Mushroom Travel

ตระเวนกิน ของกิน โอซาก้า แบบถล่มทลายในโอซาก้า-โกเบ กับ 40 ร้านที่คนญี่ปุ่นแนะนำแต่ไม่ค่อยได้เห็นรีวิวจากคนไทย (ตอนที่ 1)

ครั้งนี้มัชรูมทราเวลได้รับเกียรติจาก Guest สุดพิเศษ ที่จะมาบอกเล่าประสบการณ์ ตระเวนกิน ของกิน โอซาก้า กับ 40 ร้านอร่อยที่คนญี่ปุ่นแนะนำ ใครอยากไปชิมของอร่อยที่คนท้องถิ่นยังกด Like ต้องชม!


ตระเวนกิน ของกิน โอซาก้า แบบถล่มทลายในโอซาก้า-โกเบ กับ 40 ร้านที่คนญี่ปุ่นแนะนำแต่ไม่ค่อยได้เห็นรีวิวจากคนไทย (ตอนที่ 1)

สวัสดี หลังจากหายศีรษะไปหลายปี วันนี้กลับมารับใช้พี่น้องประชาชนอีกแล้ว เรื่องของเรื่องคือเพิ่งกลับมาจากทริปโอซาก้าซึ่งเป็นทริปกินแหลก โดยเน้นตระเวณหา ของกิน โอซาก้า ร้านเด็ดๆที่วางแผนโดยใช้เว็บรีวิวของชาวญี่ปุ่น ระหว่างที่ไปก็โพสต์ลงเฟสไปทีละร้าน ทีละร้าน

จนเพื่อนๆในเฟสขอร้องแกมบังคับมาว่า “จงจัดการรวบรวมมันไว้ในที่เดียวกันซะ พวกตรูจะได้ตามรอยโดยสะดวก” ก็เลยคิดได้ว่าน่าจะเอามาตั้งรวมไว้เป็นกระทู้เดียว ก่อนจะเริ่มก็ของเกริ่นก่อนว่ากระทู้นี้มีรายละเอียดอย่างไหน ท่านจะได้เจออะไรบ้างในกระทู้นี้ และมีที่มาที่ไปอย่างไรคร่าวๆ

1. ผมวางแผนการกินในโอซาก้า (และโกเบ) โดยเน้นจากข้อมูลของเว็บ Tabelog และบทความของคุณ M-Saburo แห่งเว็บ Battera ผู้ที่ชิมอาหารโอซาก้ามามากกว่า 20 ปี แล้วก็ใช้ข้อมูลเพิ่มเติมจาก Tripadvisor เป็นบางส่วน

2. ร้านดังๆที่นักท่องเที่ยวไปหา ของกิน โอซาก้า บ่อยๆอย่างราเมงข้อสอบ ราเมงมังกร พาโบล ซูชิเอนโด หรือสเต็กแลนด์นั้น ผมไม่ได้ไปกินในทริปนี้ แต่จะเป็นร้านที่ได้คะแนนจากคนญี่ปุ่นสูงๆและมีรีวิวที่น่าสนใจ

3. การเดินทางทั้งหมดส่วนมากใช้ Subway + รถไฟเอกชน + เดิน ในปริมาณพอๆกัน แทบไม่ได้ใช้ JR เลย แต่โดยรวมแล้วซื้อ ICOCA ใช้เถอะ จะได้ไม่ต้องกังวลว่าพาสจะคุ้มไม่คุ้ม นั่งได้ไม่ได้ สบายใจกว่า

4. การไปหา ของกิน โอซาก้า แต่ละร้าน ล้วนต่างกรรมต่างวาระ บางทีไปแล้วไม่เจอคิว แต่ท่านไปอาจจะเจอคิวเป็นชั่วโมงก็เป็นได้ อย่าคาดหวังว่าจะพบสภาพแบบเดียวกัน

5. การตระเวนกินครั้งนี้ กินตามใจ จขกท และ ภรรยา ดังนั้นจะไม่เน้นสิ่งที่ไม่ชอบกินเลย ได้แก่ ซูชิ ปู ไม่มีเลย คุชิคัทสึ-โอโคโนมิยากิ-ทาโกะยากิ ไม่ค่อยชอบ กินอย่างละร้านพอ

