เที่ยวอควาเรียม สุดเจ๋ง คัดมาแล้ว 5 ที่ในญี่ปุ่น
Happiness is an attitude.
We either makes ourselves miserable or happy and strong.
It is your choice.
ความสุขเป็นเพียงทัศนคติหนึ่ง เราจะทำชีวิตให้เศร้า สุข หรือเข้มแข็ง ขึ้นอยู่กับเราเลือกที่จะเป็น เห็นด้วยมั้ยล่ะคะ..? วันนี้ มัชรูมทราเวล ขอเลือกเดสติเนชั่นยอดฮิตของคนไทย อย่างประเทศญี่ปุ่น ที่ใคร ๆ ก็บอกว่าสนุก คุ้มค่า ประทับใจทุกครั้งที่ได้ไปเยือนซึ่งสิ่งที่น่าสนใจในญี่ปุ่น นอกจากจะเป็นธรรมชาติสวยๆ อาหารการกินอร่อยๆ แหล่งช้อปปิ้งทันสมัย และสภาพอากาศที่ดีต่อใจแล้ว ยังมีอีกสถานที่ที่คุณอาจจะนึกไม่ถึง อย่างการไป เที่ยวอควาเรียม หรือ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำนั่นเอง ด้วยความที่เป็นประเทศหมู่เกาะมีน้ำทะเลล้อมรอบ จึงทำให้ประเทศแห่งนี้มีอควาเรียมถึง 100 กว่าแห่ง เพื่อจัดแสดงสัตว์น้ำหลากหลายสายพันธุ์ เปิดประสบการณ์ให้นักท่องเที่ยวได้ดำดิ่งสู่โลกใต้ทะเล ชมลีลาการแหวกว่ายอันพริ้วไหวของเจ้าปลาตัวเล็กตัวน้อย ไปจนถึงเจ้ามหาสมุทร อย่าง วาฬ และ ฉลาม พร้อมตกแต่งด้วยเทคนิคแสงสีอลังการ น่าตื่นตาตื่นใจ เพลิดเพลินกันได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ แถมยังได้สาระความรู้ไปอีก จึงกล้าบอกเลยว่า กิจกรรม เที่ยวอควาเรียม ญี่ปุ่นเนี่ย เป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมกระเทียมดองและกู๊ดไอเดียมั่กมาก
มัชรูมทราเวลจึงไม่รอช้า รีบหา อควาเรียม สุดเจ๋ง คัดมาแล้ว 5 ที่ในญี่ปุ่น มาให้ทุกคนได้ชมกัน จะน่าไปขนาดไหน ตามมาเซอยร์เวย์ท่อง เที่ยวอควาเรียม ไปพร้อมๆกันเลยค่ะ
อันดับที่ 5 : พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ อควาเวิลด์ โออาราอิ (Aquaworld – oarai) จังหวัดอิบารากิ
ที่ตั้ง :
นี่คืออควาเรียมขนาดใหญ่ที่มีถึง 7 ชั้นด้วยกัน และอยู่ไม่ไกลจากโตเกียวมากนัก เป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่มีการเลี้ยงปลาฉลามมากกว่า 52 ชนิด ซึ่งถือเป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่เลี้ยงปลาฉลามไว้เยอะที่สุดในประเทศญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังจัดแสดงสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลจำนวนกว่า 68,000 ชีวิต มากกว่า 580 สายพันธุ์กันเลยทีเดียว และยังมีโชว์การแสดงของฝูงปลาโลมาและสิงโตทะเลสุดน่ารักให้ได้ชมกันอีกด้วย
ไฮไลท์และสิ่งที่น่าสนใจ
o ชั้น 2 โซน ‘The Encounter Sea’ มีตู้ปลาขนาดใหญ่ซึ่งบรรจุปลาไว้กว่า 20,000 ตัวและมากถึง 80 สายพันธุ์! ให้คุณได้ร้องโอ้โหกับปลาสายพันธุ์ต่างๆ ทั้งที่เคยเห็นและไม่เคยเห็นอย่างเต็มๆตา
o ชั้น 2 โซน Deep Sea จัดแสดงเหล่าสัตว์น้ำที่อาศัยอยู่ใต้ทะเลลึก ไม่ว่าจะเป็นปลาชนิดต่าง ๆ แมงกะพรุน หรือแม้แต่ปูขายาวตัวใหญ่ ที่หาดูได้ยาก
o โซนปลาตัวใหญ่ยักษ์ ขนาดมหึมา อย่างปลาฉลาม ปลากระเบน ที่แหวกว่ายให้เราได้ชมกันอย่างใกล้ชิด
o ชั้น 3 มีพิพิธภัณฑ์ให้ความรู้เกี่ยวกับเหล่าสัตว์น้ำต่างๆ จัดแสดงลักษณะทางกายภาพของปลา และสิ่งมีชีวิตใต้ทะเล
o ชั้น 6 จัดแสดงเจ้านากน้อยและแมวน้ำสุดคาวาอี้
o โซนสัตว์น้ำจืด ‘River and Streams’ แสดงพันธุ์ปลาน้ำจืดหลากหลายชนิด
o โซน The Rendezvous Deck จัดแสดงปลา และโครงกระดูกปลาฉลามที่ใหญ่ที่สุดในโลก
o โซนการแสดงโชว์ความสามารถของสัตว์สุดน่ารัก ที่ถือว่าเป็นไฮไลท์ที่ต้องมาชมกันให้ได้
นอกจากนี้ ยังมี ร้านอาหาร ร้านค้าต่าง ๆ มากมายไว้บริการ และมีพื้นที่ให้สนทนาพูดคุยกันได้อย่างเป็นกันเองอีกด้วย
เวลาเปิดปิด : เปิดทำการทุกวัน เวลา 9.00-17.00 น.
