Mushroom Travel LINE
เราช่วยคุณได้
@mushroomtour
จันทร์ - เสาร์
9:00-22:00
อาทิตย์
9:00-18:00
Call Mushroom Travel
Call Center
02 105 6234
จอง 6 คนขึ้นไป
จอง 6 คนขึ้นไป
02 105 6244
Loading...

KANSAI The Series – Autumn in KYOTO – เกียวโตสีแดง ! ตอนที่ 2

โพสเมื่อ

มาติดตามกันต่อกับรีวิวเที่ยว เกียวโต ใบไม้เปลี่ยนสี จาก Guest สุดพิเศษของมัชรูมทราเวล ใครยังไม่ได้ชมตอนแรก ตามไปฟินกันได้ใน ตอนที่ 1 เลยค่ะ


KANSAI The Series – Autumn in KYOTO – เกียวโตสีแดง ! ตอนที่ 2

จากวัด Eikando เดินไปอีกไม่ไกลเท่าไหร่ ก็จะเข้าสู่เขตวัด Nanzenji ครับ วัดใหญ่ ที่มีวัดบริวารรอบๆ หลายสิบวัด และมีอีก 1 เอกลักษณ์เด่น คือ Suirokaku หรือรางก่ออิฐ ส่งน้ำจากทะเลสาบ Biwa ไปยังเกียวโต

ข้างบนจะเป็นแบบนี้

ด้านบน Suirokaku จะมีทางเดินเข้าวัดเล็กๆ บริวารของวัด Nanzenji ชื่อวัด Nanzenin ครับ ข้างในมีสวนและบ่อน้ำญี่ปุ่น สวยมากๆ เงียบมากๆ ด้วย ไม่มีคนเลย สงบ สมกับเป็นวัดเซนเลย

ใครที่เบื่อกับบรรดาทัวร์จีนและนักท่องเที่ยวจากทั่วสารทิศที่แห่แหนกันมาถ่ายรูปหน้าประตูใหญ่วัด Nanzenji ข้างล่าง แนะนำให้ขึ้นมาอีกนิด บนวัด Nanzenin ครับ เงียบ เย็นใจ สบายตา มากๆ

ดื่มด่ำบรรยากาศความสงบ ทั้งกาย และใจ กันแบบเต็มอิ่มเลย กับวัด Nanzenin

อ้อ…. จริงๆ ถ้าใครอยากมา Nanzenji หรือ Eikando แบบไม่ไปวัดเงินก่อนนะครับ สามารถมาง่ายๆ ทางรถไฟใต้ดิน ขึ้นที่สถานี Keage Station แล้วเดินต่อมาอีกนิดเดียวได้เลย มาง่ายมากๆ สะดวกสุดๆ

แต่ถ้ามาจากทางวัดเงิน ช่วง เกียวโต ใบไม้เปลี่ยนสี แนะนำให้เดินตาม Philosophy’s Path ดีกว่าครับ อากาศเย็นสบายๆ ใบไม้สีสวย บรรยากาศดีมากๆ อย่าพลาดแบบซันนี่เด็ดขาดเชียว

จากวัด Nanzenin ตอนแรกว่าจะพอแล้ว เพราะเดินทั้งวัน ปวดเท้ามาก 5555 แต่เพื่อนญี่ปุ่นที่พาไป บอกจะพาไปที่เด็ดอีกที่ เดินไปอีกไม่ไกลเอง ไปเถอะ ขอร้อง ตอนนั้นคือ ไม่ได้อยากไปต่อเลยนะ แต่เกรงใจเค้า 555 อุตส่าห์พามาเที่ยว จำเป็นนนนนนน เออ ไปก็ไป 555

แล้วคือ มันไม่ได้นิดเดียวไง เดินจาก Nanzenji มาไกลมากกกกกกก จนจะถึง ม.เกียวโต แล้ว ละเดินขึ้นเขาต่อด้วย เกือบกลิ้งตกกลุ้กๆ ไปตามถนนละ 555 แต่พอขึ้นมาข้างบนคือ เห้ยยยยยยยยยยยยยย ถ้าไม่มา เสียใจเลย จริงๆ

นี่คือ วัด Shinyodo บนเนินเขา Shinyodo  ครับ ใบไม้แดงพีคคคคคคคคคคคคคคคค อีกแล้วววววววววววววววววววว

