ใครอยากไปเที่ยวจัดเต็ม ช้อปปิ้งจุกๆ ที่ยุโรป กับทริปสุดแฮปปี้ ตามมาทางนี้เลยค่ะ วันนี้พี่เห็ด มัชรูมทราเวล จะพาไปเที่ยวยุโรป 3 ประเทศ กับ ทัวร์อิตาลี สวิส ฝรั่งเศส สัมผัสความสวยงามของบ้านเมืองในบรรยากาศสุดคลาสสิก ไปเที่ยวทริปเดียวก็เช็คอินให้คุ้มไปเลย ดินแดนในฝันแห่งนี้จะมีอะไรน่าเที่ยวบ้าง รวมถึงคำถามที่ว่า เที่ยวอิตาลี สวิส ฝรั่งเศส เดือนไหนดี…? มาเก็บข้อมูลไปวางแผนเที่ยวกัน!
เที่ยวอิตาลี สวิส ฝรั่งเศส เดือนไหนดี ?
ถ้าถามว่า เที่ยวอิตาลี สวิส ฝรั่งเศส เดือนไหนดี อันนี้จริงๆ ก็แล้วแต่ความชอบของแต่ละคนด้วยนะคะ เพราะว่าที่ยุโรปมีฤดูกาลที่แตกต่างกันถึง 4 ฤดู ได้แก่ ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง และฤดูหนาว ซึ่งในโซนประเทศอิตาลี สวิตเซอร์แลนด์ และฝรั่งเศส อากาศในแต่ละฤดูเป็นประมาณนี้ค่ะ
ฤดูใบไม้ผลิ : เดือนมีนาคม – พฤษภาคม ช่วงนี้จะอากาศเย็นสบายประมาณ 10 กว่าองศา ฤดูนี้จะได้เห็นทุ่งหญ้า ต้นไม้สีเขียวชอุ่ม พร้อมกับมีดอกไม้สีสวยผลิบานมากมาย ถ่ายรูปสวยแน่นอน
ฤดูร้อน : เดือนมิถุนายน – สิงหาคม ในฤดูนี้อากาศจะเริ่มร้อนขึ้นและมีแดด รวมถึงอาจจะมีฝนด้วย อุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 18-28 องศาเซลเซียส บางช่วงก็จะคล้ายกับบ้านเรา แต่ว่าในตอนกลางคืนอากาศจะเย็น เตรียมเสื้อคลุมแขนยาวไว้ก็ดีค่ะ เป็นฤดูที่กลางคืนสั้น กลางวันยาวนาน พระอาทิตย์ตกช้า ทำให้ยังมีแสงสวยๆ เที่ยวได้ยาวๆ เลยค่ะ
ฤดูใบไม้ร่วง : เดือนกันยายน – พฤศจิกายน ฤดูนี้จะได้พบกับบรรยากาศใบไม้เปลี่ยนสีสวยๆ ใบไม้จากสีเขียวจะกลายเป็นสีส้มๆ แดงๆ พร้อมกับอากาศเย็นสบาย อากาศจะคล้ายกับฤดูใบไม้ผลิ แต่อาจจะมีฝนตกบ่อยๆ ได้ค่ะ
ฤดูหนาว : เดือนธันวาคม – กุมภาพันธ์ อากาศจะหนาวเย็นมาก รวมถึงมีหิมะในหลายๆ พื้นที่ อุณหภูมิจะลดลงต่ำ อยู่ที่ประมาณ -2 ถึง 7 องศาเซลเซียส ฤดูนี้พระอาทิตย์จะตกเร็ว ทำให้มืดเร็วมากๆ ส่วนช่วงเวลาน่าเที่ยวก็คือช่วงคริสต์มาสและปีใหม่ที่หลายๆ สถานที่จะมีการตกแต่งและเปิดไฟสวยๆ บรรยากาศคึกคัก
แต่ละฤดูก็มีสภาพอากาศและบรรยากาศที่แตกต่างกันไป จริงๆ แล้วก็น่าเที่ยวตลอดทั้งปีเลยค่ะ แต่ช่วง High Season ของประเทศในแถบยุโรปจะอยู่ในช่วงฤดูร้อน ที่คนยุโรปจะออกมาใช้ชีวิตนอกบ้านกันมากขึ้น ทั้งการท่องเที่ยว ทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือการจัดเทศกาลต่างๆ ถ้าใครชอบความคึกคักก็ไปเที่ยวช่วงหน้าร้อนได้ แต่ถ้าชอบอากาศเย็นๆ ได้ใส่เสื้อกันหนาวเก๋ๆ ก็แนะนำช่วงฤดูใบไม้ผลิ ฤดูใบไม้ร่วง หรือจะไปเจอหิมะในช่วงฤดูหนาวก็ได้เช่นกัน
