Mushroom Travel LINE
เราช่วยคุณได้
@mushroomtour
จันทร์ - เสาร์
9:00-22:00
อาทิตย์
9:00-18:00
Call Mushroom Travel
Call Center
02 105 6234
จอง 6 คนขึ้นไป
จอง 6 คนขึ้นไป
02 105 6244
Loading...

10 เมืองในอิตาลี น่าเที่ยว สวยสะกดจนลืมหายใจ พร้อมพิกัดที่เที่ยวแนะนำ

อิตาลี เป็นประเทศในทวีปยุโรป ที่มีภูมิประเทศสวยงามและหลากหลาย นอกจากจะอยู่ติดทะเล มีชายฝั่งยาวรอบประเทศแล้ว ยังมีเทือกเขาแอลป์เป็นแนวพรมแดนกั้นระหว่างสวิตเซอร์แลนด์ ฝรั่งเศส และออสเตรียอีกด้วย ขึ้นชื่อในเรื่องของศิลปะและสถาปัตยกรรมเก่าแก่อันงดงาม ไม่ว่าจะเดินเล่นในเมืองใหญ่หรือเมืองเล็กๆ ก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของความโรแมนติก อีกทั้งยังมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายที่เต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ รวมถึงอาหารและไวน์ที่มีชื่อเสียงระดับโลก อากาศดีมาก มาเที่ยวได้ตลอดทั้งปี โดยแบ่งเป็น 4 ฤดู คือ ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง และฤดูหนาว ทางตอนเหนือจะเย็นสบายกว่า เพราะได้รับอิทธิพลจากเทือกเขาแอลป์ แต่ฤดูหนาวก็หนาวมาก มีหิมะตกด้วย ส่วนทางตอนใต้และบริเวณชายฝั่ง จะมีอากาศแบบเมดิเตอร์เรเนียนที่อบอุ่น สำหรับใครที่อยากเก็บข้อมูลไป เที่ยวอิตาลี พี่เห็ด มัชรูมทราเวล ขอแนะนำ 10 เมืองในอิตาลี พิกัดเมืองสวย พร้อมที่เที่ยวแนะนำ มีที่ไหนบ้างตามไปดูกันเลย

1. โรม (Rome)

เมืองในอิตาลี
Credit : Kbarzycki / canva.com

เริ่มต้นกันที่ โรม จุดหมายที่ได้รับความนิยมมากที่สุดเมื่อมา เที่ยวอิตาลี เป็นทั้งเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ บรรยากาศคึกคัก มีชีวิตชีวา คนพลุกพล่านแต่ก็ไม่วุ่นวาย บ้านเมืองสวยคลาสสิกน่าเดินชม ในอดีตเป็นศูนย์กลางอำนาจจักรวรรดิโรมัน จึงเป็นแหล่งรวมมรดกทางศิลปะ วัฒนธรรม และสถาปัตยกรรมสุดยิ่งใหญ่หลายแห่ง เช่น โคลอสเซียม (Colosseum) แลนด์มาร์กสำคัญ 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก, น้ำพุเทรวี (Trevi Fountain) ที่เชื่อกันว่าหากมาอธิฐานขอพรแล้วโยนเหรียญลงในสระจะสมหวัง, พิพิธภัณฑ์วาติกัน (Vatican Museums) แหล่งรวบรวมงานศิลปะเก่าแก่หลายยุคหลายสมัยไว้ด้วยกัน บางชิ้นมีอายุมากกว่า 100 ปี, วิหารแพนธีอัน (Pantheon) เทวสถานศักดิ์สิทธิ์ที่ยังคงสภาพไว้ได้อย่างดี นอกจากนี้ยังมีตลาดท้องถิ่น ร้านค้า ร้านอาหาร บาร์ คาเฟ่ ห้างสรรพสินค้า และแหล่งช้อปปิ้งอีกมากมาย
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/8ZdoFXNqYjTDvtWc8

2. เวนิส (Venice)

