สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553
สนามบินเอดินบะระ หรือ ท่าอากาศยานเอดินบะระ (Edinburgh Airport) หรือเรียกโดยทั่วไปว่า เทิร์นเฮาส์ ตัวย่อสนามบิน: EDI ตั้งอยู่ที่เมืองเอดินบะระ สกอตแลนด์ ห่างจากตัวเมืองไปทางตะวันตกประมาณ 13 กิโลเมตร เป็นท่าอากาศยานที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 6 ของสหราชอาณาจักร ให้บริการเที่ยวภายในประเทศและระหว่างประเทศ
เมืองเอดินบะระ หรือ เมืองเอดินเบิร์ก (Edinburgh) เมืองหลวงของแคว้นสกอตแลนด์ สหราชอาณาจักร เป็นเมืองเก่าแก่ที่มีประวัติความเป็นมาตั้งแต่ยุคกลาง ลักษณะภูมิประเทศเป็นภูเขาสูงอยู่กลางเมือง เมืองเอดินบะระเป็นเมืองที่มีทัศนียภาพสวยงาม เมืองนี้แบ่งออกเป็นสองส่วนสำคัญดังนี้คือ โอลด์ทาวน์ ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ มีถนนหรือทางเดินที่เก่าแก่ในยุคกลางและจอร์เจียนนิวทาวน์ ที่มีความงามในแบบนีโอ-คลาสสิค ทั้งเมืองเก่าและเมืองใหม่ที่สวยงามของเอดินบะระ ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก
ตั้งอยู่บนเนินเขาอันสง่างาม เริ่มสร้างขึ้นในราวช่วงศตวรรษที่ 11-16 มองเห็นเด่นเป็นสง่าจากทุกมุมเมือง เคยเป็นที่ประทับของกษัตริย์สก๊อต เคยถูกทำลายลงหลายครั้ง แต่ทุกครั้งก็ได้รับการบูรณะ และสร้างใหม่ให้กลับคืนสู่ความสง่างาม โดยเฉพาะครั้งสุดท้าย ในศตวรรษที่ 19 โดยเซอร์วอลเตอร์ สก็อต นักปราชญ์ ชาวสก็อต เชิญรับรู้ประวัติศาสตร์ความเป็นมาของปราสาทแห่งนี้ เป็นโบราณสถานอันล้ำค่าและหวงแหนของชาวสก๊อตแลนด์ ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์และสถานที่เก็บสมบัติล้ำค่ามากมาย
เมืองกลาสโกว์ (Glasgow)เป็นเมืองใหญ่ในสหราชอาณาจักรที่มีความเจริญรุ่งเรืองและล้ำหน้ามากที่สุดเมืองหนึ่ง ตั้งแต่ในศตวรรษที่ 16 เมืองกลาสโกว์เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วเนื่องจากการเป็นเมืองท่าใหญ่ของมหาสมุทรแอตแลนติก จากนั้นในศตวรรษที่ 19 อุตสาหกรรมเหล็ก การต่อเรือ และยานยนต์ได้เติบโตขึ้นจนเป็นผลทำให้ผู้คนหลั่งไหลเข้ามา ในที่สุด กลาสโกว์กลายเป็นเมืองที่สามของยุโรปที่มีจำนวนประชากรเกินหนึ่งล้านคน รองจากลอนดอนและปารีส และกลายเป็นเมืองสำคัญอันดับสองของสหราชอาณาจักรรองจากลอนดอน
ทะเลสาบลอชโลมอน (Loch Lomond) ขึ้นชื่อว่าเป็นทะเลสาบน้ำจืดที่สวยที่สุดในสกอตแลนด์ และมีขนาดใหญ่ที่สุดในเครือสหราชอาณาจักร ความยาวทั้งสิ้นราว 39 กิโลเมตร นำท่านถ่ายรูปบรรยากาศริมทะเลสาบ ณ จุดชมวิว ที่สมเด็จพระราชินีควีนอลิซาเบธครั้งหนึ่งเคยทรงทอดพระเนตรชมความงาม ณ ริมทะเลสาบแห่งนี้เมื่อครั้งปี ค.ศ.1879
หมู่บ้านไคเลียคิน (Kyleakin) แห่งเกาะสกาย (Isle of Skye) เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่บนชายฝั่งตะวันออกของเกาะสกาย และเป็นที่ตั้งของซากปราสาทโบราณดูนากิน (Dunakin Castle) ปราสาทที่ตั้งอยู่ใกล้ท่าเรือของหมู่บ้าน โดยปราสาทแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 15 ตำนานกล่าวว่าปราสาทถูกสร้างขึ้นมาสำหรับเจ้าหญิงนอร์เวย์
