ญี่ปุ่น เป็นประเทศที่สามารถเที่ยวได้ทุกฤดูกาล ซึ่งหนึ่งในช่วงที่นักท่องเที่ยวนิยมไปเยือนมากที่สุดก็คือ ฤดูใบไม้ร่วง ไปชมความสวยงามของใบไม้เปลี่ยนสีท่ามกลางอากาศที่ค่อยๆ หนาวเย็น โดยใบไม้เปลี่ยนสีที่ญี่ปุ่นจะไล่มาตั้งแต่ทางเหนือจนถึงใต้ หรือจากฮอกไกโดไปจนถึงคิวชู เริ่มตั้งแต่ประมาณ กลางเดือนกันยายน ไปจนถึง ต้นเดือนธันวาคม ซึ่งช่วงเวลาในแต่ละปีอาจจะช้าเร็วแตกต่างกันไปเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในปีนั้น ใครที่มีแพลนจะไปเที่ยว ใบไม้เปลี่ยนสี ญี่ปุ่น พี่เห็ดอยากให้วางแผนกันตั้งแต่เนิ่นๆ เพราะถ้ารอใกล้ๆ ช่วงนั้น ตั๋วเครื่องบินเอย ห้องพักเอย อาจจะราคาพุ่งสูงขึ้น รวมถึงถ้าจะไปเที่ยวกับทัวร์ ที่นั่งก็อาจจะเต็มไปหมดแล้ว และวันนี้พี่เห็ด มัชรูมทราเวล ได้รวบรวม 15 พิกัด ชมใบไม้เปลี่ยนสีทั่วประเทศญี่ปุ่น คัดมาแล้วว่าสวยที่สุด!! พร้อมช่วงเวลาแนะนำ เพื่อจะได้วางแผน เตรียมตัวไป ทัวร์ญี่ปุ่น กันล่วงหน้า จะมีที่ไหนบ้าง ตามมาดูเลยค่ะ
1. อุทยานแห่งชาติไดเซสึซัง (Daisetsuzan National Park) – จ.ฮอกไกโด
อุทยานแห่งชาติไดเซสึซัง เป็นอุทยานขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ตั้งอยู่บนเกาะฮอกไกโด เป็นสถานที่แห่งแรกๆ ในญี่ปุ่นที่ใบไม้จะเปลี่ยนสี โดยเริ่มตั้งแต่ประมาณกลางเดือนกันยายน ผืนป่าทั่วภูเขาจะเปลี่ยนเป็นสีแดงและเหลืองสลับกับสีเขียวดูสวยงาม
สำหรับเส้นทางการท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติไดเซสึซังนั้น มี 2 เส้นทางด้วยกัน เป็นเส้นทางที่ขึ้นจากเขาคนละฝั่ง พี่เห็ดแนะนำให้ไปเส้นทางฝั่ง ภูเขาอาซาฮิดาเกะ (Asahidake) เนื่องจากสามารถเดินทางได้สะดวกสบาย เหมาะกับกิจกรรมเดินป่า ด้านล่างภูเขาเป็นที่ตั้งของ หมู่บ้านอาซาฮิดาเกะออนเซ็น (Asahidake Onsen) อันเงียบสงบ มีรถประจำทางวิ่งเข้าออกหมู่บ้านตลอดปี การขึ้นไปสู่ยอดเขาอาซาฮิดาเกะจะต้องขึ้นกระเช้า Asahidake Ropeway ที่สถานีในหมู่บ้าน เมื่อไปถึงปลายทางที่สถานี Sugatami แล้วจะต้องเดินต่อไปอีกจึงจะถึงยอดเขา
ช่วงเวลาชมใบไม้เปลี่ยนสี : กลางเดือนกันยายน – กลางเดือนตุลาคม
การเดินทาง : ขึ้นรถบัส จากสถานี JR Asahikawa หรือ จากสนามบิน Asahikawa มาลงที่ Asahidake Onsen
พิกัด : https://goo.gl/maps/72nD9hLKupcGzvbT8
2. ย่านน้ำพุร้อนโจซังเค (Jozankei Onsen) – จ.ฮอกไกโด
