Mushroom Travel LINE
เราช่วยคุณได้
@mushroomtour
จันทร์ - เสาร์
9:00-22:00
อาทิตย์
9:00-18:00
Call Mushroom Travel
Call Center
02 105 6234
จอง 6 คนขึ้นไป
จอง 6 คนขึ้นไป
02 105 6244
Loading...

10 ที่เที่ยวนากาโน่ ธรรมชาติสวยอลัง รับประกันว่าไม่ผิดหวัง

นากาโน่ (Nagano) คือจังหวัดหนึ่งในภูมิภาคชูบุ ตั้งอยู่บนเกาะฮนชู เป็นจังหวัดที่ไม่ติดทะเล และเป็นที่ตั้งของ เทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่น (Japanese Alps) ที่มีความสูงกว่า 3,000 เมตร จึงได้สมญานามว่า “หลังคาของญี่ปุ่น” สามารถเดินทางจากโตเกียวได้ด้วยรถไฟ Hokuriku Shinkansen โดยใช้เวลาเพียงแค่ 1 ชั่วโมงกว่าๆ เท่านั้น หากใครกำลังมองหาที่เที่ยวใหม่ๆ เปลี่ยนบรรยากาศจากเมืองใหญ่มา เที่ยวนากาโน่ ดู แล้วจะรู้ว่าเมืองนี้มีดีกว่าที่คิด! เพราะขึ้นชื่อมากเรื่องธรรมชาติที่สวยงาม อาหารอร่อย ในฤดูหนาวนักท่องเที่ยวนิยมมาเล่นสกี และชมทัศนียภาพของภูเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะ นอกจากนี้ยังมีน้ำตก บ่อออนเซ็นธรรมชาติ จุดชมวิวดอกซากุระและใบไม้เปลี่ยนสี รวมถึงสถาปัตยกรรมสมัยเอโดะ ให้เที่ยวชมด้วย พี่เห็ด มัชรูมทราเวล มี 10 ที่เที่ยวนากาโน่ พิกัดน่าเที่ยว มาแนะนำ ตามไปดูกันเลยว่า แต่ละแห่งจะสวยงามขนาดไหน !

1. คามิโคจิ (Kamikochi)

ที่เที่ยวนากาโน่
Credit : Bblake / shutterstock.com

คามิโคจิ หุบเขาสวยที่โอบล้อมด้วยทิวทัศน์ของเทือกเขาแอลป์ เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติชูบุซังกาคุ (Chubu Sangaku National Park) ทอดยาวไปตามแม่น้ำอาซุสะ (Azusa River) ระยะทางประมาณ 15 กิโลเมตร เหมาะสำหรับการมาชมวิว และเดินป่า ช่วงเวลายอดนิยมคือ ฤดูร้อน และฤดูใบไม้ร่วง ภายในมีจุดท่องเที่ยวสวยๆ มากมาย เช่น บึงไทโช (Taisho Pond) ที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟยาเกะเมื่อประมาณ 100 กว่าปีก่อน, สะพานคัปปะ (Kappa Bridge) ซึ่งเป็นจุดชมวิวเทือกเขาโฮทากะที่สวยมากๆ และ เส้นทางเดินเลียบแม่น้ำอาซุสะ (Azusa River) ที่เกิดจากการละลายของหิมะบนเทือกเขา เป็นสีฟ้าใสราวกับกระจก

เวลาเปิด-ปิด : 08.00 – 17.00 น. (เปิดเส้นทางเฉพาะช่วงกลางเดือนเมษายน – กลางเดือนพฤศจิกายน)
การเดินทาง :
– นั่ง Alpico Bus จากสถานี Nagano ไปลงคามิโคจิ ประมาณ 3 ชั่วโมง
– จากสถานี Matsumoto นั่งรถไฟสาย Matsumoto Dentetsu ไปลงสถานี Shin – Shimashima 30 นาที จากนั้นต่อรถบัสไปคามิโคจิประมาณ 60 นาที
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/AJoh3DKokZTYKM7aA


2. เส้นทางแอลป์ทาเตยามะคุโรเบะ (Tateyama-Kurobe Alpine Route) 

