พาไปทำความรู้จักกับ “ไอซ์แลนด์” ประเทศที่มีทรัพยากรทางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ เต็มไปด้วยสีสันอันหลากหลาย มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ทั้งยังปราศจากมลภาวะอันเป็นพิษ เพราะตั้งอยู่ระหว่างประเทศกรีนแลนด์และแถบสแกนดิเนเวีย ทำให้มีประชากรอาศัยอยู่ค่อนข้างน้อย แถมยังเป็นอีกหนึ่งประเทศที่สะอาดที่สุดในโลกอีกด้วย ใครที่กำลังสนใจไป ทัวร์ไอซ์แลนด์ ประเทศที่เหมือนดินแดนในฝันแบบนี้ พี่เห็ด มัชรูมทราเวล ขอมา รีวิว 5 ที่เที่ยวไอซ์แลนด์ แดนสวรรค์ที่คนรักธรรมชาติต้องมา! จะอลังการและน่าเที่ยวขนาดไหน ไปชมพร้อม ๆ กัน!
ฤดูกาลของไอซ์แลนด์
ก่อนจะไป เที่ยวไอซ์แลนด์ เราไปทำความรู้จักกับฤดูกาลต่าง ๆ กันก่อนดีกว่า เพราะแต่ละฤดูก็จะมีแหล่งท่องเที่ยว และสภาพอากาศที่แตกต่างกันไป อย่างช่วงฤดูร้อน จะได้พบกับพระอาทิตย์เที่ยงคืน ส่วนในฤดูหนาวจะมีปรากฏการณ์แสงเหนือ เป็นต้น ใครชอบบรรยากาศแบบไหน อยากเห็นไฮไลต์อะไร ก็ปักหมุดการเดินทางให้ตรงกับความต้องการได้เลย
สำหรับการมา ที่เที่ยวไอซ์แลนด์ นั้นสามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ซึ่งมีทั้งหมด 4 ฤดูกาล ดังนี้
1. ฤดูหนาว (เดือนธันวาคม – เดือนมีนาคม)
แน่นอนว่าฤดูหนาวในไอซ์แลนด์อากาศจะหนาวจัด อุณหภูมิจะอยู่ประมาณ -25 ถึง -20 องศาเซลเซียส ใครอยากเที่ยวแบบได้บรรยากาศหิมะฉ่ำๆ ต้องมาช่วงนี้เลย และในช่วงนี้ถือเป็นช่วงเทศกาลแห่งความสุขของแถบยุโรปและขั้วโลกเหนือ เพราะมีการเฉลิมฉลองเทศกาลสำคัญอย่าง คริสต์มาส และปีใหม่ นอกจากนี้ฤดูหนาวยังเป็นช่วงเวลาที่ดีสำหรับการไปชม แสงเหนือ (Northern Lights) ปรากฏการณ์ธรรมชาติที่ใคร ๆ ต่างใฝ่ฝันว่าต้องมาเห็นด้วยตาตัวเองสักครั้ง ช่วงนี้จะมีโอกาสเห็นได้มาก เนื่องจากมีช่วงเวลากลางคืนที่ยาวนานนั่นเอง
2. ฤดูใบไม้ผลิ (เดือนเมษายน – เดือนพฤษภาคม)
ฤดูใบไม้ผลิ เป็นช่วงที่ท้องฟ้าสวย ส่วนอากาศยังหนาวเย็นสบายๆ ไม่หนาวจัดเท่าในช่วงฤดูหนาว อุณหภูมิจะอยู่ที่ประมาณ 0 ถึง 10 องศาเซลเซียส บางครั้งอาจจะมีหิมะตกบ้าง ดอกไม้ต่าง ๆ เริ่มผลิบาน ในฤดูนี้เป็นช่วงที่พระอาทิตย์กลางวันกับกลางคืนจะเท่ากัน หลายคนนิยมมาชมฝูงนกอพยพ อย่าง นกพัฟฟิน เพราะเป็นช่วงที่เริ่มกลับเข้ามาในไอซ์แลนด์กันแล้ว
3. ฤดูร้อน (เดือนมิถุนายน – เดือนสิงหาคม)
สำหรับฤดูร้อนในไอซ์แลนด์ อุณหภูมิจะอยู่ที่ประมาณ 10 ถึง 15 องศาเซลเซียส ซึ่งจัดว่าอากาศเย็นสบายสำหรับคนไทย เป็นช่วงที่อากาศดี สามารถเที่ยวได้ทั้งเกาะ และเป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวมากที่สุด เพราะมีไฮไลต์อย่าง ปรากฎการณ์พระอาทิตย์เที่ยงคืน (The Midnight Sun) ที่กลางคืนจะยาวนานเป็นพิเศษ มีแสงพระอาทิตย์ทั้งกลางวันและกลางคืนเลยทีเดียว