เมืองในอิตาลี
Credit : sborisov / canva.com

อีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมและมีชื่อเสียงมาก ก็คือ เวนิส หนึ่งในเมืองมรดกโลกที่สวยจนต้องทึ่ง ได้ฉายาว่า “เมืองแห่งสายน้ำ” เพราะเป็น เมืองในอิตาลี ที่สร้างขึ้นบนทะเลสาบ ประกอบด้วยเกาะทั้งหมด 118 เกาะ เชื่อมต่อด้วยสะพานมากกว่า 400 แห่ง บรรยากาศสวยงามชวนฝัน อากาศบริสุทธิ์สดชื่น ปราศจากควันรถ เพราะการเดินทางในเมืองนี้จะใช้จักรยาน การเดินเท้า และเรือเท่านั้น กิจกรรมหลักคือ การนั่งเรือกอนโดลา (Gondola) เรือไม้ยาวที่ขับเคลื่อนโดยใช้คนพาย ความจุประมาณ 5 – 6 คน เป็นสัญลักษณ์ของเมืองเวนิส ลัดเลาะไปตามคลอง ชมความสวยงามของอาคารบ้านเรือนสีสันสดใสที่ตั้งอยู่ริมน้ำ พร้อมเช็กอินที่เที่ยวสุดฮิตอย่าง จัตุรัสซานมาร์โก (Piazza San Macro) จตุรัสใหญ่ใจกลางเมืองเวนิสที่ล้อมด้วยด้วยแลนด์มาร์กสำคัญมากมาย, สะพานริอัลโต (Ponte di Rialto) สะพานซุ้มโค้งเก่าแก่ข้ามคลองแกรนด์คาแนล (Grand Canal) อีกหนึ่งสัญลักษณ์สำคัญของเมืองเวนิส และ พระราชวังดอจ หรือ ปาลัซโซ่ดูคาเล (Palazzo Ducale) พระราชวังเก่าแก่ที่มีการตกแต่งอย่างวิจิตรงดงามทั้งภายในและภายนอก ด้วยบรรยากาศสุดโรแมนติก ทำให้เมืองนี้เป็นอีกหนึ่งจุดหมายที่คู่รักหลายคู่นิยมมาฮันนีมูนกัน
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/VReiAVGSPy75u7Kc8

3. ฟลอเรนซ์ (Florence)

เมืองในอิตาลี
Credit : JaCZhou / canva.com

ถัดมากับเมืองหลวงเก่าอย่าง ฟลอเรนซ์ เมืองในอิตาลี ที่เหมาะสำหรับการพักผ่อน วิวสวยจนใจละลาย ทิวทัศน์ของแม่น้ำอาร์โน (Arno) ที่ไหลผ่านกลางเมืองดีงามสุดๆ ถนนหนทางเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรม โบสถ์เก่าแก่ และพิพิธภัณฑ์ มีชื่อเสียงโด่งดังในด้านศิลปะ เต็มไปด้วยงานศิลปะยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา ทั้งยังเป็นบ้านเกิดของศิลปินมากมาย เช่น เลโอนาร์โด ดา วินชี และ ไมเคิลแองเจโล นอกจากนี้ในย่านเมืองเก่ายังได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกจาก UNESCO เพราะมีสถานที่สำคัญมากมาย เช่น มหาวิหารฟลอเรนซ์ (Cathedral of Santa Maria del Flore) วิหารเก่าแก่อายุกว่า 800 ปี ด้านบนสุดสามารถขึ้นไปชมวิวได้ แต่ต้องเดินขึ้นบันได 468 ขั้น เพราะไม่มีลิฟต์, วังปาลาซโซเวคคิโอ (Palazzo Vecchio) พระราชวังเก่าแก่ที่ปัจจุบันเป็นสถานที่ทำงานของผู้ว่าการรัฐ ด้านบนมีหอคอยที่สามารถชมวิวได้แบบ 360 องศา, หอศิลป์อุฟฟีซี (The Uffizi Gallery) พิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งในอิตาลี และ สะพานเวคคิโอ (Ponte Vecchio) สะพานข้ามแม่น้ำอาร์โน (Arno) ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเดินเล่น ชมวิวพระอาทิตย์ตก และช้อปปิ้งสินค้า เป็นต้น
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/TyMUdbsiyfwzfhxs8

