หลายคนอาจจะเคยไป เที่ยวจีน ในเมืองยอดฮิตอย่าง ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ หรือเฉิงตู มาแล้ว วันนี้พี่เห็ด มัชรูมทราเวล เลยอยากจะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับ “ชิงเต่า” อีกหนึ่งเมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในเมืองที่สวยที่สุดของจีน มีทั้งชายหาดที่แสนโรแมนติก ตึกสูงทันสมัย และสถาปัตยกรรมสไตล์ยุโรป ถ้าอยากรู้ว่าเด็ดแค่ไหน มีที่เที่ยวอะไรน่าสนใจบ้าง เตรียมเก็บกระเป๋า แล้วขึ้นเครื่องไป เที่ยวชิงเต่า กับพี่เห็ดกันเลย !
ทำความรู้จักชิงเต่า
ชิงเต่า (Qingdao) เป็นเมืองท่าสำคัญของจีน ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ ในมณฑลซานตง รายล้อมด้วยขุนเขา สายน้ำ และชายหาดที่ทอดยาวกว่า 700 กิโลเมตร จึงทำให้เมืองนี้มีทัศนียภาพที่งดงามราวกับดินแดนในฝัน เป็นสวรรค์ของคนที่อยากมาพักผ่อนหย่อนใจ แต่ในขณะเดียวกันช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมาก็มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว จนกลายเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจที่เจริญมาก บรรยากาศในเมืองคึกคักทันสมัย เต็มไปด้วยตึกสูงระฟ้า แหล่งช้อปปิ้ง แหล่งท่องเที่ยวที่น่าตื่นตาตื่นใจ รวมถึงสถาปัตยกรรมสไตล์ยุโรปที่หลงเหลือมาจากการเป็นเมืองขึ้นของเยอรมันในอดีต
อากาศของชิงเต่าแจ่มใส เย็นสบาย ได้รับอิทธิพลจากสภาพแวดล้อมทางทะเล และมรสุมตะวันออกเฉียงใต้ แบ่งได้เป็น 4 ฤดูคือ ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม – พฤษภาคม), ฤดูร้อน (มิถุนายน – สิงหาคม), ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน – พฤศจิกายน) และ ฤดูหนาว (ธันวาคม – กุมภาพันธ์) อุณหภูมิเฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ประมาณ 13 องศาเซลเซียส ช่วงฤดูหนาว และต้นฤดูใบไม้ผลิ อากาศจะเย็น อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ -5 ถึง 7 องศาเซลเซียส และมีหิมะตก ทำให้ดูสวยเหมือนอยู่ยุโรปเข้าไปอีก ส่วนฤดูร้อนจะมีฝนตก และอากาศไม่ร้อนจัด แม้ในเดือนสิงหาคมซึ่งเป็นเดือนที่ร้อนที่สุด อุณหภูมิเฉลี่ยก็อยู่ที่ประมาณ 25 องศาเซลเซียสเท่านั้นเองค่ะ
พอจะรู้จักเมืองชิงเต่ากันไปบ้างแล้ว ทีนี้เรามาดูที่เที่ยวน่าสนใจในเมืองชิงเต่ากัน พี่คัดมาให้ชมแล้ว ไปปักหมุดกัน!
1. พิพิธภัณฑ์เบียร์ชิงเต่า (Tsingtao Beer Museum)
เบียร์ชิงเต่า (Tsingtao) เป็นของขึ้นชื่อของเมืองที่โด่งดังไปไกลทั่วโลก จุดเริ่มต้นมาจากการก่อตั้งโรงกลั่นเบียร์ของกลุ่มพ่อค้าชาวเยอรมันที่มาอาศัยในชิงเต่า แต่หลังสิ้นสุดสงครามโลก เบียร์ชิงเต่าก็กลายมาเป็นของรัฐบาลจีนโดยสมบูรณ์ อาคารสไตล์โกธิกสีแดงหลังนี้ก็ถูกเปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์ และกลายเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กยอดนิยมของการมา เที่ยวชิงเต่า เมื่อเข้าไปด้านในจะได้สัมผัสกับประวัติศาสตร์ของเบียร์ชิงเต่า ทั้งอุปกรณ์เก่าแก่ที่เคยใช้ เบียร์ชิงเต่าจากยุคต่างๆ ขั้นตอนการผลิต และยังได้ชิมรสชาติอันแสนนุ่มนวลของเบียร์ชิงเต่าด้วย
ค่าเข้าชม : กรกฎาคม – กันยายน 60 หยวน / ตุลาคม – มิถุนายน 50 หยวน
เวลาเปิด – ปิด : กรกฎาคม – กันยายน เวลา 08.00 – 18.00 น. / ตุลาคม – มิถุนายน เวลา 08.30 – 17.30 น.
