ถ้าพูดถึงการไปเที่ยวชมใบไม้เปลี่ยนสีในช่วงฤดูใบไม้ร่วง เชื่อว่าหลายคนคงนึกถึงญี่ปุ่นและเกาหลีมาเป็นอันดับแรกๆ เพราะเที่ยวไม่ยาก ใช้เวลาบินจากเมืองไทยประมาณ 5-6 ชั่วโมง แถมในช่วงเวลานั้นธรรมชาติยังสวยงามมากๆ วันนี้เราจึงจะมาแนะนำ 28 จุดชมใบไม้เปลี่ยนสี ญี่ปุ่น ทั่วประเทศ เริ่มกันตั้งแต่เกาะทางเหนืออย่างฮอกไกโดไปจนถึงเกาะคิวชูทางใต้ พร้อมด้วยการเดินทาง ใครเตรียมตัวจะไป เที่ยวญี่ปุ่น ชมใบไม้เปลี่ยนสี มาเก็บข้อมูลได้เลย!
ภูมิภาคฮอกไกโด | ช่วงเวลาใบไม้เปลี่ยนสีเริ่มตั้งแต่ กลางเดือนกันยายน – ปลายเดือนตุลาคม
1. สวนโอโดริ, ซัปโปโร (Odori Park, Sapporo)
สวนสาธารณะขนาดใหญ่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองซัปโปโร มีต้นไม้และดอกไม้ที่จะเปลี่ยนสีสันตลอดทั้งสี่ฤดู นอกจากจะมีใบไม้เปลี่ยนสีให้ชมแล้ว ทุกๆ ปียังมีการจัดเทศกาล Sapporo Autumn Fest ที่รวมร้านอาหารแสนอร่อยของฮอกไกโดมาไว้ในที่เดียว
การเดินทาง : รถไฟใต้ดินสถานีโอโดริ หรือรถไฟ JR ลงสถานีซัปโปโรและเดินต่ออีก 10 นาที
ที่ตั้ง : Odori Nishi 1-chome ~ Odori Nishi 12-chome, Chuo-ku, Sapporo
2. ภูเขาโมอิวะ, ซัปโปโร (Mt. Moiwa, Sapporo)
ภูเขาสูง 531 เมตร ตั้งอยู่ใจกลางเมืองซัปโปโร เป็นอีกหนึ่ง จุดชมใบไม้เปลี่ยนสี ญี่ปุ่น ที่ได้รับความนิยมมากๆ ที่นี่เป็นแดนศักดิ์สิทธิ์ของชนเผ่าไอนุ จากยอดเขาสามารถมองเห็นวิวเมืองซัปโปโรและอ่าวอิชิคาริได้ เมื่อนั่งกระเช้าไฟฟ้าขึ้นถึงยอดของภูเขาโมอิวะแล้ว จะเห็นภูเขาทั้งลูกถูกห่อหุ้มด้วยใบไม้เปลี่ยนสีอย่างสวยงาม
การเดินทาง : จากย่านซูซูกิโนะ นั่งรถรางมาลงที่สถานี Ropeway Iriguchi จากนั้นเดินประมาณ 5 นาทีไปยังทางขึ้นกระเช้าภูเขาโมอิวะ (Mt. Moiwa Ropeway)
ที่ตั้ง : Fushimi 5-chome 3-7, Chuo-ku, Sapporo
3. ย่านน้ำพุร้อนโจซังเค, ซัปโปโร (Jozankei Onsen, Sapporo)
มาถึง จุดชมใบไม้เปลี่ยนสี ญี่ปุ่น ที่สวยงามบรรยากาศดีมากๆ อย่าง โจซังเค แหล่งน้ำพุร้อนที่เป็นที่นิยมมากแห่งหนึ่ง เดินทางจากซัปโปโรเพียงชั่วโมงกว่าๆ นอกจากน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียงแล้ว เรื่องความสวยงามของทิวทัศน์ เช่น น้ำตกชิราอิโตะ น้ำตกยุโนะทาคิ ทะเลสาบแห่งไมซุรุ ก็เป็นอีกสิ่งที่ดึงดูดคนให้มาเยือนเช่นกัน
การเดินทาง : จากสถานีซัปโปโร นั่งรถ Jotetsu Bus หมายเลข 7 หรือ 8 มายังโจซังเค ออนเซ็น
ที่ตั้ง : Jozankei Onsen Higashi 3-chome, Minami-ku, Sapporo
4. สวนสาธารณะนากาจิมะ, ซัปโปโร (Nakajima Park, Sapporo)
