ฤดูกาลท่องเที่ยวใกล้เข้ามาแล้ว คุณมีแพลนการเดินทางกันรึยัง? ถ้ายัง! วันนี้มัชรูมทราเวลจะมาแนะนำประเทศที่น่าเดินทางไปท่องเที่ยว ซึ่งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากบ้านเรา ประเทศสิงคโปร์นั่นเอง
สิงคโปร์ เป็นเกาะเล็กๆ ที่มีขนาดพอๆกับเกาะภูเก็ตของบ้านเราเท่านั้น แต่ถึงจะเล็ก ก็เล็กพริกขี้หนู เพราะสิงคโปร์จัดเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว เทคโนโลยีก็แสนจะก้าวล้ำนำสมัย เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวที่น่าตื่นตาตื่นใจ สร้างความสนุกสนานได้ไม่รู้จบ เหมาะแก่การไปท่องเที่ยว ศึกษาดูงาน หรือจะไปเรียนต่อก็เป็นทางเลือกที่ดี อีกทั้งยังเป็นประเทศที่มีความปลอดภัยสูง จึงเหมาะแก่นักท่องเที่ยวมือใหม่ที่ไม่ว่า จะเที่ยว ช้อป กิน ก็ฟินสุดๆ เมื่อพูดถึงแหล่งท่องเที่ยวในสิงคโปร์ หลายคนคงทราบกันดีว่าส่วนใหญ่จะเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้น เช่น แลนด์มาร์คอย่างเมอร์ไลอ้อน เกาะเซ็นโตซ่า ยูนิเวอร์แซลสตูดิโอ เป็นต้น ซึ่งแต่ละสถานที่ก็ยิ่งใหญ่อลังการงานสร้างสุดๆ
และแม้จะเป็นเมืองที่มีพื้นที่น้อย ทรัพยากรธรรมชาติมีไม่เยอะ แต่ก็ไม่ได้ขาด “พื้นที่สีเขียว” หรือพื้นที่ธรรมชาตินะคะ เพราะประเทศสิงคโปร์นี่แหละคือที่ตั้งของสวนพฤกษศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก! นั่นก็คือ สวนสวยขึ้นชื่อ “การ์เด้น บาย เดอะเบย์ (Gardens by the Bay)” แหล่งรวบรวมพรรณไม้หลากชนิดจากทั่วทุกมุมโลก! ตั้งอยู่ที่อ่าวมารีนา (Marina Bay) มีจุดเด่นที่ทุกคนเห็นแล้ว ต้องร้องอ๋อกันอย่างแน่นอน นั่นก็คือ ซุปเปอร์ทรีโกล์ป (Supertree Grove) หรือต้นไม้ยักษ์ จำนวน 18 ต้น (ร้องอ๋อกันแล้วใช่มั้ยคะ) ที่ได้รับการออกแบบมาอย่างเก๋ไก๋ให้เป็นสวนแนวตั้งขนาดใหญ่ (Vertical Garden) ที่ปกคลุมด้วยไม้เลื้อยเขตร้อน พืชอิงอาศัย และเฟิร์นเมืองร้อน ที่ประดับประดาพันเกี่ยวอยู่ตามลำต้น เจ๋งป่ะหล่ะ? และยังมีทางเดินลอยฟ้ายาว 128 ม. ที่เชื่อมต่อระหว่างต้นไม้ ให้ขึ้นไปชมวิวสิงคโปร์ในมุมสูงได้อย่างสวยงามสุดลูกหูลูกตา ในเวลากลางวันก็รู้สึกสดชื่น ในเวลากลางคืนก็งดงามด้วยแสงไฟหลากสีสัน และยังมีการแสดง แสง สี เสียง “Rhythm with Nature” ประกอบดนตรีให้ได้ดูกันด้วย เป็นการผสมผสานเทคโนโลยีล้ำๆที่เข้ากับธรรมชาติได้อย่างลงตัวสุดๆ