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/FGR2yDt9SoZHb1Zw6
2. ภูเขาเหลาซาน (Laoshan Mountain)
ภูเขาเหลาซาน ถูกขนานนามว่าเป็น “ถิ่นกำเนิดของลัทธิเต๋า” ขึ้นชื่อเรื่องทิวทัศน์ภูเขาและชายฝั่งที่งดงาม ได้รับการจัดอันดับให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวระดับ 5A มีจุดชมวิวสวยๆ หลายจุด โดยเฉพาะ ยอดจูเฟิง (Jufeng Peak) ที่สูง 1,133 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล พร้อมด้วยถนนสำหรับเที่ยวชมภูเขา สามารถมองเห็นทะเลและท้องฟ้าได้ไกลสุดลูกหูลูกตาตลอดเส้นทาง นอกจากนี้ยังมีสิ่งปลูกสร้างมากมายที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดีตั้งแต่สมัยที่ลัทธิเต๋ารุ่งเรือง เช่น ไทชิงกง (Taiqing Palace) ที่สร้างขึ้นครั้งแรกในสมัยราชวงศ์ซ่งเหนือ เป็นวัดที่มีขนาดใหญ่และเก่าแก่ที่สุดบนภูเขา มีอายุกว่า 2,000 ปี ด้านหลังยังมีรูปปั้นเล่าจื๊อขนาดใหญ่สูง 36 เมตร ตั้งอยู่กลางแจ้งด้วย
ค่าเข้าชม : เมษายน – ธันวาคม 90 หยวน / มกราคม – มีนาคม 60 หยวน
เวลาเปิด – ปิด :
– มีนาคม – มิถุนายน และ กันยายน – พฤศจิกายน เวลา 07.00 – 17.30 น.
– กรกฎาคม – สิงหาคม เวลา 06.00 – 19.00 น.
– ธันวาคม – กุมภาพันธ์ เวลา 07.30 – 17.00 น.
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/RWvRH4bUdXzXuMiP8
3. จุดชิมวิวเสี่ยวอี๋ซาน (Xiaoyushan Park)
อีกหนึ่งที่ เที่ยวชิงเต่า ที่ทัศนียภาพสวยงามมากคือ จุดชิมวิวเสี่ยวอี๋ซาน เป็นสวนสาธารณะที่ตั้งอยู่บนเนินเขาเสี่ยวอี๋ที่มีความสูง 60 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ด้านบนมีศาลาจีนทรงแปดเหลี่ยมขนาด 3 ชั้น สูง 18 เมตร ที่สามารถขึ้นไปชมวิวได้ จากบนนี้สามารถมองเห็นชิงเต่าได้ทั้งเมือง รวมถึงแลนด์มาร์กสำคัญๆ เช่น สะพานจ้านเฉียว, เกาะเสี่ยวชิงเต่า (Little Qingdao Isle), สวนหลู่ซุน (Lu Xun Park), ปาต้ากวน (Badaguan) ทั้งยังเป็นแหล่งรวมของดอกไม้และพืชพรรณนานาชนิด เติมความสดชื่นได้เป็นอย่างดีเลย
ค่าเข้าชม : พฤศจิกายน – มีนาคม 10 หยวน / เมษายน – ตุลาคม 15 หยวน
เวลาเปิด – ปิด : 07.00 – 18.00 น.
