Guest ของ มัชรูมทราเวล วันนี้ เป็นชายหนุ่ม ที่เค้ามักจะบอกกับใครๆ ว่าโงอิ้ง (ภาษาอังกฤษ) แต่ก็สามารถเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศคนเดียวได้แบบสบายๆ หลังจากตอนที่แล้ว ที่เค้าพาเราเตรียมตัว Backpack สำหรับการเดินทางไปเที่ยว 7 เมือง 2 ประเทศ โดยไม่ต้องนั่งเครื่องบิน ในครั้งนี้ก็จะเป็นพาร์ทของการเที่ยวแล้วล่ะค่ะ ไปติดตามกันเล้ยยยย
Backpack โดยไม่นั่งเครื่อง 7 เมือง 2 ประเทศ Malay/Singapore ตอนที่ 2
สวัสดี.. ปีนังที่รัก
ภาพ Penang bridge จากเรือสำราญ เอ้ย เรือ Ferry (รุ่นโบราณ) ข้ามฝากของเราครับ
มาทำความรู้จักกันซักหน่อย เมืองแห่งนี้เมื่อเราข้ามเมืองมาปุ๊บ เราจะเจอสายรถเมล์โคตรเยอะ รอรับเราไปในที่ต่างๆ หลักๆ ของการมาเที่ยวปีนัง สาวๆ ส่วนใหญ่จะมาถ่ายรูป Street Art ที่ฝังอยู่มากมายในเมืองนี้ โดยจะมีแผนที่ (ไม่ได้ถ่ายมา) ที่บอกพิกัดรูปต่างๆ จากแผนที่ขวาสุดคือท่าเรือ Ferryครับ Love land คือจุดกึ่งกลางของ Street Art สวยๆ ส่วนตึก Komtar อยู่บริเวณล่างซ้าย ทั้งสามจุดเดินถึงกันได้ครับ ระยะทาง 1-2 km
สิ่งแรกที่ผมทำคือเก็บของเข้าที่พัก แล้วเดินไปใต้ตึก Komtar จัดการซื้อ Sim ที่มี Data เพียงพอจะใช้ในช่วงที่อยู่มาเลเซีย แล้วจองตั๋วรถเพื่อเดินทางไป Cameron Highland ในวันรุ่งขึ้นครับ ข้อมูลส่วนนี้ไม่แจงนะครับเดินดูได้เลยเยอะมากครับ 555+ เมืองฮิปๆ ที่บางทีคนแบบผมก็ไม่ค่อยเข้าใจ แต่มาแล้วก็เดินถ่ายมันหน่อย
๐ ร้านลอดช่องในตำนาน @ Penang
ผมเดินเก็บภาพมาได้ชุดนึง ก็ได้เวลาหาที่คลายร้อนด้วยลอดช่องเจ้าดัง พิกัดหรอ Google map ฮะ พิมพ์ไป “Penang Road famous teochew chendul ice kachang” รับรองขึ้นมาแน่นอน แปะภาพลอดช่องไรว้าคนเยอะชิบ
๐ Gurney Drive @ penang
การเดินทาง :: ผมใช้การเดินทางด้วยรถสาย 101 นะครับ จะขึ้นที่ท่าเรือ หรือมารอขึ้นรถที่ Komtar ก็ได้ครับ ค่าโดยสาร 1.4RM ครับ รถวิ่งตรง ให้ลงหน้า Gurney Plaza แล้วเดินทะลุห้างไปออกด้านหลัง แล้วเดินไปทางซ้ายนะครับ จริงๆ ที่นี่บรรยากาศมันก็คล้ายๆ ศูนย์อาหาร Outdoor ต่างจังหวัดบ้านเราเลยล่ะ ผมกินหลายเมนู เน้นอย่างละนิดอย่างละหน่อย รึเปล่าา…
การเดินทางกลับ :: จากจุดลงรถมันเป็น one-way นะครับ รอกลับตรงนั้นไม่ได้ ให้เราเดินมาพิกัดนี้ครับ (จุดที่ปักแดง) แล้วรอรถที่ป้ายนี้แทน จะนั่ง 101กลับ หรือจะนั่งรถที่ผ่าน Komtar แล้วมาเปลี่ยนสายรถก็ Up to you เลยครับ
