@MushroomTravel
ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่สามารถไปเที่ยวได้ทุกฤดูกาล เพราะแต่ละช่วงก็จะได้ชมความสวยงามของธรรมชาติในบรรยากาศที่แตกต่างกันไป โดยเฉพาะ ฤดูใบไม้ร่วง ที่ใบไม้จะเปลี่ยนสี มองไปทางไหนก็มีสีสันที่สดใส น่าถ่ายรูปสุดๆ สำหรับใบไม้เปลี่ยนสีที่ญี่ปุ่น จะเริ่มเปลี่ยนสีจากพื้นที่ด้านบนของประเทศไล่ลงสู่ด้านล่าง โดยที่ ฮอกไกโด จะเป็นพื้นที่แรกในญี่ปุ่นที่สามารถชมใบไม้เปลี่ยนสีได้ก่อนใคร ตั้งแต่ประมาณ ปลายเดือนกันยายนถึงต้นเดือนพฤศจิกายน ในเดือนตุลาคมจะสวยที่สุด ซึ่งวันนี้ พี่เห็ด มัชรูมทราเวล ขออาสาพาทุกคนไป ทัวร์ญี่ปุ่น เยือน 8 จุดชม ใบไม้เปลี่ยนสี ฮอกไกโด ที่สวยฟินสุดๆ !! ใครชอบถ่ายรูปต้องไม่พลาด ตามไป check-in กันค่ะ
1. อุทยานแห่งชาติไดเซสึซัง (Daisetsuzan National Park)
ไดเซสึซัง เป็นอุทยานแห่งชาติที่ใหญ่ที่สุดในเกาะฮอกไกโด ถ้าคุณเป็นคนที่รักการผจญภัย ชอบการเดินชมนกชมไม้ศึกษาธรรมชาติ ที่นี่คือจุดเริ่มต้นที่ดีในการชม ใบไม้เปลี่ยนสี ฮอกไกโด เลยค่ะ พื้นที่ขนาดใหญ่ในอุทยานแห่งชาติแห่งนี้ประกอบไปด้วย เทือกเขา เส้นทางเดินป่า น้ำพุร้อน และสัตว์ป่านานาชนิด ซึ่งอุทยานแห่งชาติไดเซสึซัง เป็นที่รู้จักกันดีสำหรับชาวญี่ปุ่นและนักถ่ายภาพ ว่าเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยใบไม้เปลี่ยนสีอันน่าตื่นตาตื่นใจ ชมได้เป็นที่แรกของญี่ปุ่นในทุกๆ ปี
สำหรับช่วงเวลาใบไม้เปลี่ยนสีของอุทยานแห่งชาติไดเซสึซัง จะเริ่มต้นประมาณกลางเดือนกันยายน โดยใบไม้จะเปลี่ยนเป็นสีสันสดใสทั้งสีเหลือง สีส้ม และสีแดง ก่อนที่จะค่อยๆ ร่วงโรยไปเมื่อฤดูหนาวมาเยือน นี่คือจุดหมายปลายทางของการชมใบไม้เปลี่ยนสี อันงดงามที่คุณไม่ควรพลาด!
การเดินทาง : นั่งรถไฟ JR ไปลงสถานี Asahikawa แล้วต่อรถบัสไปยังสถานี Ropeway
แผนที่ : https://goo.gl/maps/PXQtTCibEregBYmP9
2. โซอุนเคียว (Sounkyo)
สถานที่ต่อมาสำหรับการชม ใบไม้เปลี่ยนสี ฮอกไกโด คือ โซอุนเคียว หุบเขาที่เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติไดเซสึซัง ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาของ ภูเขาคุโรดาเกะ (Kurodake) มีใบไม้เปลี่ยนสีและน้ำตกที่งดงาม นับว่าเป็นสวรรค์แห่งธรรมชาติที่แท้จริงเลยล่ะค่ะ โดยเราสามารถชมความงามของใบไม้เปลี่ยนสีบริเวณนี้แบบมุมสูง ผ่านการนั่งกระเช้าลอยฟ้า หรือ Ropeway ซึ่งขอบอกว่าเป็นภาพที่งดงามน่าทึ่งมากๆ หรือถ้าใครกลัวความสูงก็สามารถเดินไปบริเวณ โซอุนเคียว ได้อย่างง่ายดายตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติได้เลยค่ะ
การเดินทาง : นั่งรถไฟ JR ไปลงสถานี Asahikawa แล้วต่อรถบัสไปยังสถานี Ropeway
แผนที่ : https://goo.gl/maps/vyGczn2CB9Vu9RAB7
3. ทะเลสาบทั้งห้าของชิเรโทโกะ (Shiretoko Five Lakes)
