อะโอะโมริตั้งอยู่ในทิศตะวันตกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น และอยู่เหนือสุดภูมิภาคโทโฮกุบนเกาะฮอนชู และที่นี่ยังได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในจังหวัดที่สวยที่สุดของประเทศ และเมืองหลวงของอะโอะโมริที่มีชื่อเดียวกันกับจังหวัดยังเป็นหนึ่งในเมืองของญี่ปุ่นที่สบายที่สุด ซึ่งเหมาะแก่การมาเที่ยวพักผ่อนหรืออยู่อาศัยแบบถาวร
นอกจากนั้นอะโอะโมริอยู่ตั้งอยู่ในอ่าวมัตสึ เมืองอะโอะโมริยังคงรักษารูปแบบของอาคารบางส่วนที่สร้างมาตั้งแต่สมัยเอโดะเอาไว้ แม้ว่าเมืองจะเคยถูกทิ้งระเบิดในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 มาอย่างหนักก็ตาม ทั้งนี้ส่วนใหญ่สถานที่สำคัญในอะโอะโมริจะเป็นอาคารสมัยใหม่และมีรูปทรงเหมือนอัญมณี อย่างเช่น Wa Rasse และ A-Factory ที่อยู่ใกล้ๆ กับสถานีรถไฟอะโอะโมริ สะพานอะโอะโมริ และศูนย์บริการนักท่องเที่ยวจังหวัดอะโอะโมริ หรือที่เรียกย่อๆ ว่า Aspam
ส่วนในข้อมูลด้านอื่นๆ เกี่ยวอะโอะโมรินั้น ปัจจุบันที่มีมีประชากรกว่า 300,000 คน และในอดีตอะโอะโมริเคยเป็นจุดหลักในการข้ามไปยังภูมิภาคฮอกไกโด ก่อนที่จะมีการเปิดใช้งานอุโมงค์ Seikan ในปี 1988 อย่างไรก็ตาม อะโอะโมริยังคงเป็นศูนย์กลางการขนส่งที่สำคัญสู่ภูมิภาคฮอกไกโด โดยผู้เดินทางสามารถใช้เรือข้ามฟากรถ และรถไฟไปยังฮาโกดาเตะได้อย่างสะดวก รวมถึงในเรื่องของอาหารการกิน จังหวัดอะโอะโมริยังเป็นที่รู้จักกันดีสำหรับการเพาะปลูกแอปเปิ้ลพันธุ์ดี สาเกรสเยี่ยม และอาหารทะเลสดๆ
เดินเท้าเที่ยว เมืองอะโอะโมริ
โดยทั่วไปเมื่อนักท่องเที่ยวเดินทางมายังจังหวัดอะโอะโมริ ก็มักจะใช้บริการขนส่งสาธารณะเพื่อไปยังสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญและขึ้นชื่ออย่างปราสาทฮิโรซากิ ภูเขาฮักโกดะ แม่น้ำโทวาดะ ลำธารโออิราเซะและภูเขาโอโซเรซัง เป็นต้น แต่ถ้าคุณมีเวลาว่างสักหนึ่งวันหรือเพียงครึ่งวันก็ได้ และไม่อยากเดินทางออกนอกเมือง แค่เพียงต้องการใช้เวลาแบบชิลล์ๆ เที่ยวแบบชิลล์ๆ เพื่อชมวิถีชีวิตแบบชิลล์ๆ ของชาวเมืองอะโอะโมริล่ะก็ มัชรูมทราเวลขอแนะนำว่า เพียงแค่แบกเป้คู่ใจใส่บ่า เตรียมกล้องถ่ายรูปให้พร้อม และสวมรองเท้าผ้าใบคู่เก่งที่คิดว่าน่าจะสบายเท้าที่สุด แล้วออกไปเดินเล่นภายในเมืองอะโอะโมริกันดีกว่าค่ะ เพราะเป็นอะไรที่ฟินมากโดยเฉพาะวันที่อากาศแจ่มใสไร้แสงแดดและเมฆฝน
ทางเลือกที่ 1
เริ่มต้นจากสถานีรถไฟอะโอะโมริ เมื่อเดินเลี้ยวซ้ายออกจากสถานีก็จะพบกับ A-Factory ศูนย์ปฏิบัติการและแสดงสินค้าซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายจากผลแอปเปิ้ล ผลไม้ขึ้นชื่อของจังหวัด นอกจากนั้นภายในยังประกอบไปด้วยตลาดสินค้าในร่ม ร้านกาแฟที่ทันสมัย และร้านอาหารที่สามารถมองเห็นวิวที่สวยงามและดูแพงของสะพานอะโอะโมริได้อย่างชัดเจน ส่วนพื้นที่ตรงข้ามจะเป็นที่ตั้งของ Wa Rasse ที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2011 ที่นี่ถือเป็นศูนย์จัดแสดงผลงานทางวัฒนธรรมและศิลปะที่มีชื่อเสียงของอะโอะโมริ อย่างงานเทศกาล Nebuta ซึ่งจะมีการแสดงผลงานจากการจัดงานเทศกาลของปีที่ผ่านมาด้วยภาพวิดีโอ เสียง และรูปภาพ รวมถึงยังมีการแนะนำศิลปินเนบูตะที่มีชื่อเสียงทุกเพศทุกวัย