๐ Leong Kee Tim Sum Restaurant
ตื่นเช้าตบด้วยติ่มซำร้านนี้ครับ รสชาติเรียกว่าอร่อยเลยแหละ ยังไงแนะนำให้ละกันครับ พิกัดตามชื่อร้านเลย Google map รู้จักทุกสิ่งบนโลก 555+
ผมไม่ได้เดินทางไปพวก Penang Hill นะครับ เพราะผมเป็นนักเดินทางสายประหยัด เอ้ยไม่ใช่ เค้าบอกหมอกลงหนักมากและเวลาผมก็มีไม่เยอะครับ = = หลังจากอิ่มจากติ่มซำแล้ว เดินอ้อร้อถ่ายรูป Art เพิ่มเติม แวะกินลอดช่องร้านเดิมซ้ำ ก็กลับไปเอากระเป๋า Check-Out แล้วไปรอรถเดินทางไป Episode ที่ 2 ของทริปครับ “Cameron Highland”
กล่าวถึงที่พักนิดนึง ผมพักที่ “Old Penang Guest house” พิกัดดีอยู่บริเวณ Love Land ที่พักก็ดีครับ สบายถือว่าผ่านสำหรับผม บอกเล่าเก้าสิบนิดนึง ของผมซื้อตั๋วที่ Komtar แต่จุดขึ้นรถจริงๆ จะอยู่ที่ Bus Terminal ทางใต้ของเกาะ Penang นะครับ โดยร้านขายตั๋วจะนัดเรามา แล้วจะมีรถรับไปส่งที่ Bus Terminal อีกทีนึงครับ เรื่องมีอยู่ว่า พอมาถึงKomtar เค้าก็เขียนเลขทะเบียนรถลงในกระดาษที่จองตั๋ว ชี้ไปที่รถทัวร์คันนึง แล้วบอกผมว่า “they are go to Cameron, you follow them.” แล้วก็เดินไป อ้าว!! 555+ ผมก็ขึ้นรถมาแบบงงๆ นั่งซักพักรถก็พาเรามาส่ง Bus Terminal ผมก็ถามคนแถวนั้นหาเพื่อนๆ ที่ไป Cameron เหมือนเรา และก็เจอพี่คนไทยกลุ่มโต ในที่สุดเราก็มีเพื่อน ฮรี่ๆ
เรานั่งรอรถอยู่นานมากเป็น ชั่วโมงเหมือนรถจะเสียเวลา สภาพอากาศก็ไม่ดีฝนตกตลอดเวลา บ๊ายบาย ปีนัง See ya… ลาด้วยภาพกลุ่มพี่ๆ เพื่อนใหม่ที่เจอและเที่ยวด้วยกันที่นี่ 555+ สองวันหนึ่งคืนเอง
—Next Station ‘Cameron Highland’—
นั่งรถตูดชา วนขึ้นวนหลงเมารถนับครั้งไม่ถ้วน เรามาทำความรู้จัก Cameron HL กันซักนิดนะครับ ที่นี่มีที่พักที่นิยมสองจุดหลักๆ คือ Tanah Rata กับ Brinchang เจ้า Brinchang เป็นที่พักออกแนวย่านเจริญแสงสีเสียง ส่วน Tanah Rataเนี่ยเป็นสวรรค์ของเหล่า Backpackerครับ ที่พักส่วนใหญ่จะราคาไม่แพงครับ รถที่วิ่งมาจาก Penang จะวิ่งมาจากฝั่งบนผ่าน Brinchang ก่อนครับ แล้วจะมาจอดที่ Tanah Rata สุดปลายทาง Landmark สำคัญของที่นี่คือ Boh Plantations Sdn. Bhd ที่เราผ่านมาตอนขาเข้า Cameron HL เนี่ยแหละ
ผมมาถึง Cameron HL เย็นมาก เก็บของทุกอย่างเสร็จก็ออกมาหา Stream Boat กิน พอดีระหว่างทางมาได้รู้จักกับพี่อีกสองคนเลยได้ Party กิน Stream พอดีฮ่าๆ