อีกหนึ่งสวนสาธารณะใจกลางเมืองซัปโปโรติดกับย่านช้อปปิ้ง จากปากทางเข้าสวนสาธารณะคุณจะพบกับถนนต้นแปะก๊วยสีเหลืองทอง นอกจากนี้ภายในสวนยังมีใบไม้แดงให้ชมอีกด้วย
การเดินทาง : รถไฟใต้ดินสาย Namboku Line ลงที่สถานี Nakajima Koen
ที่ตั้ง : Nakajima-koen 1, Chuo-ku, Sapporo
5. สวนสาธารณะมิฮาราชิ, ฮาโกดาเตะ (Miharashi-koen, Hakodate)
สวนสาธารณะแห่งนี้มีสวนและอาคารเก่าแก่สไตล์ญี่ปุ่น ซึ่งเป็นสวนแห่งเดียวในฮอกไกโดที่รัฐบาลประกาศให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรม ในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีทางเดินในสวนจะถูกปกคลุมด้วยใบเมเปิ้ลสีแดง และยังมีการจัดงานเทศกาลโมมิ-จิ เป็นการตกแต่งแสงไฟยามค่ำคืน และกิจกรรมต่างๆ ให้ได้ลองทำอีกด้วย
การเดินทาง : จากสถานีฮาโกดาเตะ นั่งรถประจำทางมาลงที่ป้ายโคเซ็ทสึเอ็น-มาเอะ จากนั้นเดินต่ออีกนิดหน่อย
ที่ตั้ง : 56 Miharashi-cho, Hakodate
6. โกเรียวคาคุ, ฮาโกดาเตะ (Goryokaku, Hakodate)
ป้อมปราการรูปดาวขนาดใหญ่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ และเป็นเสมือนสัญลักษณ์ของเมืองฮาโกดาเตะ สามารถเที่ยวได้ทุกฤดูซึ่งจะให้ความสวยงามที่แตกต่างกันไป หากอยากชมวิวจากมุมสูง สามารถไปชมจากหอชมวิวโกเรียวคาคุที่อยู่ติดกันได้ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ใครมา ทัวร์ญี่ปุ่น ที่ฮอกไกโดต้องมาเยือน
การเดินทาง : เดินทางโดยรถราง 20 นาที มาถึงป้ายโกเรียวคาคุ โคเอ็น-มาเอะ แล้วเดินต่ออีกประมาณ 15 นาที
ที่ตั้ง : 43-9 Goryokaku-cho, Hakodate
ภูมิภาคโทโฮคุ | ช่วงเวลาใบไม้เปลี่ยนสีเริ่มตั้งแต่ ต้นเดือนตุลาคม – ต้นเดือนพฤศจิกายน
7. ภูเขานากาโนะ-โมมิจิ, อาโอโมริ (Mount Nakano-Momiji, Aomori)
ภูเขานากาโนะ-โมมิจิ เป็นหนึ่งใน จุดชมใบไม้เปลี่ยนสี ญี่ปุ่น ยอดนิยมของเมืองคุโรอิชิ ทุกๆ ปีภูเขาจะถูกปกคลุมไปด้วยใบไม้แดง และตอนกลางคืนยังมีการจัดแสดงแสงไฟที่ช่วยเพิ่มความสวยงามได้อย่างมากอีกด้วย บริเวณภูเขานากาโนะ-โมมิจิยังมี ศาลเจ้านากาโนะ ตั้งอยู่ ซึ่งบริเวณศาลเจ้าแห่งนี้มีต้นเมเปิ้ลอายุ 200 ปี และต้นสนซีดาร์อายุกว่า 600 ปีอยู่ด้วย
การเดินทาง : จากสถานี JR Hirosaki ให้เดินไปขึ้นสาย Konan Line นั่งไปลงที่สถานี Kuroishi จากนั้นนั่งรถประจำทาง Konan Bus สาย Okawara-Nurugawa Line ลงที่ป้าย Nakano Jinja Mae
ที่ตั้ง : 27 Fudodate Minami-Nakano Kuroishi-shi Aomori 036-0405
