช่องแคบนี้เคยมีเสือกระโดดข้ามไปยังฝั่งตรงข้ามได้ เนื่องจากตรงกลางแม่น้ำในจุดนี้ มีหินที่เรียกว่าหินเสือกระโดดตั้งอยู่ และนั่นจึงเป็นที่มาของชื่อช่องแคบนี้นั่นเอง
เมืองโบราณแชงกรีล่า (Shangri La) หรือเดิมมีชื่อว่า เมืองจงเตี้ยน เทศมณฑลในจังหวัดปกครองตนเองชนชาติทิเบต ตี๋ชิ่ง ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของมณฑลยูนนาน มีชนชาติส่วนน้อย 25 ชนชาติ เมืองโบราณแชงกรีล่าเป็นชุมชนเก่าของชาวทิเบต ชาวบ้านเรียกเกลทัง รายล้อมไปด้วยร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านของที่ระลึกและเกสต์เฮาส์ ถนนดินกลายเป็นถนนปูด้วยหินกรวด ตอนเย็นจะมีการแสดงพื้นบ้านของชาวทิเบตที่จัตุรัสใหญ่
วัดซงจ้านหลินซื่อ (Songzanlin Monastery) เป็นวัดที่มีสถาปัตยกรรมแบบทิเบต ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาฝอปิง ห่างจากเมืองจงเตี้ยนไปทางเหนือ 4 กิโลเมตร สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1679 เป็นวัดลามะที่มีอายุเก่าแก่กว่า 300 ปี มีพระลามะจำพรรษาอยู่กว่า 700 รูป สร้างขึ้นโดยดะไลลามะองค์ที่ 5 ซึ่งใกล้เคียงกับสมัยอยุธยาตอนต้น ในช่วงศตวรรษที่ 18 สมัยจักรพรรดิ์คังซีแห่งราชวงศ์ชิงได้มีการซ่อมแซมต่อเติมอีกหลายครั้ง โครงสร้างของวัดแห่งนี้สร้างตามแบบพระราชวังโปตาลา ในเมืองลาซา (ทิเบต) มีรูปปั้นทองสัมฤทธิ์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุด
ทะเลสาบนาพาไห่ เป็นทุ่งหญ้ากึ่งทะเลสาบที่มีความกว้างใหญ่ อยู่ห่างจากตัวเมืองไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ 8กม ตั้งอยู่บนระดับความสูง 3,266เมตร มีทิวทัศน์สวยงามแวดล้อมด้วยเขา 3 ด้าน ฤดูร้อนมีพื้นที่ชุ่มน้ำถึง 660ตรม กลายเป็นทะเลสาบน้ำใสสะอาดสีมรกต และมีพื้นที่บางส่วน ซึ่งเป็นทุ่งโล่ง ชาวทิเบตใช้สัญจรและเลี้ยงสัตว์ มีลักษณะเด่นที่พืชพันธุ์ในทุ่งหญ้าจะปรับเปลี่ยนไปตามฤดูกาล ในฤดูใบไม้ผลิมีดอกไม้สีเหลืองขึ้นเต็มทุ่ง และในฤดูใบไม้ร่วงจะเปลี่ยนเป็นต้นหญ้าสีแดง
สระมังกรดำ (Black Dragon Pool) สระน้ำมังกรดำหรือเฮยหลงถัน ตั้งอยู่ภายในสวนสาธารณะยู้วฉวน เมืองลี่เจียง โดยอยู่ห่างจากตัวเมืองเก่าลี่เจียงไปทางทิศเหนือประมาณ 1 กิโลเมตร ในบริเวณเชิงเขาเซี่ยงซาน สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1737 ในสมัยราชวงศ์ชิง ซึ่งสระน้ำมังกรดำมีจุดเด่นคือ เป็นน้ำที่เกิดจากน้ำพุอันมีความใสจนมองเห็นพืชใต้น้ำสีเขียว ที่สะท้อนกับผืนน้ำราวกับสีของมรกต นอกจากนี้ภายในบริเวณยังสถาปัตยกรรมต่าง ๆ ที่ผสมผสานวัฒนธรรมของชาวฮั่น ทิเบตและนาซี ไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ทั้งสะพานหินโค้ง
เมืองโบราณลี่เจียง ตั้งอยู่ในอำเภอปกครองตนเองของชนชาติน่าซีแห่งลี่เจียง ในมณฑลยูนนานทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีน เป็นเมืองที่เริ่มสร้างตั้งแต่ปลายราชวงศ์ซ่งและต้นราชวงศ์หยวน เมืองนี้อยู่บนที่ราบสูงยูนนานและกุ้ยโจวที่สูงกว่าระดับน้ำทะเลเกิน 2,400 เมตร เป็นตลาดและเมืองสำคัญที่มีชื่อเสียงมาตั้งแต่สมัยโบราณ ปัจจุบันมีชาวเมืองกว่า 25,000 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวน่าซี มีชาวเมืองร้อยละ 30 ยังคงประกอบอาชีพผลิตเครื่องศิลปหัตถกรรม ที่มีมาแต่ดั้งเดิมและการค้า