ทะเลสาบ Shiretoko Five Lakes หรือที่เรียกว่า Shiretoko Goko Lakes นั้น ถูกล้อมรอบไปด้วยป่าพื้นเมืองที่ตั้งอยู่ใน อุทยานแห่งชาติชิเรโทโกะ (Shiretoko National Park) ด้วยภูมิทัศน์อันงดงามในช่วงใบไม้เปลี่ยนสีที่จะเห็นภาพผืนป่าสะท้อนอยู่ในทะเลสาบ ล้อมรอบด้วยบรรยากาศเงียบสงบ สามารถเพลิดเพลินไปกับการชม ใบไม้เปลี่ยนสี ฮอกไกโด ได้ที่ทะเลสาบแห่งนี้ โดยเดินเลียบไปตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติ และทางเดินไม้ที่ยาวกว่า 800 เมตร นอกจากธรรมชาติสวยๆ แล้ว ก็อาจจะได้พบเข้ากับสัตว์ป่าและนกชนิดต่างๆ อีกด้วย แต่ถ้าช่วงไหนมีหมีสีน้ำตาลออกมาหากิน เจ้าหน้าที่ก็จะปิดทางเดินบางส่วนเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายค่ะ
การเดินทาง : นั่งรถไฟ JR ไปลงสถานี Shiretoko Shari Station แล้วต่อรถ Shari Bus ไปยัง Shiretoko Five Lakes
แผนที่ : https://goo.gl/maps/V9ixwFc4VSpMbec47
4. มหาวิทยาลัยฮอกไกโด (Hokkaido University, Sapporo)
เปลี่ยนบรรยากาศมาชม ใบไม้เปลี่ยนสี ฮอกไกโด กันในเมืองซัปโปโรบ้างค่ะ ที่ มหาวิทยาลัยฮอกไกโด เป็นจุดยอดนิยมที่เหล่าวัยรุ่นและวัยทำงานนิยมมาชมใบไม้เปลี่ยนสี บริเวณถนนจากประตู Kita-jusanjo ไปจนถึง Ono Pond ภายในมหาวิทยาลัย เต็มไปด้วยต้นแปะก๊วยประมาณ 70-80 ต้น ที่จะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทองตลอดทั้งเส้น แนะนำว่าให้มาเดินเล่นชมใบไม้เปลี่ยนสีที่นี่ประมาณกลางเดือนตุลาคม ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มีสีสันที่สุดของปี ใครมา ทัวร์ญี่ปุ่น ใบไม้เปลี่ยนสี ที่ฮอกไกโดแบบมีฟรีเดย์ อย่าลืมมาเดินเล่นที่นี่กันนะคะ
การเดินทาง : จากสถานีรถไฟ Sapporo เดินไปทางเหนือประมาณ 7 นาที
แผนที่ : https://goo.gl/maps/LRwHG5BVxgWNHutV7
5. สวนนากาจิม่า (Nakajima Park)
มาชม ใบไม้เปลี่ยนสี ฮอกไกโด กับบรรยากาศสวนสาธารณะในเมืองที่ สวนนากาจิม่า สวนสาธารณะที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองซัปโปโร เต็มไปด้วยต้นเอล์มญี่ปุ่น ต้นแปะก๊วย และต้นเมเปิ้ล กว่า 5,000 ต้น พอในช่วงฤดูใบไม้ร่วงก็จะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทอง สีส้ม และสีแดง ภายในสวนสาธารณะมีทะเลสาบที่เราสามารถเดินสูดอากาศบริสุทธิ์รอบๆ ได้ด้วยค่ะ ถ้าไม่ได้ออกนอกเมืองไปเที่ยวตามอุทยานฯ ก็สามารถมาชมใบไม้เปลี่ยนสีในซัปโปโรที่นี่ได้นะคะ
การเดินทาง : จากสถานีรถไฟ Nakajima Koen มีทางเข้าไปยังสวนสาธารณะเลย
แผนที่ : https://goo.gl/maps/9pgJzRqRofJvi1L4A
6. โจซังเค ออนเซ็น (Jozankei Onsen)