8. ปราสาทฮิโรซากิ, อาโอโมริ (Hirosaki Castle, Aomori)
บริเวณปราสาทมีต้นเมเปิ้ลกว่า 1,000 ต้น ซึ่งจะเริ่มเปลี่ยนสีตั้งแต่กลางเดือนตุลาคม ในส่วนของสวนฮิโรซากิจะถูกปกคลุมไปด้วยสีเหลืองและสีแดงของใบไม้ ตอนกลางคืนจะมีการจัดแสดงแสงไฟที่สวยงามมาก
การเดินทาง : จากสถานี JR Hirosaki ขึ้นรถประจำทาง Konan Bus สาย Dotemachi Loop ลงที่ป้าย Shiyakusho Mae (ตรงข้ามกับศาลาว่าการ) จากนั้นเดินต่ออีกประมาณ 5 นาที
ที่ตั้ง : 1 Shimoshiroganecho, Hirosaki, Aomori
9. หมู่บ้านซามูไรคาคุโนะดาเตะ, อากิตะ (Kakunodate Samurai Housings, Akita)
ในฤดูใบไม้ร่วง สองข้างทางของถนนบ้านซามูไรคาคุโนะดาเตะ จะเต็มไปด้วยสีสันของใบไม้เปลี่ยนสี ตัดกับกำแพงสีดำของบ้านซามูไร ตอนกลางคืนก็สามารถชมความสวยงามของใบไม้เปลี่ยนสีที่ส่องสว่างด้วยแสงไฟได้
การเดินทาง : เดิน 15 นาทีจากสถานี Kakunodate
ที่ตั้ง : Semboku, Akita
ภูมิภาคันโต | ช่วงเวลาใบไม้เปลี่ยนสีเริ่มตั้งแต่ กลางเดือนตุลาคม – ต้นเดือนธันวาคม
10. สวนริคุงิเอ็น, โตเกียว (Rikugien Gardens, Tokyo)
สวนขนาดใหญ่ในสมัยเอโดะที่ใช้เวลาสร้างถึง 7 ปี เป็นหนึ่งใน จุดชมใบไม้เปลี่ยนสี ญี่ปุ่น ในโตเกียว ยอดนิยม สวนจะถูกปกคลุมด้วยใบเมเปิ้ลสีแดงสวย และยังเป็นจุดชมใบไม้แดงยามค่ำคืนที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในโตเกียวอีกด้วย
การเดินทาง : ลงรถไฟที่สถานีโคมะโงเมะ จากนั้นเดินต่ออีกประมาณ 7 นาที
ที่ตั้ง : 6 Chome Honkomagome, Tokyo
11. เมจิจิงงูไกเอ็น, โตเกียว (Meiji Jingu Gaien, Tokyo)
ถนนสีเหลืองทองในช่วงฤดูใบไม้ร่วงเป็นอีกสถานที่ที่พลาดไม่ได้ อยู่ในสวนเมจิจิงงูไกเอ็น ทางเดินที่เรียงรายไปด้วยต้นแปะก๊วยกว่า 146 ต้น ทอดยาวไปยังแกลเลอรี่ เมอิจิ เมมโมเรียล กว่า 300 เมตร เสมือนเป็นอุโมงค์ต้นแปะก๊วยสีเหลืองทองที่สวยงามสุดๆ
การเดินทาง : เดิน 5 นาทีจากสถานีรถไฟ JR Shinanomachi หรือสถานีรถไฟใต้ดิน Gaiemmae และ Aoyama-itchome
ที่ตั้ง : เขตมินาโตะ, โตเกียว
12. ทะเลสาบชูเซนจิและน้ำตกเคะงน, โทชิงิ (Lake Chuzenji – Kegon Falls, Tochigi)
ทะเลสาบชูเซนจิ เป็นทะเลสาบตามธรรมชาติที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น รอบๆ บริเวณริมทะเลสาบมีต้นเมเปิ้ลและต้นโอ๊ก ใกล้ๆ กันมีน้ำตกเคะงนโนะทากิเป็นน้ำตกขนาดใหญ่โดยน้ำที่ไหลมาจากทะเลสาบจูเซนจิ ตกมาจากหน้าผาชันที่มีความสูง 97 เมตร กลายเป็นหนึ่งในสามน้ำตกใหญ่ที่มีชื่อในญี่ปุ่น
