เอาใจคนชอบถ่ายรูปสวยๆ ลงโซเชียล พี่เห็ด มัชรูมทราเวล ขอพาไป ทัวร์ตุรกี หรือ ตุรเคีย ประเทศที่ได้ชื่อว่าเป็น “ประเทศสองทวีป” เพราะมีดินแดนอยู่ทั้งในทวีปเอเชียและยุโรป และยังมีสถานที่ท่องเที่ยวครบในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นธรรมชาติที่สวยงาม อารยธรรมโบราณ และสถาปัตยกรรมเก่าแก่ สะท้อนออกมาเป็นทัศนียภาพงดงามชวนฝัน จัดว่าเป็นสวรรค์ของนักถ่ายภาพและคนชอบเล่นโซเชียลที่อยากได้รูปปังๆ ใครเห็นก็ต้องกด Like ใครอยากได้รูปสวยๆ ตามพี่เห็ดไปเก็บให้ครบทุกจุด กับ 10 พิกัด ที่เที่ยวตุรกี ที่ต้องไปถ่ายรูปเช็คอินสักครั้ง!
1. คัปปาโดเกีย (Cappadocia)
เริ่มต้นที่ คัปปาโดเกีย เมืองยอดฮิตแห่งการขึ้นบอลลูน ที่ไม่ว่าใครมา ทัวร์ตุรกี ก็ต้องหลงรักสถานที่แห่งนี้อย่างแน่นอน โดดเด่นด้วยวิวธรรมชาติที่สวยงามแปลกตา และเต็มไปด้วยบอลลูนหลากสีสัน ถ่ายรูปได้สวยทุกมุม พี่เห็ดแนะนำเลยว่ามาที่นี่ต้องได้ขึ้นบอลลูนไปชมวิวสวยๆ สักครั้ง สัมผัสประสบการณ์ใหม่ที่จะได้ทั้งภาพสวยๆ และความประทับใจ หรือจะถ่ายรูปกับวิวบอลลูนด้านหลังก็ถูกใจสุดๆ นอกจากนี้เมื่อปี ค.ศ. 1985 ทาง UNESCO ก็ได้ประกาศให้ที่นี่เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติและวัฒนธรรมแห่งแรกของตุรกีอีกด้วย
2. ปามุคคาเล (Pamukkale)
เห็นแล้วต้องร้องว้าว! กับสถานที่แห่งนี้ ปามุคคาเล หรือที่เรียกอีกชื่อว่า ปราสาทปุยฝ้าย (Cotton Castle) ลักษณะเป็นแอ่งน้ำหินปูนสีขาวที่ด้านในมีน้ำสีฟ้าตัดกันสวยงาม เป็นความสวยงามตามธรรมชาติ ซึ่งเกิดจากธารน้ำใต้ดินที่มีแร่ธาตุต่างๆ เอ่อล้นออกมาและจับตัวกันจนกลายเป็นแอ่งน้ำขนาดเล็กใหญ่ ตั้งเรียงลดหลั่นเป็นขั้นๆ ช่วงที่สวยที่สุดก็คือ ฤดูใบไม้ผลิ หรือประมาณ เดือนเมษายน-พฤษภาคม เพราะน้ำจะขึ้นล้นแอ่ง ทำให้ที่นี่กลายเป็น ที่เที่ยวตุรกี แหล่งน้ำพุร้อนธรรมชาติที่นักท่องเที่ยวต่างพากันมาเก็บภาพความประทับใจกันรัวๆ
3. มหาวิหารฮาเกียโซเฟีย (Hagia Sophia)
เดินทางกันต่อมาที่เมืองอิสตันบูล เพื่อชมความงดงามของโบราณสถานสำคัญอย่าง มหาวิหารฮาเกียโซเฟีย หรือที่รู้จักอีกชื่อว่า สุเหร่าโซเฟีย เป็นสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น สวยงาม เป็นเอกลักษณ์ ถือได้ว่าเป็นหนึ่งใน ที่เที่ยวตุรกี ที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก โดยแต่ก่อนที่นี่เคยเป็นโบสถ์ของศาสนาคริสต์ ต่อมาได้ปรับปรุงเพื่อใช้เป็นสุเหร่าของศาสนาอิสลาม จนปัจจุบันได้กลายมาเป็นพิพิธภัณฑ์ที่เปิดให้คนเข้าชม ด้วยความยิ่งใหญ่ตระการตานี่เอง ทำให้ได้รับการยกย่องเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกในยุคกลางอีกด้วย