4. มิลาน (Milan)

เมืองในอิตาลี
Credit : ecstk22 / shutterstock.com

มิลาน คือเมืองศูนย์กลางเศรษฐกิจและคมนาคม เต็มไปด้วยแฟชั่นและสไตล์เก๋ๆ มากมาย ทั้งยังเป็นบ้านเกิดของแบรนด์เนมชื่อดังอย่าง Prada ถือเป็นสวรรค์แห่งการช้อปปิ้งที่สายแฟต้องมาให้ได้ มีย่านที่เต็มไปด้วยร้านบูติกของดีไซเนอร์ชื่อดัง พร้อมด้วยห้างสรรพสินค้าที่เก่าแก่ที่สุดในโลกอย่าง Galleria Vittorio Emanuele II ที่ปัจจุบันก็ยังเปิดให้บริการอยู่ แต่ท่ามกลางความหรูหราทันสมัยเหล่านี้ มิลานก็ยังมีพื้นที่ให้สำหรับคนชอบศิลปะและประวัติศาสตร์ เพราะมีแลนด์มาร์กหลายแห่งที่น่าไปเที่ยว เช่น มหาวิหารมิลาน (Milan Cathedral) หรูหราอลังการด้วยถาปัตยกรรมแบบโกธิค, มหาวิหารดูโอโม่ (Duomo di Milano) มหาวิหารแบบกอธิคขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ใช้เวลาสร้างนานเกือบ 600 ปี, ปราสาทสฟอร์เซสโก้ (Sforzesco Castle) อดีตป้อมปราการที่ปัจจุบันเป็นแหล่งรวบรวมผลงานศิลปะที่สำคัญของอิตาลี และ ซุ้มประตู Arco della Pace ซุ้มประตูหินอ่อน จุดถ่ายรูปยอดฮิตของนักท่องเที่ยว เป็นต้น
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/HyZsebpMkKiLuzLr8

5. ตูริน (Turin) 

เมืองในอิตาลี
Credit : claudiodivizia / canva.com

เมืองนี้อาจไม่ใช่จุดหมายแรกๆ ที่คนนึกถึงเมื่อมา เที่ยวอิตาลี  แต่ก็คุ้มค่าหากได้มาที่ ตูริน สักครั้ง เพราะที่นี่เคยเป็นเมืองหลวงของอิตาลีในช่วงปี ค.ศ.1861 – 1864 โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์บารอก (Baroque) บรรยากาศสงบกว่าเมืองใหญ่อื่นๆ เดินเล่นได้ชิลๆ มาแล้วต้องไม่พลาดไปชมวิวที่ Monte dei Cappuccini เป็นจุดที่สวยที่สุด มองเห็นวิวทั้งเมืองโดยมีฉากหลังเป็นเทือกเขาแอลป์ นอกจากนี้ยังมี ตึกอันโตเนลลีอานา (Mole Antonelliana) อีกหนึ่งแลนด์มาร์กสำคัญ ด้านในอาคารมีพิพิธภัณฑ์ภาพยนตร์ สามารถขึ้นไปชมวิวด้านบนได้ และ พิพิธภัณฑ์อียิปต์ (Museo Egizio) อันเลื่องชื่อ ที่มีทั้ง มัมมี่ มหาสฟิงซ์จากเมืองกิซ่า (Great Sphinx of Giza) และโบราณวัตถุของอียิปต์มากถึง 37,000 ชิ้น
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/8TbCGZa5xomFgh6G9

6. โตรเปอา (Tropea) 

