มีใครรู้กันไหมคะว่า จริง ๆ แล้ว ประเทศ เนเธอร์แลนด์ ไม่ได้มีเพียงแค่กังหันลมและดอกทิวลิปเท่านั้นที่สวยงามและน่าสนใจชวนให้ไปเยือน เพราะสถานที่ต่าง ๆ อย่างเช่น อาคารบ้านเรือนที่แม้จะดูเหมือนยาว ๆ แคบ ๆ ดูแปลกตา แต่ก็มีสีสันที่สวยงามจัดจ้านไม่เบา หรือจะเป็นสถาปัตยกรรมเก่าแก่แบบยุโรป ที่นี่ก็มีพร้อม แถมด้วยบรรยากาศความโรแมนติกห้อยท้ายมาด้วยอีกต่างหาก และบทความนี้ พี่เห็ด มัชรูมทราเวล เรามี 5 เมืองท่องเที่ยว เนเธอร์แลนด์ ที่มาแล้วห้ามพลาด ไปแวะชม แวะชิล มาฝากเพื่อน ๆ ทุกคนกันค่ะ
1. อัมสเตอร์ดัม (Amsterdam)
เริ่มต้นกันที่เมืองหลวงของประเทศ เนเธอร์แลนด์ อย่าง เมืองอัมสเตอร์ดัม ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำอัมสเตล ซึ่งรายล้อมไปด้วยทัศนียภาพงดงามและสถาปัตยกรรมเก่าแก่ จึงให้บรรยากาศที่แสนโรแมนติกเป็นอย่างยิ่ง อัมสเตอร์ดัมเป็นเมืองที่เหมาะสำหรับการเดินเล่นแบบชิล ๆ หรือปั่นจักรยานชมรอบเมือง และนั่นเองที่ทำให้เมืองนี้ได้ชื่อว่าเป็น เมืองหลวงจักรยานโลก เพราะคนที่นี่เขานิยมปั่นจักรยานมากกว่าการเดินทางแบบอื่นนั่นเอง ก็แหม… ทั้งอากาศเอย บรรยากาศเอย ออกจะดี๊ดีซะขนาดนี้ ใครล่ะจะอยากนั่งรถให้พลาดอะไรดี ๆ ใช่มั้ยคะ โดยช่วงที่เหมาะสำหรับการท่องเที่ยวในอัมสเตอร์ดัมมากที่สุดจะอยู่ในช่วง ฤดูร้อน เนื่องจากมีอากาศอบอุ่นสบาย ๆ และเป็นช่วงที่เวลากลางวันยาวนานกว่าฤดูอื่น ๆ จึงทำให้สามารถเที่ยวได้เยอะขึ้น
สถานที่ท่องเที่ยวห้ามพลาดในอัมสเตอร์ดัม
– วอนเดลปาร์ค (Vondelpark) สวนสาธารณะที่ใหญ่ที่สุดในอัมสเตอร์ดัม ซึ่งคนส่วนใหญ่ชอบที่จะมาปั่นจักรยานรอบ ๆ ทะเลสาบ รวมทั้งการมาปิกนิกในวันหยุด ซึ่งทุก ๆ วันอาทิตย์ที่นี่จะมีดนตรี การแสดงเปิดหมวก และละครเวทีให้ชมอย่างจุใจ
– พิพิธภัณฑ์แวนโก๊ะห์ สายอาร์ตห้ามพลาด สถานที่รวบรวมผลงานของจิตรกรแนวอิมเพรสชั่นนิสม์ระดับโลกอย่าง แวนโกะห์ เอาไว้มากกว่า 700 ชิ้น
– โรงงานเบียร์ไฮเนเก้น หนึ่งในแบรนด์สินค้าของชาวดัตช์ที่โด่งดังไปทั่วโลก ภายในนอกจะมีร้านขายสินค้าพรีเมี่ยมให้ได้ช้อปอย่างจุใจ และยังมีพิพิธภัณฑ์ที่บอกเล่าประวัติของไฮเนเก้น รวมถึงไฮไลท์อย่างการทัวร์โรงงานผลิตเบียร์ ที่จะทำให้เราได้รู้เรื่องราวเกี่ยวกับการผลิตเบียร์ทุกขั้นตอน
– ดัมสแควร์ (Dam Square) หรือ จัตุรัสดาม ที่ตั้งของอนุสาวรีย์ระลึกถึงผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งถือเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คสำคัญที่ต้องแวะมาเช็กอินและเที่ยวชมของเมืองอัมสเตอร์ดัม ตรงนี้เป็นจุดศูนย์กลางของเมืองที่รายล้อมไปด้วยสถาปัตยกรรมเก่าแก่ เป็นศูนย์รวมในการมาทำกิจกรรมของผู้คน และเต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร และคาเฟ่