4. สุเหร่าสีน้ำเงิน (Blue Mosque)
ต่อกันที่ สุเหร่าสีน้ำเงิน ที่แค่เห็นด้านนอกก็สวยงามอลังการจนถ่ายรูปได้รัวๆ ยิ่งได้เข้ามาด้านในต้องถึงกับตะลึงกับความงดงามของสถาปัตยกรรมอันโดดเด่น ที่ตกแต่งด้วยกระเบื้องและกระจกโทนสีน้ำเงินสลับกับสีสันต่างๆ จนเกิดเป็นความสวยงามที่ตราตรึงใจ สุเหร่าแห่งนี้ได้เปิดให้ผู้คนเข้ามาละหมาด และเยี่ยมชมกันตลอดทั้งปี ที่สำคัญคือเข้าชมฟรี แต่จะต้องแต่งกายสุภาพ และสำรวมกันด้วยนะคะ
5. หอคอยกาลาตา (Galata Tower)
อีกหนึ่งพิกัดฮิตของคนเล่น IG ก็คือ หอคอยกาลาตา หอคอยแห่งประวัติศาสตร์ ที่เที่ยวยอดฮิตในเมืองอิสตัลบูลฝั่งยุโรป ลักษณะเป็นหอคอยหินสไตล์โรมันทรงกระบอกสูง ส่วนบนของหอคอยคล้ายกับรูปกรวยหมวก
ด้านในมีทั้งหมด 9 ชั้น เป็นหอคอยเก่าแก่ที่ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1891 ในอดีตเคยใช้เป็นหอสังเกตการณ์ ปัจจุบันกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เปิดให้ขึ้นไปชมวิวเมืองอิสตัลบูลได้อย่างเต็มตา ทำให้ที่นี่กลายเป็นจุดชมวิวที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองเลยทีเดียว ใครอยากได้รูปสไตล์เดินเล่นในเมืองฝั่งยุโรป ต้องมาที่นี่เลยค่ะ
6. อุโมงค์เก็บน้ำเยเรบาตัน (Yerebatan Sarnici)
อุโมงค์เก็บน้ำเยเรบาตัน เป็นอุโมงค์เก็บน้ำโบราณขนาดใหญ่ที่ซ่อนอยู่ใต้เมืองอิสตันบูล สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 532 ในสมัยของจักรพรรดิจัสติเนียน เพื่อเป็นที่กักเก็บน้ำเอาไว้ใช้ในพระราชวัง และสำรองไว้ใช้เมื่อเมืองถูกข้าศึกปิดล้อม ปัจจุบันเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้
ด้านในเต็มไปด้วยเสาที่มาจากซากอาคารที่เสียหายในสงคราม ซึ่งไฮไลท์อยู่ที่ต้นเสา 3 จุด คือ เสาสลักรูปดวงตาปีศาจ เสาหัวเมดูซากลับหัว และเสาหัวเมดูซาตะแคงขวา ท่ามกลางบรรยากาศเปิดไฟสลัวๆ ชวนให้ที่นี่ดูมีมนต์ขลัง ถ่ายรูปสวยได้ฟีลลึกลับๆ ไปอีกแบบค่ะ
7. ช่องแคบบอสฟอรัส (Bosphorus Strait)
มาชมวิวสวยๆ กันที่ ช่องแคบบอสฟอรัส เป็นช่องแคบขนาดใหญ่ที่ทำหน้าที่แบ่งเส้นระหว่างยุโรปและเอเชีย เชื่อมระหว่าง ทะเลมาร์มาร่า (Sea of Marmara) และ ทะเลดำ (The Black Sea) มีความยาวประมาณ 32 กิโลเมตร ซึ่งกิจกรรมที่ไม่ควรพลาดก็คือ การล่องเรือชมวิวโดยรอบ ที่ตลอดสองฝั่งเต็มไปด้วยตึกอาคารและสถาปัตยกรรมอันงดงามของตุรกี บอกเลยว่าใครที่มาตรงนี้แล้วต้องได้ถ่ายรูปทำคอนเทนท์ ได้ฟีลล่องเรือแบบสวยๆ
