หากใครเคยใช้บริการหรือซื้อทัวร์ฮ่องกง จะเห็นว่านอกจากโปรแกรมการท่องเที่ยวไปตามสถานที่สำคัญๆ แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมแล้ว ที่ขาดไม่ได้เลยก็คือแหล่งช้อปปิ้ง ทั้งที่เป็นย่านดังของเมือง รวมถึงแหล่งช้อปปิ้งราคาถูก รวมไปถึงร้านค้าของดีของเด็ดของเมืองนั้นๆ อย่างเช่น ไข่มุกน้ำจืดจีน ของดีฮ่องกงและประเทศจีนที่เรากำลังจะพูดถึงดังต่อไปนี้
ไข่มุกเป็นอัญมณีจากสิ่งมีชีวิต ที่ประกอบด้วยผลึกของสารประกอบ CaCO3 ที่เรียกว่า Aragonite อินทรียสารจำพวกโปรตีนที่เรียกว่า Conchiolin และน้ำ มีสีขาว เงินยวง ชมพูและสีทอง ซึ่งนอกจากจะนิยมนำมาทำเป็นเครื่องประดับแล้ว ยังนิยมนำมาทำเป็นเครื่องสำอางด้วย นอกจากนั้นคนจีนยังเชื่อด้วยว่า ไข่มุกเป็นอัญมณีแห่งสายน้ำ ที่ช่วยเสริมสง่าราศีให้กับผู้สวมใส่ อีกทั้งหากเป็นผู้หญิง ก็จะก่อให้เกิดความนุ่มนวล อ่อนหวาน สามารถแก้ปัญหาทางด้านอารมณ์ได้
ไข่มุกน้ำจืด คืออะไร??
ปัจจุบันประเทศจีนคือประเทศที่ติดอันดับต้นๆ ของการส่งไข่มุกออกสู่ตลาดโลก เป็นไข่มุกคุณภาพดีที่มีตั้งแต่ไข่มุกธรรมชาติ และไข่มุกเลี้ยง ซึ่งจะมีอยู่ด้วยกัน 2 สายพันธุ์หลักคือ อะโกย่า ที่พบมากในแถบประเทศจีนและญี่ปุ่น รวมไปถึงมุกน้ำจืด ที่สามารถเพาะเลี้ยงได้ง่ายในจีน ญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา ซึ่งอาจจะมีความแวววาวด้อยกว่ามุกน้ำเค็มเล็กน้อย แต่ก็ข้อมีข้อดีคือมีราคาที่ถูกกว่า รูปร่างลักษณะที่หลากหลาย รวมทั้งมีหลายสีสัน จึงทำให้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ไข่มุกเลี้ยงที่ส่วนใหญ่เป็นไข่มุกน้ำจืดนั้น จะมีลักษณะของการกำเนิดคล้ายๆ กับไข่มุกตามธรรมชาติ แต่แตกต่างกันตรงที่เป็นฝีมือของมนุษย์เท่านั้น โดยผู้เชี่ยวชาญจะใช้เครื่องมือค่อยๆ เปิดฝาเปลือกหอยออก จากนั้นจึงนำวัสดุชิ้นเล็กๆ ใส่ลงไปภายใน แล้วจึงนำหอยไปเลี้ยง และเมื่อเวลาผ่านไปวัสดุแปลกปลอมนั้นก็จะถูกเคลือบด้วยชั้นแนคเคอร์ ซึ่งหากชั้นแนคเคอร์มีการเพิ่มความหนาขึ้นก็จะทำให้คุณภาพหรือความหนาของไข่มุกเพิ่มขึ้นด้วย
หลักและวิธีการเลือกซื้อไข่มุก รวมถึงการหลีกเลี่ยงไข่มุกเทียม