ที่เที่ยวนากาโน่
Credit : trusjom / shutterstock.com

เส้นทางแอลป์ทาเตยามะคุโรเบะ เป็น ที่เที่ยวนากาโน่ ที่อยู่บริเวณรอยต่อติดกับจังหวัดโทยามะ (Toyama) เปิดให้บริการครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1971 การเดินทางต้องใช้ยานพาหนะหลายอย่าง ทั้งเคเบิ้ลคาร์ รถบัส กระเช้าลอยฟ้า แม้จะหลายต่อแต่บอกเลยว่าสะดวกสบายมาก ตลอดเส้นทางจะได้ชมวิวอันสวยงามของเทือกเขาที่มีเสน่ห์ไม่เหมือนกันในแต่ละฤดู ไฮไลต์อยู่ในช่วงกลางเดือนเมษายน – กลางเดือนมิถุนายน เพราะจะมี “Yuki no Otani” หรือ กำแพงหิมะ สุดอลังการที่สูงเกือบ 20 เมตรให้ชมด้วย

เวลาเปิด-ปิด : เปิดเส้นทางเฉพาะช่วงกลางเดือนเมษายน – ปลายเดือนพฤศจิกายน / กำแพงหิมะชมได้ตั้งแต่ กลางเดือนเมษายน – ปลายเดือนมิถุนายน
การเดินทาง : นั่งรถบัสจากสถานี Nagano ไปลงสถานี Ogizawa ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 40 นาที
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/89BsXpNQ9KLcattv9


3. ฮาคุบะ (Hakuba)

ที่เที่ยวนากาโน่
Credit : Goryu / canva.com

ฮาคุบะ ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาของเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นตอนเหนือ (Northern Alps) เป็น ที่เที่ยวนากาโน่ ที่คนนิยมมาเล่นสกี และสโนว์บอร์ดในฤดูหนาว เพราะหิมะเป็นปุยนุ่ม ละเอียดเหมือนผงแป้ง อีกทั้งยังมีสกีรีสอร์ตเปิดให้บริการเป็นสิบแห่งเลยค่ะ นอกจากช่วงฤดูหนาวแล้ว ในฤดูใบไม้ร่วงก็เป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยมากๆ เช่นกัน เพราะจะเกิดปรากฏการณ์ “ซันดันโคโย (Sandan Koyo)” หรือภูเขา 3 สี ที่ประกอบด้วย สีเขียวของใบไม้ที่ยังไม่เปลี่ยนสี สีเหลือง – แดงจากใบไม้ที่เปลี่ยนสีแล้ว และสีขาวของหิมะ ส่วนในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ก็มีจุดชมซากุระสวยๆ ที่มองเห็นเทือกเขาหิมะอยู่ที่ สวนสาธารณะโออิเดะ (Oide Park) เรียกได้ว่าเป็นที่เที่ยวธรรมชาติที่วิวสวยตลอดทั้งปีเลย

การเดินทาง : นั่ง Alpico Bus จากสถานี Nagano ไปลงสถานี Hakuba ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/Rcr4LEMfcrnBRLnLA


4. ปราสาทมัตสึโมโตะ (Matsumoto Castle)

Credit : Phattana Stock / shutterstock.com

ใครมา เที่ยวนากาโน่ ก็ต้องแวะมาที่ ปราสาทมัตสึโมโตะ เพราะที่นี่ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองมัตสึโมโตะ และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติของชาติ เนื่องจากเป็นปราสาทดั้งเดิมเพียงไม่กี่แห่งที่ยังคงหลงเหลืออยู่ มีอายุเก่าแก่มากกว่า 400 ปี หากมองจากด้านนอกจะเห็นหลังคาแค่ 5 ชั้น แต่จริงๆ แล้วข้างในมี 6 ชั้น ภายในมีพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงของใช้ต่างๆ สามารถขึ้นไปด้านบนเพื่อชมวิวเมืองจากมุมสูงได้ด้วย นอกจากนี้รอบๆ ยังมีถนนเก่าแก่ ที่มีทั้งคาเฟ่ ร้านค้า และร้านอาหารอร่อยๆ เพียบเลย