8. หุบเขาพาซาแบค (Pasabag Fairy Chimneys)
สำหรับใครที่อยากได้รูปถ่ายแบบแหวกแนว ไม่เหมือนใคร สไตล์ฮิปๆ ต้องมาที่ หุบเขาพาซาแบค แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่เต็มไปด้วยกลุ่มภูเขาหินขนาดใหญ่ทรงกรวยคว่ำ และเหมือนสวมหมวกอยู่ด้านบน เกิดจากการกัดเซาะของธรรมชาติ มีตั้งแต่ความสูงไม่กี่เมตรจนถึงเทียบเท่าความสูงของอาคาร และเรียกกันอีกชื่อว่า “ปล่องไฟนางฟ้า” หรือ “หุบเขาพระ” นับว่าเป็นความสวยงามที่ธรรมชาติสร้างขึ้นอย่างมหัศจรรย์ ชมได้ที่เมืองคัปปาโดเกีย
9. พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเกอเรเม่ (Goreme Open Air Musuem)
อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวโบราณเก่าแก่ในเมืองคัปปาโดเกีย และเป็นพิกัดยอดฮิตก็คือที่ พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเกอเรเม่ ที่เกิดจากการขุดเจาะภูเขาหินปล่องไฟนางฟ้าหลายลูก เพื่อสร้างเป็นโบสถ์ของศาสนาคริสต์ในยุคสมัยศตวรรษที่ 3 ภายในเป็นถ้ำที่มีภาพจิตรกรรมฝาผนังเก่าแก่และใช้เป็นศาสนสถาน สามารถไปยืนถ่ายรูปได้เพลินๆ พร้อมกับซึมซับบรรยากาศวิถีชีวิตของคนสมัยก่อน
10. เมืองโบราณเอฟฟิซุส (City of Ephesus)
ปิดท้าย ที่เที่ยวตุรกี เมืองโบราณเอฟฟิซุส ไปชมร่องรอยของสถาปัตยกรรมโบราณยุคโรมัน ที่ยังคงมีความสวยงามหลงเหลืออยู่ ตั้งอยู่ที่ เมืองอิซเมียร์ (Izmir) ในอดีตที่นี่เคยเป็นเมืองที่รุ่งเรืองและมั่งคั่งที่สุดในเเถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน อายุเก่าแก่มากกว่า 2,500 ปี จุดไฮไลท์ของที่นี่ก็คือ โรงละครโบราณ (Great Theatre) และ หอสมุดเซลซุส (Library of Celsus) หอสมุดที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก ซึ่งยังคงหลงเหลือร่องรอยให้เราจินตนการถึงความอลังการในอดีต บอกได้เลยว่าใครที่อินกับเรื่องราวประวัติศาสตร์ต้องตาลุกวาวอย่างแน่นอน
เต็มอิ่มจุใจไปกับ 10 พิกัด ที่เที่ยวตุรกี เมืองแห่งอารยธรรมที่ควรไปเยือนด้วยตัวเองสักครั้ง บอกได้เลยว่าพี่เห็ดพา ทัวร์ตุรกี รอบนี้ ทุกคนน่าจะมีไอเดียถ่ายรูปเด็ดๆ เตรียมหาชุดให้เข้ากับสถานที่ หรือปักหมุดเช็คอินรออยู่แล้วแน่ๆ รับรองได้เลยว่าการเดินทางครั้งนี้จะมีรูปเก็บไว้โพสต์ลงโซเชียลกันยาวๆ เลยค่ะ