– บ้านแอนน์ แฟรงก์ พิพิธภัณฑ์อันควรค่าแก่การไปเยือนมากที่สุด เพราะที่นี่เคยเป็นสถานที่หลบซ่อนตัวของแอนน์และครอบครัวในช่วงสงครามโลกที่ 2 จากเหตุการณ์กวาดล้างชาวยิว จนเป็นที่มาของหนังสือชื่อก้องโลกอย่างบันทึกลับของ แอนน์ แฟรงก์ นั่นเอง
2. เฮก (The Hague)
กรุงเฮก (The Hague) หรือ เดนฮาก (Den Haag) เมืองใหญ่อันดับ 3 ที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกของประเทศ ซึ่งหลาย ๆ คนอาจสับสนว่า ที่นี่ใช่เมืองหลวงของฮอลแลนด์หรือไม่ เนื่องจากเป็นเมืองแห่งศูนย์รวมการปกครอง และเป็นที่ตั้งของหน่วยงานราชการสำคัญ ๆ หลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นอาคารรัฐสภา ศาลฎีกา สภาแห่งรัฐ รวมไปถึงเป็นเมืองที่ประทับของพระราชินี เป็นต้น นอกจากนั้นยังเป็นที่ตั้งของ ศาลโลก อีกด้วย และนั่นจึงทำให้เดอะเฮกแห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็นนครแห่งสันติภาพโลกไปโดยปริยาย ส่วนการท่องเที่ยว ช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่น่ามาเยือนนั้นจะอยู่ในระหว่าง เดือนเมษายน-เดือนกันยายน ที่อากาศอบอุ่น เหมาะแก่การเดินเที่ยวชมเมืองเป็นที่สุด
สถานที่ท่องเที่ยวห้ามพลาดในเฮก
– พระราชวังแห่งสันติภาพ (The Peace Palace | Vredespaleis) ที่ตั้งกองบัญชาการของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ศาลอนุญาโตตุลาการถาวร เนติบัณฑิตยสถานระหว่างประเทศแห่งกรุงเฮก และหอสมุดที่ล้ำค่า ซึ่งว่าที่นักกฎหมายควรไปเที่ยวชมสักครั้ง
– บินเนนฮอฟ (The Binnenhof) กลุ่มอาคารรัฐสภาของประเทศเนเธอแลนด์ ที่ประกอบไปด้วย ริดเดอร์ซาล อาคารสไตล์โกธิคขนาดใหญ่ที่ถูกใช้ในพิธีการสำคัญ ๆ มากมาย
– เมืองจิ๋วมาดูโรดัม (Madurodam) เมืองจำลองทัศนียภาพอันงดงามของประเทศเนเธอร์แลนด์ ได้แก่อาคาร โบสถ์ ปราสาท วิหาร จตุรัส และสภาพบ้านเรือนที่อยู่อาศัยของชาวดัตช์ที่มีเอกลักษณ์อันงดงาม รวมไปวิถีชีวิต ประเพณี งานเทศกาลต่าง ๆ ที่ดูแล้วเหมือนมีชีวิตชีวาจริง ๆ
– ท่าเรือ Scheveningen ใครเบื่อเที่ยวแลนด์มาร์คในเมือง ขอบอกว่าเฮกก็มีชายหาดสวย ๆ และท่าเรือที่มีกิจกรรมน่าสนใจและน่าไปแวะชมอยู่เหมือนกัน ที่ชายหาด Scheveningen ที่นี่เป็นชายหาดยอดนิยมของชาวเมือง มีชิงช้าสวรรค์สีขาวสวยสะดุดตา พร้อมร้านอาหาร รีสอร์ท และแหล่งช้อปปิ้งครบครันรอบท่าเรือ
3. รอทเทอร์ดัม (Rotterdam)