เก็บข้อมูลฤดูกาลกันไปแล้ว ทีนี้เรามาดูเมืองน่าเที่ยวและพิกัดยอดฮิตที่ไม่ควรพลาดของการ เที่ยวอิตาลี สวิส ฝรั่งเศส กันดีกว่า ไล่ทีละประเทศกันไปเลยย
อิตาลี
มาเริ่มต้นเที่ยวกันที่ อิตาลี ประเทศที่มีอายุเก่าแก่ และเคยเป็นมหาอำนาจในอดีตยุคจักรวรรดิโรมัน การท่องเที่ยวในอิตาลีเราก็จะได้เห็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่มีสถาปัตยกรรมสวยงามอลังการ พี่เห็ดขอแนะนำเมืองน่าเที่ยว 2 เมือง 2 สไตล์ ได้แก่
กรุงโรม เมืองหลวงของอิตาลี
ทัวร์อิตาลี สวิส ฝรั่งเศส เริ่มต้นด้วยการพาคุณไปกันที่ กรุงโรม (Rome) เมืองแห่งประวัติศาสตร์เก่าแก่ของอิตาลี ขอบอกเลยว่าในโรมมีสถานที่ท่องเที่ยวสวยๆ อยู่เพียบ! ให้คุณและครอบครัวถ่ายรูปกันอย่างจุใจ ซึ่งสถานที่แรกที่มาเที่ยวโรมแล้วไม่แวะไม่ได้ นั่นก็คือ โคลอสเซียม (Colosseum) สนามกีฬาเก่าแก่ 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก เคยเป็นสนามกีฬายักษ์ที่สามารถจุคนได้กว่า 50,000 คน การออกแบบอย่างชาญฉลาดสร้างให้สนามกีฬามีลักษณะเป็นรูปวงรี เพื่อให้ผู้เข้าชมรู้สึกเข้าใกล้นักกีฬา ถือเป็นต้นแบบของการสร้างสนามกีฬาในปัจจุบันเลยล่ะค่ะ
จากนั้นไปชมความงดงามของ น้ำพุเทรวี่ (Trevi Fountain) ที่สวยงามและมีชื่อเสียงมากที่สุดในโลก ว่ากันว่าหากใครที่ได้โยนเหรียญลงไปในน้ำ จะได้กลับมาเยือนที่นี่อีกครั้ง ส่วนใกล้ๆ กันในระยะที่เดินได้เป็นที่ตั้งของ บันไดสเปน (Spanish Steps) บันไดที่กว้างที่สุดและยาวที่สุดในทวีปยุโรป มีขั้นบันไดทั้งหมด 138 ขั้น ใช้สำหรับเดินเล่นหรือเลือกซื้อสินค้าต่างๆ และในย่านนี้ยังนับว่าเป็นแหล่งพักผ่อนของชาวเมืองและนักท่องเที่ยวหลากหลายเชื้อชาติ
อย่าลืมแวะไปเยี่ยมชมความอลังการของสถาปัตกรรม วิหารแพนเธอออน (Pantheon) ที่มีลักษณะเด่นคือหลังคาทรงกลมและโค้งเป็นครึ่งวง วางอยู่บนเสาโรมันขนาดมหึมาด้านหน้า ตัววิหารมีความสูงถึง 43.3 เมตร มีรายละเอียดของโดมหลังคาภายในวิหาร รวมถึงโครงสร้างที่แข็งแรง และยืนหยัดมานานกว่าสองพันปี ตั้งแต่คริสตษตวรรษที่ 7 เป็นต้นมา
มิลาน เมืองแห่งแฟชั่น