๐Stream Boat
อาหารขึ้นชื่อของที่นี่ พูดบ้านๆ มันคือ ชาบูแบบไม่บุฟเฟ่ต์บ้านเรานั่นเองครับ ปกติได้ข่าวมาว่า ถ้ามาคนเดียวอาจจะไม่ได้นะครับ ต้องสองคนขึ้นไป
ร้านที่ผมเลือกกินคือ Restoran May Flower ครับพิกัดคงหาไม่ยาก อยู่บริเวณ May Bank สีเหลืองๆ
๐วิธีการเที่ยวบน Cameron Highland
เรามาพูดถึงวิธีการเที่ยวบน Cameron เพื่อไปให้ถึงดวงดาวกันดีกว่าครับ การเที่ยวที่นี่นั้นมีหลากหลายวิธีครับ
- การซื้อทัวร์ ข้อมูลด้านนี้ผมไม่ทราบเท่าไหร่ แต่มีทัวร์ขายอยู่เต็มไปโหม๊ด แต่หมวดนี้ไม่แนะนำสำหรับคนชอบถ่ายรูปเท่าไหร่ เพราะเราไม่สามารถ Control อะไรได้เลย เช่นระยะเวลา แต่ๆๆ มันก็มีทัวร์ที่ไปดูพระอาทิตย์ขึ้นได้ด้วย แต่ราคาก็จะบวกขึ้นไปอีก
- เช่ารถจักรยานยนต์ที่ร้าน TJ Tourist Information ราคาค่อนข้างแพงครับ รู้สึก 3 ชั่วโมงขึ้นไป 35RM จริงๆ วิธีนี้แนะนำเหมือนกัน แต่ทางขับค่อนข้างไกล มันไม่ได้ขับยากครับ แต่ทางมันไกล แต่ว่าล่าสุดผมไปถาม เค้าไม่อนุญาตให้ขับเข้าไปในเขตไร่ชาครับ
- เหมารถ Taxi วิธีนี้ค่อนข้างจะเวิร์คที่สุด แต่เป็นอุปสรรค์สำหรับคนโสด เอ้ย คนโฉด เอ้ย คนที่ไปคนเดียว เพราะค่าใช้จ่ายมันค่อนข้างแพง จับกลุ่มกันให้ได้ซัก 3 คนขึ้นไป แล้วเดินเข้าไปหา Taxi ซักคันมาถามราคา รายละเอียดส่วนนี้ผมไม่ลงนะครับ
แต่ผมจะแนะนำให้ถ้าไปคนเดียว และไม่ชอบถ่ายภาพคือไม่เน้น ก็ไปซื้อทัวร์ซะครับ สอบถามจากที่พักก็ได้ครับ แต่!! ถ้าคุณชอบถ่ายภาพ แนะนำให้เลือกวิธีที่ 3 ครับ โดยทำยังไงก็ได้ ให้มีเพื่อนอีก 2 คนครับ ง่ายแมะ 555 แล้วไปติดต่อรถ Taxi สอบถามราคา แล้วบอกเค้าด้วยนะครับว่าต้องการไปถ่ายภาพพระอาทิตย์ขึ้น นัดเวลาเค้าให้พร้อม ถ้าเลือกวิธีนี้ราคาจะตกคนละ 50RM โดยประมาณครับ แพงมากก แต่ก็จำเป็น
๐เช้านี้ที่ ไร่ชา …
พวกผมนัด Taxi มารับ 6 โมงเช้า (ตี5เมืองไทย) เพื่อไปให้ถึงไร่ชาและเก็บภาพพระอาทิตย์ขึ้นทัน เราตัดสินใจไม่แวะไหนเลยครับ เพราะมันไม่ใช่ Highlight ทั้งฟาร์มผึ้ง หรือสวนสตรอว์เบอร์รี่ที่ดอยอ่างข่างยังสวยกว่า 555+ เอาภาพไปดูเลยละกัน
เอ้ยถึงที่พักนิดนึง ผมพัก Father’s Guest house ที่พักถือว่าผ่านครับ แต่ถ้ามานอน Dorm แล้ว Walk-in ถ้าเกิดมาหลายคนมีโอกาสที่จะเต็มครับ แต่ถ้ามาคนเดียวก็เดินเข้ามาถามได้เลยครับ ส่วนตัวแล้วพอใจมากครับ