Credit : Gagliardi Photography / canva.com

ใครชอบเที่ยวทะเล ต้องมาสัมผัสความงามริมชายฝั่งตอนใต้ที่ โตเปอา เมืองในอิตาลี ที่ได้ชื่อว่าเป็น “ไข่มุกแห่งทะเลติร์เรเนียน” ต้องบอกก่อนว่าที่นี่ไม่ใช่ชายหาดที่เงียบสงบนัก เพราะนักท่องเที่ยวเยอะ แต่บรรยากาศดีมาก ฟ้าสวย น้ำทะเลใส ร้านอาหารทะเลเพียบ จุดชมวิวที่โด่งดังสุดคือ โบสถ์ Santuario di Santa Maria dell’Isola โบสถ์สีขาวตั้งอยู่บนเนินเขาสูงที่ยื่นไปในทะเล จะเห็นทั้งวิวทะเล ชายหาด และฝั่งเมืองที่อยู่บนหน้าผาหินสูงชัน เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่มีเสน่ห์แบบเมืองเก่า บรรยากาศอบอุ่น น่ารัก มีร้านคาเฟ่ และร้านค้าที่ขายสินค้าท้องถิ่นด้วย
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/LMdMYRLTeE3PQ9Yj7

7. คาตาเนีย (Catania)

Credit : kavalenkavadesign / canva.com

คาตาเนีย เป็นเมืองเล็กๆ บนชายฝั่งตะวันออกของแคว้นซิซิลี (Sicily) เป็นที่ตั้งของ ภูเขาเอตนา (Etna) ภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นที่มีความสูงมากที่สุดในทวีปยุโรป โดยมีความสูงถึง 3,323 เมตร มีหิมะปกคลุมนาน 9 เดือน ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้ที่นี่มีดินที่อุดมสมบูรณ์มาก จนกลายเป็นแหล่งปลูกองุ่น และผลิตไวน์ที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ แม้ว่าการปะทุของภูเขาไฟจะทำให้เมืองนี้ถูกทำลายไปหลายครั้ง แต่ก็ยังมีสถานที่สวยๆ หลงเหลือให้ชม เช่น ปราสาท Castello Ursino, มหาวิหาร Cattedrale di Sant`Agata และ สวน Villa Bellini สวนสาธารณะที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในคาตาเนีย ปัจจุบันภูเขาไฟแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกของยูเนสโก
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/hgaqF7AtthX6ZquDA

8. โบลซาโน (Bolzano) 

Credit : Vivida Photo PC / shutterstock.com

โบลซาโน เป็น เมืองในอิตาลี ที่สวยน่าอยู่มากๆ และยังถูกจัดอันดับให้เป็นเมืองที่มีคุณภาพชีวิตดีที่สุดในอิตาลีอีกด้วย ใครชอบเที่ยวธรรมชาติมาแล้วต้องถูกใจ เพราะเมืองนี้โอบล้อมไปด้วยภูเขาสูง และทะเลสาบที่เกิดจากการละลายของหิมะบนเทือกเขาแอลป์ วิวสวย อากาศดี อาหารอร่อย บรรยากาศเรียบง่าย ผ่อนคลาย แต่แฝงไว้ด้วยเสน่ห์ที่จะทำให้ทุกคนตกหลุมรัก จุดท่องเที่ยวยอดนิยมอยู่ที่ จัตุรัสวอลเธอร์ (Waltherplatz) จัตุรัสใจกลางเมือง เป็นสถานที่จัดกิจกรรม ตลาด เทศกาลต่างๆ และ มหาวิหารโบลซาโน (Bolzano Cathedral) มหาวิหารสำคัญของเมือง ด้านบนมีหอคอยสูง 65 เมตร นอกจากนี้ยังขึ้นชื่อเรื่องสกีรีสอร์ต ทำให้ที่นี่เป็นที่นิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบกีฬาฤดูหนาว
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/q8dBxb5xY4dE5RcT6

9. โคโม่ (Como)

