@MushroomTravel
ทุบสถิติความร้อนไปแล้วสำหรับหน้าร้อนในปีนี้ของญี่ปุ่น ใครๆก็บ่นเป็นเสียงเดียวกันว่าร้อนสุดๆไม่แพ้เมืองไทย สำหรับใครที่จองตั๋วไปญี่ปุ่นช่วงนี้อาจจะต้องทำใจหน่อย แต่สำหรับใครที่จะไป เที่ยวเกียวโต เรามีวันเดย์ทริปสำหรับหลบร้อนที่ฟินสุดๆ การันตีเลยว่าจะได้ประสบการณ์แบบอันซีนที่ไม่เคยเห็นในรีวิวแน่นอน “ถ้ามีคำถามๆให้ลองตอบว่าชอบภูเขาหรือทะเล” เพลงภูเขาและทะเลเป็นคำตอบที่ยากมากสำหรับคนที่ชอบทั้งภูเขาและทะเลอย่างเรา เมื่อตอนไปเรียนต่อที่เกียวโต ก็เลยรักที่นี่มาก เพราะมีทั้งภูเขาและทะเล เกียวโตก็มีทะเล ว่าแล้วก็พาคุณผู้อ่านไปเที่ยวทะเลทางตอนเหนือของเกียวโตดีกว่า
1 Day in Kyoto Sea Side
Amanohashitate – Funaya
Amanohashitate สะพานแห่งสรวงสวรรค์
ที่แห่งนี้เป็น 1 ใน 3 วิวที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น อยู่ที่เกียวโตนี่เอง เราเป็นคนหนึ่งที่ไม่เคยรู้เลยว่าเกียวโตก็มีทะเลด้วย แถมเป็นทะเลที่สวยซะด้วย ที่มาของสะพานแห่งสรวงสวรรค์ก็มาจากแผ่นดินแคบๆยาวๆ ที่เชื่อมระหว่างสองแผ่นดินแยกทะเลสองฝั่งออกจากกันอย่างพอดิบพอดี จากฝั่งที่มีรถไฟและรถบัส เราต้องล่องเรือไปอีกฟากหนึ่งเพื่อขึ้นกระเช้าไปดูวิวบนภูเขา กิจกรรมบนเรือก็สนุกอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ เพราะเราสามารถให้อาหารนกนางนวลได้กับมือ
พอมาถึงฝั่งที่มีกระเช้าก็มีเรื่องให้ต้องตื่นเต้นอีกรอบเพราะ จากที่คิดว่ากระเช้าที่จะพาเราขึ้นสู่ยอดเขาเพื่อขึ้นไปดูวิว Amanohashitate จะเป็นกระเช้าตู้แข็งแรงที่จุคนได้หลายสิบคน แต่ภาพที่เห็นกลับทำให้เสียวนิดหน่อยเพราะเป็นกระเช้าแบบที่นั่งเดี่ยว สีสันสดใส แบบ Open Air ให้เราได้รับลมทะเลอย่างเต็มที่
วิธีดูวิวก็ไม่ธรรมดา เพราะต้องก้มมองใต้หว่างขา!! (คิดในใจ เห้ย นี่จะดูทะเลหรือพิสูจน์ผีกันแน่) แต่ภาพที่ได้ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เพราะเราได้ภาพกลับหัวซึ่งทำให้ส่วนของแผ่นดินที่แยกทะเลสองฝั่งออกจากกันนั้นดูเหมือนเป็นสะพานที่อยู่บนฟากฟ้า สมแล้วที่ถูกขนานนามว่าเป็นสะพานแห่งสรวงสวรรค์
Funaya
นี่ไม่ใช่บ้านที่ถูกน้ำท่วมแต่อย่างใด แต่เป็นบ้านที่เรียกว่า ฟูนายะ หรือบ้านเรือ อิเนะโจว อ.มิยาซึ เกียวโต (เกียวโตก็ติดทะเลนะเออ) ฟูนายะ สร้างในปีค.ศ.1841 เป็นบ้านชาวประมงที่หันหน้าออกทะเล แต่ด้านหลังติดถนน มีใต้ถุนสูง ด้านล่างบางส่วนมีน้ำทะเลท่วมถึง ใช้สำหรับเป็นโรงจอดเรือ บ้านสไตล์นี้เป็นภูมิปัญญาของชาวประมงที่อาศัยอยู่ทางตอนเหนือของเกียวโต ทางด้านทะเลญี่ปุ่นหรือนิฮงไก ถามว่าแล้วถ้าคลื่นลมแรงบ้านจะพังมั้ย คำตอบคือไม่พังแน่นอนเพราะฟูนายะเหล่านี้สร้างอยู่ในอ่าวลึกเข้ามาในแผ่นดินแถมปากอ่าวยังมีเกาะใหญ่เป็นเกราะกำบังอีกชั้นนึงด้วย