- ควรพิจารณาขนาดและรูปร่างของไข่มุกที่เราจะซื้อ ว่าต้องการซื้อไปทำเครื่องประดับชนิดไหน และเครื่องประดับที่จะทำออกมานั้นเหมาะสมกับรูปร่างของไข่มุกที่เลือกใช้หรือไม่ หรือหากซื้อเครื่องประดับสำเร็จรูปก็ควรพิจารณาด้วยเช่นเดียวกัน อย่างเช่นการซื้อสร้อยคอไข่มุกก็ควรเลือกไข่มุกให้มีขนาดที่เท่ากันหรือไล่เลี่ยกันตลอดทั้งเส้น อีกทั้งยังควรมีสีที่สม่ำเสมอกันอีกด้วย
- เลือกโดยพิจารณาจากสีสัน เนื่องจากสีของไข่มุกที่นิยมกันในท้องตลาดจะมีอยู่ทั้งหมด 2 ประเภทคือ สีขาว สีครีม สีเหลือง เรียกว่าบอดี้ คัลเลอร์ ส่วนสีเขียว สีชมพู สีเงิน สีฟ้าจะเรียกว่าโอเวอร์โทน ทั้งนี้ไข่มุกเป็นอัญมณีชนิดเดียวที่นำมาทำเป็นเครื่องประดับโดยไม่ต้องมีการขัดหรือเจียระไนอย่างอัญมณีชนิดอื่นๆ เพื่อให้คงความงดงามตามธรรมชาตินั่นเอง
- พิจารณาลักษณะเนื้อผิวของไข่มุกเป็นส่วนสำคัญ เพราะไข่มุกที่ดีจะต้องมีผิวเรียบเนียนไม่มีริ้วรอยหรือตำหนิใดๆ ดังนั้นการเลือกซื้อจึงควรสังเกตอย่างละเอียด
- พิจารณาจากความมันวาว เนื่องจากไข่มุกที่ดีจะต้องมีเนื้อที่มันวาวสดใส ไร้ความหมองคล้ำ นอกจากนั้นยังควรมีประกายสม่ำเสมอทั้งเม็ด และเมื่อนำไปส่องแสงไฟดู หากมองเห็นเหลือบสีมากก็แสดงว่าเป็นไข่มุกที่ดี เพราะไข่มุกที่มีชั้นหนามากก็จะมีความมันวาวมากตามไปด้วย
อย่างไรก็ดี บางครั้งพ่อค้าแม่ค้าหัวใสก็มักจะนำไข่มุกเทียมที่ดูคล้ายกับของจริงมาหลอกขายนักท่องเที่ยวให้หลงซื้อได้เช่นเดียวกัน โดยไข่มุกเทียมจะเป็นมุกที่ผลิตขึ้นจากแก้วหรือพลาสติก เป็นต้น เพราะฉะนั้นมาดูกันดีกว่าค่ะว่าไข่มุกแบบไหนที่เราไม่ควรที่จะซื้ออย่างเด็ดขาด
- ไข่มุกเทียมมักจะเคลือบสีด้วยแลกเกอร์หรือสารเคลือบอื่นๆ เพื่อเพิ่มความมันวาว เพราะฉะนั้นให้สังเกตรอยแตกหรือลักษณะผิวว่ามีสิ่งปกติหรือไม่
- นำมุกแต่ละเม็ดมาถูกันเบาๆ แล้วจับดู หากรู้สึกลื่นๆ ไม่มีความสากเลย ก็ให้สันนิษฐานไว้เลยว่าอาจจะเป็นของปลอม อย่างไรก็ดี วิธีการทดสอบแบบนี้ควรจะระมัดระวังและควรจะทำอย่างเบามือ เพราะไข่มุกแท้จะมีความเปราะบางมาก หรือถูแรงเกินไปผิวมุกอาจสึกหรอได้
- ใช้ไฟลน เพราะไข่มุกแท้จะทนทานต่อไฟ แม้จะเป็นรอยไหม้ก็สามารถเช็ดออกได้