ย่านน้ำพุร้อนโจซังเค แหล่งน้ำพุร้อนออนเซ็นที่มีชื่อเสียงมากๆ ของเมืองซัปโปโร ในจังหวัดฮอกไกโด ด้วยบรรยากาศแสนผ่อนคลาย ล้อมรอบไปด้วยป่าเขาสวยงาม ออนเซ็นและที่พักต่างๆ จะซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางภูเขาและต้นไม้ มีลำธารสายเล็กๆ ไหลผ่าน พอถึงช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ต้นไม้ทั้งหมดในพื้นที่ก็จะเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีเหลืองส้ม ดูมีชีวิตชีวา ยิ่งถ้ามาตอนช่วงพีคก็ยิ่งสวยงามมากๆ
ช่วงเวลาชมใบไม้เปลี่ยนสี : ปลายเดือนกันยายน – กลางเดือนตุลาคม
การเดินทาง : จากสถานีซัปโปโร นั่งรถ Jotetsu Bus หมายเลข 7 หรือ 8 มายังโจซังเค ออนเซ็น (Jozankei Onsen)
พิกัด : https://goo.gl/maps/ckjn4tgA3Xk1iuDw6
3. หมู่บ้านโออุจิจูคุ (Ouchi-Juku) – จ.ฟุกุชิมะ
มาชมความสวยงามของหมู่บ้านโบราณยุคเอโดะในช่วงใบไม้เปลี่ยนสีกันที่ หมู่บ้านโออุจิจูคุ จังหวัดฟุกุชิมะ เป็นหมู่บ้านเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางแหล่งธรรมชาติ รายล้อมด้วยเทือกเขาสูง ภายในมีบ้านอยู่ประมาณ 50 หลัง สมัยก่อนใช้เป็นที่พักแรมของผู้เดินทาง และปัจจุบันได้ถูกพัฒนาให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว ที่จะได้เห็นวิถีชีวิตเก่าแก่ของคนญี่ปุ่น รวมถึงชมธรรมชาติรอบๆ หมู่บ้านที่สวยงามมากๆ โดยเฉพาะช่วงใบไม้เปลี่ยนสีที่วิวสวยสุดๆ
ช่วงเวลาชมใบไม้เปลี่ยนสี : ปลายเดือนตุลาคม – ต้นเดือนพฤศจิกายน
การเดินทาง : นั่งรถไฟจาก Tochigi ไปสถานีปลายทาง Yunokami Onsen ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 1 ชม. 30 นาที โดยเริ่มจากสถานี Kinugawa-Onsen แล้วนั่งรถไฟสาย Tobu ไปยังสถานี Aizukogen-Ozeguchi จากนั้นนั่งรถไฟสาย Aizu ไปสถานีปลายทาง Yunokami Onsen แล้วนั่งรถแท็กซี่ประมาณ 15 นาที หรือเดินประมาณ 25 นาที
พิกัด : https://goo.gl/maps/sTSLZ1Bbam1eCDQd9
4. เมืองนิกโก (Nikko) – จ.โทจิงิ
เมืองนิกโก อีกหนึ่งเมืองที่เราสามารถไปชม ใบไม้เปลี่ยนสี ญี่ปุ่น ได้ทั่วทั้งเมือง เพราะมีจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงามอยู่หลายจุดด้วยกัน อย่างเช่น สะพานชินเคียว (Shinkyo Bridge) สะพานไม้สีแดงที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของเมืองนิกโก, ถนนอิโรฮาซากะ (Irohazaka) ท่ามกลางหุบเขา ที่สามารถชมใบไม้เปลี่ยนสีได้เต็มตา, นั่งกระเช้าอะเคจิไดระ (Akechidaira Ropeway) ขึ้นไปชมวิวสุดอลังการทั้งใบไม้เปลี่ยนสี ภูเขา Nantaisan ทะเลสาบ Chuzenjiko และน้ำตก Kegon ได้ทั้งหมดในจุดเดียว, น้ำตกริวซู (Ryuzu Waterfall) ชมบรรยากาศน้ำตกท่ามกลางใบไม้เปลี่ยนสี รวมถึง คันมันกาฟุจิ (Kanmangafuchi Abyss) ทางเดินชมใบไม้เปลี่ยนสีที่มีพระพุทธรูปเรียงรายกว่า 70 องค์ เป็นต้น