ฟูนายะ เคยโด่งดังเมื่อหลายปีก่อนเพราะเป็นโลเคชั่นถ่ายหนังและละครหลายเรื่อง แต่ด้วยตอนนี้สภาพเศรษฐกิจและสังคมที่เปลี่ยนไปทำให้คนที่ประกอบอาชีพชาวประมงลดลงหรือไม่มีผู้สืบทอดจนต้องเลิกหรือย้ายไปอยู่ที่อื่น ทำให้ตอนนี้มีฟูนายะแบบนี้เหลืออยู่เพียง 230 หลัง กิจกรรมล่องเรือชมรอบอ่าวจึงกลายเป็นอาชีพเสริมของคนในชุมชน น้ำทะเลที่นี่ใสสะอาดมาก ใสจนมองเห็นพื้นทะเล ขนาดเป็นโซนที่อยู่อาศัยเรายังไม่เห็นขยะหรือคราบน้ำมันเลย และช่วงนี้เป็นช่วงวันหยุดฤดูร้อนเลยเห็นเด็กๆกระโดดน้ำเล่นหน้าบ้าน รู้สึกว่ายังไงๆการเล่นทะเลในหน้าร้อนก็ยังเป็นความสุขอันสามัญของคนทุกชาติอยู่ดี
การชมฟูนายะให้ได้อรรถรส เราแนะนำให้เช่าเรือของไกด์ชาวประมงท้องถิ่น คุณลุงไกด์เล่าเรื่องได้สนุกมากๆได้ความรู้และความฟินอย่างมากเลยล่ะ
วิธีการเดินทาง
2 ชั่วโมง โดยรถไฟ จากสถานีเกียวโต สู่สถานี Fukushiyama เปลี่ยนสายไป Kyoto Tango สู่สถานี Amanohashitate
จากสถานี Amanohashitate เดินทางต่อไปยังสถานี Iwatakiguchi เพื่อไปยัง Funaya
แนะนำ Pass : Kyoto Sea Area Pass
มาที่ภูเขากันบ้าง อย่างที่ทราบกันว่า เกียวโตนั้นถูกโอบล้อมด้วยภูเขา มีเสน่ห์ดั่งถูกต้องมนตร์ และภูเขานี่แหละ เอาชนะความร้อนที่พื้นด้านล่างได้อยู่หมัด
1 Day in Kurama-Kibune
รถรางแล่นไปผ่านตามสถานีต่างๆ ยิ่งสูงขึ้นเท่าไหร่ ความเป็นเมืองก็เริ่มมลายหายไป เหลือเพียงแต่ความร่มเย็นของร่มไม้ครึ้มเขียว ใบเมเปิลเล็กละเอียดกรองแสงแดดอันร้อนแรงในฤดูร้อนให้เหลือเพียงแสงอ่อนๆอันแสนจะอ่อนโยน รถรางจัดวางเก้าอี้แบบหันหน้าออกหน้าต่างราวกับธรรมชาติสองข้างทางเป็นนักแสดงและมีเราเป็นผู้ชม สถานีปลายทางถูกโอบล้อมด้วยป่าสนเขียวขจีสูดอากาศสดชื่นชุ่มเย็นของฤดูร้อนได้อย่างเต็มปอด
จากคิบุเนะก็มีเทรลสำหรับเดินชมธรรมชาติไปลงบรรจบที่คุรามะได้พอดี ว่ากันว่าที่นี่เป็นป่าโบราณที่มีต้นไม้ใหญ่เขียวครึ้ม นักท่องเที่ยวสายธรรมชาติที่หลงรักการเดินป่าไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง 
บริเวณคุรามะ-คิบุเนะ เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในตำนาน เพราะเป็นที่ตั้งของศาลเจ้าเก่าแก่ รายรอบศาลเจ้าใหญ่ก็มีศาลเจ้าเล็กๆ กระจายอยู่หลายที่ ระหว่างทางเชื่อมแต่ละศาล ด้วยความที่เป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์จะมีต้นไม้ที่ถูกล้อมรั้วเอาไว้พร้อมมีป้ายเขียนบอกความสำคัญ เพื่อนคนญี่ปุ่นบอกว่าเป็นต้นไม้สาปแช่งที่คนสมัยก่อนเอาหุ่นฟางเขียนชื่อคนที่ไม่ชอบมาตอกกับต้นไม้ ให้บรรยากาศพิศวงพิลึก
ในฤดูร้อน บริเวณคิบุเนะยังมีแพที่ตั้งอยู่บนแม่น้ำ ที่เสิร์ฟอาหารและเครื่องดื่ม ยามเย็นจะมีการประดับโคมไฟ สร้างบรรยากาศริมน้ำที่ชิวอย่าบอกใคร คุรามะ มีออนเซ็นที่มีชื่อเสียงของเกียวโต หลังจากเหน็ดเหนื่อยจากการเดินป่าสามารถลงแช่ออนเซ็นกลางแจ้งผ่อนคลายกันก่อนกลับบ้านแบบฟินๆ
กิจกรรมเยอะขนาดนี้ บางทีก็คิดว่าวันเดียวก็ไม่พอ…!!!
วิธีการเดินทาง
จากสถานีรถไฟใต้ดิน Demachiyanagi เปลี่ยนขึ้นรถไฟสาย Eizan ลงที่สถานที Kuramaguchi
ขอบคุณข้อมูลจาก amanohashidate.jp และ kyotostation.com