เมืองท่าสุดแสนทันสมัยของ เนเธอร์แลนด์ ที่ก่อตั้งมานับตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 ซึ่งแม้ว่าปัจจุบันจะมีการขยายเมืองให้มีความทันสมัยมากขึ้นกว่าเดิม แต่ รอทเทอร์ดัม ก็ยังโดดเด่น ด้วยสถาปัตยกรรมที่สวยงามของเขตเมืองเก่า ที่เต็มไปด้วยบ้านชาวดัตช์แบบดั้งเดิม นอกจากนั้นเมืองนี้ยังกลายเป็นหนึ่งในท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งแต่ละปีมีคอนเทนเนอร์มากกว่าสามร้อยล้านตันผ่านเข้าออกเลยทีเดียว โดยช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการท่องเที่ยวจะอยู่ในช่วง ฤดูร้อน ที่จะมีงานคาร์นิวัลแห่งฤดูร้อน เป็นไฮไลท์การท่องเที่ยวที่น่าสนใจสุด ส่วนอีกช่วงก็คือ ฤดูใบไม้ร่วง ที่เหมาะสำหรับการปั่นจักรยานชมวิวและล่องเรือชมเมือง
สถานที่ท่องเที่ยวห้ามพลาดในเมืองรอทเทอร์ดัม
– บ้านคิวบ์ (Cube Houses) สถาปัตยกรรมทรงแปลก สีเหลืองสดใส เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คขึ้นชื่อของเมืองรอทเทอร์ดัม ได้รับการออกแบบโดย Piet Blom สถาปนิกชาวเนเธอร์แลนด์
– สวนสัตว์รอตทเตอร์ดัม (Rotterdam Zoo) สวนสัตว์ที่ใหญ่และสวยติดอันดับของ เนเธอร์แลนด์ เป็นสถานที่เที่ยวยอดนิยมของครอบครัว ที่มีไฮไลท์อยู่ที่โลกใต้ทะเล ซี่งมีทั้งปลาสีสันสวยงาม รวมไปถึง ป่าปะการัง และสิ่งมีชีวิตในมหาสมุทรที่น่าสนใจมากมาย
– สะพานอีราสมุส (Erasmus Bridge | Erasmusbrug) สะพานเคเบิลสีขาว มีอีกชื่อเรียกหนึ่งว่า The Swan Bridge เป็นหนึ่งโลโก้สำคัญของเมืองรอทเทอร์ดัม ทำหน้าที่เชื่อมระหว่างเมืองตอนเหนือและตอนใต้
– ศาลาว่าการเมืองรอทเทอร์ดัม อาคารศิลปะร่วมสมัยที่สร้างขึ้นนับตั้งแต่ปี 1914 เพื่อใช้เป็นที่ทำการของเมือง ซึ่งขึ้นชื่อในเรื่องของรูปปั้นที่ตั้งอยู่ภายในและการจัดแต่งสวนที่สวยงาม
– กังหันลม เดอ สตาร์ (De Ster) กังหันลมเก่าแก่ที่ยังใช้การได้อยู่ ณ ปัจจุบัน ซึ่งกังหันนี้ตั้งอยู่ที่โรงงานยาสูบคราลิงกส์ โดยจะเปิดให้เข้าชมทุกวันเสาร์ที่สองของเดือน
4. ฮาร์เลม (Haarlem)
เมืองฮาร์เลม ที่ได้รับฉายาว่าเป็นเมืองแห่งดอกไม้ ด้วยเป็นแหล่งปลูกทิวลิปที่ขึ้นชื่อที่สุดในประเทศ นอกจากนั้นฮาร์เลมยังเป็นเมืองเก่าแก่ที่สวยงามและน่ารัก มีอาคารโบราณ พิพิธภัณฑ์ แกลลอรี่ และที่เที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจหลายแห่ง เช่น อดีตห้องโถงเนื้อ (Vleeshal Haarlem), ตลาดกลาง (Grote Markt), กังหันลมอาเดรียน (Windmill De Adriaan), สะพานข้ามแม่น้ำสปาร์เนอร์ (Gravestenenbrug) และ ย่านถนนคนเดินและร้านค้าช้อปปิ้ง The Golden Streets โดยช่วงของการท่องเที่ยวเมืองฮาร์เลมที่ดีที่สุด อยู่ในช่วงระหว่าง เดือนพฤษภาคม-เดือนกันยายน เพราะเป็นช่วงที่นอกจากจะไม่ต้องผจญกับสายฝนแล้ว ยังเป็นช่วงที่อากาศอบอุ่นที่สุด เนื่องจากในหน้าหนาวเมืองแห่งนี้จะหนาวแบบสุด ๆ นั่นเองค่ะ