ช่วงเวลาชมใบไม้เปลี่ยนสี : ต้นเดือนตุลาคม – ต้นเดือนพฤศจิกายน
การเดินทาง : ขึ้นรถไฟสาย Tobu จากสถานี Asakusa ไปเปลี่ยนรถไฟที่สถานี Shimo-Imaichi จากนั้นไปลงที่สถานี Tobu-Nikko ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
พิกัด : https://goo.gl/maps/eCdAxsuTgzdWvZBe7
5. ทะเลสาบคาวากุจิโกะ (Kawaguchiko) – จ.ยามานาชิ
ใครอยากชม ใบไม้เปลี่ยนสี ญี่ปุ่น แบบที่มีภูเขาไฟฟูจิเป็นฉากหลัง ต้องมาที่ ทะเลสาบคาวากุจิโกะ จังหวัดยามานาชิ นับเป็นอีกหนึ่งจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น ซึ่งบริเวณนี้จะมีการจัดเทศกาลใบไม้เปลี่ยนสีตลอดเดือนพฤศจิกายน โดยมีร้านค้าขายสินค้าพื้นเมือง งานฝีมือ รวมทั้งอาหารท้องถิ่นมากมาย จัดอยู่ฝั่งทิศเหนือของทะเลสาบคาวากุจิโกะ แถมยังมีการประดับไฟต้นเมเปิ้ลในตอนกลางคืนด้วย
นอกจากจะมีจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีตลอดริมทะเลสาบแล้ว ยังมีอีกจุดหนึ่งที่พี่เห็ดอยากแนะนำ ก็คือ อุโมงค์ใบเมเปิ้ล โมมิจิ ไคโร (Momijo Kairo) เป็นถนนเลียบคลองสายเล็กๆ ที่มีต้นเมเปิ้ลญี่ปุ่นเรียงรายตลอดสองข้างทางจนดูเหมือนอุโมงค์ โดยเดินเลาะไปตามริมทะเลสาบเรื่อยๆ ก็จะเจอกับอุโมงค์โมมิจิแห่งนี้ เป็นจุดท่องเที่ยวยอดฮิตในฤดูนี้เลยค่ะ
ช่วงเวลาชมใบไม้เปลี่ยนสี : ปลายเดือนตุลาคม – ปลายเดือนพฤศจิกายน
การเดินทาง : เดินทางโดยรถบัสจะสะดวกที่สุด รถบัสออกจากจากสถานีชินจูกุ หรือสถานีชิบุย่า ไปยังทะเลสาบคาวากุจิโกะ ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง
พิกัด : https://goo.gl/maps/e9woio6u4ZvPKJV96
6. สวนเมจิจิงงู ไกเอ็น (Meiji Jingu Gaien) – โตเกียว
ในเมืองหลวงอย่าง กรุงโตเกียว ก็มีจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีสวยๆ เช่นกัน แนะนำที่ สวนเมจิจิงงู ไกเอ็น สวนขนาดใหญ่ใจกลางกรุง ภายในพื้นที่เต็มไปด้วยต้นแปะก๊วย ที่พอถึงช่วงฤดูใบไม้ร่วงก็จะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทอง เรียงรายตลอดสองข้างทาง ทั้งทางเดินและถนนในสวน บรรยากาศสวยงามโรแมนติกมากๆ
ช่วงเวลาชมใบไม้เปลี่ยนสี : กลางเดือนพฤศจิกายน – ต้นเดือนธันวาคม
การเดินทาง : เดิน 5 นาทีจากสถานีรถไฟ JR Shinanomachi หรือ สถานีรถไฟใต้ดิน Gaiemmae และ Aoyama-itchome
พิกัด : https://goo.gl/maps/oLzA2F5u2y1AGtfE6
7. หมู่บ้านชิราคาวาโกะ (Shirakawa-go) – จ.กิฟุ