4. ฤดูใบไม้ร่วง (เดือนกันยายน – เดือนพฤศจิกายน)
ฤดูใบไม้ร่วง อุณหภูมิจะอยู่ที่ประมาณ 0 ถึง 10 องศาเซลเซียส อากาศจะคล้ายกับฤดูใบไม้ผลิ แต่อาจมีลมพัดแรง ความโดดเด่นของฤดูนี้คือ จะได้ชมความสวยงามของใบไม้เปลี่ยนสี กลายเป็นสีเหลือง ส้ม แดง แถมยังมีโอกาสได้พบกับหิมะแรกของปี รวมถึงในบางคืนอาจได้เห็นแสงเหนืออีกด้วย
ที่เที่ยวแนะนำเมื่อไปเยือนไอซ์แลนด์
สำหรับที่เที่ยวในไอซ์แลนด์ โดดเด่นด้วยธรรมชาติที่แปลกตาและอุดมสมบูรณ์ หลาย ๆ สถานที่มีวิวธรรมชาติสุดอลังการที่หลายคนตั้งเป้าว่าอยากไปชมสักครั้งในชีวิต พี่เห็ดขอรีวิว 5 ที่เที่ยวไอซ์แลนด์ ที่ไม่ควรพลาด ตามนี้เลยค่ะ
1. ภูเขาเคิร์กจูเฟล (Kirkjufell )
ภูเขาเคิร์กจูเฟล หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ภูเขาโบสถ์ เพราะลักษณะของตัวภูเขามีรูปทรงคล้ายกับโบสถ์ มีความสูงอยู่ที่ 463 เมตร ไฮไลต์คือเป็นภูเขาที่มีเฉดสีที่ไล่เป็นชั้น ๆ ทั้งยังมีทัศนียภาพบริเวณรอบ ๆ ที่สวยงาม ไม่ว่าจะเป็น น้ำตกเคิร์กจูเฟลล์สฟอสส์ (Kirkjufellsfoss waterfall) ที่ไหลจากหน้าผาสูงกว่า 16.4 เมตร ลงสู่ทะเล หรือ ทุ่งหญ้าสีเขียวขจีที่ปกคลุมไปทั่วทั้งขุนเขา เป็น ที่เที่ยวไอซ์แลนด์ ที่สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ใครมา เที่ยวไอซ์แลนด์ แล้วไม่ได้มาถ่ายรูปเช็กอิน ถือว่ามาไม่ถึงเลยทีเดียว
2. น้ำตกสโกกาฟอสส์ (Skogafoss)
น้ำตกสโกกาฟอสส์ เป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียง และเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว มีความสูงราว ๆ 60 เมตร และมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 5 ของประเทศไอซ์แลนด์ ใครที่ได้มาที่นี่ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า สวยงามมาก เพราะนอกจากจะตื่นตาตื่นใจไปกับความสูงของน้ำตกแล้ว ยังได้ตะลึงกับความสวยงามของสายน้ำที่ไหลลงมาจากหน้าผา เมื่อน้ำกระทบแสงแดดก็จะเกิดเป็นรุ้งกินน้ำบริเวณด้านหน้าน้ำตก พี่เห็ดรับประกันเลยว่าเป็น ที่เที่ยวไอซ์แลนด์ ที่คุ้มค่ากับการนั่งรถมาแน่นอนค่ะ
3. ขี่สโนว์โมบิลบนธารน้ำแข็งเมียร์ดาล (Mrydalsjokull Gracier)