เอาจริงๆ การเดินทางมาวัด Shinyodo นั้น มันแสนง่าย สะดวกสบายมากๆ (ถ้าไม่ได้เดินจาก Nanzenji มาแบบซันนี่นะ ขาจะลากกกกกกกกกกกก T T)

เพียงแค่ตั้งต้นจาก สถานี JR Kyoto ขึ้นรถบัสสาย 5 มาลงที่ป้าย Shinnyodo-mae แล้วเดินขึ้นเขาแป้บๆ 5 นาที ก็ถึงแล้ว ให้ตายสิ !!!! แต่ด้วยความที่ซันนี่ เดินตั้งแต่ Demachiyanagi มาวัดเงิน ไป Eikando ไป Nanzenji แล้ววกลงมาที่ Shinyodo นี่มันจะวนครบวงกลมแล้ว โอ้ … ให้ตายเถอะ เท้าจะระเบิดให้ได้ 5555

แต่ก็อย่างที่บอกไป ใบไม้แดงบนวัด Shinyodo นั้น ควรค่าแก่การมาชื่นชมเป็นอย่างยิ่ง เพราะแดงพีค สวย ได้ใจ
ละที่สำคัญคือ คนไม่เยอะเลย ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยว local คนญี่ปุ่นด้วย พอได้นั่งพักเท้าซักพัก ก็ได้เวลาดื่มด่ำความงามแบบจริงๆจังๆ เห้อ………. สวยอีกแล้วววววววววววววววว

จากวันที่เที่ยวโซนวัดเงิน และ Shinyodo จนเท้าจะระเบิด กลับไปสลบไสลไปเลยตั้งแต่หัววันครับ 5555

เช้าวันถัดมา ได้เวลา ไปตะลุย Arashiyama แหล่งชมใบไม้แดงอันดับต้นของเกียวโตเลยครับ แพลนตอนแรกคือ เห้ยยย ตื่นแต่เช้าาาาาา นั่งรถไฟ ไปถึง Arashiyama ก่อน 7 โมง

หึหึ

ตื่นสาย _ _”

ฟาดไปเกือบเก้าโมงครับ กว่าจะถึง Arashiyama แล้วคือ …. คนล้นเมืองมากกกกกกกกกกกกกกกก เห้ย อะไรมัน World’s Destination ขนาดนี้ ต้องใช้คำว่าล้นเมืองจริงๆครับ สับสนวุ่นวายไปหมด หมดอารมณ์เที่ยวจริงๆ

จาก JR Kyoto ไปถึงสถานี Sagaarashiyama รีบวิ่งหน้าตั้งไปเช่าจักรยาน หลังสถานี JR เลยครับ ชาวต่างชาติ เค้าจะให้เช่าแบบธรรมดานะครับ แบบไฟฟ้า ไม่ให้เช่า คงกลัวอธิบายไม่รู้เรื่องแล้วเราทำเสีย สนนราคา จำไม่ได้แน่นอน แต่ว่าไม่แพงครับ จริงๆ ราคาเช่าจักรยานในญี่ปุ่นไม่ค่อยหนีกันมากครับ

ได้จักรยานแล้ว ก็รีบปั่นมาที่นี่ก่อนเลยครับ สัญลักษณ์ของ Arashiyama ที่ถ้ามาแล้ว ไม่มาที่นี่ อย่าได้เรียกว่า มาถึง Arashiyama เป็นอันขาดครับ อายเค้า สะพาน Togetsukyo หรือชื่อแปลไทยสุดจะโรแมนติกว่า สะพานข้ามจันทร์ครับ

แต่ด้วยความที่มาสาย คนก็เลยเยอะมากกกกกกกกกกกก เยอะชนิดที่ว่า ล้นทางเดินเท้าบนสะพาน ลงมาเดินกันบนถนนใหญ่อ่ะ มันจะมากเกินไปแล้วววววววววววววววววววววววว

ซันนี่ก็เลยหลีกเลี่ยงโดยการปั่นหนีคน มาที่เกาะหินกลางน้ำ เพราะตอนแรกเห็นคนญี่ปุ่นลงไปถ่ายรูปกัน เห้ย มันเจ๋งอ่ะ เราก็ลงไปมั่ง แต่ทุลักทุเลพอสมควร เพราะทางลงชันมาก 555 ลงไป ก็ได้วิวไกลๆ ของ Togetsukyo ที่มีฉากหลังเป็นภูเขา Arashi สวยงาม ตามท้องเรื่อง