ถ้าพูดถึง หมู่บ้านชิราคาวาโกะ หลายคนอาจจะคุ้นเคยกับภาพหมู่บ้านสวยๆ ที่ปกคลุมไปด้วยหิมะหนาๆ ซึ่งในฤดูหนาวก็นับเป็นไฮไลท์ของการเที่ยวที่หมู่บ้านแห่งนี้เลยค่ะ แต่พี่เห็ดขอบอกเลยว่า ช่วงฤดูใบไม้ร่วงก็น่าเที่ยวไม่แพ้กัน ทั้งในหมู่บ้านและพื้นที่ภูเขาโดยรอบจะแต่งแต้มไปด้วยสีส้มเหลือง เป็นวิวที่สวยงามไปอีกแบบ
โดยใบไม้เปลี่ยนสีที่นี่จะเริ่มต้นในช่วงเดือนตุลาคมถึงพฤศจิกายน และถ้าหากมา ทัวร์ญี่ปุ่น ในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนถึงต้นธันวาคม ก็จะได้เห็นทั้งใบไม้เปลี่ยนสีที่ยังคงหลงเหลือพร้อมกับหิมะที่โปรยปรายลงมา สวยงามราวกับหมู่บ้านในนิทาน หากมีโอกาสได้ไปหมู่บ้านชิราคาวาโกะ ก็อย่าลืมไปถ่ายรูปบนจุดชมวิว Shiroyama View Point หรือ Ogimachi Castle Tower ที่สามารถมองเห็นวิวทั่วทั้งหมู่บ้านได้จากมุมสูงด้วยนะคะ
ช่วงเวลาชมใบไม้เปลี่ยนสี : ปลายเดือนตุลาคม – กลางเดือนพฤศจิกายน
การเดินทาง : สามารถเดินทางด้วยรถโดยสารสาธารณะ โดยเริ่มจากโตเกียวมุ่งหน้าสู่ทาคายามะ แล้วต่อรถบัสไปยังชิราคาวาโกะ
พิกัด : https://goo.gl/maps/Qsmob6CTfzsB1aya6
8. คามิโคจิ (Kamikochi) – จ.นากาโนะ
อีกหนึ่งที่เที่ยวธรรมชาติในญี่ปุ่นที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ก็คือ คามิโคจิ จุดชมวิวเทือกเขาเจแปนแอลป์สุดอลังการ พื้นที่นี้เป็นส่วนหนึ่งของ อุทยานแห่งชาติชูบุซังกาคุ (Chubu Sangaku National Park) ในจังหวัดนากาโนะ อยู่บนพื้นที่สูงประมาณ 1,500 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล อุดมสมบูรณ์ไปด้วยธรรมชาติ ทั้งแม่น้ำ ป่าไม้ และล้อมรอบด้วยภูเขา ทำให้อากาศหนาวเย็น บอกเลยว่าวิวสวยบรรยากาศดีงามมากๆ สำหรับฤดูใบไม้ร่วงในโซนนี้จะเริ่มตั้งแต่กลางเดือนกันยายน ซึ่งช่วงเวลาแนะนำสำหรับการชมใบไม้เปลี่ยนสีจะอยู่ในช่วงเดือนตุลาคมค่ะ
ช่วงเวลาชมใบไม้เปลี่ยนสี : กลางเดือน – ปลายเดือนตุลาคม
การเดินทาง : จากโตเกียว ขึ้นรถไฟด่วนพิเศษอาซึสะ (Azusa) ที่สถานีชินจูกุ ไปลงที่ สถานีมัตสึโมโตะ (Matsumoto Station) ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 40 นาที จากนั้นต่อรถบัสอีกประมาณ 1 ชั่วโมง 50 นาที
พิกัด : https://goo.gl/maps/aAhkmrDrjwMUjG5t9
9. เมืองโอบาระ (Obara) – จ.ไอจิ
ไปเที่ยว ใบไม้เปลี่ยนสี ญี่ปุ่น พร้อมชมซากุระกันค่ะ! ความพิเศษแบบนี้หาชมได้ที่ เมืองโอบาระ จังหวัดไอจิ ที่เราสามารถชมใบไม้เปลี่ยนสีและดอกซากุระได้พร้อมกัน อย่างที่ทราบกันว่าดอกซากุระจะบานในช่วงฤดูใบไม้ผลิ หรือประมาณปลายเดือนมีนาคม แต่ที่เมืองโอบาระแห่งนี้ มีซากุระสายพันธุ์ ชิกิ ซากุระ (Shikizakura) ที่เป็นดอกเล็กๆ น่ารัก ซึ่งพิเศษกว่าสายพันธุ์อื่นตรงที่จะบานปีละ 2 ครั้ง คือ ช่วงฤดูใบไม้ผลิ และฤดูใบไม้ร่วง ในช่วงเดือนพฤศจิกายนนั่นเอง