การ์เด้นส์ บาย เดอะ เบย์ ยังมีอีก 3 สวนที่น่าไปชมกัน ได้แก่ สวนเบย์ เซาท์ (Bay South) สวนเบย์ อีสต์ (Bay East) และสวนเบย์ เซ็นทรัล (Bay Central) โดยเฉพาะที่สวนเบย์ เซาธ์นั้นมีไฮไลท์อย่าง “ฟลาวเวอร์ โดม (Flower Dome)” ที่เป็นโดมเรือนกระจกติดแอร์ขนาดใหญ่ ภายในมีการจัดแสดงพันธุ์ไม้จากเขตร้อนชื้นแถบเมดิเตอร์เรเนียนหลายหลายชนิด และ “คลาวด์ ฟอร์เรสต์ (Cloud Forest)” ส่วนจัดแสดงพันธุ์พืชและพันธุ์ไม้ในเขตป่าดิบชื้น ที่เมื่อก้าวเท้าเข้าไปด้านในแล้ว ก็พบกับความน่าตะลึงของน้ำตกขนาดใหญ่สูง 35 ม. อยู่ภายในโดม เมื่อเดินผ่านน้ำตกอ้อมมาทางด้านหลัง ก็จะได้พบกับส่วนจัดแสดงพรรณพืชและพรรณไม้ในเขตป่าดิบชื้นอันหลากหลาย มีพรรณไม้แปลกๆ สวยๆ ให้ได้ชมกันแบบจุใจ เอาล่ะ เมื่อเที่ยวเสร็จ ก็ถึงเวลาตระเวนซื้อของฝากกันแล้ว โดยมีโจทย์ให้ก็คือ “สิงคโปร์ งบ 2,000 บาท จะซื้ออะไรฝากได้บ้าง…?!”
ก่อนอื่นเรามาดูสินค้าที่ไม่ต้องเสียอากรกันดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง ตามนี้เลยค่ะ แอนด์แอนแอ่นนน เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ , เครื่องสำอาง , กล้องถ่ายรูป, นาฬิกา ,เครื่องเพชรพลอย ,โลหะมีค่าและรัตนชาติต่างๆ ,รองเท้า, ศิลปะ, งานฝีมือ , และของเล่นเด็ก เมื่อรู้อย่างงี้แล้ว มาเริ่มช้อปกันเลยดีกว่า
เริ่มจากสิ่งที่เกิดมาคู่กับผู้หญิงอย่างน้ำหอม เครื่องสำอาง กระเป๋า และรองเท้า กันก่อน น้ำหอมแบรนด์เนมที่สิงคโปร์ราคาจะถูกกว่าที่ไทยมากค่ะ เฉลี่ยราคาจะอยู่ที่ 1000-1500 บาทค่ะ ส่วนเครื่องสำอางแบรนด์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น MAC , CHANEL ฯลฯ ก็ถูกกว่าบ้านเราเช่นกัน ซึ่งก็มีหลายราคาค่ะ อย่างพวกลิปสติก บรัชออน ก็มีตั้งแต่สี่ร้อยบาทไปจนถึงพันนิดๆ ขึ้นอยู่กับยี่ห้อและโปรโมชั่นของทางร้านตอนนั้น
ถัดมาคือแบรนด์กระเป๋าอันเลื่องชื่อของสิงคโปร์ อย่าง ชาร์ลส แอนด์ เคท(Charles & Keith) ที่สาวๆห้ามพลาดอย่างเด็ดขาด เพราะราคาถูกกว่าที่ไทยเยอะ แถมยังมีให้เลือกหลายแบบหลายสไตล์ ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 50-60 เหรียญ (ประมาณ 1300-1500 บาทไทย) ส่วนรองเท้าถ้าลดราคาก็จะมีตั้งแต่ 23-40 เหรียญ หรือประมาณ 600-1000 บาทไทยค่ะ
จบพาร์ทแรกสำหรับหมวดข้าวของเครื่องใช้ โดยมีงบ 2000 บาท ก็อาจจะต้องเลือกมาซักอย่างใดอย่างหนึ่งในหมวดนี้ เพื่อที่จะไปช้อปหมวดต่อไปกัน ตามมาดูกันเลยคร้า….