ไปเที่ยวอิตาลีต่อกันที่ มิลาน (Milan) เมืองแฟชั่น ไปอัปเดตว่าตอนนี้แฟชั่นเขาไปถึงไหนแล้ว รับรองว่าขาช้อปต้องแฮปปี้มากๆ แต่นอกจากเรื่องแฟชั่นและการช้อปปิ้งแล้ว ที่มิลานยังมีสถานที่ท่องเที่ยวเป็นโบราณสถานอันสวยงาม อย่าง มหาวิหารแห่งมิลาน (Duomo di Milano) เป็นสัญลักษณ์ที่โดดเด่นที่สุดของเมือง เป็นวิหารหินอ่อนสถาปัตยกรรมโกธิกที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งใช้เวลาสร้างนานถึง 500 ปี ลักษณะเด่นของวิหารที่นอกเหนือจากความวิจิตรงดงามแล้ว ยังประดับประดาไปด้วยรูปปั้นกว่า 3,000 ชิ้น
สวิตเซอร์แลนด์
ทัวร์ยุโรป ประเทศถัดมาไปต่อกันที่ สวิตเซอร์แลนด์ ประเทศที่โอบล้อมไปด้วยขุนเขา เต็มไปด้วยธรรมชาติอันสวยงามและอุดมสมบูรณ์ บอกเลยว่าวิวทิวทัศน์ของที่นี่เป็นสวรรค์ของคนรักธรรมชาติมากๆ ควรค่าแก่การไปเยือนให้ได้สักครั้ง
พิชิตยอดเขาจุงเฟรา เมืองอินเทอร์ลาเค่น
เมืองอินเทอร์ลาเค่น (Interlaken) เป็นเมืองที่มีความเป็นสวิตเซอร์แลนด์ขนานแท้ พิกัดที่เที่ยวที่ไม่ควรพลาดก็คือ ยอดเขาจุงเฟรา (Jungfrau) ยอดเขาที่ได้ชื่อว่าเป็น Top of Europe หรือยอดเขาที่สูงที่สุดในยุโรป ด้านบนจะปกคลุมไปด้วยหิมะตลอดทั้งปี อย่าลืมใส่เสื้อกันหนาวหนาๆ เพื่อให้ร่างกายอบอุ่นด้วยนะคะ โดยเราจะขึ้นเขากันด้วยรถไฟที่สถานีไคลน์ไชเด็ค (Kleine Scheidegg) ใช้เวลาไม่นานชมวิวสองข้างทางไปเรื่อยๆ ก็จะถึงยอดเขาที่สูงที่สุดในยุโรปกันแล้ว เมื่อขึ้นไปถึงข้างบนก็อย่าลืมส่งโปสการ์ดจากที่ทำการไปรษณีย์ที่สูงที่สุดในโลกกลับมาที่บ้านไว้เป็นที่ระลึกด้วยนะคะ
ลูเซิร์น เมืองโรแมนติกกลางขุนเขา
ลูเซิร์น (Lucerne) เมืองเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ใจกลางประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ถึงจะเป็นเมืองที่ไม่ใหญ่มากแต่บอกเลยว่าเป็นเมืองน่าเที่ยวที่เต็มไปด้วยความน่าสนใจ ทั้งบรรยากาศในเมืองที่ดูเงียบสงบ บ้านเมืองสวยงามเป็นระเบียบ และโอบล้อมด้วยธรรมชาติทั้งทะเลสาบและขุนเขา ถ้ามาลูเซิร์นแล้วก็ต้องไปเดินบน สะพานไม้ชาเปล (Chapel Bridge) สัญลักษณ์ของเมือง หลังจากนั้นก็ไปเดินเล่นชมรอบๆ หรือจะช้อปปิ้ง เลือกซื้อของฝาก ของที่ระลึก กลับมาฝากเพื่อนๆ ก็ได้นะ
ฝรั่งเศส
ปิดท้ายด้วย ฝรั่งเศส ประเทศที่ใครๆ ต่างก็ใฝ่ฝันอยากจะไปสักครั้งในชีวิต โดยเฉพาะสาวๆ เพราะเป็นประเทศต้นกำเนิดแบรนด์เนมต่างๆ แถมยังเป็นเมืองแห่งน้ำหอม ขาช้อปต้องถูกใจมากแน่ๆ และยังมีที่เที่ยวที่จัดเป็นแลนด์มาร์คยอดฮิตที่ใครๆ ก็ต้องไปถ่ายรูปทำคอนเทนท์เก๋ๆ เที่ยวแค่ในเมืองปารีสก็จุใจแล้วค่ะ
ปารีส มหานครแห่งศิลปะ