บริเวณไร่ชามีร้านชาให้นั่งชิคๆ แต่พวกผมไม่ได้เข้าไปถือว่าน่าเสียดายมาก เวลาไม่พอ มีโอกาส อาจจะ Return กลับไปอีกแน่นอน ** เพิ่มเติมนิดนึงครับ จริงๆ แล้ว Highlight Cameron อยู่บริเวณใกล้ๆ กันทั้งหมด บอกไว้เผื่อคนวางแพลนมาเที่ยวจะได้ทราบ
๐Char Kway Teow & BOH Tea @ Restoran Ferm Nyonya SDN BHD
เมนูนี้ผมชอบสุดๆ ที่ชา ชาร้อนร้านนี้อร่อยมากๆ ประทับใจฝุดๆ ครับ มีเวลาลองแวะไปกินครับ ส่วนชาก๋วยเตี๋ยวผมเฉยๆ ฮะ
๐ Cameron Highland Bus Terminal
ได้เวลาโบกมือลา Cameron มุ่งสู่ KL เมืองหลวงใจกลางมาเลเซียฝั่งตะวันตก ผมวางแผนออกจาก Cameron ช่วงเช้าเลยครับ ประมาณ 9.30 น. เพื่อให้ถึง KL เที่ยงๆ บ่ายๆ จะได้มีเวลาไปเดินเที่ยวที่ Putrajaya หรือเมืองใหม่ที่อยู่ไปทางใต้ของ KL ภาพบรรยากาศบริเวณจุดขึ้นรถครับ
** ประสบการณ์เสริม ผมจองตั๋วรถ Cameron –> KL มาจากเว็บแล้วลืม มาซื้อตั๋วซ้อนที่นี่ เลยขอ Refund คืนเจ้าหน้าที่บอกไม่ได้แล้ว แต่เค้าใจดีฝากขายต่อให้ เลยได้เงิน 30RM กลับมา (ให้ค่าน้ำใจเค้า 5RM) = = ประทับใจจริงๆ ครับ
—“Kuala Lumpur” Capital of Malaysia—
ออกตัวก่อนว่า ผมมีเวลาอยู่ที่ KL แค่คืนเดียว ผมเลยตั้งเป้าหมายไว้ชัดเจนว่า สิ่งที่อยากจะทำคือการถ่ายรูป Petronas Twin Towers กับ Musjid ที่เมืองแห่งใหม่นามว่า Putrajaya นอกนั้นแล้วผมถือเป็นโบนัสครับ มาถึงก็ซื้อตั๋วรถไป Malacca ทิ้งเอาไว้ด้วยนะครับ
ตลอดเวลาที่ผมอยู่ที่ KL 1 วัน 70% ของการเดินทางผมเจอฝนทั้งหมดเลย เสียใจมากๆ มาเข้าเรื่องกันครับ ผมมาถึง KL จาก Cameron HL เวลาประมาณบ่ายโมงครับ โดยรถทัวร์จะส่งเราที่ TBS ผมเลยตัดสินใจแบกเป้หนักๆ ไปลุย Putrajaya ก่อนแล้วค่อยวกกลับเข้า KL (ยอมหนัก แต่ประหยัดเวลา) จากแผนที่จะเป็นดังภาพครับ จะเห็นว่าถ้าเข้า KL ก่อนเราต้องนั่งย้อนกลับมาไกลพอสมควร ผมเลยไป Putrajaya ก่อน
๐ Putrajaya @ KL
การเดินทาง :: การมาที่ Putrajaya ให้เราต่อรถไฟฟ้าสาย KLIA Line จาก TBS มาได้เลยครับ ค่าใช้จ่ายประมาณ 8RMครับ รถไฟฟ้าสายนี้จะนานๆ มาทีนึงครับ การซื้อตั๋วเหมือนบ้านเราทุกประการ จะหยอดตู้ หรือซื้อที่ Counter จำหน่ายตั๋วก็ได้ครับ รถไฟสายนี้วิ่งเร็วมาก (เป็นรถไฟฟ้าสายระยะไกล) จาก TBS ไป Putrajaya ใช้เวลาไม่นานครับ สถานีที่เราจะต้องลงก็ชื่อเดียวกับเมืองที่ไปเลยครับ Platform ต่างๆ ไม่ยากครับดูป้ายเอา