สถานที่ท่องเที่ยวห้ามพลาดในเมืองฮาร์เลม
– พิพิธภัณฑ์ยุคทอง (Frans Hals Museum) หรือ พิพิธภัณฑ์ฟรานส์ฮัลส์ เป็นสถานที่รวบรวมผลงานงานศิลปะของเมืองฮาร์เลม เดิมคือ พิพิธภัณฑ์ Haarlem มีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน ตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 ได้รับการดูแลโดย Frans Hals หนึ่งในจิตรกรที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดของยุคทอง ทำให้ชื่อของเขาถูกนำมาตั้งเป็นชื่อพิพิธภัณฑ์ ตั้งอยู่บริเวณใจกลางเมืองฮาร์เลม บริเวณตลาดกลาง (Grote Markt)
– ศาลากลางเมืองฮาร์เลม (Town Hall Haarlem) อีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวน่าสนใจของเมืองนี้ ตั้งอยู่ถัดจากพิพิธภัณฑ์ Frans Hals Museum ที่นี่เป็นสถานที่ทำงานของรัฐบาลเมืองฮาร์เลม สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 14
– โบสถ์โกรตเคร์ก (De Grote of St. Bavokerk te Haarlem) หรือ มหาวิหารเซนต์บาโว (The Church of Saint Bavo) หนึ่งในสถานที่สำคัญที่รู้จักกันดีในประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งไฮไลท์ของโบสถ์นี้นอกจากความใหญ่โตและสวยงามแล้ว ภายในโบสถ์ยังมีออร์แกนที่ใหญ่ที่สุดในโลกเก็บเอาไว้ โดยมีความสูงถึง 100 ฟุต มีท่อ 5,000 ท่อ ซึ่งศิลปินระดับโลกอย่าง Mozart ก็เคยมาเล่นออร์แกนนี้เมื่อยังเป็นเด็ก
– จัตุรัสโกรตเคร์ก จัตุรัสกลางที่มีความสง่างามมาตั้งแต่ยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา เป็นสถาปัตยกรรมสไตล์โกธิค ที่มีถนนถึง 10 สายที่มาบรรจบกัน จึงทำให้เต็มไปด้วยแกลเลอรี่ ร้านค้าของเก่าและคาเฟ่มากมาย
5. เดลฟท์ (Delft)
เมืองเดลฟท์ เมืองเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ด้านใต้ของประเทศระหว่างเมืองรอทเทอร์ดัมและเฮก ซึ่งแม้จะเป็นเมืองเล็ก แต่ก็โดดเด่นด้วยบ้านเรือนและอาคารในยุคเรเนซองส์ อีกทั้งยังเต็มไปด้วยแหล่งประวัติศาสตร์และโบราณสถานมากมาย เช่น โบสถ์ อาคาร บ้านเรือนยุคเก่า ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางทัศนียภาพอันสวยงามและโรแมนติกเป็นอย่างยิ่ง โดยช่วงเวลาที่น่าเที่ยวที่สุดสำหรับเมืองนี้จะอยู่ระหว่าง เดือนเมษายน-เดือนกันยายน ซึ่งอากาศจะดีสุด ๆ ไปเลย
