หลังจากที่ทนความร้อนระอุมาหลายเดือน ในที่สุดฝนก็เทลงมาทำให้ได้ชื่นฉ่ำหัวใจ ภูเขาที่ดูแสนจะแห้งแล้งก็เปลี่ยนเป็นสีเขียวชอุ่มไปทั่วบริเวณ แม่น้ำที่เคยแห้งขอดก็กลับมีน้ำเต็มปริ่ม ชาวนาเริ่มดำนาปลูกข้าว แต่งเติมสีเขียวให้กับโลกใบนี้ อากาศที่เย็นสบาย เช้าๆมีหมอกบางๆลอยขึ้นมาบนเขา อยากจะสูดกลิ่นไอดินไอฝนให้ชุ่มปอด คุณพ่อคุณแม่ก็ต่างยินดีปรีดา เพราะลูกชายสุดที่รักจะพักกิจกรรมแบคแพคแล้วอยู่กับบ้านเหมือนลูกบ้านอื่นเขาเสียบ้าง เพราะแอบได้ยินมาว่าฝนที่ตกนั้นเป็นอุปสรรคต่อการท่องเที่ยวเสียเหลือเกิน แต่ทฤษฎีนั้นไม่ใช่สำหรับผม เพราะสีเขียวและกลิ่นไอฝนนั้นทำให้หัวใจของผมเต้นแรงยิ่งกว่าฤดูไหน จนอยากจะกระโจนออกไปท่องเที่ยวท่ามกลางสายฝนเสียเหลือเกิน ว่าแล้วก็เซย์กู้ดบายกับที่บ้าน แล้วออกเดินทางอีกครั้ง
หลังจากที่หาข้อมูลอยู่นาน ผมก็ไปเจอข้อมูลเกี่ยวสถานที่ท่องเที่ยวฝนตกชุกที่อยู่ในต่างแดน แต่ละที่จะสวยชอุ่มแค่ไหน ไปดูกัน
1. Cherrapunji ประเทศอินเดีย
ที่แห่งนี้ถูกบันทึกไว้ว่าเป็นที่ๆมีฝนตกมากที่สุดในโลก (498 นิ้วต่อปี) เพราะภูมิประเทศเป็นภูเขาสูง ถูกแรงปะทะจากมรสุมที่พัดพามาจากอ่าวเบงกอล ทำให้เกิดฝนตกไปทั่วบริเวณ ด้วยความที่ฝนตกชุก และป่าอุ้มน้ำไว้มาก ทำให้เกิดน้ำตกที่มีชื่อเสียงหลายสาย เป็นแหล่งเดินป่าที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของโลก มีสะพานธรรมชาติ (Living Bridge) ที่เกิดจากการถักทอกันของรากไม้อันแข็งแรง (รับน้ำหนักคนได้ถึง 50 คน) เพราะมีน้ำอุดมสมบูรณ์ เป็นสิ่งที่เกิดจากการรังสรรค์โดยธรรมชาติที่มหัศจรรย์มากๆแห่งหนึ่งของโลก
2. ชุมชนบ้านต้นไม้ Finca Bellavista ประเทศ Costa Rica
เห็นแล้วนึกถึงเมาคลีลูกหมาป่ายังไงยังงั้น Finca Bellavista เป็นชุมชนบ้านต้นไม้แห่ง Costa Rica ที่ตั้งอยู่ในป่าฝนที่มีต้นไม้ใหญ่เติบโตอย่างหนาแน่น บนยอดไม้ใหญ่อายุเป็นร้อยปีกลางป่าใน Costa Rica เป็นสถานที่ๆ พวกอเมริกันฮิปปี้ใช้เป็นที่หลีกหนีชีวิตอันวุ่นวายในเมือง มาสร้างบ้านบนต้นไม้ใหญ่ที่อยู่สูงกว่าพื้นดินกว่า 25 ฟุต แล้วพวกเขาเดินทางกันยังไงน่ะเหรอ ก็ใช้วิธีห้อยโหนสลิง (Zip line) และบันไดเป็นหลักน่ะสิ ชีวิตคงจะสนุกสุดเหวี่ยงน่าดู ถ้าสนใจอยากใช้ชีวิตบนบ้านต้นไม้ดูสักคืน สามารถเข้าไปจองได้ตามเว็บไซต์นี้เลย www.fincabellavista.com
3. ภูเขา Emei Shan ประเทศจีน
กลับมาที่จีนแผ่นดินใหญ่กันบ้าง ภูเขา Emei Shan ในเมืองเสฉวน เป็นสถานที่ๆฝนตกชุกที่สุดในประเทศจีน เป็นมรดกโลกของยูเนสโก้ในปี 1996 มีประวัติศาสตร์อันยาวนานเพราะเป็นหนึ่งใน 4 ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อในศาสนาพุทธ ด้วยความที่ภูมิประเทศเป็นภูเขาสูงสลับซับซ้อน มีเมฆหมอกเป็นม่านบังตา มีความสงบอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ ว่ากันว่าเป็นสถานที่ฝึกวิทยายุทธในสมัยโบราณ และเป็นที่ตั้งของวัดพุทธแห่งแรกในประเทศจีน อีกทั้งยังเป็นที่อยู่ของสัตว์ป่าหายากนานาชนิด เป็นแหล่งดูนกสายพันธุ์หายากแห่งหนึ่งของโลก