ขอต้อนรับเข้าสู่โหมด “ของกิน” สุดฟินที่ควรค่าแก่การหิ้วกลับไปเป็นของฝากกันเถอะ
อย่างแรกเลยขอเสนอหมูแผ่น “บี แชง เฮียง (Bee Cheng Hiang)” หมูแผ่นเลิศรสที่ไม่ซื้อ! ไม่หา! ไม่ชิม! ไม่ได้! เพราะไม่งั้นจะถือว่าพลาดอย่าแรง เราจึงขอแนะนำเลยคร้า มีให้เลือกด้วยกันหลายรส เช่น รสหวาน รสเผ็ด รสบาร์บีคิว แต่ราคาค่อนข้างจะสูงเลยทีเดียวโดยจะอยู่ที่กิโลกรัมละ 40-50 เหรียญ ก็ประมาณ 1000 กว่าบาทไทย จึงแนะนำให้ซื้อแบบที่เค้าแยกไว้เป็นกล่อง กล่องละประมาณ 250 กรัมก็ดีกว่าค่ะ จะได้เก็บตังค์ไว้ไปช้อปของฝากอย่างอื่นต่อ อ่อ! ร้าน Bee Cheng Hiang มีสาขาอยู่ทั่วสิงค์โปร์ รวมทั้งที่ Changi Airport ด้วย หาไม่ยากแน่นอนค่ะ
ต่อด้วยช็อกโกแลตและขนมหวาน ที่มีขายอยู่มากมายตามแหล่งช้อปปิ้งทั่วไป เลือกซื้อเลือกหากันได้ตามอัธยาศัย ขนมอะไรที่ถูกกว่าหรือไม่มีขายในบ้านเราก็หิ้วกลับมาเลย
ต่อกันด้วยการ์เร็ต ป๊อปคอร์น (Garrett Popcorn) ขนมข้าวโพดคั่วอันเลื่องชื่อของสิงคโปร์ ก็น่านำกลับไปเป็นของฝากเช่นกัน สนนราคาอยู่ที่ 5-38 เหรียญ ขึ้นอยู่กับขนาดและรสชาติที่ต่างกันไป
มาถึงของฝากชิ้นสุดท้ายที่ขอแนะนำสำหรับคนมีเพื่อนเยอะ ก็คือ พวงกุญแจรูปสัญลักษณ์ของสิงคโปร์ ดีไซน์เก๋ไก๋ สวยงาม ราคาถูก และที่สำคัญสามารถแจกทุกคนได้ทั่วถึงอย่างแน่นอน ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 6 ชิ้น 50 บาท ซึ่งขึ้นอยู่กับทักษะการต่อราคาของแต่ละคนด้วยค่ะ
และนี่ก็คือของฝากน่าซื้อที่สิงคโปร์ ที่เรานำมาแนะนำกันในวันนี้ จะซื้ออะไรฝากใครก็สามารถเลือกสรรกันได้เลยตามใจชอบ อย่างพวกเครื่องสำอางก็อาจจะนำไปฝากพี่สาวน้องสาวคนสนิท หมูแผ่นก็เหมาะมากที่จะนำไปฝากญาติผู้ใหญ่ ช็อคโกแลตขนมหวานก็เหมาะกับเด็กตัวเล็กๆที่บ้าน พวงกุญแจ คละลายก็เอาไปแจกเพื่อนร่วมงานทั้งออฟฟิศได้เลย หากคุณลองจัดสรรปันส่วนดีๆ งบ 2000 บาทนี้ก็สามารถซื้อของฝากกลับมาให้ทุกคนได้อย่างทั่วถึงแน่นอน ฟังดูแล้วน่าท้าทายดีเนาะ งั้นต้องไปลองกันซักตั้งแล้วหล่ะ งั้นเตรียมแพ็คกระเป๋าไปเที่ยวสิงคโปร์กันเลยดีกว่า รับประกันว่าต้องเป็นทริปที่ประทับใจไม่รู้ลืมอย่างแน่นอน