พอถึงแล้วให้เราเดินหาจุดจอด Bus ซึ่งจะมีป้ายบอก ผมแวะซื้อของรองท้องที่นี่ครับเล็กๆ น้อย หลังจากลงไปบริเวณจุดจอด Bus แล้วให้สอบถามเค้าเรื่องสายรถครับ ถามง่ายๆ ก็ได้ “Masjid Putra” What bus number? ก็ได้ครับ รถจะมาจอดถึงที่เลย จ่ายตังหน้าลงหลังเหมือนเดิม
*ในรีวิวเก่าๆ จะมีบอกสายรถอยู่ซึ่งตอนนี้ยุบไปแล้วนะครับ ผมไปไม่มีสายรถนั้นแล้ว ตลอดเส้นทางจะมีวิวสวยๆ ตลอดเวลา พอข้ามสะพานจะมองเห็น Landmark ที่เราต้องการไป ขากลับผมเลยแอบคิดไว้ว่า ผมจะเดินกลับ 2 กิโลกว่าเพื่อเก็บภาพระหว่างทางครับ 55+
ตลอดการเดินทางฟ้าฝนไม่เป็นใจเลย ผมมาถึง Masjid Putra ฝนก็เทลงมาอย่างหนัก เลยแวะหาไรรองท้องรอฝนหยุดครับ โดยร้านอาหารจะอยู่ด้านล่าง ทางลงจะเป็นบันไดมองหาง่ายครับ ไม่ก็สอบถามยามก็ได้ครับ แต่ออกเสียง Restoran ให้ชัดๆ หน่อยนะครับ 555+
พอฝนหยุดก็เริ่มเดินสำรวจถ่ายรูปเล่นบริเวณรอบๆ กัน เจอคนไทยเรื่อยๆ แต่ไม่ได้ทักทายเท่าไหร่ ส่วนใหญ่มาเป็นกลุ่ม ส่วนผมแบกกระเป๋าหน้าหลังเหมือนคนบ้าหอบฟาง 555+
หลังจากนั้นเดินถอยมาจากตรงกลางหน่อยหน่อย ฝนตกเลยได้ภาพแปลกไปอีกแบบนึง
ขากลับผมตัดสินใจที่จะเดินกลับครับ จาก Musjid Putra ไป Putrajaya Station จากประสบการณ์แนะนำให้นั่งรถครับ แต่ผมอยากได้ภาพจากสะพานเลยตัดสินใจเดิน ไกลเหมือนกันครับ 3.3KM เป้ก็หนักแต่ได้ภาพจากสะพานมาแทน ปล. ถ้าจะนั่งรถกลับก็มารอรถที่จุดเดิมแต่เป็นอีกฝั่งของถนนครับ ไม่ต้องกลัวหลง มีคนมารอขึ้นกับเราด้วยแน่ๆ
มุมจากสะพานครับ อุตส่าห์เดิน
อีกฝั่งของสะพานก็จะเป็นภาพวิว
เดินทางกลับมาที่ Putrajaya Station รอรถสายเดิมเพื่อนั่งกลับที่พักครับ ที่พักของผมพักที่ Backhome KL ครับ สถานที่อยู่ไม่ไกลจาก Petronas Twin Towers (ประมาณ 2 สถานีรถไฟฟ้า) ส่วนตัวแล้วชอบที่นี่นะครับ ในเมืองที่วุ่นวายมี Hostel ดีๆ พักสบายอยู่ในมุมๆ นี้ด้วย หลังจากถึงที่พักผมตั้งกระเป๋าจัดของแล้วนอนพักเอาแรงครับ รอเวลาเย็นๆ เพื่อไปถ่าย Petronas Twin Towersครับ
๐Petronas Twin Towers @KL
การเดินทางใน KL ก็ใช้รถไฟฟ้าเป็นหลักครับเปิด Google Map เทียบเอา จากที่พักผมนั่งสายสีส้มมาแป๊บนึงก็ถึงครับ เมื่อมาถึงฝนฟ้าไม่เป็นใจ ฝนตกตลอดเวลาเลยครับ ช่วงเย็นของวันนี้ผมเลยตัดสินใจลุยฝนเก็บภาพครับ ไม่งั้นก็ไม่ได้ภาพแน่ๆ