4. Waialeale, Hawaii, USA
ได้ยินชื่อภูเขาสุดน่ารักแห่งนี้ครั้งแรก ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าอยู่ที่ไหน ต้องเป็นฮาวายแน่นอน คำอ่านออกเสียงที่ถูกต้องคือ “ไว อาเล อาเล” เป็นภาษาฮาวายแปลว่า สายน้ำกระเพื่อม ด้วยความที่เป็นป่าต้นน้ำอันอุดมสมบูรณ์ จึงเป็นแหล่งกำเนิดพืชพรรณธรรมชาติมากมาย มีการค้นพบพืชพันธุ์ใหม่ๆมากมายในป่าแห่งนี้เกือบทุกปี
5. ป่าฝนแห่งประเทศคองโก
เราสามารถพบป่าฝนแบบนี้ได้ในแอฟริกาตอนกลาง ซึ่งเป็นป่าฝนที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก ป่าฝนกินอาณาบริเวณครอบคลุมตอนเหนือของประเทศคองโก ป่าฝนแห่งนี้เป็นแหล่งกำเนิดสายน้ำที่หล่อเลี้ยงชีวิตของชาวคองโก เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่านานาชนิดอย่างเช่นปิ๊กมี่ชิมแพนซี การล่องเรือในแม่น้ำคองโกลัดเลาะไปตามป่าฝน ก็เป็นกิจกรรมแอดเวนเจอร์ชุ่มเย็นที่พลาดไม่ได้
6. เมืองทวาย ประเทศเมียนมาร์
กลับมาที่ประเทศเพื่อนบ้านของเรากันบ้าง ทวายเป็นแผ่นดินที่ตั้งอยู่ติดกับทะเลอันดามัน นอกจากเป็นแหล่งค้าขายชายฝั่งที่สำคัญตั้งแต่อดีต ด้วยความที่มีแนวเขา Bilauktaung ที่กั้นระหว่างทะเลอันดามันกับทวายซึ่งเป็นเส้นแบ่งเขตแดนตามธรรมชาติระหว่างไทยกับพม่า จึงเกิดเป็นแนวฝนทำให้มีน้ำอุดมสมบูรณ์ เป็นแหล่งปลูกข้าวที่สำคัญ แถมยังอุดมไปด้วยแร่ดีบุก ใครที่อยากไปสัมผัสชีวิตเดินช้า เมืองทะวายเป็นสถานที่ๆควรไปเยือนเป็นอย่างยิ่ง
7. AMAZON
ป่าอเมซอนเป็นผืนป่าที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ในทวีปอเมริกาใต้ มีอาณาบริเวณกว่า 1.7 ร้อยล้านเอเคอร์ (ใช่ครับ คุณอ่านไม่ผิด! มันใหญ่ขนาดนั้นจริงๆ) เพราะป่าอเมซอนกินอาณาบริเวณของประเทศบราซิล เวเนซุเอล่า เอกวาดอ โบลิเวียร์ Guyana Suriname และ French Guina ซึ่ง 60% ของผืนป่าอยู่ในประเทศบราซิล ทัวร์ป่าอเมซอนเป็น world destination ที่นักท่องเที่ยวแนวแอดเวนเจอร์ทุกคนใฝ่ฝัน
หวังว่าสถานที่ๆผมเลือกมาแนะนำทั้ง 7 แห่งจะทำให้คุณมีไอเดียเพื่อแพลนท่องเที่ยวกันได้สนุกจนชุ่มปอด ในการไปเที่ยวในสถานที่ๆฝนตกชุก สิ่งสำคัญที่สุดก็คือการดูแลร่างกายไม่ให้ป่วย ดังนั้น ผมจึงมี Tips ในการดูแลตัวเอง เวลาไปเที่ยวในสถานที่ฝนตกชุกดังต่อไปนี้ พกวิตามินซีเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ใช้รองเท้าและเสื้อโค้ทกันน้ำ ระวังอย่าให้หัวเปียก ง่ายๆแค่นี้เอง ยังไงก็ขอให้สนุกกับทริปลุยฝนกันทุกคนนะครับ
ข้อมูลอ้างอิงจาก therichest.com, bcliving.ca, mashinglists.com และ top-10-list.org