6. ส่วนแนวที่เน้นๆเลยตามความชอบคือ “ผลิตภัณ์จากวัว” “ของหวานและเค้ก” “คาเฟ่อาหารเช้า” “คราฟต์เบียร์-เบียร์สด-เบียร์ขวด” ซึ่งท่านจะได้เจอหลายร้านเต็มไปหมดและคอนเฟิร์มว่าดีงามทุกร้าน

7. ไม่ได้มีการพกกล้องถ่ายรูปไป รูปของกิน 95% ถ่ายโดยไอโฟน 6 ไม่เอส ดังนั้นถ้ามีมัวบ้าง เบลอบ้าง เนื่องจากบางทีหิวจนมือสั่น บางทีเมาจนมือสั่น ก็ขออภัยล่วงหน้า

8. จะลงทีละร้านไปเรื่อยๆนะครับ แล้วจะเก็บร้านที่คิดว่าชอบที่สุดสิบร้านของทริปนี้ไว้ท้ายสุด อาล่ะครับ เข้าใจตรงกันแล้วก็เชิญชมรีวิว

ร้านแรกเริ่มกันเบาๆก่อน กับคาเฟ่อาหารเช้าสไตล์ดั้งเดิมปรกติคนโอซาก้าไม่ค่อยกินอาหารเช้า ร้านอาหารส่วนใหญ่จะเปิดก็โน่นเลย ใกล้ๆเที่ยง ร้านที่พอจะหาได้ช่วงเจ็ดแปดโมงก็จะเป็นพวกคาเฟ่ ซึ่งก็มีคาเฟ่ทันสมัยเปิดเต็มไปหมดตามสถานีต่างๆ แต่รอบนี้จะเน้นคาเฟ่สไตล์ดั้งเดิมเป็นหลักครับ

Cafe Eikokuya

ร้านนี้ชื่อว่า Cafe Eikokuya ตั้งอยู่บริเวณทางเดินได้ดินที่เชื่อมระหว่างสถานีนัมบะกับนิปปอมบาชิ เปิดตั้งแต่เช้า

อันนี้หน้าร้านครับ หาเจอง่ายเพราะเปิดอยู่ไม่กี่ร้านตอนเช้าๆ

เมนูที่ตั้งใจมาชิมของร้านเค้าก็คือวาฟเฟิลครับ เพราะรีวิวบอกว่าเด็ด ก็สั่งเลย ผลออกมาดีงามครับ เป็นวาฟเฟิลอบใหม่ๆ กรอบๆ รสชาติแป้งเข้มข้น หอมเนย อร่อยดีครับ


ส่วนแซนวิชก็ใช้ได้ เป็นแฮมกับไข่ เสริฟมาพร้อมสลัดชามเล็กๆ แซนด์วิชรสชาติกลมกล่อม เหมาะสำหรับเติมพลังก่อนออกไปตะลุยกินที่อื่นๆ กาแฟร้านนี้ก็หอมและเข้มข้นตามสไตล์ร้านแบบนี้ ไม่มีอะไรให้ติ


ร้านแนวนี้จะสังเกตไม่ยาก เพราะจะตบแต่งแนวๆนี้หมดเลย แถมอุปกรณ์การกินถ้วยชามก็จะย้อนยุคหน่อยๆแบบนี้
สรุปโดยรวม ร้านนี้ใช้ได้ครับ แม้จะไม่ได้เด็ดเท่าอีกร้านที่จะเก็บไว้ท้ายๆแต่ก็สามารถฝากท้องได้เพราะใกล้สถานี ไม่ต้องเดินไปไกล กินแล้วขึ้นรถไฟเลย

เวลาคนมาญี่ปุ่นและพูดถึงร้านซาลาเปาในโอซาก้า ร้านแรกที่เข้ามาในหัวเลยก็คือ 551 Horai เพราะร้านนี้น่าจะดังสุดและสาขาเยอะสุดในโอซาก้า แถมร้านก็ดูดีน่าซื้อน่ากิน เพราะมีทั้งซาลาเปาทั้งขนมจีบ แต่ผมว่างั้นๆก็เลยลองค้นหาดูว่า แล้วไอ้ซาลาเปาที่คนโอซาก้าบอกว่าอร่อยสุดๆเนี่ย มันคือร้านไหนฟะ ?ค้นไปมาก็เจอร้านนี้ครับ ร้านที่เค้าบอกกันว่าซาลาเปาอร่อยที่สุด มีสาขาเดียว อยู่แถวๆสถานีนัมบะ