Credit : essevu / shutterstock.com

ทางตอนเหนือของเมือง โคโม่ ติดกับ ทะเลสาบโคโม่ (Lake Como) ที่ได้ชื่อว่าเป็นทะเลสาบที่สวยที่สุดในอิตาลี มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศ ครอบคลุมพื้นที่กว่า 146 ตารางกิโลเมตร ในอดีตจึงเป็นสถานที่พักผ่อนตากอากาศช่วงฤดูร้อนของชนชั้นสูง ปัจจุบันมีวิลล่าสวยๆ หลายแห่ง เช่น วิลล่าโอลโม (Villa Olmo), วิลล่าคาร์ลอตตา (Villa Carlotta) ถูกปรับปรุงเป็นพิพิธภัณฑ์ สถานที่จัดนิทรรศการ กิจกรรมต่างๆ ที่นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมได้ และยังมีโบสถ์ วิหาร อาคารเก่าแก่มากมาย เช่น มหาวิหารโคโม่ (Como Cathedral) มหาวิหารสำคัญทางศาสนาที่ได้รับการยกย่องให้เป็นโบสถ์ตัวอย่างในการเปลี่ยนจากยุคโกธิคไปเป็นเรเนสซองส์ในศตวรรษที่ 14 และ มหาวิหารซานเฟเดเล (Basilica di San Fedele) โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมนีโอโรมาเนสก์ ด้านในมีจิตรกรรมฝาผนังและงานศิลปะมากมาย
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/xRNZgzqJn2bejhcS6

10. เวโรนา (Verona) 

Credit : Silvia Zecchin / canva.com

เวโรนา เป็นเมืองเล็กๆ ในแคว้นเวเนโต ตั้งอยู่ริมแม่น้ำอะดิเจ (Adige River) มีฉายาว่า “Little Roman” เพราะเป็น เมืองในอิตาลี ที่มีการอนุรักษ์สถาปัตยกรรมสมัยโรมันเอาไว้เป็นอย่างดี จนได้ขึ้นทะเบียนเป็นเมืองมรดกโลกจาก UNESCO และยังเป็นบ้านเกิดของโรมิโอและจูเลียตอีกด้วย หนึ่งในแลนด์มาร์กสำคัญจึงเป็น บ้านของจูเลียต (Juliet’s house) ซึ่งเชื่อกันว่าหากใครได้มาสัมผัสรูปหล่อจูเลียตจะสมหวังในความรัก นอกจากนี้ยังก็ยังมีสถานที่สวยๆ ทั่วเมืองซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลกัน ทำให้เดินทางเที่ยวได้ง่าย เช่น เวโรนา อารีนา (Verona Arena) อัฒจรรย์ขนาดใหญ่สมัยโรมัน ปัจจุบันเป็นสถานที่จัดแสดงคอนเสิร์ต การแสดงโอเปร่า, สะพานหินปงเต ปิเอตรา (Ponte Pietra) สะพานข้ามแม่น้ำอะดิเจสุดคลาสสิก จุดเช็กอินยอดนิยมของนักท่องเที่ยว, มหาวิหารซานเซโน (Basilica of San Zeno) หรือที่บางครั้งเรียกกันว่า “โบสถ์โรมิโอและจูเลียต” เพราะที่นี่เป็นแรงบันดาลใจของเช็กสเปียร์ในการเขียนฉากแต่งงานระหว่างโรมิโอและจูเลียต เป็นต้น
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/KjZa73g2xU8NStMN7

ต้องบอกเลยว่าการไป เที่ยวอิตาลี ไม่ต้องมีกิจกรรมอะไรมาก แค่เดินชมวิว นั่งจิบกาแฟในย่านเมืองเก่า เช็กอินแลนด์มาร์กสำคัญๆ เท่านี้ฟินแล้ว เหมือนกำลังเดินอยู่ในพิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง บรรยากาศทุกที่สวยงามโอ่อ่าจนไม่รู้จะบรรยายยังไงหมด ทุกซอกทุกมุมซ่อนความงามและเรื่องราวที่น่าค้นหา ทำเอาหลงรักจนไม่อยากกลับบ้าน ใครอยากมาเที่ยวสนุกๆ แบบนี้จองทัวร์ไปเที่ยวกับพี่เห็ด Mushroom Travel ได้เลย


ชอบ บทความ มัชรูมทราเวล ทำไงดี…?
1. กดแชร์ต่อ ให้เพื่อนอ่านบ้าง
2. คลิก Like และ ติดตามเราได้ที่ Facebook www.facebook.com/mushroomtravel/

—————

Mushroom Travel มีโปรแกรม ทัวร์อิตาลี ให้เลือกมากที่สุด
โทร. 02-105-6234 (30 คู่สาย)
[email protected]
Line id : @mushroomtravel

สินค้าที่เกี่ยวข้อง