แม่น้ำ Hozu / Oi ของ Arashiyama ค่อนข้างกว้างพอตัวเลยทีเดียว

และถึงแม้ว่าคนจะเยอะ ฝั่งที่ไม่ใช่บนสะพาน ก็ยังพอจะมีช็อตโรแมนติกๆ ที่พอจะสมกับชื่อ สะพานข้ามจันทร์อยู่บ้างครับ คุณลุง คุณป้า มานั่งดื่มด่ำบรรยากาศกัน เห็นแล้ว ก็อดยิ้มตามไม่ได้

จากสะพานข้ามจันทร์ ที่เหลือมุมให้โรแมนติกน้อยมากๆ ในวันนี้ เราเปลี่ยนเป้าหมาย มุ่งหน้าปั่นข้ามสะพานไป แล้วเลี้ยวขวา ไปตามแม่น้ำ Hozu ครับ

นาทีนี้ ระยะทางที่ไกลขึ้น ช่วย screen คน จำนวนมาก ให้ลดลงได้ดีทีเดียว 555 และแน่นอน การที่เรามีจักรยาน ก็จะช่วยประหยัดเวลาได้มากๆ แนะนำจริงๆครับ เช่าจักรยานเถอะ ถ้ามีเวลาแค่วันเดียว อย่าเดินเลย Arashiyama เนี่ย 555

ตลอดเส้นทางเลียบแม่น้ำ Hozu เราจะได้เห็นใบไม้สีสวยๆ ไปเรื่อยๆเลยครับ คลอคู่ไปกับเรือล่องม่น้ำ (ที่บรรจุนักท่องเที่ยวจำนวนมหาศาล) เราปั่นจักรยานรับลมเย็น สบายๆ โอ๊ยยยยย ชีวิตดีอ่ะ 5555

ยิ่งปั่นเข้าไปข้างในเรื่อยๆ คนก็จะยิ่งบางตาลงครับ และแน่นอน ความสวยงาม ก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่เชื่อ ลองดูจากรูปได้เลย ในรูปว่าสวยแล้ว ของจริง พีคได้กว่านี้อี๊กกกกกกกกกก

ถ้ามีโอกาส ได้มาในช่วงใบไม้แดง กับวันที่คนน้อยๆ (จะมีมั้ย โอกาสแบบนั้น ) ได้ล่องเรือชมใบไม้สีสวย ในแม่น้ำสีชาเขียว คงจะเป็นอะไรที่โรแมนติกน่าดูเลยครับ (แต่เอ๊ะ …. ต้องหาคู่ไปนั่งเรือให้ได้ก่อนสิ)

พอเราปั่นจักรยานเลียบน้ำไปเรื่อยๆ ก็จะสุดท้ายสำหรับปั่นจักรยานครับ เป็นทางเดินขึ้นเขา ตอนแรกก็ไม่รู้ ว่าจะไปโผล่ที่ไหน แต่ก็แบบ เห้ยยยย มาแล้ว ต้องไปให้สุดดิ ว่าแล้ว ก็ได้เวลาขึ้นดอย Arashiyama กันครับ

ระหว่างทาง ก็มีอะไรสวยๆ งามๆ ให้ได้แวะเก็บตลอดๆ

พอไต่ขึ้นมาถึงข้างบน โอ้ … นี่คือวัดเซน ชื่อว่า Daihikaku Senkoji ครับ ข้างบนนี้ เห็นวิวแม่น้ำ Hozu และเทือกเขา ยาวไปจนถึงเกียวโตนู่นเลย วิวสวยมากๆ อากาศก็ดีด้วยครับ

ข้างบนวัด มีพระจำวัดอยู่ 1 รูป และมีน้องหมาน่ารักมาก อีก 2 ตัว อิอิ แต่เห็นน่ารักแบบนี้ เห่าสะบั้นหั่นแหลกเลยนะ 55555

ดูๆๆๆ ดูการชายตาของนาง 5555

จากวัด Daihikaku Senkoji ขนยอดดอย สูดอากาศสดชื่นไปเต็มปอดแล้ว ลงมาปั่นๆ ต่อ ไปอีกฝั่งของแม่น้ำบ้างครับ