Futami No Butaman

ชื่อร้าน Futami No Butaman ลองไปตามแผนที่นี้เลยครับ ค่อยๆหา อยู่บนดินไม่ใช่ใต้ดิน

 

ร้านที่ว่าได้คะแนนสูงสุดจาก Tabelog สำหรับซาลาเปาในโอซาก้าด้วยคะแนน 3.60 ซึ่งในเว็บนี้ คะแนนเกิน 3.5 นี่คืออร่อยมากแล้ว ร้านที่เกิน 3.5 มีแค่ไม่ถึง 2% ของร้านอาหารในญี่ปุ่นหน้าร้านประมาณนี้ครับ เรียบๆ ง่ายๆไม่ตื่นเต้นเหมือน 551 มีอาม่าแก่ๆขายอยู่คนเดียว แถมทั้งร้านมีอย่างเดียวคือเปาหมูสับ อย่างอื่นไม่มี สั่งได้แค่ว่าจะเอากี่ลูก ผมเอา 4 ลูกประมาณ 700 กว่าเยน
ซื้อแล้วเค้าก็ใส่กล่องสีแดงแบบเรียบๆเชยๆมาให้ซาลาเปาเนื้อนุ่มกว่าและลูกใหญ่กว่าของเจ้าดัง
ที่สำคัญคือ อร่อยครับ ไส้ก็เยอะ หอม กลมกล่อม ไม่แห้ง เยี่ยมมากครับ ต้องมาลอง

Maguro Sendai

ร้านถัดมาเป็นร้านนั่งดื่มครับ คืนแรกที่ไปชวนคุณเมียไปหาที่นั่งพัก หาของกิน โอซาก้า และดื่มแกล้มอะไรเบาๆกัน เจอร้านนี้ครับ ชื่อว่า Maguro Sendai เป็นอิซากายะที่มีทูน่ากับของทะเลขายด้วย แผนที่ครับ อยู่ไม่ไกลย่าน Dotonbori ติดถนนใหญ่ มีสองชั้น

หน้าร้านมีหัวปลามาคุโร่โชว์ในตู้เย็นเลย


บรรยากาศก็นะ คนญี่ปุ่นทั้งร้าน แถมอีตาพนักงานก็พูดอังกฤษไม่ได้ ยังดีที่พอมีเมนูรูปก็จิ้มๆกันไป เอาหน่า มาญี่ปุ่น ทั้งที จิ้มไปมาก็เพลินดิ จากที่ว่าเบาๆเล่นหนักเลยทีนี้ เริ่มจากเบียร์เย็นๆ
เล่นเอาหัวทูน่ามาโชว์หน้าร้าน ไม่สั่งมาลองก็เหมือนดูถูก จัดมาหนึ่งจาน น่าจะแปดร้อยกว่าเยน สด อร่อย คุ้มราคามาก


หอยเชลล์ย่าง รสชาติดี สดเด้ง แต่ตัวเล็กไปเยอะ
ปลาย่าง อันนี้ดีงามมาก สด หอมถ่าน เนื้อแน่นหนึบ ไม่รู้ปลาอะไร จิ้มเอามั่วๆ


กับแกล้มประจำตัว ต้องสั่งทุกที่ หมึกวาซาบิ ของเค้าทำดีเลย หมึกชิ้นใหญ่ หนึบหนับมาก ปรุงมาก็ดี
สุดท้าย เอ็นไก่ทอด…..ใช่….เอ็นไก่ทอดนี่แหล่ะ ไปกินซะไกล แต่แป้งมันแปลกดี เค็มๆเผ็ดๆ

Morozoff

ถ้าพูดถึงชีสทาร์ต ก็ปฎิเสธไม่ได้ว่า Pablo คือเจ้าตลาดในโอซาก้าแบบทิ้งขาด ถ้าจะมีใครที่พอทาบรัศมีได้ก็น่าจะเป็น Morozoff ที่ตามมาห่างๆ แต่ยังไงก็ตาม คนญี่ปุ่นก็ยังยกให้ของ Pablo อร่อยกว่าอยู่ดีแต่ว่าที่ไป Morozoff เนี่ย ไม่ได้ไปกินชีสเค้กจ้ะ มีของดีอยู่ในร้านนี้ แผนที่ร้าน อยู่แถวสถานีนัมบะ ใต้ดินนะร้านนี้