ช่วงเย็นวันแรกผมวนอยู่แค่ที่นี่ครับ ฝนก็ตกลำบากฝุดๆ ไม่ได้เดินเก็บบรรยากาศและภาพได้เท่าที่ควรเลยเสียจุย
หมดไปอีกหนึ่งวันครับ ไม่ค่อยจุใจเท่าไหร่ แต่ก็หยวนๆ กันได้ 55+
๐Day6 Petronas Twin Tower Again @KL
หลังจากเมื่อคืนลุยฝนอย่าง Hardcore เช้าวันนี้อากาศสดใสเผยให้เห็นฟ้าสวยๆ ผมเดินกลับมาเก็บมุมเดิมอีกครั้ง เอาเป็นว่าดูภาพเลยละกัน คือเน้นแต่ที่นี่จริงๆ ครับมา KL รอบนี้ 555+ ผมมาเดินเล่นบริเวณสวนสาธารณะด้านหลังลานน้ำพุก่อนครับ ยามเช้ามีคนมาวิ่งออกกำลังกายเยอะมากครับ
หลังจากเดินวนอิ่มใจกับสวนเสพสุขแล้ว ก็เดินลอดตึกแฝดเอกลักษณ์ของ KL มาอีกฝั่ง คือบริเวณด้านหน้าเพื่อเก็บภาพครับ = = ถ่ายแต่รูป
หลังจากอิ่มกับที่นี่ผมก็เดินทางกลับที่พักเก็บของเพื่อนั่งรถไฟฟ้ากลับไปที่ TBS รอขึ้นรถทัวร์เพื่อไป Malaccaต่อครับ
—–Malacca @ Last Place in Malaysia—–
จุดประสงค์ของการแวะ Malacca ในครั้งนี้เพื่อมาดูพระอาทิตย์ตกดินกับมัสยิดที่เค้าว่าสวยที่สุดในประเทศมาเลเซีย เล่าเรื่องการเดินทางใน Malacca นิดนึงครับ จุดลงรถของ Malacca จะอยู่ที่ Malacca Central ซึ่งจะอยู่ไกลจากตัวเมืองประมาณ 3 กิโลเมตรครับ พอลงรถแล้วเราต้องมองหารถบัสประจำทางเพื่อเข้าเมืองอีกที ส่วนสายรถ แนะนำให้สอบถามเหมือนเดิมครับ เทคนิคคือเปิดแผนที่เพื่อดูถนนเส้นที่เราต้องการไปครับ แล้วเอาชื่อถนนนั่นแหละไปสอบถามพนักงาน เค้าก็จะบอกเลขรถมาให้ครับ ตอนลงก็เปิดแผนที่เช็คพิกัดเอาก็ได้ครับ ใกล้ก็กดกริ่ง
เป้าหมายหลักของการเดินทางมา Malacca ในครั้งนี้คือการดูพระอาทิตย์ตกดินฟรุ้งฟริ้งครับ 555+
๐Masjid Terapung Selat Melaka
หลังจากนอนพักเอาแรง พอช่วงเย็นก็เดินออกจากที่พักแล้วหาร้านเช่าจักรยานเพราะมันไกล และเวลากลับค่อนข้างเปลี่ยวครับ แต่ตอนผมไปเจอฝรั่งเค้าหาคนหารค่า Taxi ออกด้วย เพราะเค้านัดให้ Taxi มารับ จะใช้วิธีนี้ก็ได้เช่นกันครับ แต่ขาไปก็ลำบากพอสมควร (ถ้าไปคนเดียว) ร้านเช่าจักรยานตามพิกัดครับ จริงๆ จากรีวิวอื่นก็พอมีคนบอก แต่ของผมเดินผ่านตอนไปที่พักแล้วเจอพอดี
ค่าบริการค่อนข้างแพง แต่สำหรับผมคืนเดียวก็ไม่เป็นไร คุณภาพก็ได้อยู่ครับ 55+ หลังจากได้จักรยานก็ปั่นตามเส้นทางเพื่อไป Masjid Terapung Selat Melaka โดยผมปั่นตามเส้นทางด้านล่างเลยครับ ระหว่างทางจะผ่านแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังหลายแห่ง