การเดินทาง : จากสถานรถไฟ JR และ Tobu Nikko นั่งรถ Tobu Bus ประมาณ 50 นาที ไปลงที่จูเซนจิ ออนเซน (ในช่วงใบไม้เปลี่ยนสีอาจต้องใช้เวลาเดินทางนานกว่าปกติ เพราะการจราจรหนาแน่นโดยเฉพาะในวันหยุด)
ที่ตั้ง : จูกูชิ, เมืองนิกโก
13. หุบเขาฮานานุกิ, อิบารากิ (Hananuki gorge, Ibaraki)
จุดชมธรรมชาติสวยๆ คลอบคลุมพื้นที่ตั้งแต่เขื่อนฮานานุกิไปจนถึงสะพานสึชิทาเกะและโทริโซเนะ ในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีบริเวณสะพานแขวนจะถูกปกคลุมไปด้วยใบไม้แดง ให้คุณได้เดินชมวิวผ่านอุโมงค์ใบไม้เปลี่ยนสีได้
การเดินทาง : นั่งรถไฟ JR สาย Joban line ลงที่สถานี Takahagi จากนั้นต่อด้วยรถแท็กซี่
ที่ตั้ง : Hananuki, Takahagi-City
14. สะพานคาจิคะบาชิ, กุนมะ (Kajika Bridge, Gunma)
สะพานคาจิคะบาชิ อยู่ใกล้กับอิคาโฮะ ออนเซน เป็นหนึ่งในจุดชมใบไม้แดงยอดนิยมของกุนมะ ในช่วงใบไม้เปลี่ยนสีจะมีการประดับไฟ ให้นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับใบไม้เปลี่ยนสียามค่ำคืนได้
การเดินทาง : นั่งรถประจำทางลงที่สถานีรถประจำทางอิคาโฮะ จากนั้นเดินต่ออีกประมาณ 15 นาที
ที่ตั้ง : Ikaho, Ikaho-machi, Shibukawa-shi, Gunma
15. ทะเลสาบฟูจิทั้งห้า, ยามานาชิ (Fuji Five Lakes, Yamanashi)
บริเวณทะเลสาบฟูจิทั้งห้าเป็น จุดชมใบไม้เปลี่ยนสี ญี่ปุ่น ที่สวยมากๆ เพราะนักท่องเที่ยวจะสามารถชมใบไม้แดงที่มีฉากหลังเป็นภูเขาไฟฟูจิได้ จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่คนนิยมไปคือ บริเวณทะเลสาบคาวากุจิโกะ และบริเวณทะเลสาบยามานากะ ที่นี่ยังมีการจัดแสดงไฟในตอนกลางคืนอีกด้วย
การเดินทาง : จากสถานีชินจูกุ, โตเกียว นั่งรถไฟหรือรถบัส Chuo Highway Bus ลงที่สถานีคาวากูชิโกะ ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
ภูมิภาคชูบุ | ช่วงเวลาใบไม้เปลี่ยนสีเริ่มตั้งแต่ ปลายเดือนตุลาคม – ต้นเดือนธันวาคม
16. สวนโชวอัน ซันโซ, นีงาตะ (Shouun Sanso Garden, Niigata)
สวนสไตล์ญี่ปุ่น สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ.1926 เป็น จุดชมใบไม้เปลี่ยนสี ญี่ปุ่น ที่สวยงามอีกแห่งหนึ่ง ภายในสวนยังมีพิพิธภัณฑ์ Kimura Tea Ceremony Museum ที่ผู้เยี่ยมชมสามารถลองดื่มชาเขียวแบบดั้งเดิม พร้อมชมวิวใบไม้เปลี่ยนไปพร้อมๆ กันได้อีกด้วย
การเดินทาง : เดินประมาณ 20 นาที จากสถานีรถไฟ JR Kashiwazaki
ที่ตั้ง : Midori-cho 3, Kashiwazaki
17. เส้นทางเจแปนแอลป์ ทาเตยามะ-คุโรเบะ, โทยามะ (Tateyama Kurobe Alpine Route, Toyama)