หน้าร้านออกจะโบราณอีกแล้ว ไม่ดูเดิ้นเหมือนพาโบล


ทาร์ตเค้าก็มีหลายแบบนะ แต่ไม่เราไม่กิน ไม่ชอบชีสทาร์ต


นี่เลย ของดีที่เล็งจะมากินที่ Morozoff เค้ามีดีเรื่องคาราเมลคัสตาร์ดครับ ว่ากันว่าเด็ดมา เลยจัดแบบออริจินอลมาหนึ่ง ชาเขียวมาหนึ่ง


รสชาติดีมาก เข้มข้น ละมุนลิ้น เนื้อเนียนสุดๆ ชอบมาก (ชอบมากจนกระทั่งไปเจอของอีกร้าน โปรดรอติดตาม)


ส่วนชาเขียวไม่ได้แม้แต่ชิม เผลอแพพเดียวคุณเมียทำหายไปตอนไหนไม่รู้ แต่เห็นพึมพำว่าอร่อยมากวกเข้ามาร้านเบียร์มั่ง เดี๋ยวจะคอแห้งกันซะก่อน

Dotonbori Craft Beer

มาญี่ปุ่น งวดนี้มี Mission ส่วนตัวว่าอยากจะมาลอง Craft Beer ของโอซาก้าให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยมาร้านในลิสต์มาหลายร้านแล้วก็ไปได้เกือบครบทุกร้านร้านแรกคือ Dotonbori Craft Beer

อยู่ที่นัมบะพาร์คครับ หาไม่ยาก ข้างๆ Kirin City เลย

หน้าร้านดูขลังใช้ได้


ร้านเบียร์นี้มีเบียร์สดที่หมักเองบ่มเองในชื่อ Dotonbori Craft Beer หลายตัว และมี Craft จากจังหวัดอื่นๆในญี่ปุ่นรวมแล้ว 15 Taps ด้วยกัน กินกันเปรมเลยทีเดียว เสียดายที่บรรจุไม่ไหว กินไปได้สามไพน์ก็จุก เพราะซัดกับแกล้มไปเยอะ แต่เบียร์ก็นุ่มใช้ได้
สั่งเซ็ทเทสต์มาลอง สี่แก้ว ตัว Pale Ale ถือว่าดีเลย ส่วนตัวอื่นยังธรรมดาไปหน่อย

อาหารของเค้าก็มีหลากหลาย ที่ชอบเลยก็ถั่วงอกกระทะร้อน สามร้อยกว่าเยน รสชาติดี กรุบกรอบ

เมนูแนะนำของร้าน ไก่กระทะ เออแฮะ อันนี้ดี แกล้มเบียร์เพลิน ไก่นุ่มเด้ง เป็นพันธุ์อะไรซักอย่างที่คัดมา


สรุปคือ ร้านนี้เหมาะกับคอเบียร์ที่อยากลองเบียร์แปลกๆใหม่ๆ แต่ถ้าจะเน้นมากินอาหารอย่างเดียว ข้ามไปโลด
วกกลับมาคาเฟ่อาหารเช้าแบบดั้งเดิมอีกรอบ ทริปนี้มีหลายร้าน 555

Saikai Café

ร้านนี้ชื่อ Saikai Café อยู่แถวย่าน Suita เอาตรงๆคือถ้าไม่จงใจไปกินก็คงไม่ผ่านแน่ๆ แต่ของผมเนี่ยไป Suita เพราะจะไปโรงงานผลิตเบียร์ Asahi เลยได้ผ่าน แล้วก็เล็งร้านนี้เพราะมีคนบอกว่า Muffin เค้าโคตะระเด็ดมาก ก็ต้องลองกันหน่อย

แผนที่ครับ นั่งรถไฟซับแล้วไปต่อสายฮันคิวลงที่สุอิตะ เดินต่อไปซักกิโล เดี๋ยวก็ถึง 555

หน้าร้านครับ

สั่งชากับกาแฟมาจิบเบาๆรอของดี ส่วนโกโก้ของยัยหนู (ซึ่งไม่หนูเหมือนที่เคยเห็นกันในก้นครัวหลายปีก่อนแล้ว) เข้มข้นหอมอร่อยมาก


นี่ครับ มัฟฟินในตำนานที่มากิน คือมันดีมาก อบมาร้อนๆ หอมเนย ผิวนอกกรุบกรอบ เนื้อในเนียนนุ่ม เพอร์เฟค