ฝั่งนี้ เส้นทางปั่นๆ จะสั้นหน่อย แต่ก็มีจุดสวยๆ ของใบเมเปิ้ลย้อยๆ ลงมา เหมาะแก่การเอามาเป็นฉากหน้าให้เรือแล่นผ่านจริงๆ

และ Arashiyama ก็ไม่ได้มีดีแค่แม่น้ำสีชาเขียวไหลผ่านหุบเขาเพียงเท่านั้น ที่นี่ยังมีวัด Tenryuji วัดที่มีสวนญี่ปุ่นกลางแจ้ง ที่ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกแล้ว !!! เอาสิๆๆๆๆ เมืองๆเดียว อย่างเกียวโต มันจะมีมรดกโลกอะไรเยอะขนาดนี้ 5555

เข้ามาในวัด ก็จะเจอศาลเจ้าก่อน เพราะศาลเจ้ากับวัด เป็นของคู่กัน ในญี่ปุ่น
โทริ กับใบไม้แดง แดงได้ใจป่ะล่ะ 5555

มีรูปหล่อพระโพธิสัตว์ด้วย แต่เดี๋ยวๆๆๆ แจกัน ลายไม้กางเขน เก๋ป้ะล่ะ 55555

ข้างในวัด แน่นอน ไฮไลท์อยู่ที่สวนญี่ปุ่นเนี่ยแหละครับ ด้วยความที่เป็นสวนกลางแจ้ง อายุกว่า 700 ปี และเป็นสวน Original ตั้งแต่แรกเริ่มสร้างวัดเลย (ตัวอาคารวัดเคยถูกไฟไหม้เสียหาย ต้องบูรณะใหม่ แต่สวนไม่เสียหาย ยังคงเป็นของเดิมแต่แรก OMG !!!!) จึงควรค่าแก่การได้รับยกย่องให้เป็นมรดกโลกไปอย่างสมศักดิ์ศรี ดีงาม จริงๆเชียว

ไม่ใช่เพียงแค่เพราะรอดจากไฟไหม้เท่านั้น ถึงได้รับการยกย่อง แต่ด้วยความลงตัวของการออกแบบสวน ที่สอดรับกัน ระหว่างผลงานของมนุษย์ กับฉากหลังจากธรรมชาติ ของภูเขา Arashi ที่สอดคล้องกันไปอย่างกลมกลืน ไม่ขัดแย้งกัน สวนกลางแจ้งแห่งวัด Tenryuji จึงทรงคุณค่าสุดๆ คู่ควรแก่การเป็นมรดกโลกจริงๆ ให้ตายเถอะ 555

พื้นที่เกือบครึ่งของวัด คือสวนสวยๆ เนี่ยแหละครับ เข้ามาแล้วก็อดชื่นใจแทนคนที่นี่ไม่ไ่ด้ ที่เค้าสามารถเก็บรักษา และดูแลสิ่งดีได้อย่างรู้คุณค่า

จากวัด Tenryuji สามารถเดินทะลุ ไปออกยังประดูด้านหลังวัด เพื่อเข้าสู่อีกเขตพื้นที่ชื่อดัง เรียกว่าเป็นอีกสัญลักษณ์ของ Arashiyama เลยก็ได้ครับ นั่นก็คือ ป่าไผ่ Sagano นั่นเอง

เป็นเส้นทางเดิน ที่มีต้นไผ่เรียงรายไปตลอดสองข้าง เป็นระยะทางหลายกิโลเมตร ใครมา Arashiyama ก็ต้องมาที่นี่แหละ ไม่มา ก็อายเค้าอีกเหมือนกัน 555 แต่ด้วยความที่ “ต้อง” มา เนี่ยแหละ พ่อเจ้าประคุณ ก็แห่กันมาจนล้นป่าจริงๆ เอาเป็นว่า วันนั้น ออกมาเดินป่าไผ่แล้ว หงุดหงิดจริงๆ 5555 มันเยอะไปหมด คนเดินเบียดกันยังกะงานกาชาด แถมพูดคุยกันเสียงดังด้วย ทั้งญี่ปุ่น จีน เกาหลี และพี่ไทย

