รีวิว ใบไม้เปลี่ยนสี 3 ประเทศ Autumn November 2016

Guest ของ มัชรูมทราเวล วันนี้ เป็นชายหนุ่มหน้าตาดี ซึ่งวันนี้เค้าจะพาเราไปเที่ยวชม ใบไม้เปลี่ยนสี กันถึง 3 ประเทศเลยล่ะค่ะ โดยเริ่มต้นที่จีน ตามมาติดๆ ที่เกาหลี และปิดท้ายที่ญี่ปุ่น มาดูกันค่ะว่า ใบไม้เปลี่ยนสี ทั้ง 3 ประเทศเหล่านี้จะมีดีแตกต่างกันอย่างไร โดยเค้าจะมาเปรียบเทียบให้เราเห็นเป็นภาพสวยๆ แบบช็อตต่อช็อตเลยค่ะ ห้ามพลาด!!

รีวิว ใบไม้เปลี่ยนสี 3 ประเทศ Autumn November 2016

สวัสดีครับ พอดีผมได้มีโอกาสไปเที่ยวฤดูใบไม้ร่วงในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2559 ที่ผ่านมา (เป็นช่วงเวลาเดียวกัน) ของ 3ประเทศ คือ จีน (ปักกิ่ง), เกาหลี(โซล), ญี่ปุ่น (คาวากูจิโกะ, เกียวโต) เลยอยากนำมาเปรียบเทียบเพื่อให้ได้ชมกันว่า แตกต่างกันยังไง และมีการเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียของแต่ละที่ (โดยตัวผมเอง 555 ถ้าไม่เห็นด้วยแต่อย่างใดขออภัย ณ ที่นี้ด้วยครับ) หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่รับชมนะครับ ว่าจะเลือกไปที่ไหน

ปล. รูปน้อยไปหน่อยและยังไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ ขออภัยครับ เพราะถ่ายไม่ค่อยเก่ง ไม่ค่อยได้เน้นถ่ายรูปอ่าครับ เน้นไปเที่ยวมากกว่า 55555 และใช้ไอโฟนถ่ายด้วย

จีน-ปักกิ่ง (รูปถ่ายวันที่ 7-10 พฤศจิกายน 2559)

เริ่มต้นที่ประเทศจีนครับ ที่ปักกิ่ง แต่ที่จีนค่อนข้างร่วงไปบ้างแล้วครับในเดือนนี้ แต่น่าเสียดายครับ หมอกลงค่อนข้างเยอะเลยถ่ายออกมาไม่ค่อยสวยมาก

รูปนี้อยู่ที่บริเวณสนามรังนก เป็นต้นแปะก๊วยครับ สีเหลืองสวยงามมาก ซึ่งไม่ไกลมากจากกลางเมือง

ภาพนี้เป็นบริเวณสนามกีฬาโอลิมปิกรังนกครับ (ยกเว้นรูปนี้ถ่ายด้วย go pro ครับ)

แถมอีกรูปครับ เป็นตอนกลางคืน

ต่อไปเป็นสวนในตัวเมืองปักกิ่งครับชื่อสวน Beihai park เป็นบริเวณที่มีรถไปกำแพงเมืองจีนครับ

ต่อไปเป็นสวนบริเวณหลังพระราชวังต้องห้ามครับ ซึ่งเป็นบริเวณกลางเมืองของปักกิ่ง

รูปนี้เป็นสวนภายในพระราชวังต้องห้ามครับ เป็นสวนสไตล์จีนๆ

ปิดท้ายด้วยรูปนี้ละกันครับ เป็นบริเวณสวนในพระราชวังต้องห้าม ส่วนตัวชอบรูปนี้มากๆๆ เพราะรู้สึกว่าเป็นรูปใบไม้เปลี่ยนสี ที่มีแบล็กกราวนด์เป็นสถาปัตยกรรมจีนโบราณได้ลงตัว สื่อถึงความเป็นรูปใบไม้เปลี่ยนสีที่ลงตัวจริงๆ ฮ่ๅๅๅๅๅ (อวยตัวเองมากๆๆ 5555)

ความจริงยังมีในเมืองอีกมากมายครับ เช่นย่าน Xidan แต่ขออภัย พอดีผมไม่ค่อยได้ถ่ายมาครับ ขอเพิ่มข้อดี ข้อเสียของแต่ละประเทศนะครับ (ความเห็นส่วนตัวล้วนๆ นะครับ)

ข้อดี

1. ใบไม้เปลี่ยนสีอยู่ในกลางตัวเมืองเลยครับ
2. รถไฟใต้ดินราคาถูกมากๆ เริ่มต้นที่ 2 หยวน หรือราวๆ 10บาท
3. มีที่เที่ยวมาก โดยเฉพาะทางประวัติศาสตร์

ข้อเสีย

1. สื่อสารค่อนข้างยาก
2. ต้องทำวีซ่าก่อนเข้าประเทศ
3. อาหารอาจจะไม่ถูกปากใครหลายๆ คน

เกาหลี-โซล (รูปถ่ายวันที่ 11 พฤศจิกายน 2559)

ต่อมาเป็น โซลครับ ผมได้ไปบริเวณ สวน Hanul Park และ World Cup Park ครับ โดยช่วงที่ผมไป คิดว่าเป็นช่วงพอเหมาะพอดีกับช่วงที่สวยที่สุดพอดีครับ