ส่วนอันนี้ Mix Dog ของร้านเค้า อร่อยใช้ได้เลย ขนมปังดีมาก

สรุปคือ มัฟฟินดีมาก แต่ถ้าไม่ผ่านมาเที่ยวก็ไม่คุ้มที่จะมาเพื่อกินหรอก มันไกล

โรงงานเบียร์ Asahi

อันนี้ไม่เชิงร้านนะ ออกแนวสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ค่อยมีใครมา มันคือโรงงานเบียร์ Asahi แห่งแรกในญี่ปุ่น ซึ่งตั้งอยู่ที่ Suita (เป็นสาเหตุที่ได้มากินร้านมัฟฟินข้างบนนั่นแหล่ะ)

ทางโรงงาน Asahi ทุกที่ เค้าเปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชมโรงงานได้แต่ต้องทำการจองคิวล่วงหน้า และนัดวันเวลาสำหรับรอบที่จะเข้าชม ซึ่งมีตั้งแต่ดูการบรรยายขั้นตอนต่างๆ ฟังประวัติของเบียร์อาซาฮี เดินชมรอบโรงงานเพื่อดูการผลิตทุกขั้นตอน และสุดท้าย (เป้าหมายที่ไป) คือการชิมเบียร์อาซาฮีสดๆจากโรงงานเลยครับท่าน !!!

แล้วก็…ทั้งหมดที่กล่าวมานั้น…ฟรีครับ !!! ฟรี !!! ฟรี !!! ฟรี !!! ฟรี !!! 55555555

ใครสนใจเรียนเชิญจองเลยครับ ใช้กูเกิ้ลช่วยคลำๆไป ผมก็มั่วๆไปกรอกผิดกรอกถูกจนได้ไปชม >> factory.asahibeer.co.jp พอไปถึงก็จะมีการบรรยาย แล้วก็พาเดินชมส่วนต่างๆครับ นี่ถังหมัก

ส่วนนี่ Filler ยี่ห้อมิตซูด้วย เคยเห็นแต่ Krones กับ KHS เพิ่งเคยเห็นมิตซู

อันนี้ห้องโชว์กระป๋อง มีเยอะมาก เป็นสิบๆตู้ เบียร์ไทยก็มี


ตัดจบการชมโรงงานละกัน นี่ไม่ใช่กระทู้นำเที่ยว พอชมโรงงานเสร็จ ไฮไลท์ช่วงท้ายก็คือ การชิมเบียร์สิครับ สามารถชิมได้สามตัว สามแก้ว ซึ่งแก้วแรกควรจะเป็น Dry Extra Cold พนักงานรินแบบมืออาชีพมากๆหอมและเย็นชื่นใจ ไม่รู้มโนไปเองมั๊ย แต่ว่าอร่อยกว่าตอนกินตามร้านแฮะ ตามมาติดๆด้วย Premium Malt หอมมากๆเช่นกัน ดื่มง่าย

ปิดท้ายด้วยสเตร้าท์ครับ เข้มข้นสะใจ


สรุปคือ มาญี่ปุ่น ห้ามพลาด เพราะเป็นสถานที่ที่คอเบียร์ควรสละเวลามาเยือนจริงๆ จะได้รู้ว่าเค้าผลิตกันยังไง เวลากินจะได้อิน สำหรับคนที่ไม่ดื่มหรือเด็กๆ เค้ามีน้ำผลไม้น้ำชาและเครื่องดื่มอื่นๆที่เค้าผลิตเองให้ชิมนะครับ

Ohsho

ร้านนี้ขอสั้นๆ เพราะเป็นร้านดังที่คนรู้จักเยอะอยู่แล้ว คือ ร้านเกี๊ยวซ่าโอโซ ไอ้ที่มีเกี๊ยวซ่ายักษ์แปะหน้าร้านตรงดงโทโบรินั่นแหล่ะ งวดนี้กะจะลองกินเกี๊ยวซ่าที่เด็ดๆในโอซาก้ากับโกเบ เลยขอมาลองร้านดังนี้เพื่อนเป็นบรรทัดฐานเอาไว้เปรียบเทียบก่อน แผนที่เผื่อใครนึกไม่ออก