เวลาเปิด-ปิด : 08.30 – 17.00 น.
ค่าเข้า : ผู้ใหญ่ 700 เยน /  เด็ก (อายุ 6 – 15 ปี) 300 เยน
การเดินทาง : นั่งรถไฟมาลงสถานี Matsumoto จากนั้นเดินต่อประมาณ 1 กโลเมตร หรือนั่งรถบัส Town Sneaker ประมาณ 10 นาที
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/BEfKedxpyyngzDNo7


5. สวนลิงจิโกคุดานิ (Jigokudani Monkey Park)

Credit : Sean Pavone / shutterstock.com

สวนลิงจิโกคุดานิ สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1964 ตั้งอยู่ที่ระดับความสูง 850 เมตร ในหุบเขาทางตอนเหนือของนากาโน่ ซึ่งถูกขนานนามว่าเป็น “หุบเขานรก” เนื่องจากมีหน้าผาสูงชัน โขดหินขรุขระ และควันที่พวยพุ่งออกมาจากน้ำพุร้อน แถมยังปกคลุมไปด้วยหิมะนานถึง 4 เดือนต่อปี วิวที่นี่สวยมาก และยังเป็นที่อาศัยของ “ลิงหิมะ” จำนวนกว่า 200 ตัว ที่อยู่กันตามธรรมชาติ แบบไม่มีรั้วกั้นใดๆ ถ้ามาในช่วงหน้าหนาวจะเห็นลิงเหล่านี้ลงไปแช่ออนเซ็นอย่างสบายใจด้วยค่ะ

เวลาเปิด-ปิด : ฤดูร้อน (เมษายน – ตุลาคม) เวลา 08.30 – 17.00 น. / ฤดูหนาว (พฤศจิกายน – มีนาคม) เวลา 09.00 – 16.00 น.
ค่าเข้า : ผู้ใหญ่ 800 เยน / เด็ก (อายุ 6 – 17 ปี) 400 เยน
การเดินทาง : จากสถานี Nagano ขึ้นรถบัสสาย Nagano Dentetsu ไปลงสถานี Yudanaka จากนั้นขึ้นรถบัสไปลงที่ป้าย Kanbayashi Onsen หรือป้าย Kanbayashi Onsen-guchi แล้วเดินต่ออีกประมาณ 2.4 กิโลเมตร
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/L22wwasNwzj2nVg4A


6. วัดเซนโคจิ (Zenkoji Temple)

Credit : Photospirit / canva.com

เที่ยวนากาโน่ กันต่อเลยที่ วัดเซ็นโคจิ หนึ่งในวัดสำคัญของญี่ปุ่น ถูกสร้างขึ้นเมื่อศตวรรษที่ 7 หรือประมาณ 1,400 ปีก่อน ภายในเป็นที่เก็บรักษาพระพุทธรูปองค์แรกที่ถูกนำเข้ามาพร้อมกับการเผยแผ่ของศาสนาพุทธ และยังเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัยที่ไทยมอบให้ญี่ปุ่นในโอกาสครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย – ญี่ปุ่นอีกด้วย อาคารหลักถูกสร้างขึ้นใหม่ในสมัยเอโดะ ตกแต่งอย่างสวยงาม มีทางเดินใต้ดินมืดสนิทที่เชื่อกันว่า หากใครเดินคลำกำแพงไปเรื่อยๆ จนเจอ “กุญแจสู่สวรรค์ (key to paradise)” ที่แขวนอยู่ใกล้ทางออก ก็จะได้ขึ้นสวรรค์ด้วย

เวลาเปิด-ปิด : บริเวณวัดเปิด 24 ชั่วโมง / อาคารหลักเปิดตั้งแต่เช้าตรู่ ประมาณ 06.00 – 16.00 น. (เดือนเมษายน – ตุลาคม ปิด 16.30 น.)
ค่าเข้า : ผู้ใหญ่ และนักศึกษา 600 เยน / เด็กมัธยมปลาย 200 เยน / เด็กประถมศึกษา – มัธยมต้น 50 เยน
การเดินทาง : จากสถานี Nagano ทางออก Zenkoji ไปขึ้นรถ Alpico Bus ที่ป้ายรถบัสหมายเลข 1 ลงที่ป้าย Zenkoji Daimon ใช้เวลาประมาณ 10 นาที และเดินต่อประมาณ 600 เมตร
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/RXboX5WuMxZmR9hH6


7. หมู่บ้านนาราอิจูกุ (Narai – juku)