โดยเราสามารถเที่ยวเมืองโอบาระแบบ one day trip จากเมืองนาโกย่าได้ แนะนำให้เที่ยวจากจุดที่ไกลที่สุดก่อนคือ Senmi Shikizakura no sato ซึ่งเป็นจุดสุดสายของรถบัส แล้วเดินต่ออีกประมาณ 1 กม. ที่นี่นับว่าเป็นไฮไลท์ของเมืองโอบาระ ภูเขาเกือบทั้งลูกจะเต็มไปด้วยดอกซากุระบานสะพรั่ง สลับกับป่าของใบไม้เปลี่ยนสี ซึ่งถ้าเราไปในช่วงที่ดอกซากุระบานเต็มที่ ก็จะมีการจัด เทศกาลชมดอกซากุระ Obara Shikizakura Matsuri มีการแสดง การออกร้านอาหารพื้นเมือง และร้านขายของที่ระลึกให้ได้เดินเที่ยวกันด้วย
ช่วงเวลาชมใบไม้เปลี่ยนสี : กลางเดือน – ปลายเดือนพฤศจิกายน
การเดินทาง : จากสถานีรถไฟนาโกย่า นั่งรถไฟต่อไปลงสถานี Toyota-shi แล้วต่อรถบัส Toyota Oiden สาย Obara-Toyota
พิกัด : https://goo.gl/maps/ZLCnJEssr2vGNCTG8
10. หุบเขาโครังเค (Korankei) – จ.ไอจิ
อีกหนึ่งสถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงามจุใจที่สุดก็คือ หุบเขาโครังเค ที่อยู่ติดกับภูเขาอิอิโมริ (Mount Iimori) ใกล้เมืองนาโกย่า ในจังหวัดไอจิ ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยที่สุดในภูมิภาคชูบุเลยทีเดียว และที่นี่ยังเป็นที่ตั้งของ วัดโคจาคุจิ (Kojakuji Temple) ที่รอบวัดเต็มไปด้วยต้นเมเปิ้ลกว่า 4,000 ต้น พอถึงช่วงใบไม้เปลี่ยนสีก็จะกลายเป็นสีแสงสด สลับกับสีส้ม เหลือง น้ำตาล และเขียว บอกเลยว่าสวยงามมาก ส่วนจุดถ่ายรูปยอดนิยมจะอยู่ที่ สะพานไทเกะสึเคียว (Taigetsukyo Bridge) สะพานไม้สีแดงข้ามแม่น้ำโทโมเอะ (Tomoe River) เรียกได้ว่าเป็นจุดแลนด์มาร์กที่ใครมาก็ต้องไม่พลาดเลยค่ะ ตรงนี้ถ่ายรูปสวยมากจริงๆ
ช่วงเวลาชมใบไม้เปลี่ยนสี : กลางเดือนพฤศจิกายน – ต้นเดือนธันวาคม
การเดินทาง : จากสถานีรถไฟนาโกย่า (Nagoya Station) ขึ้นรถไฟสาย Meitetsu Nagoya Line ไปลงที่สถานี Higashi Okazaki Station แล้วต่อรถบัสสาย Meitetsu Bus ไปยัง Korankei การเดินทางจากใช้เวลาค่อนข้างนาน
พิกัด : https://goo.gl/maps/ciMj74gY3SryBohv9
11. วัดคิโยมิซุ (Kiyomizu-dera) – จ.เกียวโต
วัดคิโยมิซุ หรือที่คนไทยรู้จักในชื่อ วัดน้ำใส เป็นวัดที่มีสถาปัตยกรรมโบราณอันสวยงาม และได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก ที่มาของชื่อวัดน้ำใสมาจากการที่วัดแห่งนี้มีน้ำที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติจากน้ำตกโอโตวะไหลผ่านตัววัด ซึ่งที่นี่ก็เป็นสถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในจังหวัดเกียวโต โดยเฉพาะด้านบนโถงของอาคารไม้ขนาดใหญ่ สูง 13 เมตร จากจุดนี้จะมองเห็นวิวเมืองเกียวโตและใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงามสุดๆ
มาถึงวัดคิโยมิซุแล้ว ต้องไม่พลาดไปต่อคิวดื่มน้ำบริสุทธิ์ที่ไหลผ่านวัดกันด้วยนะ นอกจากนี้บริเวณทางเข้าวัดก็ยังเป็นแหล่งรวมสินค้าพื้นเมืองและขนมอร่อยๆ มากมาย ช่วงใบไม้เปลี่ยนสีคนจะเยอะมาก เผื่อเวลาเที่ยวกันดีๆ ใครอยากไปแบบคนน้อยๆ แนะนำว่าให้ไปตั้งแต่เช้าเลยค่ะ
ช่วงเวลาชมใบไม้เปลี่ยนสี : กลางเดือนพฤศจิกายน – ต้นเดือนธันวาคม
การเดินทาง : จากสถานีรถไฟ Kiyomizu-Gojo เดินต่อประมาณ 20 นาที
พิกัด : https://goo.gl/maps/ZnoJ7crLPTZ3CNk97
12. อาราชิยามะ (Arashiyama) – จ.เกียวโต
ต่อกันที่อีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวแนะนำในการชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ญี่ปุ่นก็คือ อาราชิยามะ เป็นพื้นที่ทางชานเมืองในจังหวัดเกียวโตที่มีจุดท่องเที่ยวธรรมชาติมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ป่าไผ่ (Arashiyama Bamboo Groves), วัดเทนริวจิ (Tenryuji Temple) แต่ถ้ามาเที่ยวช่วงใบไม้เปลี่ยนสีแนะนำให้ไป นั่งรถไฟชมวิวซากาโน่ (Sagano Scenic Train) หรือรถไฟสายโรแมนติก ที่เริ่มจากอาราชิยามะ ไปถึง คาเมโอกะ ในระยะทางประมาณ 7 กิโมเมตร ตลอดเส้นทางก็จะได้ชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยโรแมนติกสมชื่อ ใช้เวลาประมาณ 25 นาที นอกจากนี้ก็ยังมีจุดถ่ายรูปที่วิวสวยมากๆ ก็คือ สะพานโทเก็ตสึเคียว (Togetsukyo Bridge) สะพานไม้เก่าแก่จากยุคเฮอัน มีภูเขาอาราชิยามะเป็นฉากหลัง สายถ่ายรูปต้องไม่พลาดนะคะ
ช่วงเวลาชมใบไม้เปลี่ยนสี : กลางเดือนพฤศจิกายน – ต้นเดือนธันวาคม
การเดินทาง : จากสถานีเกียวโต (Kyoto Station) มาลงที่สถานี Saga-Arashiyama เพื่อนั่งรถไฟสาย JR Sagano
พิกัด : https://goo.gl/maps/Ec9QU2MJ4atA5gz58
13. ปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle) – จ.โอซาก้า
ปักหมุดที่เที่ยว ใบไม้เปลี่ยนสี ญี่ปุ่น ที่พี่เห็ดไม่อยากให้พลาด ก็คือ ปราสาทโอซาก้า พอเข้าช่วงฤดูใบไม้ร่วง บริเวณสวนสาธารณะขนาดใหญ่รอบปราสาทโอซาก้า ซึ่งเปรียบเสมือนโอเอซิสใจกลางเมืองนี้ ก็จะเต็มไปด้วยใบไม้หลากสีสันและต้นแปะก๊วยสีเหลืองอร่าม ทำให้ที่นี่กลายเป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ได้รับความนิยมเป็นอันต้นๆ ของญี่ปุ่นเลยล่ะค่ะ ใครที่มีแพลน ทัวร์ญี่ปุ่น ไปเยือนโอซาก้าช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ห้ามพลาดเลยนะคะ