ลองสั่งเซ็ทคู่กับเบียร์มาชิม
โดยรวมก็อร่อยดีนะ เพราะชอบกินเกี๊ยวซ่าอยู่แล้ว ไส้น้อยไปหน่อย แต่แป้งกรอบดี ให้ 7/10 เดี๋ยวรอดูว่าร้านที่จะไปลองจะขนาดไหนถ้าเทียบกับ Ohsho   ร้านต่อมา ไม่ใช่รีเควสต์จากพ่อแม่ แต่จากลูกสาวร้านนี้ไม่เน้นอาหาร แต่เน้นบรรยากาศ ใครชอบไอ้ตัวไข่ขี้เกียจ มาลองกันได้

Gudetama Café

เป็นคาเฟ่สำหรับคนชอบไอ้ตัวนี้โดยเฉพาะ ตั้งอยู่ที่ชั้น 7 ห้าง Hep5 ที่อุเมดะ หาไม่ยาก ตรงข้ามทางขึ้น JoyPolis

เมนูเน้นแบ๊วๆ อาหารเป็นไอ้ตัวนี้หมดเลย ราคาก็แรงนิดๆ


มีตัวให้กอดทั่วร้าน

อาหารสั่งให้ลูกกินคนเดียว ทำมาดูดีมาก รสชาติก็ไม่แย่นะ พอใช้ได้ แต่เน้นน่ารักสุดท้าย ไอ้ตรงนี้แพงกว่าค่าอาหาร

สรุปคือ ร้านนี้เฉพาะทาง ใครชอบมาลองได้

เนื้อบ้างเนื้อ ร้าน ” BURIAN “

ร้านนี้วิบากกรรมมาก วันแรกที่ไปเดินไปจากอีกร้านประมาณสองกิโล ร้านปิดสี่ทุ่มครึ่ง ไปถึงสี่ทุ่มสิบ อดกินสิครับ พี่แกให้ Last order สี่ทุ่ม นั่งมองอิเจ๊สองคนที่ได้กินคิวสุดท้ายในร้านแบบอาฆาตแค้น

วันที่สองเอาใหม่ ไปถึงสามทุ่มห้าสิบ ได้กินคิวสุดท้ายก่อนปิดร้านพอดี 5555 ชื่อร้าน บุริอัน ครับ ขายพวกเนื้อกระทะร้อนหลากหลาย แต่ทีเด็ดอยู่ที่ “ลิ้น” ครับ แผนที่ครับ จาก Dotonbori เดินมาสุดซอยเลย

ร้านโล่งสิ มาคนสุดท้าย 555

เครื่องปรุง ร้านนี้เน้นเกลือกับซอส


มาละครับเมนูอันดับหนึ่งของร้าน
ลิ้นวัวย่างกระทะร้อน ขนาดกลาง ถ้าจำไม่ผิดประมาณพันห้าร้อยเยนไม่ก็พันสอง

ลิ้นอย่างดี หั่นหนาๆ ย่างกับเนยหอมๆ อูยยยยย ฟินมาก เด้งสู้ฟันสุดๆ


วิธีกินที่ชอบที่สุดคือ แตะเกลือแล้วกินเลย ตามด้วยเบียร์เย็นๆ สุดยอดสรุปสำหรับร้านนี้คือ ควรโดนมากๆสำหรับคนชอบลิ้นวัว แต่เดี๋ยวท้ายๆจะมีอีกร้านที่เด็ดกว่านี้ รอชมกัน

มาแวะพักเบาๆกับสองร้านนี้มั่ง คห นี้นับเป็นสองร้านนะ เพราะสองร้านที่จะแนะนำอยู่ที่ตลาดคุโรมง ตอนไปนี่ไปได้ที่พักอยู่ติดตลาด Kuromon Market เลย เช้าก็ผ่านตลาด เย็นก็ผ่านตลาด แวะเดินกินโน่นนี่มันทุกวัน บางร้านก็ดี บางร้านก็งั้นๆ ส่วนมากจะเฉยๆมากกว่า แต่มีอยู่สองร้านในตลาดคุโรมงที่ถือว่าเด็ดอยู่

ร้านแรกเป็นร้านใหญ่ อยู่หน้าๆตลาด ลองหาดู มีสองคูหา ขายทุกอย่างทั้งปลาดิบ เนื้อ ข้าวปั้น ผลไม้ ของทะเลย่าง แต่ที่เด็ดอยู่ที่ปลาไหลย่างครับ ร้านนี้ไม้ละ 800 เยน เท่าที่กินมาสามร้านในตลาด ร้านนี้เด็ดสุด เนื้อสดแน่น ซอสหอม ย่างดี มาลองกัน


