ถ้าจะมา แอฟริกา ทั้งทีจะมีอะไรงดงามไปกว่า การชมซาฟารีและความร้อนแรงของทะเลทราย หากใครชื่นชอบการผจญภัย ห้ามพลาด! เทรนด์ท่องเที่ยว 2016 แบ็คแพ็คยังไม่เอ้าท์
แอฟริกา ที่หลายๆ คนเข้าใจไม่ใช่แค่เพียงประเทศนะครับ แต่ยังยิ่งใหญ่เป็นถึงทวีปแอฟริกา ซึ่งแบ่งได้เป็น 5 ภูมิภาค อย่าง เหนือ กลาง ใต้ ตะวันออก และตะวันตก เหมือนอย่างบ้านเรานี่แหละครับ แน่นอนว่าแต่ละภูมิภาคย่อมมีลักษณะทางภูมิศาสตร์และสถานที่ท่องเที่ยวเด่นๆ แตกต่างกันออกไป จริงๆ แล้วประเทศในทวีปแอฟริกาเป็นที่รู้จักอยู่หลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็น แอฟริกาใต้ โมร็อกโก ซิมบับเว เคปทาวน์ หรือแม้กระทั่งชื่อประเทศที่ค่ายภาพยนตร์การ์ตูนอะนิเมชั่นชื่อดังยังเอาไปตั้งเป็นชื่อหนัง อย่างมาดากัสการ์
เมื่อเอ่ยถึงการมาท่องเที่ยวที่ แอฟริกา แล้ว คนส่วนใหญ่อาจขอโบกมือบ๊ายบายกันเลยทีเดียว แต่สำหรับผู้ที่หลงใหลการแบคแพค ผมอยากให้นี่เป็นอีกสถานที่หนึ่งคุณควรเพิ่มไว้ในลิสต์เลยครับ เพราะที่นี่คุณสามารถหาชมฝูงสัตว์ได้อย่างใกล้ชิดแบบสุดๆ ชนิดที่ว่ามองหน้ากันตาต่อตาได้เลยทีเดียว หรืออยากลองสัมผัสความงามของธรรมชาติแบบผืนป่าหรือทะเลทรายที่นี่ก็มีนะครับ และที่แอฟริกายังมีชนเผ่าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอีกต่างหาก สำหรับผู้ที่อยากหาประสบการณ์แหวกแนวและไม่เหมือนใคร แอฟริกามีให้คุณอย่างครบถ้วน
ผมขอเริ่มที่ประเทศแอฟริกาใต้ก่อนเลย เพราะเชื่อว่าหลายคนได้ยินชื่อประเทศนี้บ่อยมากแต่อาจยังไม่รู้ว่ามีอะไร ซึ่งประเทศแอฟริกาใต้ก็อยู่ที่ภูมิภาคแอฟริกาใต้เนี่ยแหละครับ และยังเป็นเป็นคู่ค้าอันดับ 1 ของไทยในทวีปแอฟริกาอีกด้วย ดังนั้น ประเทศนี้จึงมีความเจริญทางการค้าและเศรษฐกิจมาก อย่างเมืองเคปทาวน์ จึงถือเป็นเมืองท่าที่สำคัญในแอฟริกา เพราะมีอายุเก่าแกมากกว่า 300 ปี และได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่สวยที่สุดในโลกอีกแห่งหนึ่ง ทั้งยังมีเทือกยอดเขาเรียบใจกลางเมือง คือสามารถมองเห็นเขาลูกนี้ได้จากทั่วทุกที่ไม่ว่าคุณจะอยู่ตรงส่วนไหนของเมืองนั่นคือ Table Mountain เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก และยังได้รับเลือกให้เป็น 1 ในมรดกโลกทางธรรมชาติจากยูเนสโกอีกด้วย ซึ่งคุณสามารถนั่งกระเช้าหรือจะบ้าพลังปีนขึ้นไปชมวิวบนยอดก็ยังได้ นอกจากนี้โดยรอบประเทศแอฟริกาใต้ยังเป็นแหล่งของไร่ไวน์สินค้าที่มีชื่อที่สุดของประเทศ และยังสามารถพบกับเจ้าป่าทั้ง 5 (Big Five) คือ แรด ควายป่า ช้างป่าแอฟริกา เสือดาว และสิงโต ได้ครบจบที่เดียวในซาฟารี รวมทั้งยังมีทัวร์ชมแมวน้ำ เพนกวิน นกกระจอกเทศ และฉลามยักษ์แบบใกล้ชิดมากๆ ให้เลือกอีกด้วย หากใครชอบการถ่ายรูปก็พลาดไม่ได้กับ Cape of good hope ที่นี่วิวสวยมากครับ
