ฟุกุโอกะ เป็นจังหวัดหนึ่งในภูมิภาคคิวชู ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่น เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวที่มีทั้งแลนด์มาร์กเก๋ๆ บ่อน้ำพุร้อน แหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ ย่านช้อปปิ้ง และของอร่อยขึ้นชื่อมากมาย ที่สำคัญคือเดินทางสะดวกสบาย เพราะสามารถบินตรงจากไทยไปลงสนามบินฟุกุโอกะได้เลย จึงเป็นหนึ่งในจุดหมายยอดนิยมของคนไทย สำหรับใครที่กำลังวางแผนจะไป เที่ยวฟุกุโอกะ พี่เห็ด มัชรูมทราเวล แนะนำหนึ่งในช่วงเวลาน่าเที่ยวก็คือ ช่วงใบไม้เปลี่ยนสีประมาณ กลางเดือนพฤศจิกายน – ต้นเดือนธันวาคม ไปชมวิวธรรมชาติกับสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ เตรียมไปปักหมุดกับ 10 จุดชม ใบไม้เปลี่ยนสี ฟุกุโอกะ ถ่ายรูปสวย ตามไปเที่ยวกันได้เลย !
1. สวนไมซุรุ (Maizuru Park)
สวนไมซุรุ ตั้งอยู่ใจกลางเมืองฟุกุโอกะ บริเวณเดียวกับปราสาทฟุกุโอกะที่ถูกสร้างขึ้นสมัยเอโดะ ในอดีตถือเป็นปราสาทที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคคิวชู แต่ปัจจุบันเหลือเพียงซากปรักหักพังบางส่วน จึงกลายเป็นสวนสุดร่มรื่นที่คนนิยมมานั่งเล่น พักผ่อนหย่อนใจ โดยเฉพาะช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่ใบของต้นแปะก๊วยจะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง และใบเมเปิ้ลจะเปลี่ยนเป็นสีแดง เมื่อร่วงหล่นลงมาเต็มพื้นที่บริเวณรอบปราสาทจะดูคล้ายกับพรมสีทอง เป็นช่วงเวลาที่หลายคนรอคอยจะได้มาชมทัศนียภาพอันสวยงาม สามารถเดินเล่น ถ่ายรูปได้ชิลๆ และยังมีลานกว้างให้นั่งปิกนิกอีกด้วย
ช่วงเวลาชมใบไม้เปลี่ยนสี : ต้น – ปลายเดือนพฤศจิกายน
เวลา เปิด-ปิด : เปิด 24 ชม.
การเดินทาง : นั่งรถไฟลงสถานี Akasaka หรือสถานี Ohorikoen จากนั้นเดินต่ออีกประมาณ 8 นาที
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/bv6mPSvisiQFtxkL9
2. ศาลเจ้าคามาโดะ (Kamado Shrine)
ศาลเจ้าคามาโดะ ตั้งอยู่เชิงเขาโฮมัน ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นที่สถิตของเทพเจ้า ชาวบ้านในพื้นที่จึงนิยมมาสักการะขอพร โดยเฉพาะเรื่องความรักและคู่ครอง ช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนต้นไม้ทั่วภูเขาจะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง ส้ม แดง ดูสวยงาม จนทำให้ทางเดินไปยังศาลเจ้ากลายเป็นอุโมงค์ใบไม้แดง อีกทั้งยังมีการประดับไฟให้ความสว่างไสวในยามค่ำคืน มาเที่ยวชมได้ทั้งกลางวันและกลางคืนเลยค่ะ
ช่วงเวลาชมใบไม้เปลี่ยนสี : กลาง – ปลายเดือนพฤศจิกายน
เวลา เปิด-ปิด : 09.00 – 18.00 น.