ช่วงเวลาชมใบไม้เปลี่ยนสี : กลางเดือนพฤศจิกายน – ต้นเดือนธันวาคม
การเดินทาง : จากสถานีรถไฟโอซาก้าโจโคเอ็น ต่อรถแท็กซี่ประมาณ 4 นาที หรือเดินประมาณ 16 นาที
พิกัด : https://goo.gl/maps/gp44YT1RQ5EX1AcU8
14. ทะเลสาบคินริน (Kinrin Lake) – จ.โออิตะ
ไปชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีในแถบคิวชูกันบ้าง พี่เห็ดแนะนำที่ ทะเลสาบคินริน แห่งจังหวัดโออิตะ ทะเลสาบเล็กๆ ในเมืองยุฟุอิน ซึ่งน้ำในทะเลสาบแห่งนี้ไหลมาจากแหล่งน้ำพุร้อนในเมือง ทำให้น้ำในสระมีความอุ่นอยู่ตลอดเวลา แถมยังโอบล้อมด้วยวิวภูเขา พอถึงฤดูใบไม้ร่วงบรรยากาศก็จะเต็มไปด้วยใบไม้เปลี่ยนสีที่ทั้งชิลและโรแมนติก ในตอนเช้าบนผิวน้ำของทะเลสาบจะมีไอน้ำและหมอกลอยขึ้นมา บอกเลยว่าฟินมาก มาเดินเล่นกันได้เพลินๆ เลยจ้า
ช่วงเวลาชมใบไม้เปลี่ยนสี : กลางเดือนพฤศจิกายน – ต้นเดือนธันวาคม
การเดินทาง : จากสถานีรถไฟโออิตะ ขึ้นรถไฟสาย Yufu 6 Limited Express Hakata ไปลงที่สถานี Yufuin Station แล้วเดินต่อประมาณ 1.5 กิโลเมตรไปยังทะเลสาบคินริน
พิกัด : https://goo.gl/maps/uyREu3aNGQ6dit4c9
15. สะพานแขวนโคโคโนเอะ ยูเมะ (Kokonoe Yume Suspension Bridge) – จ.โออิตะ
ใครไม่กลัวความสูงต้องไปที่ สะพานแขวนโคโคโนเอะ ยูเมะ แห่งจังหวัดโออิตะ เป็นสะพานแขวนสำหรับคนเดินที่มีความยาวและสูงที่สุดในญี่ปุ่น ความยาว 375 เมตร และสูง 173 เมตร พาดผ่านช่องเขาที่ล้อมรอบด้วยป่าไม้ ช่วงใบไม้เปลี่ยนสีคือสวยมาก แถมยังมองเห็นน้ำตกขนาดใหญ่ 2 แห่ง ใครอยากชมวิวธรรมชาติสุดอลังการและเหมือนได้ลอยอยู่บนอากาศต้องมาที่นี่เลยค่ะ
ช่วงเวลาชมใบไม้เปลี่ยนสี : กลางเดือนพฤศจิกายน – ต้นเดือนธันวาคม
การเดินทาง : จากสถานี Bungo Nakamura รถไฟ JR สาย Kyudai Main line ขึ้นรถบัสฮิตะสายที่ไป Kuju Tozan-guchi ลงที่ป้าย Otsruhashi-Nakamuraguchi ใช้เวลาเดินทาง 24 นาที
พิกัด : https://goo.gl/maps/E7hCreAUwvQT46dJ6
ช่วงใบไม้เปลี่ยนสีที่ญี่ปุ่น เป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาแห่งความสวยงามโรแมนติกที่ควรค่าแก่การไปเยือน ทั้งบรรยากาศธรรมชาติของป่าไม้ที่เปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีแดง ส้ม เหลือง สลับกันไป แถมอากาศก็เย็นสบาย เหมาะกับการท่องเที่ยวทั้งคนที่ชอบธรรมชาติและสายถ่ายรูป พี่เห็ดบอกเลยว่าถ้าได้ไปเที่ยวแล้วจะหลงรักฤดูนี้ ต้องไปให้ได้สักครั้งนะคะ