ทัวร์ญี่ปุ่น ชมวิวใบไม้เปลี่ยนสี แบบพาโนราม่าได้ที่นี่ หากนั่งกระเช้าขึ้นสถานีไดกันโบ จะได้วิวสวยๆ ไปตลอดทาง ด้านบนสถานียังมีจุดชมวิวบนดาดฟ้าที่สามารถมองเห็นวิวของเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่น, ทะเลสาบที่เขื่อนคุโรเบะ และยังสามารถเห็นหุบเขาใหญ่ ฮาริโนะคิ-ได เซกเก 1 ใน 3 หุบเขาใหญ่ของญี่ปุ่นที่มีหิมะปกคลุมอยู่เกือบตลอดทั้งปี
การเดินทาง : นั่งรถไฟลงที่สถานีทาเทยามะ หรือ สถานีโอกิซาวะ
18. โครังเค, ไอจิ (Korankei, Aichi)
โครังเค เป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับการชมใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วงมากที่สุดแห่งหนึ่งในจังหวัดไอจิ ผิวน้ำของแม่น้ำโทโมเอะจะระยิบระยับสวยงามด้วยสีแดงและสีเหลืองจากต้นไม้ราว 4,000 ต้น ที่ขึ้นอยู่ทั่วบริเวณ
การเดินทาง : จากสถานีนาโกย่า ขึ้นรถไฟสาย Meitetsu Nagoya Main Line ลงที่สถานี Higashi Okazaki จากนั้นต่อรถบัส Meitetsu Bus ลงที่ป้าย Korankei และเดินต่ออีกประมาณ 10 นาที
ที่ตั้ง : Asuke-cho, Toyota-city, Aichi
ภูมิภาคคันไซ | ช่วงเวลาใบไม้เปลี่ยนสีเริ่มตั้งแต่ ปลายเดือนตุลาคม – ต้นเดือนธันวาคม
19. อาราชิยามะ, เกียวโต (Arashiyama , Kyoto)
ความสวยงามของใบไม้เปลี่ยนสีและบรรยากาศสบายๆ ทำให้ฤดูใบไม้ร่วงเป็นช่วงเวลาที่นักท่องเที่ยวมาเยือนอาราชิยามะมากช่วงหนึ่ง เรียกได้ว่าเป็นสถานที่ชมใบไม้สุดฮิตของเกียวโตเลยทีเดียว ถ้ามา ทัวร์ญี่ปุ่น ช่วงนี้แล้ว อย่าพลาดการถ่ายรูปกับ สะพานโทเง็ทสึเคียว ของที่นี่ โดยมีภูเขาอาราชิยามะเป็นฉากหลัง
การเดินทาง : จากสถานีรถไฟ JR Saga-Arashiyama ใช้เวลาเดิน 10 นาที
ที่ตั้ง : Arashiyama , Kyoto
20. วัดคิโยมิซึ, เกียวโต (Kiyomizu dera, Kyoto)
วัดคิโยมิซึ หรือ วัดน้ำใส เป็นหนึ่งในวัดที่มีชื่อเสียงของเกียวโต จุดเด่นของวัดนี้คือระเบียงไม้ที่ยื่นออกมาด้านข้างของเนินเขา ซึ่งจะมีวิวที่สวยงามแตกต่างกันไปในทุกฤดู ส่วนในฤดูใบไม้ร่วงก็เป็นอีกหนึ่ง จุดชมใบไม้เปลี่ยนสี ญี่ปุ่น ที่สวยสุดๆ เพราะใบไม้จะเปลี่ยนเป็นสีส้มแดงไปทั่วบริเวณ ในตอนกลางคืนจะมีการตกแต่งด้วยแสงไฟให้ความสวยงามยิ่งขึ้นไปอีก
การเดินทาง : จากสถานีเกียวโตขึ้นรถประจำทางที่ป้าย Kyoto-eki-mae นั่งสาย 206 หรือ 100 ลงที่ป้าย Gojo-zaka หรือป้าย Kiyomizu-michi เดินต่ออีกประมาณ 10 – 15 นาที
ที่ตั้ง : 1-294 คิมะสึ ฮิงะชิยะมะ-คุ, เกียวโต
21. วัดคัตสึโอจิ, โอซาก้า (Katsuoji Temple, Osaka)