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 1,850 เยน, เด็กโต 930 เยน, เด็กเล็ก 310 เยน 9
เว็บไซต์ : www.aquaworld-oarai.com
วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟสาย Hitachinaka Kaihin Tetsudo Line มาลงที่สถานี Nakaminato จากนั้นนั่งรถต่ออีก ประมาณ 15 นาที
อันดับที่ 4 : พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ Toba Aquarium จังหวัดมิเอะ
พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโทบะ (Toba Aquarium) เป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่มีตู้ปลาใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น มีขนาด 3 ชั้น แบ่งออกเป็น 12 โซน ไล่ตามตัวอักษรตั้งแต่ A ถึง L บรรจุสัตว์น้ำไว้กว่า 850 ชนิด โดยนำสัตว์น้ำจากมหาสมุทรที่ห่างไกลทะเล และแม่น้ำ สิ่งมีชีวิตที่นำมาจัดแสดง ได้แก่ ปลาหลากหลายสายพันธุ์ แมงกะพรุน ปู สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ สัตว์เลื้อยคลาน สิงโตทะเล แมวน้ำ นกทะเล นาก และอื่นๆอีกมากมาย
ไฮไลท์และสิ่งที่น่าสนใจ
o โซน A มีการแสดงของแมวน้ำ สิงโตทะเล และวอลรัส สัตว์โลกแสนอุ้ยอ้ายแต่น่ารัก ให้ได้ชมกัน
o โซน E เป็นโซนของสัตว์ที่อาศัยอยู่ในทะเลอิเสะและรอบๆญี่ปุ่น แหวกว่ายฉวัดเฉวียนให้ได้ชมมากมาย มีพระเอกที่หาชมไม่ได้จากที่อื่นคือ โลมาที่ไม่มีครีบหลัง (Finless Porpoise)
o โซน H จัดแสดงปลาพะยูน ว่ายน้ำไป ว่ายน้ำมา
o โซน I จัดแสดงนากทะเล และโลมาแพนด้า (Commersons’s Dolphin) โลมาที่มีท่อนหัวกับครีบหางเป็นสีดำนอกนั้นขาวล้วน มองไกลๆเหมือนแพนด้าหุ่นเพรียวกำลังว่ายน้ำอยู่อย่างไงอย่างงั้น
เวลาเปิดปิด : เปิดทำการทุกวัน เวลา 9:00-17:00
ค่าเข้าชม : 2,400 เยน
วิธีการเดินทาง : จาก Ise-shi Station โดยสารรถไฟ JR หรือ Kintetsu Line ลงที่ Taba Station (ใช้เวลา 15 นาที รถไฟ JR 240 เยน รถไฟ Kintetsu 330 เยน) แล้วเดินต่อไปอีกประมาณ 5-10 นาที
แผนที่ :
อันดับที่ 3 : พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ AQUA PARK SHINAGAWA : อควาเรียมเรืองแสง จังหวัด โตเกียว
อควาเรียมแห่งนี้ตั้งอยู่ในเมืองท่องเที่ยวยอดฮิตอย่าง Tokyo เดินทางไม่ยาก เพราะตั้งอยู่ติดกับโรงแรม Shinagawa Prince Hotel ภายในตัวอาคารนั้นมีด้วยกันสองชั้น แบ่งออกเป็นโซนต่าง ๆ โดยชั้นที่ 1 จะตกแต่งในสไตล์โมเดิร์นๆ ทันสมัย ที่นำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยให้เราจะได้เห็นโลกใต้ทะเลที่แปลกไปอีกแบบ
ไฮไลท์และสิ่งที่น่าสนใจ
o จอ Touch Screen ให้เราได้เหมือนสัมผัสกับปลาตัวเป็นๆ ที่เคลื่อนไหวไปมาด้วยเทคนิคสุดพิเศษ และชั้นที่ 2 บอกเลยว่าชั้นนี้ถือเป็นไฮไลท์จัดเต็มไปด้วยความงดงามของสัตว์โลกใต้ทะเล