Credit : gyro / canva.com

นาราอิจูกุ เป็น ที่เที่ยวนากาโน่ ที่ตั้งอยู่บนเส้นทางสายนากาเซ็นโดะ (Nakasendo) ซึ่งเชื่อมระหว่างเมืองเกียวโตและโตเกียว ท่ามกลางความอุดมสมบูรณ์ของหุบเขาคิโซ (Kiso) ในสมัยเอโดะมีความเจริญรุ่งเรืองมาก เพราะบรรดาคนที่สัญจรไปมาผ่านเส้นทางนี้ก็จะใช้ที่นี่เป็นจุดแวะพัก ปัจจุบันอาคารบ้านเรือนต่างๆ กว่า 50 หลัง ที่เรียงยาวกว่า 1 กิโลเมตรยังถูกอนุรักษ์ไว้อย่างดี และมีสภาพสมบูรณ์มาก บางหลังเปิดเป็นร้านค้า ร้านกาแฟ ร้านอาหาร ที่พัก สามารถมาเดินเล่น ช้อปของที่ระลึก งานแฮนด์เมดสวยๆ และถ่ายรูปเล่นกันได้เลย

เวลาเปิด-ปิด : 09.00 – 17.00 น.
การเดินทาง : นั่งรถไฟ JR สาย Chuo ไปลงสถานี Narai จากนั้นเดินต่อประมาณ 100 เมตร
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/TngdUCXi3ujyoXDD9


8. คารุอิซาวะ ปรินซ์ ชอปปิ้ง พลาซ่า (Karuizawa Prince Shopping Plaza)

Credit : jamesteohart / canva.com

คารุอิซาวะ ปรินซ์ ชอปปิ้ง พลาซ่า เป็นศูนย์การค้าขนาดใหญ่ ที่ตั้งอยู่ในเมืองคารุอิซาวะ ล้อมรอบด้วยธรรมชาติสุดร่มรื่น บรรยากาศเหมือนรีสอร์ตเลยค่ะ ด้านในมีร้านค้ากว่า 240 ร้าน จำหน่ายทั้งสินค้าแบรนด์เนมชื่อดัง และแบรนด์ของญี่ปุ่น มีสินค้าให้เลือกช้อปหลากหลาย เช่น เสื้อผ้าแฟชั่น กระเป๋า รองเท้า ของตกแต่งบ้าน อุปกรณ์กีฬา ของที่ระลึก สินค้าสำหรับเด็ก รวมถึงร้านอาหาร และคาเฟ่มากมาย ทั้งยังมีบริการให้เช่าตู้ล็อกเกอร์สำหรับฝากสัมภาระอีกด้วย พอตกกลางคืนมีการประดับไฟสีสันต่างๆ อย่างสวยงาม ช้อปปิ้งเสร็จแล้วก็สามารถมาแชะภาพสวยๆ ได้เลย

เวลาเปิด-ปิด : 10.00 – 19.00 น.
การเดินทาง : นั่งรถไฟ Hokuriku Shinkansen ลงสถานี Karuizawa ทางออกทิศใต้ จากนั้นเดินต่อประมาณ 200 เมตร
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/DaZpcD7Q2MXePDbh7


9. โทกาคุชิ (Togakushi)  

Credit : go-nagano.net

โทกาคุชิ ได้ชื่อว่าเป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์ เพราะประกอบไปด้วยศาลเจ้าถึง 5 แห่ง เรียงจากข้างล่างขึ้นไปข้างบนคือ ศาลเจ้าโฮโคฉะ (Hokosha Shrine), ฮิโนะมิโกะฉะ (Hinomikosha Shrine), จูฉะ (Chusha Shrine), คุซุริวฉะ (Kuzuryusha Shrine) และโอคุฉะ (Okusha Shrine) ทั้งหมดมีทางเดินเชื่อมกัน ถ้าจะเช็กอินให้ครบต้องใช้เวลาเดินประมาณ 2.5 ชั่วโมง แต่ถ้าใครไม่อยากเดินก็มีรถบัสบริการพาขึ้นไปส่งถึงด้านบนเลยค่ะ จุดไฮไลต์ที่คนนิยมมาถ่ายรูปมากที่สุดอยู่ที่ ศาลเจ้าโฮคุฉะ โดยจะมีอุโมงค์ต้นสนซีดาร์ยักษ์ อายุมากกว่า 400 ปี เรียงกันยาวประมาณ 500 เมตร ช่วงฤดูหนาวที่มีหิมะปกคลุมทางเดินจะสวยงามสุดๆ โดยนอกจากศาลเจ้าต่างๆ แล้ว ที่นี่ยังมีพิพิธภัณฑ์นินจา, หมู่บ้านนินจา และแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอีกมากมาย

เวลาเปิด-ปิด : 09.00 – 17:00 น.
การเดินทาง : ออกจากสถานี Nagano ทางออก Zenkoji ไปขึ้นรถ Alpico Bus สาย 70 หรือ 71 เลือกลงที่ป้ายศาลเจ้า Hokosha, Chusha หรือ Okusha ใช้เวลาเดินทางประมาณ 50 – 65 นาที (ช่วงฤดูหนาวรถจะจอดถึงแค่ป้าย Chusha เท่านั้น)
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/XfcZyGpKT4Popcgw8


10. วงแหวนเซ็นโจจิกิ (Senjojiki Cirque) 

Credit : KOIZUMI MOMOTARO / canva.com

ปิดท้ายที่ วงแหวนเซ็นโจจิกิ ตั้งอยู่ที่ความสูง 2,612 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล เป็นที่ราบสูงที่มีรูปครึ่งวงกลมเหมือนแอ่ง เกิดจากการกัดเซาะของธารน้ำแข็งที่ค่อยๆ ละลายเมื่อประมาณ 20,000 ปีก่อน ช่วงฤดูร้อนทุ่งหญ้าบริเวณนี้จะเต็มไปด้วยดอกไม้ป่าหลากสี พอเข้าฤดูใบไม้ร่วงก็จะกลายเป็นวิวใบไม้เปลี่ยนที่สวยจนต้องทึ่ง ก่อนที่ทั้งหมดจะถูกปกคลุมด้วยหิมะสีขาวโพลนในฤดูหนาว เป็นที่เที่ยวที่สามารถมาเที่ยวได้ทุกฤดูเลย การเดินทางมา ที่เที่ยวนากาโน่ แห่งนี้จะต้องนั่งกระเช้าลอยฟ้าขึ้นมา ใช้เวลาเพียง 8 นาทีเท่านั้น วิวภูเขาระหว่างทางสวยอลังการจนรู้สึกว่าเวลาผ่านไปไวมากๆ เลยค่ะ

การเดินทาง : นั่งรถไฟ JR สาย Iida ไปลงสถานี Komagane จากนั้นต่อรถบัสไปลงสถานี Sharabihira แล้วนั่งกระเช้า Komagatake Ropeway ไปลงที่สถานี Senjojiki
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/QTAjHiofWPMuzTuW9

นอกจากสถานที่สวยๆ เหล่านี้ นากาโน่ยังขึ้นชื่อเรื่องอาหารแสนอร่อย โดยเฉพาะเมนูโซบะ และ ไก่ทอดซันโซคุยากิ ที่ทั้งหอม กรอบ ชุ่มฉ่ำ! ใครมาเที่ยวก็อย่าลืมแวะไปชิมกันนะคะ ส่วนใครที่ยังไม่เคยมาเที่ยวญี่ปุ่น หรืออยากเที่ยวคุ้มๆ แบบทริปเดียวได้เที่ยวหลายเมือง พี่เห็ดมีโปรแกรม ทัวร์ญี่ปุ่ ให้เลือกหลายเส้นทางที่รวมนากาโน่อยู่ในนั้นด้วย กดจองแล้วมาออกเดินทางไปสนุกด้วยกัน !


ชอบ บทความ มัชรูมทราเวล ทำไงดี…?
1. กดแชร์ต่อ ให้เพื่อนอ่านบ้าง
2. คลิก Like และ ติดตามเราได้ที่ Facebook www.facebook.com/mushroomtravel/

—————

Mushroom Travel มีโปรแกรม ทัวร์ญี่ปุ่น ให้เลือกมากที่สุด
โทร. 02-105-6234 (30 คู่สาย)
[email protected]
Line id : @mushroomtravel

สินค้าที่เกี่ยวข้อง