การเดินทาง : นั่งรถไฟสาย Nishitetsu Dazaifu มาลงที่สถานี Dazaifu จากนั้นนั่งรถบัสสาย Mahoroba ไปลงที่ป้าย Uchiyama
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/9be2LskpwHrkxFeeA
3. ศาลเจ้าโมมิจิ ฮาจิมันกู (Momiji Hachimangu Shrine)
มาต่อกันที่ ศาลเจ้าโมมิจิ ฮาจิมันกู ศาลเจ้าชื่อดังอีกหนึ่งแห่งของฟุกุโอกะ ส่วนใหญ่คนจะนิยมมาขอพรเรื่องการคลอดบุตรให้แคล้วคลาดปลอดภัย ให้เด็กๆ เติบโตมาแข็งแรง และยังเป็นจุดชมวิว ใบไม้เปลี่ยนสี ฟุกุโอกะ ขึ้นชื่อ ภายในเต็มไปด้วยต้นเมเปิ้ลที่มีใบสีแดงสดเต็มต้น ถ่ายรูปออกมาสวยมาก ช่วงวันเสาร์ – อาทิตย์ สุดท้ายของเดือนพฤศจิกายนของทุกปี ทางศาลเจ้าจะจัดงานเทศกาลใบไม้แดง ซึ่งจะมีการประดับโคมไฟกว่า 1,000 ดวง มีการแสดงโชว์ ออกร้าน และกิจกรรมต่างๆ ด้วย
ช่วงเวลาชมใบไม้เปลี่ยนสี : ปลายเดือนพฤศจิกายน – ต้นเดือนธันวาคม
เวลา เปิด-ปิด : 09.00 – 17.00 น.
การเดินทาง : นั่งรถไฟสาย Kuko ลงสถานี Fujisaki ทางออก 4 เดินต่อประมาณ 7 นาที
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/ySVWXT8ZYn1z5vv87
4. วัดนันโซอิน (Nanzoin Temple)
หากใครไม่ชอบคนเยอะ อยากหาสถานที่เงียบๆ พร้อมกับได้ชมวิวธรรมชาติและสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แนะนำให้มาชม ใบไม้เปลี่ยนสี ฟุกุโอกะ ที่ วัดนันโซอิน ในเมืองซาซากุริ เป็นวัดที่ตั้งอยู่บนภูเขา โอบล้อมด้วยธรรมชาติ ภายในเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปปางไสยาสน์ หรือพระนอนที่ใหญ่ที่สุดในโลก ยาว 41 เมตร สูง 11 เมตร และหนัก 300 ตัน หรือขนาดเทียบเท่าเทพีเสรีภาพ มีชื่อเสียงด้านการขอโชคลาภ เงินทอง ช่วงฤดูใบไม้ร่วงพื้นที่ภายในวัดจะถูกปกคลุมไปด้วยใบไม้เปลี่ยนสีดูสวยงาม บรรยากาศร่มรื่นผ่อนคลายสุดๆ
ช่วงเวลาชมใบไม้เปลี่ยนสี : ปลายเดือนพฤศจิกายน – ต้นเดือนธันวาคม
เวลา เปิด-ปิด : 09.00 – 16.00 น.
การเดินทาง : นั่งรถไฟ JR สาย Sasaguri มาลงสถานี Kido Nanzoin-mae จากนั้นเดินต่ออีกประมาณ 5 นาที
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/nWMDYRitAwBJyN4A6
5. พื้นที่ไทบารุ (Taibaru)
เดิมที พื้นที่ไทบารุ แห่งนี้เคยเป็นไร่องุ่น แต่ต่อมามีการปลูกต้นแปะก๊วยกว่า 100 ต้น เมื่อฤดูใบไม้ร่วงมาเยือน บริเวณนี้จึงกลายเป็นสีเหลืองอร่าม พื้นเต็มไปด้วยใบแปะก๊วยที่ร่วงหล่นลงมาเหมือนถูกปูด้วยพรมสีทอง มาแล้วได้รูปสวยๆ กลับไปแน่นอน แต่เนื่องจากพื้นที่ไทบารุเป็นพื้นที่ส่วนบุคคลจึงเปิดให้เข้าชมเพียงปีละครั้ง เฉพาะช่วงใบไม้เปลี่ยนสีเท่านั้น หากมา เที่ยวฟุกุโอกะ ช่วงอื่นจะไม่สามารถเข้าชมได้นะคะ
ช่วงเวลาชมใบไม้เปลี่ยนสี : กลาง – ปลายเดือนพฤศจิกายน
เวลา เปิด-ปิด : 09.00 – 17.00 น.