ผมไม่เน้นแหล่งท่องเที่ยวฮิตๆ ทั่วไปนะครับ ผมเสพบรรยากาศทั่วๆ ไป มันก็เหมือนเดิมตลาดนัดเปิดท้ายบ้านเรา (แต่สถานที่จัดสวย) (ส่วนตัวนะ 555) ผมเน้นเฉพาะจุดที่ทำให้ผมประทับใจ และอิ่มใจ ได้ฟิลลิ่งแนวว่า เฮ้ยอิ่มว่ะ มาถึงแล้ว = = หลังจากปั่นมานานเราก็จะสบตากับ
จุดชมพระอาทิตย์ตกสุดสวย ผมเดินถ่ายรูปรอบๆ รอแสงเย็นครับ มีคนเดินทางมามากมายแต่ผมไม่เจอคนไทยเลยนะ
พอพระอาทิตย์ตก แสงก็จะสวยขึ้น วันนี้โชคดีที่ฝนไม่ตก เดินทางมาตั้งหลายวันเจอแต่ฝนตอนเย็น แต่วันนี้ดันมีฟ้าสวยๆ ให้เรามอง
ยิงภาพกันไป ขากลับผมก็ปั่นจักรยานกลับครับ โดยช่วงอยู่ที่เกาะก็ปั่นให้เร็วหน่อยครับ เพราะค่อนข้างเปลี่ยวมาก ระหว่างกับก็แวะถ่ายรูปครับ ชอบเมืองเค้าตอนพลบค่ำจริงๆ แสงสีแสง แฟนตาซีสวยงามมากๆ เลย
ภาพจากหลังที่พักครับ เส้นๆ นี่คือแสงไฟจากเรือนะครับ หลังที่พักติดแม่น้ำ ได้ฟีลจริงๆ (รายละเอียดเขียนไว้ในส่วนที่พักแล้วคร้าบ)
หลังจากเสร็จกิจก็นอนพักผ่อน วันรุ่งขึ้นผมต้องเดินทางไปสิงคโปร์ต่อ ความกังวลหนึ่งของผมคือการหารถเพื่อนั่งไป Malacca Central อยากจะบอกว่าเมืองเค้ารถเมล์มองไม่ค่อยจะเจอครับ จะวิ่งเฉพาะถนนเส้นหลัก เทคนิคที่ผมใช้คือ ผมกางแผนที่ Google Map ออกครับ แล้วดูถนนเส้นหลักที่วิ่งไป Malacca Central โดยใกล้เราที่สุด ผมก็เดินไปที่ถนนเส้นนั้นครับ เพราะสันนิษฐานไว้เลยว่าต้องมีรถเมล์ผ่านแน่นอน ภาพด้านล่างคือจุดที่ผมเดินมารอรถครับ เดินไปถามคนบริเวณนั้นไป หาทางไปป้ายรถเมล์ให้เจอครับ
ที่ Malacca Central ผมได้ตั๋วรถไป Singapore กับบริษัท 707 Travel Group ครับ ไม่ค่อยปลื้มเท่าไหร่เนื่องจากกลิ่นบุหรี่แรง รถทัวร์จะขับพาเราเข้า Singaporeที่ด่าน Woodland นะครับ ขั้นตอนก็ปกติทุกอย่าง ทำเรื่องออกทางฝั่งมาเลเซียไม่ต้องเอากระเป๋าลงก็ได้ครับ (แต่เอาลงก็ได้เพื่อความสบายใจ) พอเสร็จ รถก็จะพาเราวิ่งไปฝั่ง ตม. สิงคโปร์ DeadZone ของด่านในตำนานที่ถูกกล่าวถึงกันเยอะ เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังครับ ประสบการณ์ชายโฉดเดินทางคนเดียวผ่านด่านที่นี่จะเป็นยังไง พร้อมวิธีการรับมือ
Bye… Malacca
To..be continuous in evening “Singapore” The king of City Scape..
ประสบการณ์มาเต็มแบบนี้ รับเสียงปรบมือจากเราไปเล้ย แปะๆๆ !!
ระดับความสนุก: ✩✩✩✩✩
เครดิต: https://www.facebook.com/bearalone