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/moQ6AErZEFcA8RsF7
4. สะพานจ้านเฉียว (Zhan Qiao)
มา เที่ยวชิงเต่า กันต่อที่ สะพานจ้านเฉียว ตั้งอยู่บริเวณชายฝั่งทางใต้ เริ่มต้นจากปลายถนนจงซาน ทอดตัวออกไปสู่ทะเลกว้าง สร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์ชิงเมื่อปี ค.ศ. 1892 เพื่อใช้ขนส่งทางทหาร แต่ปัจจุบันกลายเป็นจุดชมวิว และมีการปรับปรุงขยายสะพานเพิ่มจาก 200 เมตร เป็น 440 เมตร ปลายสุดมี ศาลาหุยหลาน (Hui Lan Ge) ทรงแปดเหลี่ยม 2 ชั้น คลุมด้วยกระเบื้องเคลือบสีสันสดใส ภายในมีบันไดวน 34 ขั้น พาขึ้นไปยังจุดชมวิวที่มองเห็นทะเลสีครามทอดยาวสุดสายตา เหมาะแก่การมาชมพระอาทิตย์ขึ้น และพระอาทิตย์ตก
ค่าเข้าชม : สะพานเข้าฟรี แต่มีค่าเข้าศาลาปลายสะพาน 4 หยวน
เวลาเปิด – ปิด : สะพานเปิดตลอด 24 ชั่วโมง / ศาลาเปิด 07.00 – 19.00 น. ในเดือนพฤษภาคม – ตุลาคม และ 08.00 – 17.30 น. ในเดือนพฤศจิกายน – เมษายน
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/u5peCkuoxZDMzGvHA
5. โบสถ์คาทอลิก (Qingdao Catholic Church)
โบสถ์คาทอลิก เดิมชื่อ โบสถ์นักบุญไมเคิล (St. Michael’s Church) ออกแบบโดย Arthur Bialucha สถาปนิกชาวเยอรมัน เริ่มก่อสร้างในปี ค.ศ. 1932 และแล้วเสร็จในปี ค.ศ. 1934 โดยใช้หินแกรนิตสีเหลืองและคอนกรีตเสริมเหล็ก มีรูปแบบสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานระหว่างโกธิคและโรมาเนสก์ ถือเป็นโบสถ์ที่ใหญ่ที่สุด และโอ่อ่าที่สุดในชิงเต่า ครอบคลุมพื้นที่กว่า 11,480 ตารางเมตร โดดเด่นด้วยหอระฆังสูง 56 เมตร ที่ยอดแหลมถูกคลุมด้วยกระเบื้องสีแดง ประดับไม้กางเขนสูง 4.5 เมตร ภายในตัวโบสถ์สามารถรองรับผู้คนได้กว่าพันคนเลยค่ะ
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 10 หยวน / เด็ก 5 หยวน
เวลาเปิด – ปิด : 08.00 – 17.00 น.
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/FC49BiR261PesWss7
6. ถนนพีฉายย่วน (PiChai Yuan)
ถนนพีฉายย่วน ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1902 หลังจากที่เยอรมันเข้ายึดครองชิงเต่า ตั้งอยู่ห่างจากโบสถ์คาทอลิกประมาณ 500 เมตรเท่านั้น ได้ฉายาว่าเป็น “ถนนแห่งสตรีทฟู้ด” เพราะเมื่อเราเดินลัดเลาะไปตามซอกซอยต่างๆ จะเจอร้านขายอาหารเรียงรายอยู่เต็มสองข้างทางเลยค่ะ ไม่ว่าจะเมนูท้องถิ่น เมนูขึ้นชื่อ สตรีทฟู้ด อาหารจีน อาหารตะวันตก อาหารทะเลปรุงสดๆ บาร์บีคิว หม่าล่า ขนมหวาน หรือแม้แต่เมนูแปลกๆ ก็มีให้ได้ลิ้มลองกัน
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/NWndNBSRN2XdeFor8
7. พิพิธภัณฑ์ที่ทำการเก่าเยอรมัน (Museum of Former German Governor’s House)