การเดินทาง : นั่งรถไฟสาย Kagoshima ไปลงสถานี Kurume ออกทางฝั่งตะวันออก นั่งรถบัส Nishitetsu ไปลงป้าย Ikeda และเดินต่ออีกประมาณ 20 นาที
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/4jNiiExBTKS9i8xt8
6. ศาลเจ้าดาไซฟุ เท็มมังกู (Dazaifu Tenmangu)
ศาลเจ้าดาไซฟุ เท็มมังกู เป็นศาลเจ้าชินโตเก่าแก่ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 1,100 ปี ตั้งอยู่ใจกลางเมืองดาไซฟุ นอกจากจะเป็นจุดชมวิวซากุระในช่วงต้นปี ยังเป็นจุดชมวิว ใบไม้เปลี่ยนสี ฟุกุโอกะ ที่สวยงามไม่แพ้ที่ไหน บริเวณรอบๆ มีถนนคนเดินที่เต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร ร้านขายของฝาก ของที่ระลึกมากมาย ของขึ้นชื่อคือ ขนมอุเมะกาเอะโมจิ ขนมโมจิไส้ถั่วแดงย่างหอมๆ รวมทั้งมุมถ่ายรูปสวยๆ และพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงของมีค่าของศาลเจ้า รวมถึงประวัติบุคคลสำคัญให้ได้ชม
ช่วงเวลาชมใบไม้เปลี่ยนสี : กลางเดือนพฤศจิกายน – ต้นเดือนธันวาคม
เวลา เปิด-ปิด : 06.00 – 19.00 น.
การเดินทาง : จากสถานี Dazaifu เดินต่อประมาณ 5 นาที
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/u2zssR5QuSNcGsQB6
7. ศาลเจ้าฮิโกะซันจิงงู (Hikosan Jingu)
หากใครคิดว่ามาชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ ศาลเจ้าฮิโกะซันจิงงู และคิดว่าก็คงจะเหมือนศาลเจ้าอื่นๆ บอกเลยว่าอาจจะพลาดของดี เพราะที่นี่เป็นศาลเจ้าที่ตั้งอยู่บนภูเขาฮิโกะ ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์ ระหว่างทางขึ้นจะมีบริการรถรางสโลปคาร์ สามารถนั่งชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีของต้นแปะก๊วยที่เรียงรางอยู่ตลอดทางได้เพลินๆ แบบไม่ต้องเดินให้เหนื่อย หรือถ้าใครอยากดื่มด่ำกับธรรมชาติที่สวยงาม ก็สามารถเดินขึ้นไปตามบันไดหินได้เช่นกัน
ช่วงเวลาชมใบไม้เปลี่ยนสี : ปลายเดือนตุลาคม – ต้นเดือนพฤศจิกายน
เวลา เปิด-ปิด : 09.00 – 17.00 น.
การเดินทาง : จากสถานี Soeda นั่งรถบัสประมาณ 30 นาที มาลงป้าย Kane no Torii เพื่อขึ้นสโลปคาร์
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/1my9hCJ46R7a1afe7
8. สวนยูเซ็นเท (Yusentei Park)
สวนยูเซ็นเท เป็นสวนขนาดใหญ่ บรรยากาศเงียบสงบ ในอดีตเป็นสวนส่วนตัวของ คุโรดะ สึกูทากะ ขุนนางลำดับที่ 6 แห่งแคว้นฟุกุโอกะ ภายหลังเปิดเป็นสวนสาธารณะเชิงประวัติศาสตร์ ภายในสวนมีดอกไม้บานตลอดทั้งปี ที่นี่มีต้นเมเปิ้ลกว่า 150 ต้น ในฤดูใบไม้ร่วงจะพร้อมใจกันเปลี่ยนเป็นโทนสีส้มแดง จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่แนะนำคือ บริเวณห้องรับรอง ที่ออกแบบตกแต่งเป็นสไตล์โชอินสึคุริแบบดั้งเดิม ให้บรรยากาศญี่ปุ่นแท้ๆ หรือใครจะเดินชมบรรยากาศรอบๆ สระน้ำกลางสวน นั่งจิบชาเขียว กินขนมในคาเฟ่ศาลาไม้ พร้อมชมวิวก็ได้เช่นกัน