กิจกรรมที่พลาดไม่ได้เมื่อมา เที่ยวไอซ์แลนด์ ก็คือ การขี่สโนว์โมบิล (Snowmobile) บนธารน้ำแข็งเมียร์ดาล (Mrydalsjokull Gracier) มีความกว้างเป็นอันดับ 4 ของธารน้ำแข็งทั้งหมดในไอซ์แลนด์ โดยมีพื้นที่ประมาณ 596 ตารางกิโลเมตร พื้นที่โดยรอบจะมีถ้ำน้ำแข็งอยู่มากมาย แต่ละถ้ำก็จะมีหินงอกหินย้อยรูปทรงหลากหลายตามธรรมชาติ และเมื่อหินกระทบกับแสงอาทิตย์ก็จะเกิดเป็นประกายสีฟ้าเขียว มองไปจะคล้าย ๆ กับหินมรกต สำหรับใครที่จะมาขี่สโนว์โมบิล เขาจะมีการกำหนดเส้นทางการขี่ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุของผู้มาทำกิจกรรม และยังมีการแวะตามจุดต่าง ๆ ให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูปกันอีกด้วย
4. หาดทรายสีดำ (Reynisfjara Black Sand Beach)
หาดทรายสีดำ เป็นอีกหนึ่ง ที่เที่ยวไอซ์แลนด์ ที่ถูกจัดให้เป็นหาดทรายที่สวยที่สุดในโลกเมื่อปี ค.ศ. 1991 ตั้งอยู่ตอนใต้ของประเทศไอซ์แลนด์ บนชายหาดเต็มไปด้วยกรวดที่เป็นสีดำล้วน เมื่อมองด้วยตาเปล่าจากระยะไกลจะดูคล้ายกับดิน บริเวณใกล้กันมีแท่งหินบะซอลต์ที่เรียงกันเป็นชั้น ๆ ความสูงประมาณ 120 เมตร ถ่ายรูปออกมาแล้วสวยงามมาก มองเผิน ๆ เหมือนกับปฎิมากรรมที่ตั้งใจสร้างขึ้นมาอย่างไรอย่างนั้น ใครไปเที่ยวที่นี่อย่าลืมมาถ่ายรูปที่จุดนี้กันด้วยนะคะ
5. บลูลากูน (Blue Lagoon)
บลูลากูน ถือเป็นบ่อน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศไอซ์แลนด์ เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก เป็นบ่อน้ำพุร้อนที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เนื่องจากตั้งอยู่ในบริเวณที่มีการเคลื่อนตัวของหินหลอมละลายใต้ดินมากที่สุดในโลก โดยการเคลื่อนตัวนี้ทำให้น้ำในบ่อร้อนขึ้น และมีไอระเหยขึ้นมา อุณหภูมิของน้ำอยู่ที่ประมาณ 40 องศาเซลเซียส เป็นบ่อน้ำพุร้อนที่มีความอุดมสมบูรณ์ และเป็นแหล่งรวมของแร่ธาตุต่าง ๆ มากมาย แถมยังได้รับการบอกต่อเรื่องการรักษาโรคผิวหนังหลายชนิดอีกด้วย ใครจะมาเที่ยวที่นี่ พี่เห็ดแนะนำให้มาช่วงฤดูหนาว เพราะเป็นช่วงที่สวยที่สุดของบลูลากูน
ใครชอบเที่ยวธรรมชาติ ถ้ายังไม่รู้จะไปเที่ยวที่ไหนดี พี่เห็ดอยากแนะนำไอซ์แลนด์ไว้เป็นอีกหนึ่งทางเลือก เพราะเป็นประเทศที่เต็มไปด้วยความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติ มีแหล่งท่องเที่ยวหลากหลาย อากาศสะอาดบริสุทธิ์ เหมาะแก่การพาร่างกายไปพักผ่อน ทั้งยังสามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี เป็นอีกหนึ่งประเทศที่ถ้าได้ไปเยือนต้องหลุมรักอย่างแน่นอน
ชอบ บทความ มัชรูมทราเวล ทำไงดี…?
1. กดแชร์ต่อ ให้เพื่อนอ่านบ้าง
2. คลิก Like และ ติดตามเราได้ที่ Facebook www.facebook.com/mushroomtravel/
——————-
Mushroom Travel มีโปรแกรม ทัวร์ไอซ์แลนด์ ให้เลือกมากที่สุด
โทร. 02-105-6234 (30 คู่สาย)
[email protected]
Line id : @mushroomtravel
Line id : @mushroomtravel