พิพิธภัณฑ์ที่ทำการเก่าเยอรมัน เป็นอาคารสไตล์ยุโรปที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 100 ปี ออกแบบโดยสถาปนิกชาวเยอรมัน ให้มีรูปร่างคล้ายปราสาท สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1905 เพื่อใช้เป็นที่พำนักของผู้ว่าการ ต่อมาในปี 1999 จึงเปลี่ยนมาเป็นพิพิธภัณฑ์ และเปิดให้ประชาชนเข้าชม ภายในตกแต่งสไตล์อาร์ตนูโว มีการนำเฟอร์นิเจอร์ ภาพถ่าย รวมถึงโบราณวัตถุมาจัดแสดงด้วย
ค่าเข้าชม : พฤศจิกายน – มีนาคม 13 หยวน / เมษายน – ตุลาคม 20 หยวน
เวลาเปิด – ปิด :
– พฤศจิกายน – มีนาคม เวลา 09.00 – 16.30 น. (ปิดวันจันทร์)
– เมษายน เวลา 09.00 – 17.00 น. (ปิดวันจันทร์)
– 1 พฤษภาคม – 7 ตุลาคม เวลา 09.00 – 19.00 น. (ปิดวันจันทร์)
– 8 ตุลาคม – 31 ตุลาคม เวลา 09.00 – 17.00 น. (ปิดวันจันทร์)
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/1Edo2j5H1CyiUt5E7
8. จัตุรัส 54 (May Fourth Square)
มา เที่ยวจีน ที่ชิงเต่าแล้วอย่าลืมแวะมาที่ จัตุรัส 54 กันด้วยนะคะ เป็นจัตุรัสสาธารณะขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง บริเวณริมอ่าวฝูซาน (Fushan) สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์ เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม ค.ศ. 1919 ที่กลุ่มนักศึกษาออกมาชุมนุมประท้วง เรียกร้องให้ญี่ปุ่นคืนชิงเต่าให้กับจีน มีไฮไลต์อย่าง “May Wind” ประติมากรรมรูปเกลียวสีแดงขนาดใหญ่ ลักษณะคล้ายพายุหมุน ที่สื่อถึงสายลมแห่งการเปลี่ยนแปลง ตอนกลางคืนจะเปิดไฟสว่างไสว ดูเหมือนกับคบเพลิงที่กำลังลุกโชน บรรยากาศรอบๆ ร่มรื่นมาก วิวสวย อากาศเย็นสบาย มีสนามหญ้ากว้างๆ น้ำพุที่ฉีดพ่นน้ำได้สูงถึง 100 เมตร เหมาะแก่การมาเดินเล่น พักผ่อน ชมวิว
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/ayE2PUBVimn4j5fk8
9. ถนนคนเดินไท่ตง (Taidong San Lu)
ถนนคนเดินไท่ตง เป็นที่ เที่ยวชิงเต่า ที่เหมาะสำหรับการมาเดินเล่นถ่ายรูป และช้อปปิ้ง เทียบได้กับถนนหนานจิงของเซี่ยงไฮ้ หรือถนนหวังฝูจิ่งของปักกิ่งเลยค่ะ บรรยากาศคึกคักมากทั้งกลางวันและกลางคืน ตลอดทางเดินรายล้อมไปด้วยห้างสรรพสินค้า และร้านค้ามากมาย ที่มีสินค้าหลากหลายประเภทให้เลือกช้อป ตั้งแต่เสื้อผ้า รองเท้า อุปกรณ์กีฬา อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ กิ๊ฟต์ช็อป รวมถึงอาหารอร่อยๆ ที่ส่งกลิ่นหอมจนอดใจไม่ไหวต้องไปซื้อมาชิม นอกจากนี้ยังมี Street Art ที่มีผลงานศิลปะสุดเก๋บนกำแพง บนตึกอพาร์ตเมนต์ ให้ได้เดินชม ถ่ายรูปกันอีกด้วย
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/u9owA596L6dGw312A
ใครอยากเปิดประสบการณ์ เที่ยวจีน ในเมืองใหม่ๆ ลองมาเมืองชิงเต่า รับรองไม่ผิดหวังเลยค่ะ ทั้งวิวสวย บรรยากาศดี อาหารอร่อย เดินทางง่าย มีรถไฟใต้ดินถึง 8 สายที่เชื่อมทุกสถานที่สำคัญ หรือถ้าจะให้สะดวกสบายกว่านั้น ก็กดจอง ทัวร์จีน ไปกับ มัชรูมทราเวล ได้เลย มีรถพร้อมไกด์คอยดูแลอย่างดี และนอกจากชิงเต่า ก็ยังมีโปรแกรมทัวร์อีกหลายเส้นทางให้เลือกเที่ยวกันแบบจุใจ สนุก คุ้มค่า เต็มเปี่ยมด้วยความประทับใจแน่นอน