หากช่วงปลายปีนี้คุณยังไม่มีแพลนหรือแผนการจะไปเที่ยวที่ไหนดี ลองเปลี่ยนบรรยากาศชวนแก๊งเพื่อนสุดซ่าไปล่องเรือสำราญกินลมชมวิวทะเลสวยๆ พร้อมร่วมงานเทศกาลดนตรีบนเรือในเส้นทางสิงคโปร์ – ปีนัง – สิงคโปร์ กันไหมคะ?
Asia’s largest music festival at sea งานดนตรีสุดมันบน เรือสำราญ
นี่คืองานเทศกาลดนตรีบนเรือที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกซึ่งจัดขึ้น และประสบความสำเร็จมาแล้วถึง 2 ครั้งสำหรับ Asia’s largest music festival at sea หรือ IT’S THE SHIP ซึ่งปีนี้จะจัดขึ้นในช่วงวันที่ 4-7 พฤศจิกายน โดยตลอดระยะเวลา 4 วัน 3 คืน นอกจากผู้เข้าร่วมงานจะได้สนุกสนานไปกับ ศิลปินและดีเจระดับโลกอย่างสุดเหวี่ยงบนเรือ Mariner of the Seas ในสังกัดของ Royal Caribbean Singaporeในทุกค่ำคืนแล้ว ในช่วงเวลากลางวันก็ยังสามารถผ่อนคลายและตื่นเต้นไปกับกิจกรรมอีกมากมาย ทั้งบ่อนกาสิโน หน้าผาจำลอง สนามบาสเกตบอล ลานไอซ์สเกต สนามมินิกอล์ฟ ห้องฟิตเนส สระว่ายน้ำ บ่อจากุชชี่ เป็นต้น โดยที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจากราคาบัตรที่จ่ายในตอนแรก
โดยการเดินทางในครั้งนี้จะเริ่มต้นที่ท่าเรือ Marina Bay Cruise Center ประเทศสิงคโปร์ ในวันที่ 4 พฤศจิกายน จากนั้นจึงล่องเรือข้ามน่านน้ำสากลในช่องแคบมะละกาไปเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงเกาะปีนัง ที่ได้ชื่อว่าเป็นไข่มุกแห่งตะวันออก ด้วยความเป็นเมืองที่สวยงามและโรแมนติกที่สุดเมืองหนึ่งทางภาคตะวันออกของประเทศมาเลเซียนั่นเอง เพื่อเข้าสู่บรรยากาศของ Private Party บนชายหาดที่สวยงามของเกาะ ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่เวลาเที่ยงวันจนกระทั่งถึงเที่ยงคืนกันเลยทีเดียว จากนั้นจึงเดินทางกลับเข้าสู่ชายฝั่งสิงคโปร์ในวันที่ 7 พฤศจิกายน ทั้งนี้ผู้ที่มาร่วมงานปาร์ตี้ก็จะประกอบไปด้วยนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมากมายค่ะ โดยสถิติของการจัดงาน 2 ปีที่ผ่านมา สรุปได้ว่านักท่องเที่ยวที่เข้าร่วมงานนั้นมีมากกว่า 49 สัญชาติ จากจำนวนทั้งสิ้น 3,800 คนเลยล่ะค่ะ
Mariner of the Seas by Royal Caribbean
Mariner of the Seas เป็นเรือสำราญขนาดใหญ่ด้วยความสูงถึง 15 ชั้นค่ะ ซึ่งสามารถจุผู้โดยสารไม่รวมลูกเรือได้ถึง 3,807 คน โดยเรือถูกออกแบบมาเพื่อการผจญภัยและพักผ่อนสำหรับผู้คนทุกเพศทุกวัยด้วยสิ่งบันเทิงและกิจกรรมที่มากมายภายในเรือ ไม่ว่าจะเป็นโซนร้านอาหาร โซนผจญภัยที่มีทั้งหน้าผาจำลอง สนามมินิกอล์ฟ สนามบาสเกตบอล/วอลเล่ย์บอล ฯลฯ ศูนย์รวมความบันเทิงอย่างเช่น ห้องเธียเตอร์ บาร์และเลาจ์นหลากหลายธีม ร้านค้าปลอดภาษี บ่อนกาสิโน ฯลฯ กิจกรรมสำหรับเด็กและครอบครัว และขบวนพาเหรดที่ถนนคนเดินใจกลางเรือ Royal Promenade เป็นต้น
ทั้งนี้ราคาค่าตั๋วสำหรับงาน Asia’s largest music festival at sea 2016 เริ่มต้นที่ 412 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อคน หรือประมาณ 14,686 บาท (สำหรับห้องพักแบบ Interior) ซึ่งราคานี้เป็นราคาที่รวมค่าห้องพักจำนวน 4 วัน 3 คืน จากสิงคโปร์ – ปีนัง – สิงคโปร์ อาหารทุกมื้อ (เช้า กลางวัน เย็น) ตลอดเวลาทั้งสิ้น 4 วัน รูมเซอร์วิสตลอด 24 ชั่วโมง เครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ ค่าเข้าร่วมปาร์ตี้ IT’S THE SHIP ทั้งบนเรือและบนชายหาดที่ปีนัง รวมทั้งกิจกรรมและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ บนเรือเกือบทั้งหมด ทั้งนี้ราคาค่าตั๋วจะแปรผันไปตามลักษณะของห้องพักค่ะ ซึ่ง Mariner of the Seas มีห้องพักทั้งหมด 12 แบบดังนี้