เมืองสเตอร์ลิง (Stirling)เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในแขวงการปกครองสเตอร์ลิงและปริมณฑล ในมณฑลผู้บริหารแทนพระองค์สเตอร์ลิงและฟอล์คเคิร์คในสกอตแลนด์ ตัวสเตอร์ลิงตั้งอยู่รอบปราสาทสเตอร์ลิงและเมืองโบราณจากยุคกลาง สเตอร์ลิงเป็นที่มั่นหลักแห่งหนึ่งของประเทศสกอตแลนด์ และถูกสถาปนาให้เป็นรอยัลบะระห์ (Royal burgh) โดยพระเจ้าเดวิดที่ 1 แห่งสกอตแลนด์ในปี ค.ศ. 1130 และอยู่ในฐานะนั้นจนปี ค.ศ. 1975
ปราสาทสเตอร์ลิง (Stirling Castle) ซึ่งเป็นปราสาทที่มีความโดดเด่นทางด้านประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรม และมีขนาดใหญ่ที่สุดและสำคัญที่สุดปราสาทหนึ่งของสกอตแลนด์ ตั้งอยู่บนเนินคาลเซิลฮิลล์ (Castle Hill) ซึ่งเป็นเนินที่เกิดจากหินภูเขาไฟโบราณ และล้อมรอบสามด้านด้วยผาสูงชันทำให้เหมาะแก่การป้องกันตน
เมืองกลาสโกว์ (Glasgow)เป็นเมืองใหญ่ในสหราชอาณาจักรที่มีความเจริญรุ่งเรืองและล้ำหน้ามากที่สุดเมืองหนึ่ง ตั้งแต่ในศตวรรษที่ 16 เมืองกลาสโกว์เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วเนื่องจากการเป็นเมืองท่าใหญ่ของมหาสมุทรแอตแลนติก จากนั้นในศตวรรษที่ 19 อุตสาหกรรมเหล็ก การต่อเรือ และยานยนต์ได้เติบโตขึ้นจนเป็นผลทำให้ผู้คนหลั่งไหลเข้ามา ในที่สุด กลาสโกว์กลายเป็นเมืองที่สามของยุโรปที่มีจำนวนประชากรเกินหนึ่งล้านคน รองจากลอนดอนและปารีส และกลายเป็นเมืองสำคัญอันดับสองของสหราชอาณาจักรรองจากลอนดอน
มหาวิหารแห่งเมืองกลาสโกว์ (Glasgow Cathedral) สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 12 สร้างขึ้นตามแบบสถาปัตยกรรมโกธิค โดยมหาวิหารแห่งนี้ได้เป็นสุสานฝังศพของนักบุญ Saint Mungo ท่านสามารถเดินเล่นช้อปปิ้ง ณ ถนน Buchanan Street สถานที่แห่งการจับจ่าย หรือการนัดพบของคนเมือง ถนนสายนี้จะเป็นถนนที่มีผู้คนพลุกพล่านมาก คุณสามารถเดินชมอาคารบ้านเรือนที่ยังคงอนุรักษ์ความเก่าแก่ และสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิมไว้เป็นอย่างดี
หมู่บ้านเคนไรอันเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่บนฝั่งตะวันออกของทะเลสาบไรอัน ซึ่งอยู่ห่างจากหมู่บ้านแตรแรร์ไปทางตอนเหนือประมาณ 6 ไมล์ ซึ่งที่นี่สามารถมองเห็นเมืองในส่วนที่เชื่อมโยงระหว่างสก๊อตแลนด์และไอร์แลนด์เหนือได้อย่างชัดเจน ทั้งนี้เคนไรอันถือเป็นหมู่บ้านที่มีความสำคัญในประวัติศาสตร์การเดินเรือข้ามฟากที่เชื่อมต่อระหว่างสกอตแลนด์และไอร์แลนด์เหนือ