โดยเฉพาะพี่ไทยเราเนี่ย อาจจะด้วยเราฟังภาษาบ้านเรารู้เรื่องโนะ แบบ เฮฮากันมากกกกกกกกกกก นินทา เม้ามอยกันสนั่นป่า ชนิดที่ว่า ใครเป็นชู้กับใคร ใครโกงมรดกใคร นี่รู้เรื่องเค้าหมด 5555 คือ มีคำพูดที่ว่า เสียงลมพัดผ่านต้นไผ่ ในป่าไผ่ Sagano เป็นเสียงที่คนญี่ปุ่นเค้าบอกว่าไพเราะที่สุดอ่ะ แต่วันนั้นคือ เสียงลมพัดต้นไผ่ ต้องยอมแพ้ให้เสียงลมปากผู้คนจริงๆ ให้ตายเถอะ นี่กว่าจะหาช็อตที่คนเบาบางได้ แทบจะยืนกรี๊ดใส่อยู่ตรงนั้น 5555 ฝังใจ จนต้องกลับไปแก้ตัวใหม่ ตอนหน้าร้อนเลย จริงๆ 5555

จากป่าไผ่ ที่จ๊อกแจ๊ก จอแจ จนต้องหงุดหงิด ก็เลยออกมาหาอะไรกินดีกว่า 555

อ้อ… ลืมบอกไป สำหรับใครที่เช่าจักรยาน แล้วปั่นมาจอดไว้ จากทางหน้าวัด Tenryuji ถ้าหลุดมาออกทางประตูหลังวัด เข้ามาป่าไผ่แล้ว เดินกลับเข้าไปข้างในวัด เพื่อไปเอารถจักรยานไม่ได้แล้วนะครับ เค้าจะคิดตังค์เหมือนเราเข้าวัดเป็นรอบ 2 เลย งั้นมี 2 วิธี คือ
1. ปั่นมาจอดที่ประตูหลังวัดในป่าไผ่ แล้วเดินในวัดเป็นวงกลม ออกมาแล้วเที่ยวป่าไผ่ต่อเลย
2. เดินอ้อมไปเอารถ ที่ประตูหน้าวัด ซึ่งก็แอบไกลอยู่เบาๆ แต่คนอื่นเค้าก็เดินกัน 555
ซึ่งซันนี่ ใช้วิธีที่ 2 ครับ ถือโอกาสเดินไปหาอะไรกินที่หน้าวัดด้วย เห็นร้านอาหารเยอะดี 555 ระหว่างทาง ในป่าไผ่ ก็มีสุสาน แต่สวยชะมัดเลย 555

มีคนใส่ชุดกิโมโนมาเดินกันเยอะมากๆ แต่เมื่อยเท้าแทน บอกเลย 5555

เดินออกมาจากป่าไผ่ มาจนถึงหน้าวัด Tenryuji เจอร้านเต้าหู้หน้าวัดครับ อยู่ตรงข้ามประตูหน้าวัดเลย ตอนมาแรกๆ คนต่อคิวยาวมาก ขากลับมา ไม่มีคิวแล้ว ไม่ต้องคิดละครับ จัดเลย 5555 เป็นเซ็ตเต้าหู้ครับ

เริ่มจากข้าวราดฟองเต้าหู้

ซุปน้ำเต้าหู้

เต้าหู้สด

เต้าหู้ผัด

ตบท้ายด้วยวาราบิโมจิ ครับ

แต่ยังไม่สาแก่ใจ สั่งพาร์เฟต์วาราบิโมจิ มากินต่ออีกครับ 5555 อารมณ์ดีเลย อิอิ

กลับจาก Arashiyama ไป หลับเป็นตายเลยครับ เช้าวันสุดท้าย ไฟลท์กลับเป็นไฟลท์ค่ำๆ ตอนเช้าเลยไปวัดทอง Kinkakuji ส่งท้ายครับ

สามารถเดินทางได้โดย นั่งรถบัสสาย 101 หรือ 205 จากสถานรชี JR Kyoto ไปลงที่ Kinkakujimichi ครับ แล้วเดินต่อไปอีก 5 นาที ก็จะถึงวัดทอง เรืองรอง อร่ามตา ในการ์ตูนอิคคิวซังแล้ว

ด้วยความที่ไปถึงแต่เช้า ไม่ดิ ไปสาย แต่วัดเปิดสาย 555 วัดเปิด 9 โมง ไปถึง 9 โมงนิด ๆ คนเลยยังไม่ค่อยเยอะครับ อารมณ์ก็เลยดี ลั้ลลาาาา อิอิ