Interior
ห้อง Interior จะตั้งอยู่ที่ชั้น 6-10 โดยห้องจะมีพื้นที่ใช้สอยทั้งหมด 150 ตารางฟุต ภายในห้องจะประกอบไปด้วยเตียงแฝดขนาด 72.5 x 82 นิ้ว พื้นที่นั่งเล่นบริเวณโต๊ะเครื่องแป้ง และห้องน้ำส่วนตัว รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งมินิบาร์ ไดร์เป่าผม โทรทัศน์ โทรศัพท์ สามารถรองรับผู้เข้าพักได้ประมาณ 3-4 ท่าน ในราคา 828 ดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับ 2 ท่าน, 708 ดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับ 3 ท่าน, 588 ดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับ 4 ท่าน
Promenade Interior
ห้อง Promenade Interior จะอยู่ที่ชั้น 6-8 ค่ะ โดยห้องมีขนาดความกว้าง 160 ตารางฟุต ภายในห้องประกอบไปด้วย 2 เตียงคู่ พื้นที่นั่งเล่นที่มีโซฟาบริเวณโต๊ะเครื่องแป้งและห้องน้ำส่วนตัว รวมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกตามมาตรฐาน โดยห้องนี้จะรองรับลูกค้าได้ 2 ท่านในราคา 888
Ocean View
ห้อง Ocean View ประกอบไปด้วย 2 เตียงแฝด มีพื้นที่นั่งเล่นบริเวณโต๊ะเครื่องแป้งและห้องน้ำส่วนตัว รวมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกครบชุด ในพื้นที่ทั้งหมด 160 ตารางฟุต โดยความพิเศษของห้องนี้ก็คือจะสามารถมองเห็นวิวของมหาสมุทรได้ และสามารถรองรับผู้เข้าพักได้ถึง 3-4 ท่าน ในราคา 989 ดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับ 2 ท่าน, 808 ดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับ 3 ท่าน และ 688 ดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับ 4 ท่าน
Large Ocean View
Large Ocean View คือห้องพักขนาด 178 ตารางฟุต กับ 2 เตียงแฝด กับพื้นที่นั่งเล่นที่มีโซฟาบริเวณโต๊ะเครื่องแป้งและห้องน้ำส่วนตัว และสิ่งอำนวยความสะดวกครบถ้วน สามารถรองรับผู้เข้าพัก 3-4 ท่านในราคา 1,008 ดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับ 2 ท่าน, 828 ดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับ 3 ท่าน และ 708 ดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับ 4 ท่าน
Family Ocean View
Family Ocean View คือห้องพักขนาด 262 ฟุตที่มี 2 เตียงแฝด และมีเตียง 2 ชั้นเพิ่มเติมในพื้นที่ที่แยกจากห้องนั่งเล่นพร้อมเตียงโซฟาและห้องน้ำส่วนตัวพร้อมฝักบัวอาบน้ำ และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบถ้วน โดยสามารถรองรับผู้เข้าพักสูงสุดได้ถึง 6 ท่าน โดยกาใช้เตียงเสริม โดยมีราคาดังนี้ 928 ดอลลาร์สหรัฐฯสำหรับ 3 ท่าน และ 788 ดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับ 4 ท่าน
Deluxe Ocean View with Balcony
ห้อง Deluxe Ocean View with Balcony มีขนาด 164 ตารางฟุต และระเบียงขนาด 51 ฟุต ภายในห้องประกอบไปด้วย 2 เตียงแฝด ระเบียงส่วนตัว พื้นที่พร้อมโซฟานั่งและห้องน้ำส่วนตัว สามารถรองรับผู้เข้าพัก 3-4 ท่าน ด้วยการเสริมเตียง ในราคา 1,188 ดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับ 2 ท่าน, 9488 ดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับ 3 ท่าน
Superior Ocean View with Balcony
Superior Ocean View with Balcony กับห้องขนาด 199 ตารางฟุต และระเบียงขนาด 65 ตารางฟุต ภายในประกอบไปด้วย 2 เตียงแฝด ระเบียงส่วนตัว พื้นที่นั่งเล่นและห้องน้ำส่วนตัว สามารถรองรับผู้เข้าพัก 3-4 ท่าน ในราคา 1,288 ดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับ 2 ท่าน, 978 ดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับ 3 ท่าน และ 828 ดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับ 4 ท่าน