กัลเวย์ (Galway) ถูกเรียกว่าเป็น “City of Tribes” ตั้งอยู่บนอ่าวรูปทรงโค้งทางชายฝั่งตะวันตกของไอร์แลนด์ เมืองกัลเวย์เป็นสถานที่อันยอดเยี่ยมสำหรับการเดินทางไปยังเกาะอารัน และพื้นที่ที่มีลักษณะภูมิประเทศเป็นเนินเขาสลับกับที่ราบเป็นลูกคลื่นที่อยู่ห่างไกล ของแคว้นคอนเนอมารา และเมืองที่เต็มไปด้วยกรวดหินเหล่านี้เ พื่อนๆ สามารถดื่มด่ำไปกับสเน่ห์ของย่านผับบาร์อย่างเครนแอนด์ทาฟฟ์ส์ ฟังดนตรีเพราะๆ ได้บรรยากาศที่ย่านรอยซินดับฮ์หรือไปร่วมเชียร์ทีมฟุตบอลกัลเวเจียนส์กันแบบมันส์ๆ ได้ที่ย่านเดอะบลูโน้ต
คลิฟส์ ออฟ โมเออร์ (Cliffs of Moher) ผาชันแห่งโมเออร์ตั้งอยู่ในเขตเคาน์ตี แคลร์ เป็นหนึ่งในทิวทัศน์อันน่าทึ่งที่สุดของไอร์แลนด์ ตั้งตระหง่านด้วยความสูง 230 เมตรเหนือมหาสมุทรแอตแลนติก แนวผาทอดยาวสุดสายตาเป็นระยะทางราว 8 กิโลเมตร และบนยอดของหน้าผาเป็นที่ราบกว้างใหญ่ อยู่สูงจากน้ำทะเลเบื้องล่างทำให้เกิดทัศนียภาพอันงดงามที่น่าอัศจรรย์ทางธรรมชาติของผาชัน ขุนเขา และท้องทะเลมหาสมุทรแอตแลนติก บ้างก็ว่าการได้มาเยือน คลิฟส์ ออฟ โมเออร์ เสมือนได้มายืน ณ จุดปลายสุดของขอบโลก เลยทีเดียว
เมืองลิมริค (Limerick) เป็นเมืองใหญ่อันดับ 3 มีทำเลที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำแชนนอน ได้รับการกล่าวขานว่ามีทัศนียภาพงดงามที่สุดของไอร์แลนด์ ด้วยเคยถูกครอบครองโดยชนเผ่าไวกิ้งในศตวรรษที่เก้า เมืองอันทันสมัยแห่งนี้ยังคงมีร่องรอยของความเจริญยุคกลางปรากฏให้เห็นอยู่ตลอดสองข้างทางของแนวถนนโบราณอันมีชื่อเสียง นอกจากนี้ ยังมี ฮันต์ มิวเซียมซึ่งเป็นที่รู้จักทั่วโลก ในฐานะพิพิธภัณฑ์ที่เก็บชิ้นงานศิลปะชั้นเลิศ รวมถึงผลงานของปิคาสโซ, ดาวินซี และเรอนัวร์ เมืองลิมริค ยังเป็นที่ตั้งของปราสาทยุคกลางอันยิ่งใหญ่
คฤหาสน์สมัยวิคตอเรียน มัครอส เฮ้าส์ (The Muckross’s House) ซึ่งก่อสร้างด้วยหินในแบบอลิซาเบธช่วงกลางศตวรรษที่ 19 ตั้งอยู่ในอุทยานสวยริมทะเลสาบมัครอส ภายในนักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับวิถีชีวิตของชาวไอริช และการจัดสวนสวยด้วยพันธุ์ไม้หลากหลายชนิด ตลอดจนบ้านและร้านค้าที่ออกแบบก่อสร้างในแบบชาวไอริช อีกด้วย
ปราสาทบลาร์นีย์ (Blarney Castle) สร้างขึ้นเป็นครั้งแรกในสมัยศตวรรษที่ 10 โดยแรกเริ่มสร้างจากไม้ ต่อไปในสมัยศตวรรษที่ 12 ได้นำหินมาใช้เป็นโครงสร้างหลักของปราสาท อย่างไรก็ตามตัวปราสาทได้ถูกทำลายลงในสมัยศตวรรษที่14 และผ่านสงครามกลางเมือง มาหลายครั้งจนในสมัยศตวรรษที่ 16 พื้นที่โดยรอบปราสาทเต็มไปด้วยต้นไม้และสวนสวยนานาชนิด ปราสาทแห่งนี้จึงเป็นสถานที่ดึงดูดใจของนักท่องเที่ยวนับล้านคนหลั่งไหลไปที่บลาร์นีย์ จนทำให้ที่สถานที่แห่งนี้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกว่าเป็นหนึ่งในมรดกอันล้ำค่าของสาธารณรัฐไอร์แลนด์
เมืองแคสเซล (Cashel) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวที่มีความสำคัญทางด้านประวัติศาสตร์และมีชื่อเสียงมากแห่งหนึ่งของสาธารณรัฐไอร์แลนด์ ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของแคว้นทิปเปอรารี (Tipperary) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งแคว้นที่มีชื่อเสียงทางด้านการท่องเที่ยวของสาธารณรัฐไอร์แลนด์ เลยทีเดียว