วัดทอง เคยถูกไฟเผาไปครั้งนึงครับ แต่บูรณะใหม่ มีนกฟีนิกซ์ ที่อยู่บนยอด ที่ยังเป็นของเดิม Original เปล่งประกาย ท้าแดด ท้าฝน มายาวนาน

จริงๆ แล้ว วัดทอง มีสวนรอบวัดที่กว้างเหมือนกันนะครับ แต่ด้วยความที่ตัวอาคารสีทอง มันโดดเด่น เกินหน้าเกินตาใครเค้าไปซะหมด คนเข้ามาวัดทอง ก็มาเพื่อแค่ดูอาคารสีทองเนี่ยแหละ เอาจริงๆ ชอบสวนที่วัดเงินมากกว่าด้วยอ่ะ 5555

ก่อนออกไปเตรียมตัวกลับ ก็ซัดซอฟต์ครีมชาเขียว ส่งท้ายทริปซะ เป็นการปิดทริป เกียวโต ใบไม้เปลี่ยนสี แบบโหด มัน ฮา น่าประทับใจ รับลมหนาว เคล้าใบไม้แดง แกล้มรสไอติมชาเขียว ดีงาม ดีงาม ช่างดีงามอะไรเช่นนี้

ขอบคุณทุกๆคนที่เป็นกำลังใจมาให้จนจบกระทู้นะครับ รูปเยอะมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ดองไว้ตั้งแต่ปีที่แล้ว 555

ทริป เกียวโต ใบไม้เปลี่ยนสี ประทับใจมากครับ ด้วยช่วงเวลาที่ไป มันพอดีกับช่วงพีค พอดีกับอากาศที่ไม่เจอฝน ถึงคนจะเยอะไปหน่อย (ไม่ดิ ต้องใช้คำว่าเยอะมากกกกกกกกกก) เราก็ทำเป็นลืมๆ ไป แหงนๆ หน้า ดูใบไม้แดง สวยๆ ไปแทนครับ ถึงอารมณ์จะไม่ดีจากคนเยอะ แต่ธรรมชาติสีสวยๆ ก็ช่วยขัดเกลาจิตใจให้ลดความหม่นหมองลงไปเยอะเลยครับ

เพราะฉะนั้น ใครที่กำลังลังเลว่า จะไปดูใบไม้แดงที่เกียวโตดีมั้ย อย่าลังเลยเลยครับ ไปเถอะ !!!! มันดีงามมากกกกกกกก !!!!! ใบไม้แดงคู่กับโบราณสถาน เป็นเสน่ห์ของของฤดูใบไม้ร่วงแบบเกียวโตจริงๆ สมแล้ว ที่เกียวโตได้เป็นเมืองที่ดีที่สุด จริงๆครับๆ

สำหรับกระทู้ในค่ำคืนนี้ กว่าจะจบได้ ก็เล่นเอาปวดหลังไปพอสมควร ขอไปอาบน้ำอาบท่า แล้วเข้านอนละนะครับ คราวหน้า ซันนี่จะพาไปไหน อย่าลืมติดตามนะครับ

ไว้ไปเที่ยวด้วยกันอีกนะครับ

เกียวโต ใบไม้เปลี่ยนสี

ขอบคุณ Guest สุดพิเศษ คุณ LET SUNNY TAKE YOU THERE สังกัด pantip จากกระทู้ “[CR] [LET SUNNY TAKE YOU THERE] : KANSAI The Series – Autumn in KYOTO – เกียวโตสีแดง !” ที่มามอบประสบการณ์ เที่ยวเกียวโต ใบไม้เปลี่ยนสี ให้ชมแบบจัดเต็ม! ได้รับเสียงปรบมือจากเราไปเล้ยย!!
ระดับความน่าไป : ✩✩✩✩✩
พูดคุยกับ Guest ได้ที่ : www.facebook.com/letsunnytakeyouthere


ชอบ บทความ มัชรูมทราเวล ทำไงดี…?
1.กดแชร์ต่อ ให้เพื่อนอ่านบ้าง
2. คลิก Likeและติดตามเราได้ที่ Facebook www.facebook.com/mushroomtravel/

—————
Mushroom Travel มีโปรแกรม ทัวร์ญี่ปุ่น ใบไม้เปลี่ยนสี ให้เลือกมากที่สุด
โทร. 02-105-6234 (30 คู่สาย)
[email protected]
Line id : @mushroomtravel

สินค้าที่เกี่ยวข้อง