Junior Ocean View Suite with Balcony
Junior Ocean View Suite with Balcony คือห้องพักขนาด 264 ตารางฟุต และระเบียงขนาด 75 ตารางฟุต ภายในประกอบด้วย 2 เตียงแฝด ระเบียงส่วนตัว ห้องนั่งเล่น และห้องน้ำส่วนตัว สามารถรองรับผู้เข้าพัก 3-4 ท่านในราคา 1,588 ดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับ 2 ท่าน, 1,288 ดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับ 3 ท่าน และ 988 ดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับ 4 ท่าน
Grand Ocean View Suite with Balcony
Grand Ocean View Suite with Balcony คือห้องพักขนาด 349 ตารางฟุต และระเบียงขนาด 100 ตารางฟุต ภายในประกอบด้วย 2 เตียงแฝด ระเบียงส่วนตัว ห้องนั่งเล่น และบริการเจ้าหน้าที่ดูแลแขก โดยพักได้สูงสุดถึง 4 คน ในราคา 1,888 ดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับ 2 ท่าน, 1,488 ดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับ 3 ท่าน และ 1,188 ดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับ 4 ท่าน
Owners Suite with Balcony
Owners Suite with Balcony คือห้องพักขนาด 559 ตารางฟุต และระเบียงขนาด 90 ตารางฟุต กับเตียงขนาดควีนไซส์ ระเบียงส่วนตัว พื้นที่นั่งเล่นแยกเป็นสัดส่วนพร้อมเตียงโซฟาขนาดควีนไซส์ ห้องน้ำส่วนตัวพร้อมอ่างอาบน้ำ ห้องอาบน้ำฝักบัวแยกต่างหากและโถสุขภัณฑ์ รวมถึงบริการเจ้าหน้าที่ดูแลแขก โดยแขกพักได้สูงสุดถึง 4 คน ในราคา 2,588 ดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับ 2 ท่าน, 1,888 ดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับ 3 ท่าน และ 1,488 ดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับ 4 ท่าน
Royal Family Suite with Balcony
Royal Family Suite with Balcony กับ 2 ห้องนอนพร้อมเตียงแฝด และ 2 ห้องน้ำ (ฝักบัว และอ่างอาบน้ำ) มีพื้นที่นั่งเล่นพร้อมเตียงโซฟาคู่ ระเบียงส่วนตัวและบริการเจ้าหน้าที่ดูแลแขก ในห้องขนาด 574 ตารางฟุต และระเบียงขนาด 232 ตารางฟุต โดยสามารถพักได้สูงสุดถึง 8 คน โดยการใช้เตียงเสริม ในราคา 2,888 ดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับ 2 ท่าน, 2,088 ดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับ 3 ท่าน และ 1,888 ดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับ 4 ท่าน
Royal Suite with Balcony
Royal Suite with Balcony คือห้องพักขนาด 1,087 ตารางฟุต และระเบียงขนาด 217 ตารางฟุต ภายในแยกห้องนอน พร้อมด้วยเตียงขนาดคิงไซส์ มีระเบียงส่วนตัวพร้อมอ่างน้ำร้อนอ่างน้ำวน ห้องนั่งเล่นที่มีโซฟาเบดขนาดควีนไซส์ มีแกรนด์เปียโนและเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวก นอกจากนี้ยังมีมินิบาร์ โต๊ะรับประทานอาหารในพื้นที่ที่แยกต่างหาก ทีวีจอแบน สเตอริโอ และ VCR ระบบเสียงรอบทิศทางที่ติดตั้งอยู่ในห้องน้ำส่วนตัว และบริเวณโต๊ะเครื่องแป้ง โดยสามารถพักได้สูงสุดถึง 4 คน ในราคา 5,888 ดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับ 2 ท่าน, 4,888 ดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับ 3 ท่าน และ 3,888 ดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับ 4 ท่าน
สำหรับใครที่สนใจตอนนี้ก็ได้มีการเปิดจำหน่ายตั๋วเป็นที่เรียบร้อยแล้วนะคะ ซึ่งบางห้องก็หมดแล้วด้วย ยังไงใครอยากไปซ่า ไปมันก็คงต้องรีบๆ กันหน่อยล่ะค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก www.itstheship.com