เมืองคิลเคนนีย์ (Kilkenny) เมืองที่อุดมด้วยสีสัน เต็มไปด้วยร่องรอยประวัติศาสตร์ยุคกลางอันน่าทึ่ง รวมถึงงานฝีมือท้องถิ่นที่น่าสนใจ คิลเคนนีย์ซิตี้ คือหนึ่งในเมืองที่น่าไปเยือนมากที่สุดเมืองหนึ่งของประเทศ หากไม่นับปราสาทแบบนอร์มันอายุ 800 ปี ที่ตั้งตระหง่านริมถนนสายโบราณ เมืองคิลเคนนีย์ ได้แปรสภาพมาเป็นเมืองที่มีความก้าวล้ำนำสมัย
ปราสาทคิลเคนนีย์ (kilkenny castle) ซึ่งเป็นปราสาทแบบนอร์มัน สร้างขึ้นในปี 1172 โดยอัศวิน Richard de Clare หรือที่รู้จักในนาม Strongbow ซึ่งปราสาทเดิมสร้างจากไม้และมีหอคอยสูง สามารถมองเห็นวิวแม่น้ำนอร์ แต่หลังจากนั้นทายาทรุ่นถัดไปคือ วิลเลี่ยม มาร์แชล (Earl of Pembroke) ได้ทำการบูรณะขึ้นใหม่โดยใช้หินมาสร้างปราสาท ปราสาทแห่งนี้มีหอคอยสูงถึง 4 หอคอยและยังคงสภาพให้เห็นจนถึงปัจจุบัน
เมืองดับลิน (Dublin)ซึ่งเป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของสาธารณรัฐไอร์แลนด์ ชื่อดับลินนั้นมาจากคำว่า Dubh Linn ซึ่งในภาษาไอริชมีความหมายว่า "สระน้ำสีดำ" (Black Pool) ดับลิน นครหลวงของสาธารณรัฐไอร์แลนด์ ตั้งอยู่ใจกลางดินแดนอันเป็นที่หลงใหลของผู้มาเยือนนับจากร่องรอยทางประวัติศาสตร์อันน่าทึ่ง ความงามทิวทัศน์ตามธรรมชาติ รวมถึงทะเลสาบ แม่น้ำ และฝั่งทะเลอันยาวไกลที่ยังคงความงามอันพิสุทธิ์ ให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกได้มาเยือน
ปราสาทดับลิน (Dublin Castle) หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความเก่าแก่ที่สุดของไอร์แลนด์ ปราสาทสร้างขึ้นในปี 1204 โดยกษัตริย์จอห์นแห่งอังกฤษ ปัจจุบันปราสาทดับลินนั้นถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของการปกครองของอังกฤษในไอร์แลนด์จนได้รับอิสระเป็นสาธารณรัฐไอร์แลนด์ในปี 1922 ปราสาทแห่งนี้ยังคงใช้เป็นสถานที่จัดงานสำคัญระดับประเทศ เช่น จัดการประชุมของสหภาพยุโรป และ จัดงานคอนเสิร์ตสำคัญเป็นต้น
ถนนกราฟตัน (Grafton Street) เป็นถนนที่เต็มไปด้วยร้านบูติกและร้านอาหารที่หรูหรา และยังเป็นย่านการค้าหลักหนึ่งในสองแห่งของดับลิน ที่มีร้านค้าชื่อดังระดับโลกเปิดบริการมากมาย
สนามบินอิสตันบูล (Istanbul Airport) ตั้งอยู่ที่เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี ซึ่งสนามบินแห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็นสนามบินที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยรัฐบาลตุรกีต้องการสร้างให้สนามบินแห่งนี้เป็นศูนย์กลางการบินของโลกที่เชื่อมต่อระหว่างทวีปยุโรป เอเชีย และภูมิภาคอื่นๆ รวมกว่า 60 ประเทศ มีร้านค้าร้านอาหาร และคาเฟ่ให้เลือกมากมาย บางแห่งเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง
สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553