จากนั้นเมื่อเดินลงไปใต้สะพานอะโอะโมริจะเป็นที่ตั้งของอนุสรณ์สถานเรือ Hakkoda-Maru ซึ่งเป็นรถไฟเรือเฟอร์รี่เส้นทางจากอะโอะโมริสู่ฮอกไกโดซึ่งออกเดินทางครั้งสุดท้ายในปี 1988 ก่อนที่จะเปิดใช้อุโมงค์ Seikan โดยปัจจุบันเรือลำนี้ถูกใช้เป็นพิพิธภัณฑ์ลอยน้ำเพื่อแสดงประวัติของการเดินทางในอดีต และยังเป็นลานเบียร์ในช่วงฤดูร้อนอีกด้วย
เมื่อเดินเลาะเลียบไปตามริมอ่าวเรื่อยๆ ก็จะถึงศูนย์บริการนักท่องเที่ยวจังหวัดอะโอะโมริหรือ Aspam ซึ่งเป็นอาคารรูปทรงตัว A ที่มีความสูงถึง 76 เมตร ภายในนอกจากจะเป็นที่ตั้งของศูนย์บริการนักท่องเที่ยวแล้ว ยังมีตลาดให้จับจ่ายใช้สอย มีพื้นที่สำหรับจัดกิจกรรมต่างๆ ร้านอาหาร และดาดฟ้าที่ถือเป็นจุดชมวิวอันยอดเยี่ยมที่จะสามารถมองเห็นได้ทั่วทั้งเมืองอะโอะโมริ และอ่าวมัตสึ ส่วนพื้นที่ถัดจาก Aspam คือสวนสาธารณะ Aoi Umi ซึ่งเป็นสวนริมทะเลที่สามารถนั่งเพลิดเพลินไปกับสายลมทะเลได้อย่างสบาย
ทางเลือกที่ 2
เดินตรงออกจากสถานีรถไฟอะโอะโมริเพื่อเข้าสู่ถนนช้อปปิ้ง Shinmachi เพื่อนำเรายังห้างสรรพสินค้า Auga ซึ่งตั้งอยู่ทางขวามือ โดยในห้างนี้ที่ชั้นใต้ดินจะมีตลาดปลาแบบดั้งเดิมที่ขายอาหารทะเลสดๆ มีร้านขายซูชิรสชาติดีให้ได้ลิ้มลองความสดหวานของอาหารทะเลสไตล์อะโอะโมริได้แบบเต็มๆ คำ นอกจากนั้นถนน Shinmachi ยังเต็มไปด้วยร้านค้าขายของเก่าและงานฝีมือ จึงถือเป็นเส้นทางที่น่ารื่นรมย์สำหรับผู้ที่รักงานศิลปะหรือของเก่าเป็นอย่างยิ่ง
ความน่าสนใจของถนน Shinmachi ยังไม่หมดเพียงแค่นี้ค่ะ เพราะสองข้างทางถนนทางทิศเหนือนั้น ด้านทิศตะวันออกเป็นที่ตั้งของศาลเจ้า Uto ที่มีความน่าสนใจด้วยเป็นพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านแห่งจังหวัดอะโอะโมริ ซึ่งมีคอลเลกชั่นขนาดใหญ่ของเครื่องปั้นดินเผายุคโจมง กระโจมขนาดเล็ก และเครื่องมือต่างๆ จากยุคแรกเริ่มของประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น รวมทั้งสิ่งที่ปฏิวัติการศึกษาของญี่ปุ่นโดยการค้นพบแหล่งโบราณคดีซันไน-มารุยามะ แหล่งขุดค้นทางโบราณคดีที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ และวงกลมก้อนหิน Komakino จากนั้นเมื่อเดินทางไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองใกล้ๆ กับพิพิธภัณฑ์ศิลปะอะโอะโมริ ที่นี่ยังมีการจัดแสดงงานนิทรรศการอื่น ๆ ให้ชมที่พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านอะโอะโมริ รวมถึงการแสดงเกี่ยววิถีชีวิตของคนในพื้นที่ และวัฒนธรรมในสมัยเอโดะ
ไม่เพียงแค่ที่กล่าวมาเท่านั้น หากนักท่องเที่ยวได้มีโอกาสไปเยือนอะโอะโมริ จะพบว่าที่นี่มีสถานที่ท่องเที่ยวภายในเมืองอยู่อีกมากมายโดยเฉพาะพิพิธภัณฑ์และแหล่งช้อปปิ้ง ซึ่งเรามั่นใจว่าหากคุณไปแล้วจะต้องอยากกลับไปเยือนอีกครั้งอย่างแน่นอนค่ะ