ส่วนร้านที่สองคือร้านของทอดเทมปุระ หาไม่ยาก มีร้านเดียวในตลาด ขายโดยคุณป้าใจดี กินไปทั้งหมดสี่รอบ คุณป้าแกมีแถมทุกรอบครับ ซื้อนิดหน่อยก็แถม ใจดีมากๆ แถมของทอดก็อร่อย แนะนำฟักทอง หนวดหมึก แล้วก็กุ้ง


ในตลาดนี้มีร้านเยอะมาก ถ้าใครไม่อยากลองผิดลองถูก แนะนำสองเมนูนี้ครับ ส่วนปลาดิบไปลองเอง ลองมาสองสามร้านก็เหมือนกันหมด แห่ะๆๆ ต่อไปเป็นร้านเบียร์ใกล้ที่พัก ใกล้มาก ไม่ถึงร้อยเมตร

Arca-Archa

ชื่อว่าร้าน Arca-Archa (ชื่อแปลกๆ)

หน้าร้านดูดีน่าเข้ามาก


ร้านนี้ไม่ค่อยเน้นเบียร์สดมากนัก แต่จะเน้น Craft Beer ตัวดังๆจากทั่วญี่ปุ่นแบบขวด เรียกว่ามีเกือบครบเลย


แต่ตัวที่กะจะมากินตามแผนก็คือ Minoh Beer จากเมืองมิโนะ เป็นคราฟต์เบียร์ดังของโอซาก้าที่กวาดรางวัลระดับโลกมาด้วย
เริ่มจากเบาๆก่อนด้วย Weizen หอมละมุนมาเลย บางๆกินง่าย ไม่ขมมาก เหมาะสำหรับคอเบียร์สาวๆ


ตามมาด้วย Pale ale ตัวนี้หอมเข้มกว่าตัวแรก ขมกำลังดี ชอบมาก ตัวที่สามเป็น W-IPA เข้มข้น จัดจ้าน แรงพอสมควรเลย เมาเอาง่ายๆถ้าประมาทกับแกล้มเบาๆเป็น Pickle กับผักดองวาซาบิ เหมาะสำหรับแกล้มจริงๆ


ปิดท้ายด้วยตัวรางวัล Minoh Stout กลิ่นคั่วมาแบบชัดเจนเลย แต่ไม่ขมอย่างที่คิด แถมดูจะอ่อนกว่าตัว W-IPA ด้วยซ้ำ ตัวนี้กวาดรางวัลเวิล์ดคัพมาแล้วเมื่อปีก่อน

Shinsekai Kankan

ทาโกะยากินี่อันที่จริงไม่อยู่ในแผนเลย เพราะไม่ได้ชอบกิน แต่วันก่อนสุดท้าย ไปสวนเทนโนจิแล้วคุณเมียเกิดอยากกินขึ้นมากระทันหัน เลยกดดูสิลต์ว่าแถวนั้นมีร้านไหนเด็ดสุด ก็พบว่าร้านที่คะแนนรีวิวดูดีที่สุดในย่านนั้นอยู่ในชินเซไก ชื่อร้าน Shinsekai Kankan ได้คะแนน Tabelog 3.59 เอาๆๆ ลองกันหน่อย แผนที่ร้าน หาไม่ยาก ร้านเด่นเป็นสง่า

หน้าร้านจ้ะ
หลุมเยอะมาก แสดงว่าขายดี แต่ตอนไปยังไม่ห้าโมงเลยไม่มีคิว กินสบายๆ

หน้าตาดูดี รสชาติก็ดีนะ แป้งมีรสชาติ กลมกล่อมดี หมึกชิ้นโต ก็คงถือว่าอร่อยอ่ะ ส่วนตัวไม่ชอบกินเลยเฉยๆ ไม่รู้จะเทียบกับอะไร


เอาเป็นว่าใครชอบกินเจ้านี่ก็มาลองดู คิดว่าน่าจะชอบนะ

Nishimura’s Coffee

อาหารเช้าอีกแล้ว ร้านนี้มาแนวหรูหราหน่อย ประมาณสไตล์ผู้ดีเก่าชื่อร้าน Nishimura’s Coffee ครับ อยู่ติดสถานี Koshien เลย เป็นทางผ่านของสายรถไฟ Hanshin ที่จะไป Kobe Sannomiya นั่นเอง แผนที่ เดินออกจากสถานีมาเจอเลย อยู่ชั้นสอง เชื่อมกับห้างตรงนั้นพอดี