โจซังเค ออนเซ็น รีสอร์ทยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวจะมาแช่ออนเซ็น พักผ่อนกับบรรยากาศธรรมชาติสวยๆ ตั้งอยู่ไม่ไกลจากเมืองซัปโปโร และจะเปิดบริการเฉพาะฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวเท่านั้น สำหรับในช่วงฤดูใบไม้ร่วง รีสอร์ทแห่งนี้จะล้อมรอบไปด้วยใบไม้เปลี่ยนสี จัดว่าเป็นหนึ่งในสถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยที่สุดในโลก นอกจากการชมวิวภายในรีสอร์ทแล้ว บริเวณรอบๆ ยังมีสถานที่อีกหลายแห่งให้เราไปเดินเล่นซึมซับบรรยากาศ อย่างเช่น สะพานนิชิกิบาชิ (Nishikibashi), แม่น้ำโทโยะฮิระ (Toyohira), เขื่อนโฮเฮเคียว (Hoheikyo) และอีกมากมาย
การเดินทาง : นั่งรถ Kyoto Kappa Liner Bus จากในตัวเมืองซัปโปโร
แผนที่ : https://goo.gl/maps/X32yU5JFEWKAMeaQ6
7. โนโบริเบทสึ ออนเซ็น (Noboribetsu Onsen)
Noboribetsu Onsen เป็นรีสอร์ทที่มีบ่อน้ำพุร้อนเช่นเดียวกันกับที่ Jozankei Onsen โดยเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติ Shikotsu-Toya มีชื่อเสียงที่สุดในภูมิภาคฮอกไกโด มีบ่อน้ำร้อนมากถึง 11 จุด เมื่อถึงช่วงฤดูใบไม้ร่วง ต้นไม้บริเวณรอบๆ จะเปลี่ยนสีเป็นสีเหลืองแดง ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มา ทัวร์ญี่ปุ่น เพื่อชม ใบไม้เปลี่ยนสี ฮอกไกโด ที่สมบูรณ์แบบ สำหรับนักเดินทางและคนรักธรรมชาติ
นอกจากนี้ ในเมืองโนโบริเบ็ทสึยังมีที่เที่ยวยอดฮิต จิโกกุดานิ (Jigokudani) หรือ หุบเขานรก เป็นบ่อโคลนเดือดธรรมชาติ ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่ถ่ายทำภาพยนต์เรื่อง “แฟนเดย์…แฟนกันแค่วันเดียว” เมื่อถึงฤดูใบไม้ร่วง ใบไม้เปลี่ยนสีของที่นี่ก็สวยงามไม่แพ้กันค่ะ
การเดินทาง : นั่งรถไฟ JR ไปลงสถานี Noboribetsu
แผนที่ : https://goo.gl/maps/7so2Qqy3GnjYjDsV8
8. สวนโอนุมะ (Onuma Park)
สวนโอนุมะ เป็นจุดตั้งแคมป์ฤดูร้อนที่มีชื่อเสียงในฮอกไกโด ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเมืองฮาโกดาเตะ (Hakodate) ซึ่งในช่วงใบไม้เปลี่ยนสีก็มีความสวยงามไม่แพ้ที่ไหน โดยถ้าใครอยากมาชมใบไม้เปลี่ยนสีในเมืองฮาโกดาเตะ ก็แนะนำที่สวนโอนุมะแห่งนี้เลยค่ะ มาชมได้ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนตุลาคมเป็นต้นไป
วิธีการเดินทาง : นั่งรถไฟ JR ไปลงสถานี Onuma Koen
แผนที่ : https://goo.gl/maps/9RmvURuDeGrP7G2bA
ใบไม้เปลี่ยนสีแต่ละที่บอกเลยว่าสวยมากกกกก บางคนอาจจะได้ยินมาว่า ถ้าอยากชมใบไม้เปลี่ยนสีในญี่ปุ่นต้องไปชมทางแถบคันไซ พวกเมืองเกียวโต หรือโอซาก้าใช่มั้ยคะ แต่พี่เห็ดขอบอกว่าที่ฮอกไกโดก็สวยไม่แพ้กัน แถมยังได้ชมก่อนใครอีกด้วย เอาเป็นว่าถ้าใครอยากไปชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ญี่ปุ่น ก็วางแผนเลือกช่วงเวลาเดินทาง และเลือกชมโปรแกรม ทัวร์ญี่ปุ่น ใบไม้เปลี่ยนสี กับพี่เห็ด Mushroom Travel ได้เลยค่ะ วางแผนเที่ยวล่วงหน้า จะได้ไม่พลาดโอกาสสำคัญนะคะ