มาต่อกันที่แอฟริกาเหนือ มีประเทศที่เด่นๆ อยู่ 2 ประเทศ นั่นคือ ประเทศอียิปต์ เป็นประเทศมีชื่อเสียงในด้านอารยธรรมโบราณ รวมถึงอนุสาวรีย์โบราณที่อลังการที่สุดในโลก เช่น พีระมิด มหาวิหารคาร์นัค และสุสานฟาโรห์ ซึ่งพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นส่วนของทะเลทรายซาฮาร่า ซึ่งเป็นทะเลทรายที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก แต่หากใครอยากชมทัศนียภาพ พืชพันธุ์และสัตว์ทะเลทรายแปลกๆ แนะนำให้ไปตั้งต้นที่กรุงราบัต เมืองหลวงของโมร็อกโก ที่ได้ชื่อว่า ดินแดนฟ้าจรดทราย ที่นี่คุณสามารถขี่อูฐชมพระอาทิตย์ขึ้นที่เมอร์ซูก้าได้ด้วยครับ
และผมขอปิดท้ายด้วยฝั่งแอฟริกาตะวันออก ประเทศเอธิโอเปีย ประเทศที่เต็มไปด้วยอารยธรรมของมวลมนุษยชาติ อย่างเมืองแอดดิสบาบาหรือเมืองดอกไม้แห่งใหม่ โดยที่นี่เต็มไปด้วยพิพิธภัณฑ์จัดแสดงเรื่องราวยุคก่อนประวัติศาสตร์ของเอธิโอเปียมากว่า 3,000 ปี เรื่องราวของชนเผ่าประมาณ 85 ชนเผ่าทั่วประเทศ และที่สำคัญคือ ที่นี่มีต้นฉบับของ “ลูซี่” เป็นผู้หญิงที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดในโลกโดยพบโครงกระดูกที่น่าจะมีอายุกว่า 3.5 ล้านปี แต่ถ้าหากใครเบื่อๆ ก็สามารถเดินสำรวจตลาดเมอร์กาโต ตลาดแห่งนี้เชื่อว่าตนเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในทวีป ตลาดแห่งนี้เต็มไปด้วยกาแฟ อาหาร เสื้อผ้า เครื่องประดับอัญมณี และสินค้าต่างๆ เกือบทุกสิ่งที่คุณต้องการ
นอกจากนี้ ที่แอฟริกายังติด 1 ใน 100 สถานที่ที่สวยที่สุดของโลกที่ประเทศแทนซาเนียและเคนยา ซึ่งเป็นจุดสูงสุดของโลก นั่นคือหลังคาแอฟริกา ยอดเขาคิลิมันจาโร ซึ่งเป็นภูเขาไฟยอดเดี่ยวที่สูงที่สุดในโลก บริเวณยอดเขาเป็นธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในทวีปแอฟริกาเลยก็ว่าได้ครับ และยังมีน้ำตกวิคตอเรีย ซึ่งเป็น 1 ในมรดกโลกจากยูเนสโกอีกเช่นเคย เป็นน้ำตกที่ตั้งอยู่บริเวณรอยต่อของประเทศแซมเบียและซิมบับเว มีความสูงถึง 355 ฟุต ที่นี่มีกิจกรรมแอดเวนเจอร์มากมาย
เรียกได้ว่าหากใครหลงใหลในวิถีแบบแบคแพคเกอร์ ที่หลงรักการผจญภัยและเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ทวีปแอฟริกาเป็นอีกที่หนึ่งที่มีครบทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทั้งอารยธรรรมและธรรมชาติ รวมทั้งยังมีมรดกโลกที่สำคัญๆ หลายอย่างอยู่อีกด้วย หรือหากใครอยากลองสัมผัสวิถีดั้งเดิมของคนชนเผ่าที่นี่ก็น่ารักมากมายทีเดียวครับ