สถานที่ท่องเที่ยวห้ามพลาดในเมืองเดลฟท์
– โบสถ์และสุสานเก่า (The New and Old Church of Delft) แลนด์มาร์คเด่นใจกลางเมือง สถานที่อันเป็นที่ฝังพระศพของเจ้าชายวิลเลี่ยมแห่งออเรนจ์
– ศาลาว่าการเมืองเดลฟท์ (Stadhuis van Delft) และจัตุรัสกลางเมือง จัตุรัสอันเป็นที่ตั้งของศาลาว่าการเมืองเดลฟท์ ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นศาลาว่าการที่เก่าแก่ที่สุดใน เนเธอร์แลนด์
– ประตูเมืองตะวันออก (The Eastern Gate) สถานที่น่าเที่ยวทางประวัติศาสตร์ เป็นประตูเมืองแห่งเดียวที่ยังหลงเหลืออยู่จากทั้งหมด 8 ประตู ซึ่งถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1400 ทำหน้าที่ป้องกันการโจมตีของศัตรู และเป็นทางเดียวที่สามารถเข้าไปยังเมืองเดลฟท์ได้ ประกอบด้วยประตูและสะพานชักที่เชื่อมต่อกันด้วยส่วนสุดท้ายของกำแพงเมือง
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย : มารยาททางสังคมในเนเธอร์แลนด์ที่ควรรู้
- เมื่อต้องพบปะกับครอบครัว เพื่อนฝูง และคนรู้จัก ชาวดัตช์จะทักทายกันด้วยการหอมแก้ม 3 ครั้งสลับข้างกันไป แต่หากเป็นผู้ชายจะใช้แค่การจับมือ
- ชาวดัตช์มีนิสัยค่อนข้างพูดตรงถึงตรงมาก ถึงขนาดบางครั้งอาจจะทำให้เรารู้สึกอึดอัดและรู้สึกเหมือนกำลังถูกคุกคามความเป็นส่วนตัวได้
- หากถูกชาวดัตช์ชวนไปรับประทานอาหารค่ำที่บ้าน ตามธรรมเนียมแล้วเราจะต้องนำของขวัญติดไปด้วย เป็นของขวัญแสดงความขอบคุณ ซึ่งอาจจะเป็นของเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างหนังสือ ดอกไม้ ช็อกโกแลต เป็นต้น
- เนื่องจากชาวดัตช์ไม่ค่อยให้ความสำคัญสำหรับมื้ออาหารมากนัก ดังนั้น การหาอาหารเช้ารับประทานที่นี่อาจจะยากสักนิด ส่วนมื้อกลางวันก็จะรับประทานอาหารง่าย ๆ อย่างเช่น ขนมปัง นม ผลไม้ และมื้อเย็นก็จะเป็นมันฝรั่ง ผัก และเนื้อสัตว์นานาชนิด ทั้งนี้มื้อเย็นของชาวดัตช์จะเริ่มต้นในเวลา 18.00 – 19.00 น. และร้านอาหารส่วนใหญ่จะปิดครัวในเวลา 21.00 น.
- หากจะต้องนัดหมายกับเพื่อนชาวดัตช์ ควรจะนัดล่วงหน้าเอาไว้ก่อนเพื่อความพร้อมของทั้งสองฝ่าย นอกจากนั้นการไปบ้านคนดัตช์โดยไม่นัดหมายเอาไว้ล่วงหน้าถือเป็นเรื่องที่ไม่สุภาพ โดยเฉพาะคนที่เป็นผู้ใหญ่กว่า หรือคนที่เราไม่คุ้นเคย
- หากจำเป็นต้องมีการยกเลิกนัด และเลื่อนนัด หากรู้ตัวว่าไม่สามารถไปได้ให้รีบโทรไปยกเลิกหรือเลื่อนโดยทันที อย่าปล่อยให้ใกล้ถึงเวลาแล้วค่อยบอก เนื่องจากการไม่บอกล่วงหน้าถือเป็นเรื่องผิดมารยาทอย่างมากสำหรับคนดัตช์ ถึงแม้เราจะขอโทษตามหลังได้ ก็ถือว่าไม่สุภาพอยู่ดี