กาแฟเค้าดีจริง หอมมาก รสชาติดี เห็นว่าคั่วเองเลือกเม็ดเองบริการดีมาก โค้งแล้วโค้งอีก ใส่ใจทุกขั้นตอน ขนาดกาน้ำชาร้อนๆยังมีถุงผ้ามาครอบไว้เลยเซ็ทแรกสั่งเป็นแซนด์วิช อร่อยใช้ได้ ขนมปังดี ไส้อร่อยเป็นแฮมกับไข่

แต่ไฮไลท์ของร้านนี้อยู่ที่นี่ครับ ขนมเค้กสิครับ เป็นร้านที่มีหนมเค้กขายแต่เช้าเลยจ้า เมียถูกใจมาก ไปจัดช้อคเค้กมาหนึ่งอัน ชิมแล้วถือว่าดีเลย เข้มข้นมาก

ส่วนรูปสุดท้ายคือสาเหตุที่มาแถวนี้ มาดูสนามในตำนานนั่นเอง มีฮันชินแข่งพอดีด้วย เสียดายไม่ได้มาตรงกับมัธยมแข่ง ไม่งั้นจะเข้าไปดูบรรยากาศ


ขออีกซักร้านก่อนไปนอน แล้วพรุ่งนี้จะมาต่อที่เหลือ

Stone Bar

ร้านนี้เป็นบาร์ครับ เป็นบาร์ที่ปิดตีสาม แล้วใกล้บ้านมาก เลยเป็นที่เอาไว้จิบปิดท้ายก่อนนอน นอนแปดคืน ไปมันซะห้าคืน ที่ไปเพราะชอบบรรยากาศล้วนๆ แถมเค้าเปิดคลิปแสดงสดจากไลฟ์เฮ้าส์ วงญีปุ่นเจ๋งๆทั้งนั้นเลย นั่งเพลินดี ที่สำคัญนอกจากเบียร์แล้วก็มีเหล้าหลายตัวให้ลองชิมด้วยชื่อร้านคือ Stone Bar ครับ

แผนที่

หน้าร้านครับ


บรรยากาศออกแนวการาจหน่อย แต่เป็นกันเอง ที่สำคัญต่างชาติเยอะ มานั่งกินแล้วมีเพื่อนคุย ไม่เหงาดี มีทั้งเบียร์ทั้งวิสกี้ให้เลือก

ใครพักแถวนัมบะแล้วอยากหาที่นั่งจิบสบายๆที่ไม่ใช่อิซากายะช่วงดึกหรือนอนไม่หลับ Stone Bar เป็นตัวเลือกที่ใช้ได้เลยครับ ร้านที่เหลือเราจะไปต่อกันในตอนที่ 2 นะครับ

ขอบคุณรีวิวจาก Guest สุดพิเศษ คุณ Spinnecker สังกัด Pantip จากกระทู้ “[CR] <<Spinnecker>> ตระเวนกินแบบถล่มทลายในโอซาก้า-โกเบ กับ 40 ร้านที่คนญี่ปุ่นแนะนำแต่ไม่ค่อยได้เห็นรีวิวจากคนไทย” ที่มามอบประสบการณ์จัดเต็มแบบนี้ รับเสียงปรบมือจากเราไปเล้ย !!
ระดับความน่าไป : ✩✩✩✩✩


ชอบ บทความ มัชรูมทราเวล ทำไงดี…?
1. กดแชร์ต่อ ให้เพื่อนอ่านบ้าง
2. คลิก Likeและติดตามเราได้ที่ Facebook www.facebook.com/mushroomtravel/

—————
Mushroom Travel มีโปรแกรม ทัวร์ญี่ป่น ให้เลือกมากที่สุด
โทร. 02-105-6234 (30 คู่สาย)
CustomerService@Mushroomtravel.com
Line id : @mushroomtravel

ตระเวนกิน ของกิน โอซาก้า แบบถล่มทลายในโอซาก้า-โกเบ กับ 40 ร้านที่คนญี่ปุ่นแนะนำแต่ไม่ค่อยได้เห็นรีวิวจากคนไทย (ตอนที่ 1) was last modified: June 6th, 2024 by Editor.Mushroom Travel
Exit mobile version