วัดคัตสึโอจิ ตั้งอยู่บนภูเขาในเมืองมิโนะ มีเอกลักษณ์อยู่ที่ตุ๊กตาดารุมะหลากหลายขนาดที่วางไว้ทั่ววัด ในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีนักท่องเที่ยวจะได้ชมความสวยงามของใบไม้แดงที่ปกคลุมไปทั่วภูเขา
การเดินทาง : จากสถานีโอซาก้านั่งรถไฟใต้ดินสาย Midosuji Line ลงที่สถานี Senri-Chuo จากนั้นต่อแท็กซี่มาลงที่วัด
ที่ตั้ง : 562-8508 Katsuoji, Mino City, Osaka
22. วนอุทยานแห่งชาติมิโน, โอซาก้า (Mino Quasi-national Park, Osaka)
วนอุทยานแห่งชาติอันสวยงาม ตั้งอยู่บนหุบเขาด้านทิศเหนือของเมืองมิโน ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงป่าเมเปิ้ลที่ถูกห้อมล้อมด้วยภูเขาจะเปลี่ยนเป็นสีแดงสีส้มสวยงามมาก ไฮไลท์ของอุทยานแห่งนี้คือน้ำตกมิโนที่สูง 33 เมตร
การเดินทาง : เดินทางโดยรถไฟสาย Hankyu/Takarazuka Line จากสถานี Umeda ไปต่อสาย Minoh Line ที่สถานี Ishibashi
ที่ตั้ง : Mino-Koen, Mino City, Osaka
23. โคยะซัง, วากายามะ (Koyasan, Wakayama)
ภูเขาโคยะ หนึ่งในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของญี่ปุ่น ซึ่งก่อตั้งมาแล้วกว่า 1,200 ปี เป็นบ้านเกิดของพระพุทธศาสนานิกายชินงอน ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงจะได้ชมความสวยงามของใบไม้เปลี่ยนสี พร้อมสัมผัสวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์อันเก่าแก่ของสถานที่แห่งนี้ได้พร้อมๆ กัน
การเดินทาง : นั่งรถเมล์จากสถานี JR Wakayama หรือสถานี Nankai Wakayamashi ลงรถที่ป้ายรถเมล์ Shiyakushomae
ที่ตั้ง : 3 Ichibancho, Wakayama
ภูมิภาคชูโกกุ | ช่วงเวลาใบไม้เปลี่ยนสีเริ่มตั้งแต่ ต้นเดือนพฤศจิกายน – กลางเดือนธันวาคม
24. วัดอิยามะ โฮคุฟุจิ, โอกายามะ (Iyama Hofuku-ji Temple, Okayama)
วัดเซนที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1232 มีสถาปัตยกรรมเจดีย์ 3 ชั้น ซึ่งเป็นสมบัติทางวัฒนธรรมของชาติด้วย นักท่องเที่ยวสามารถนั่งดื่มชา ชิมขนมหวาน พร้อมชมสวนสวยสไตล์ญี่ปุ่นที่เปลี่ยนเป็นสีแดงสีส้มไปพร้อมๆ กันได้ ตอนกลางคืนที่สวนภายในวัดจะมีการจัดแสงไฟเพิ่มความสวยงามของใบไม้แดงมากขึ้น
การเดินทาง : นั่งรถแท็กซี่ประมาณ 10 นาที จากสถานีรถไฟ JR Soja
ที่ตั้ง : 1968, Ijirino, Soja City, Okayama
25. สวนโมมิจิดะนิ, ฮิโรชิมะ (Momijidani Park, Hiroshima)
สวนโมมิจิดะนิ ตั้งอยู่ด้านหลังศาลเจ้าอิซึคุชิมะ ในสวนแห่งนี้มีต้นเมเปิ้ลกว่า 200 ต้น ในช่วงใบไม้เปลี่ยนสีทั้งสวนจึงดูสวยงามเป็นพิเศษ จุดที่สวยที่สุดของสวนนี้คือ สะพานโมมิจิ สะพานแดงที่ใครไปต้องไม่พลาดถ่ายรูปบริเวณนี้