เริ่มต้นด้วย World Cup Park ครับ ใบไม้ร่วงบางส่วนครับ แต่ร่วงน้อยกว่าจีนมากๆ ครับ ถือว่าเหลือเยอะมากๆ ครับ

ภาพนี้เป็นทางเดินริมถนนครับ

รูปนี้เป็นบริเวณฮานึลปาร์ค ซึ่งต้องเดินขึ้นเขาไปพอสมควรครับ (จริงๆ ก็นิดเดียวแหละ คนที่อายุเยอะๆ ที่เกาหลีเค้าก็เดินกันได้) แต่ว่าคนที่เดินไม่ไหวเหมือนจะมีรถรับส่งบริการให้นะครับครับ

ข้อดี

1. ไม่ต้องไปนอก โซลก็เห็นครับ
2. ค่าใช้จ่ายไม่แพงครับ
3. มีดอกหญ้า ที่อื่นไม่มี

ข้อเสีย

1. ตม. เกาหลีครับ (อุ๊ปส์ๆๆๆ)
2. ถ้าคนไม่ค่อยอินกับเกาหลี ก็จะไม่ค่อยมีที่เที่ยวอื่นๆ (อย่าดราม่านะครับ ส่วนตัวผมชอบเกาหลีสุดๆ)

ญี่ปุ่น (คาวากูจิโก 6 พฤศจิกายน 2559, เกียวโต 12 พฤศจิกายน 2558)

ต่อมาเป็นประเทศญี่ปุ่น ที่คาวากูจิโกะ ทั้งหมดนี้ ถ่าย ณ วันที่ 6/11/16 ก่อนอื่นเลยใครที่จะไปควรดูเมฆก่อนว่าวันนั้นมีเมฆไหม ถ้ามีเมฆมากก็จะมองไม่เห็นฟูจิเลย

ภาพนี้ต้องเดินบันไดขึ้นไปถ่าย ลงสถานี Shimo-yoshida station เดินอีกแปป๊บง บันไดค่อนข้างชัน ลงไปแล้วมีป้ายบอกตลอดทาง เจดีย์ชื่อ Chureito Pagoda

ต่อไปมาต่อที่สถานี Kawaguchiko แล้วนั่งบัสต่อมา ประมาน20นาที

แต่ความจริง ณ วันนี้ยังเขียวไม่หมด

จริงๆ สถานีนี้ ควรเห็นฟูจิ แต่ทำไมอยู่เมฆมาบังไม่รู้ งั้นขอแอบเอา ฟูจิจากมุม Kawaguchiko Lake จากช่วง มกรา 2015

ขอมาต่อด้วยที่เมืองเกียวโตครับ ส่วนใหญ่เมืองเป็นวัดครับ แต่ช่วงที่ผมไปยังไม่ค่อยแดงครับ โดยที่ผมไปมี 2 ที่คือ วัดน้ำใส และวัดฟูชิมิ เริ่มต้นด้วยวัดน้ำใสครับ (ขออนุญาตใช้ชื่อแบบไทยๆ นะครับ เพราะจำชื่อแบบญี่ปุ่นไม่ได้ 5555 ผมมึนๆๆๆ) เหมือนจะต้องนั่งรถไฟของเอกชนต่อมาอีกมั้งครับ จำไม่ค่อยได้แล้ว ขออภัยครับ

วัดน้ำใส เสียค่าเข้า 400 เยน คิดเป็นเงินไทยประมาณ 130 บาท เป็นเทศกาลใบไม้เปลี่ยนสี ถ้าจำไม่ผิด จัดตั้งแต่14/11/16-4/12/16 (ไม่มั่นใจนะครับ)

ภาพนี้ยังอยู่ในบริเวณวัดน้ำใสนะครับ

ปิดท้ายด้วยรูปบริเวณ วัดฟูชิมิครับ อันนี้ค่าเข้าฟรี แต่ต้องนั่งรถไฟเอกชนออกมาอีกพอสมควรครับ

ข้อดี

1. คงเป็นประเทศที่หลายๆ คนชื่นชอบ
2. อาหารคงถูกปากคนไทย

ข้อเสีย

1. ถ้าลงสนามบิน โอซาก้า หรือนาริตะ ต้องออกจากนอกตัวเมืองหลัก เพื่อที่จะดูใบไม้
2. บางทีนักท่องเที่ยวเยอะเกินไป (โดยเฉพาะคนไทย) อาจทำให้เสียบรรยากาศได้ครับ 555 (อย่าดราม่าข้อนี้นะครับ เป็นความรู้สึกส่วนตัวเฉยๆ เพราะผมชอบไปแบ็คแพคคนเดียว)

ขอบคุณที่ติดตามชมครับ ^^

ประสบการณ์มาเต็มแบบนี้ รับเสียงปรบมือจากเราไปเล้ย แปะๆๆ !!
ระดับความสนุก: ✩✩✩✩✩
พูดคุยกับเกสต์ได้ที่: www.facebook.com/sidewayswalker

---

บทความแนะนำ ที่เกี่ยวข้อง

ชอบ บทความ มัชรูมทราเวล ทำไงดี…?
1.กดแชร์ต่อ ให้เพื่อนอ่านบ้าง
2. คลิก Likeและติดตามเราได้ที่ Facebook www.facebook.com/mushroomtravel/

—————