ภูเขาหิมะมังกรหยก (Jade Dragon Snow Mountain) เป็นเทือกเขาที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองลี่เจียง มณฑลยูนนาน เป็นแหล่งท่องเที่ยวสุดสวยและมีชื่อเสียงของประเทศจีน มีลักษณะเป็นภูเขาสูงใหญ่ที่มีหิมะปกคลุมตรงปลายยอดตลอดทั้งปี จนได้ชื่อว่าเป็น "สวิตเซอร์แลนด์แห่งเมืองจีน"
การแสดง (Impressions Lijiang Show) ซึ่งเป็นหนึ่งสิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาถึงลี่เจียง นอกจากชมเมืองเก่า เที่ยวภูเขาหิมะ ก็คือการชมโชว์สุดอลังนี่หล่ะ ถือเป็นโชว์แบบโอเพ่นแอร์ที่สเกลใหญ่ที่สุดในจีน บอกเลยว่ายิ่งใหญ่ กับฉากผาหินสีแดง มีแบล็คกราวด์ฉากเป็นภูเขาหิมะมังกรหยก โดยการแสดงจะร้องเพลง เต้น และแสดงเกี่ยวกับวัฒนธรรมตามคัมภีร์ตงปาของคนพื้นเมืองลี่เจียงที่นี่
หุบเขาพระจันทร์สีน้ำเงิน (Blue Moon Valley) ตั้งอยู่ในเขตของภูเขาหิมะมังกรหยกในลี่เจียง ลี่เจียงเป็นหุบเขาที่มีแม่น้ำเลี้ยวโค้งไปตามเชิงเขา ถ้ามองจากด้านบนจะเห็นเหมือนพระจันทร์เสี้ยวสีน้ำเงินอยู่ในหุบเขา นี่จึงเป็นที่มาของชื่อหุบเขาพระจันทร์สีน้ำเงินนั่นเอง คนพื้นเมืองเชื่อว่ามันคือแม่น้ำแห่งความรัก ในฤดูหนาวแฟนหนุ่มจะมายืนเท้าเปล่าในน้ำที่เย็นเพื่อพิสูจน์รักที่มีให้แฟนสาว ใครมีแฟนอย่าลืมชวนแฟนไปด้วยน้าา
วัดหยวนทง (Yuantong Temple) เป็นวัดศาสนาพุทธที่ใหญ่มากแห่งหนึ่งของคุนหมิง และเป็นวัดหลวงเก่าแก่คู่บ้านคู่เมือง มีประวัติยาวนานกว่า 1,200ปี เป็นวัดของนิกายมหายาน สร้างขึ้นในราชวงศ์หยวน ภายในวัดสร้างอยู่บริเวณตีนเขา ซึ่งแตกต่างไปจากวัดทั่วไปของจีนที่มักสร้างไว้ในที่สูง เช่น บนยอดเขาหรือเนินเขา มีอาคารต่างๆ,โบถส์ไทยอันเป็นที่ประดิษฐานของเจ้าแม่กวนอิมและพระพุทธชินราชจำลองจากประเทศไทย ที่ท่านนายกเกรียงศักดิ์ ชมะนันท์ ได้อันเชิญมาจากจังหวัดพิษณุโลก เพื่อเชื่อมสัมพันธ์ไมตรีระหว่างไทย – จีน
เมืองโบราณกวนตู้ (Guandu Old Town) ตั้งอยู่เมืองคุณหมิง ประเทศจีน เมืองบรรยากาศแบบโบราณที่ตั้งใจสร้างขึ้นมา เพื่อสะท้อนให้เห็นชีวิตความเป็นอยู่ของชาวจีนในคุนหมิงสมัยก่อน มีหลากหลายชาติพันธุ์แต่อยู่ร่วมกันได้อย่างกลมกลืน โดยอนุรักษ์สถาปัตยกรรมของร้านค้าแบบจีน และส่วนบริเวณด้านหลังของเมืองโบราณกวนตู้นั้น ก็ยังเป็นที่ตั้งของวัดลามะ หรือวัดธิเบตอีกด้วย
ซุ้มประตูม้าทองและซุ้มประตูไก่มรกต (Golden Horse and Jade Cock Gate) ตั้งอยู่ตอนกลางของถนนจินปี้ลู่ ซึ่งเป็นถนนที่เก่าแก่ที่สุดของเมืองคุนหมิง มีซุ้มประตูม้าทองและซุ้มประตูไก่มรกต ซึ่งภาษาจีนเรียกว่าจินหม่าและปี้จี และเป็นที่มาของชื่อถนนแห่งนี้ โดยซุ้มม้าทองและไก่มรกตมีอายุร่วม 400 ปี สร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์หมิง ในถนนย่านการค้าแห่งนี้ เป็นแหล่งเสื้อผ้าแบรนด์เนมทั้งของจีนและต่างประเทศ รวมทั้งเครื่องประดับอัญมณีชั้นเยี่ยม ร้านเครื่องดื่ม ร้านอาหารพื้นเมือง และร้านขายของที่ระลึก ฯลฯ
ท่าอากาศยานนานาชาติคุนหมิงฉางสุ่ย หรือ สนามบินนานาชาติคุณหมิง (Kunming Changshui International Airport) ตัวย่อสนามบิน: KMG ตั้งอยู่บริเวณทางเหนือของจีน ณ มณฑลยูนาน ประเทศจีน เริ่มก่อสร้างใน พ.ศ.2501 ภายใต้โครงการพัฒนาระบบคมนาคมของประเทศ ซึ่งเป็นนโยบาลแผนพัฒนาประเทศสมัย สี จิ้นผิง ผู้นำรุ่นที่ห้าของสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยเปิดให้ใช้บริการคมนาคม ในวันที่ 11 กันยายน พ.ศ.2512
สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553