o โซนแมงกะพรุน ที่จัดโชว์เอาไว้ในตู้เรืองแสง ดูแล้วสวยงามราวกับแสงไฟที่ส่องประกายระยิบระยับในยามค่ำคืน รวมถึงโซนสำหรับเด็กที่ประกอบไปด้วย ม้าหมุนรูปสัตว์ทะเลสุดน่ารัก หรือจะเล่นไวกิ้งเรือโจรสลัดที่นี่ก็มีด้วยเหมือนกัน
o พื้นที่แวะจิบเครื่องดื่มก่อนไปลุยต่อกันที่ชั้น 2 ได้ที่ ร้านคาเฟ่ HaNaBi คาเฟ่เรืองแสงที่มีจำหน่ายทั้งเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ น้ำอัดลมและกาแฟ
ไปว้าวว กันต่อที่ชั้น 2 บอกเลยว่าชั้นนี้ถือเป็นไฮไลท์จัดเต็มไปด้วยความงดงามของสัตว์โลกใต้ทะเล
ไฮไลท์และสิ่งที่น่าสนใจ
o มีตู้ปลาจัดแสดงวิถีชีวิตของสัตว์น้ำใต้ทะเลอย่างใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็น ปลาการ์ตูน ปลาไหล หรือปลากระเบน
o โซนจัดแสดงปลาน้ำจืดหลากชนิด
o มีสัตว์น่ารักๆ ให้คุณได้ชมมากมาย เช่น เจ้าหนูคาปิบาร่า กิ้งก่าอิกัวน่า เพนกวิ้น และแมวน้ำ
o โชว์โลมาสุดอลังการ ที่จัดเต็มทั้งแสงสีเสียง และความสามารถของเหล่าโลมาแสนรู้สุดน่ารักที่รับรองว่าคุณจะต้องประทับใจแน่นอน
เวลาเปิดปิด : 10.00-22.00 น.
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 2,200 เยน, เด็กประถม 1,200 เยน, เด็กเล็ก 700 เยน
เว็บไซต์ : AQUA PARK SHINAGAWA
วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟสาย Keikyu Line มาลงที่สถานี Shinagawa จากนั้นเดินประมาณ 6 นาที
แผนที่ :
อันดับที่ 2 : พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำฟุกุชิมะ (Aquamarine Fukushima) จังหวัดฟุกุชิมะ
เป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่หันหน้าออกสู่ชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิค ภายในจัดแสดงพันธุ์สัตว์น้ำนานาชนิด ที่แสดงให้เห็นถึงระบบนิเวศในน่านน้ำของจังหวัดฟุกุชิมะ และส่วนต่างๆในโลก นอกจากนี้ส่วนหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ถูกจำลองให้มีสิ่งแวดล้อมตามธรรมชาติของจังหวัดฟุกุชิมะ ตกแต่งให้มีแม่น้ำ ทะเลสาบ ภูเขา และแนวชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิค รวมทั้งสิ่งมีชีวิตพืชและสัตว์
ไฮไลท์และสิ่งที่น่าสนใจ
o แทงค์น้ำสามเหลี่ยมขนาดใหญ่ที่จุน้ำไว้ถึง 2,050 ตัน เพื่อจัดแสดงให้เห็นถึงกระแสน้ำคุโรชิโอะจากทางทิศใต้ และกระแสน้ำโอยาชิโอะ จากทางทิศเหนือ ที่ไหลมาบรรจบกันที่ชายฝั่งทะเลจังหวัดฟุกุชิมะ
o นิทรรศการน่านน้ำเขตร้อนของเอเชีย (Waters of Tropical Asia) เป็นการจำลองธรรมชาติริมน้ำของทวีปเอเชียภายในเรือนกระจก
o แท็งก์ Okhotsk Sea ที่แบ่งประเภทของสิ่งมีชีวิตต่างๆที่อาศัยอยู่ในทะเลโอค็อตสค์ ที่อยู่ทางทิศเหนือของฮอกไกโด
o โซนปลาหายากชนิดต่างๆ ที่จะทำให้คุณต้องประหลาดใจว่ามันมีอยู่ในโลกนี้ด้วยหรอ!! เช่น สายพันธุ์ที่หลากหลายของปลาทอง
o โซนเรียนรู้และสัมผัสกับสิ่งมีชีวิตในน้ำ เช่น ปลาดาว พร้อมชมแมวน้ำและตัววอลรัส