มาฝรั่งเศสก็ต้องเช็คอินที่ กรุงปารีส (Paris) เมืองหลวงที่โด่งดังเรื่องแฟชั่นและศิลปะ ใครชอบงานศิลปะและประวัติศาสตร์ต้องไม่พลาด พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ (Louvre Museum) พิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงที่สุด เก่าแก่ที่สุด และใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดดเด่นตรงทางเข้าหลักที่เป็นอาคารกระจกทรงปิรามิด เป็นสถานที่รวบรวมผลงานระดับโลก อย่างเช่น ภาพวาดโมนาลิซ่า รูปปั้นของเทพธิดาวีนัส และศิลปะสำคัญต่างๆ อีกมากมาย
ใครไปปารีสแล้วไม่ได้ไปเยือน หอไอเฟล (Eiffel Tower) สัญลักษณ์ของฝรั่งเศสก็เหมือนไปไม่ถึงเลยทีเดียว ไปหามุมถ่ายรูปสวยๆ โพสต์ลงโซเชียล ถ้ามีเวลาแนะนำให้ขึ้นลิฟท์ไปถ่ายรูปข้างบนด้วย จะเห็นทัศนียภาพของกรุงปารีสได้อย่างทั่วถึง
เสร็จแล้วไปแชะภาพต่อกันที่ ประตูชัย (Arc de Triomphe) สัญลักษณ์แห่งชัยชนะของนโปเลียน แล้วมุ่งหน้าสู่ ถนนฌ็องเซลิเซ่ (Champs Elysees) ต้นแบบถนนราชดำเนินของไทย ซึ่งเต็มไปด้วยคาเฟ่และร้านแบรนด์เนมจากดีไซเนอร์ชื่อก้องโลก ได้เวลาช้อปกันแล้ว เย้!
และถ้ายังช้อปปิ้งไม่จุใจ พุ่งตรงไปที่ห้างสรรพสินค้าชื่อดัง แกลเลอรี่ ลาฟาแยตต์ (Galleries Lafayette) ห้างใหญ่สุดหรู ที่ภายในตกแต่งได้อย่างสวยงามอลังการ ที่นี่เป็นแหล่งรวมสินค้าแบรนด์เนมทุกยี่ห้อ หรือถ้าใครไม่ได้เน้นช้อปปิ้งเป็นพิเศษก็สามารถเดินเล่น ถ่ายรูปข้างในห้างได้ มีพื้นที่ของโรงละครโอเปร่าที่เก่าแก่อีกด้วย นอกจากในปารีสแล้ว ห้างนี้ก็ยังขยายสาขาไปทั่วฝรั่งเศสและต่างประเทศด้วยค่ะ
เมืองแวร์ซายส์ ชมพระราชวังสุดอลัง
อีกหนึ่งที่เที่ยวในฝรั่งเศสที่พี่เห็ดไม่อยากให้พลาดก็คือ พระราชวังแวร์ซายส์ (Chateau de Versailles) พระราชวังที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก พื้นที่ของพระราชวังจึงมีขนาดใหญ่โตอลังการมาก ได้รับการตกแต่งอย่างหรูหราวิจิตรบรรจงในทุกส่วน ชมความงดงามของห้องต่างๆ รวมถึงชมอุทยานอันร่มรื่นที่หลากหลายด้วยพันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับสีสันสวยงาม
และนี่ก็เป็นข้อมูลการ เที่ยวอิตาลี สวิส ฝรั่งเศส ที่พี่เห็ดรวบรวมมาแนะนำ ลองวางแผนกันได้เลยว่าจะไปเที่ยว เดือนไหนดี ไปทริปเดียวก็จัดเต็มถึง 3 ประเทศ พี่เห็ดบอกเลยว่าเส้นทางนี้น่าเที่ยวและคุ้มสุดๆ อย่าลืมรีบวางแผนเที่ยว ทำวีซ่าเชงเก้น จองตั๋ว หรือซื้อทัวร์กันตั้งแต่เนิ่นๆ นะคะ ถ้าช้าเดี๋ยวที่นั่งเต็มแล้วจะอดเที่ยวช่วงที่ต้องการได้น้า และถ้าอยากจองทัวร์ต่างประเทศก็ทักหาพี่เห็ด Mushroom Travel กันได้เลยค่ะ