การเดินทาง : จากสถานี Hiroshima นั่งรถไฟไปลงสถานี Miyajima-guchi แล้วต่อเรือเฟอร์รี่ ลงท่าเรือ Miyajima-sanbashi เดินไปทางด้านหลังศาลเจ้าอิซึคุชิมะ
ที่ตั้ง : Miyajima-cho, Hatsukaichi-shi
ภูมิภาคชิโกกุ | ช่วงเวลาใบไม้เปลี่ยนสีเริ่มตั้งแต่ ต้นเดือนพฤศจิกายน – กลางเดือนธันวาคม
26. สวนริทสึริน, คางาวะ (Ritsurin Garden, Kagawa)
สวนมรดกทางวัฒนธรรมที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น อายุเกือบ 400 ปี สวนสวยสไตล์ญี่ปุ่นที่เที่ยวชมได้ตลอดทั้ง 4 ฤดู ในฤดูใบไม้ร่วงสวนจะถูกแต่งแต้มด้วยสีสันของใบไม้แดง และในตอนกลางคืนก็มีการเปิดไฟตกแต่งสวนอีกด้วย
การเดินทาง : นั่งรถไฟ JR สายโคโตะคุ ประมาณ 8 นาที ลงสถานีริทสึรินโคเอ็นคิตะกุจิ (Ritsurin Station) แล้วเดินต่อ ประมาณ 10 นาที
ที่ตั้ง : 1-20-16, Ritsurin-cho, Takamatsu city
ภูมิภาคคิวชู | ช่วงเวลาใบไม้เปลี่ยนสีเริ่มตั้งแต่ ต้นเดือนพฤศจิกายน – กลางเดือนธันวาคม
27. สะพานแขวนโคะโคะโนะเอะ ยูเมะ, โออิตะ (Kokonoe Yume Grand Suspension Bridge, Oita)
เที่ยวญี่ปุ่น กันต่อที่ภูมิภาคคิวชู กับ สะพานแขวนโคะโคะโนะเอะ ยูเมะ สะพานแขวนยาวกว่า 390 เมตรนี้เป็นสะพานแขวนสำหรับคนเดินที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น จากบนสะพานนี้สามารถมองเห็นวิวแบบพาโนราม่าได้ เช่น น้ำตกชินโด 1 ใน 100 ของน้ำตกในญี่ปุ่น และ คิวซุยเค จุดชมใบไม้เปลี่ยนสี ญี่ปุ่น ที่มีชื่อเสียง ในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนเป็นช่วงที่คนมาเที่ยวที่สะพานนี้มากที่สุดเพื่อชมใบไม้เปลี่ยนสี
การเดินทาง : จากสถานีฟุกุโอกะ นั่งรถ Epress Bus ลงที่สถานี Kokonoe Interchange จากนั้นเปลี่ยนไปขึ้นรถ Route Bus ไปลงที่ป้าย Otsurihashi-Nakamura-guchi
ที่ตั้ง : Kokonoe-machi, Kusu-gun, Oita
28. น้ำพุร้อนอุนเซน, นางาซากิ (Unzen Onsen, Nagasaki)
สีแดง ส้มและเหลือง ของใบไม้เปลี่ยนสีที่นี่มีความงดงามมาก ถึงขนาดที่หากมองไกลๆ อาจเข้าใจผิดคิดไปว่าเป็นดอกไม้ก็ได้ เป็นเพราะที่นี่มีต้นไม้ที่ใบเปลี่ยนสีถึง 150 กว่าชนิด ขึ้นกระเช้าที่สถานี Nita Pass ไปยังสถานี Myokendake คุณจะได้ชมวิวสวยๆ ของป่าสีส้มที่อยู่เบื้องล่างได้
การเดินทาง : จากสถานี JR Isahaya นั่งรถบัส Shimatetsu ลงที่ป้าย Shimatetsu Bus Unzen Office ใช้เวลาประมาณ 80 นาที
ที่ตั้ง : Unzen-city, Nagasaki
ขอบคุณข้อมูลจาก www.govivigo.com