ช่วงเวลาชมใบไม้เปลี่ยนสี : กลางเดือนพฤศจิกายน – ต้นเดือนธันวาคม
เวลา เปิด-ปิด : 09.00 – 17.00 น. (ปิดวันจันทร์)
การเดินทาง : นั่งรถไฟลงสถานี Chayama จากนั้นต่อรถบัส Nishitetsu (No. 12) ลงที่ Yusen-tei และเดินต่อประมาณ 5 นาที
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/2ATFaCwWmBwHyMwY6
9. สวนพฤกษศาสตร์ชิราโนเอะ (Shiranoe Botanical Garden)
สวนพฤกษศาสตร์ชิราโนเอะ มีต้นเมเปิ้ลกว่า 800 ต้น เวลามาเที่ยวช่วงฤดูใบไม้ร่วงจึงเหมือนเดินอยู่ในป่าสีแดง สวยราวกับอยู่ในเทพนิยาย นอกจากนี้ยังมีดอกไม้อื่นๆ อีกมากมาย เช่น ดอกคาเมลเลีย ที่บานในเดือนพฤศจิกายนพอดี และเนื่องจากสวนแห่งนี้อยู่บนภูเขา จึงมองเห็นวิวโดยรอบได้จากมุมสูง หลังเดินชมสวนจนจุใจแล้ว ก็สามารถมานั่งพักผ่อน ลิ้มรสขนมญี่ปุ่นแสนอร่อยที่ร้านน้ำชาภายในสวนได้ด้วย
ช่วงเวลาชมใบไม้เปลี่ยนสี : ปลายเดือนพฤศจิกายน – ต้นเดือนธันวาคม
เวลา เปิด-ปิด : 09.00 – 17.00 น. (ปิดวันอังคาร)
การเดินทาง : นั่งรถไฟสาย Kagoshima มาลงสถานี Mojiko ต่อด้วยรถบัส Nishitetsu มาลงที่ Shiranoe Nichome และเดินต่อประมาณ 2 นาที
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/gDTHYKNckX9E1RGn7
10. วัดไรซันเซ็นเนียวจิ (Raizansennyoji Taihioin)
ปิดท้ายด้วย วัดไรซันเซ็นเนียวจิ เป็นวัดเก่าแก่ที่มีอายุนับพันปี ตั้งอยู่ทางขึ้นเขาในเมืองอิโตะชิมะ ธรรมชาติร่มรื่นมาก ภายในมีต้นเมเปิ้ล และต้นไม้อื่นๆ อีกกว่า 200 ต้น ทำให้ที่นี่กลายเป็นจุดชมวิว ใบไม้เปลี่ยนสี ฟุกุโอกะ ยอดนิยม ไฮไลต์เด็ดคือ ต้นเมเปิ้ลขนาดใหญ่ยักษ์ อายุราว 400 ปี แผ่กิ่งก้านสวยงาม ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นอนุสาวรีย์ทางธรรมชาติโดยจังหวัดฟุกุโอกะ ทั้งยังมีพระพุทธรูปซึ่งเป็นสมบัติชาติประดิษฐานอยู่ด้วย สามารถไปสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคลได้
ช่วงเวลาชมใบไม้เปลี่ยนสี : กลาง – ปลายเดือนพฤศจิกายน
เวลา เปิด-ปิด : 09.00 – 16.30 น.
การเดินทาง : นั่งรถไฟสาย Chikuhi ลงสถานี Chikuzen-Maebaru จากนั้นต่อรถบัส Itoshima City Community มาลงป้าย Raizan Kannon Mae และเดินต่อประมาณ 5 นาที
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/dkrAZoEoahUEX65TA
แม้จะเป็นฤดูใบไม้ร่วง แต่ช่วงปลายปีแบบนี้อากาศค่อนข้างเย็น เฉลี่ยประมาณ 10-23 องศา เพราะฉะนั้นใครจะมา เที่ยวฟุกุโอกะ ในช่วงนี้ ก็เตรียมเสื้อผ้าอุ่นๆ มาด้วยนะคะ ที่สำคัญไม่ว่าจะจองตั๋วมาเอง หรือจองทัวร์ไปกับพี่เห็ด ก็แนะนำให้รีบจองแต่เนิ่น ๆ เพราะความสวยงามแบบนี้มีเพียงปีละครั้ง พลาดแล้วต้องรอปีหน้าเลยนะ