เวลาเปิดปิด : เปิดบริการทุกวัน เวลา 9:00-17:30 (วันที่ 1 ธันวาคม – 20 มีนาคม ปิด 17:00)
ค่าเข้าชม : 1,600 เยน
วิธีการเดินทาง : จาก Izumi Station(JR Joban Line) นั่งรถบัสเส้นทาง Onahama/Ena ไปลงที่ Shisho Iriguchi bus stop (10 นาที 270 เยน บัสออกชั่วโมงละ 1 รอบ) แล้วเดินต่อไปอีก 10-15 นาที
แผนที่ :
อันดับที่ 1 : พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ ซูราอุมิ โอกินาว่า อควาเรียม (Okinawa Churaumi Aquarium) จังหวัดโอกินาว่า
ชูราอุมิ โอกินาว่า อควาเรียม ตั้งอยู่ทางเหนือสุดบนเกาะโอกินาวะกลางทะเล ถือเป็นอควาเรียมบรรยากาศดีอีกหนึ่งแห่งที่ดีที่สุดในประเทศญี่ปุ่น โดยเปิดให้บริการตั้งแต่ปี ค.ศ. 2002 ภายในอควาเรียมแยกออกเป็น 3 ชั้น โดยจะให้เดินชมจากชั้นบนสุดของอควาเรียมก่อน แล้วค่อยไล่ชมความงามของโลกใต้ทะเลมาจนถึงชั้น 1 ซึ่งทั้งหมดมีตู้จัดแสดงมากถึง 77 ตู้
ไฮไลท์และสิ่งที่น่าสนใจ
o แท็งก์น้ำคุโรชิโอะ (Kuroshio Tank) ที่ ได้รับการขนานนามว่าเป็นหนึ่งในแท็งก์น้ำที่ใหญ่ที่สุดของโลก สิ่งมีชีวิตที่ถูกจัดแสดงอยู่ภายในแท็งก์นี้ก็คือสัตว์ในทะเลแถบโอกินาว่าที่หลากหลาย ซึ่งมีฉลามวาฬยักษ์ที่มีขนาดถึง 8.5 เมตร และกระเบนราหูซึ่งเป็นพระเอกของแท็งก์และอควาเรียมแห่งนี้
o บ่อน้ำที่เราสามารถทดลองสัมผัสปลาดาวและหอยชนิดต่าง ๆ ได้อย่างเนื้อแนบเนื้อ
o แท็งก์น้ำที่จัดแสดงสัตว์ที่อาศัยอยู่ตามแนวปะการัง
o แท็งก์น้ำที่มีเหล่านักล่าอย่างฉลามสายพันธุ์ต่าง ๆ
o ศูนย์วิจัยปลาฉลามที่ให้ความรู้เกี่ยวกับ เจ้าปลาฉลามใหญ่ยักษ์อย่างละเอียดยิบ
o การแสดงเต่าทะเลกับพะยูน และโชว์ความสามารถของโลมาแสนรู้ ที่สระน้ำกลางแจ้งขนาดใหญ่ โดยจะจัดการแสดงเป็นรอบใครอยากดูก็ต้องลองตรวจสอบรอบการแสดงจากทางเว็บไซต์ดูก่อน
o โซนของฝากของที่ระลึกน่ารักๆ มากมาย ให้ได้เลือกซื้อกันก่อนกลับ
เรียกได้ว่า บรรยากาศของการมา เที่ยวอควาเรียม แห่งนี้เหมือนได้หลุดไปในท้องทะเลจริงๆเลยล่ะค่ะ และตอนนี้โอกินาวา บินตรงได้แล้วนะ ถ้าอยากไปเที่ยวแบบสบายๆ ก็สามารถเลือกดูโปรแกรม ทัวร์ญี่ปุ่น ของมัชรูมทราเวลได้เลย
เวลาเปิดปิด : เปิดทุกวัน เวลา 8.30-20.00 น. เดือนตุลาคม-กุมภาพันธ์ ปิด 18.30 น.
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 1,850 เยน, นักเรียนมัธยม 1,230, นักเรียนประถมและมัธยม 610, เด็กเล็ก (ต่ำกว่า 6 ปี) เข้าฟรี
เว็บไซต์ : churaumi.okinawa
วิธีเดินทาง : นั่งรถบัส Yanbaru Express bus จากสนามบิน Naha Airport ไปยังพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำใช้เวลา 2 ชั่วโมง ค่ารถ 2,000 เยน (ให้บริการ 6 รอบต่อหนึ่งวัน)
แผนที่ :
และนี่ก็คืออควาเรียมทั้ง 5 แห่ง ที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ ดีงามอลังการงานมหาสมุทรเลยมั้ยล่ะ อย่าลืมเที่ยวญี่ปุ่นให้ครบรส ต้องไป เที่ยวอควาเรียม ด้วยนร้า….