- หลายคนอาจมีความฝันอยากเดินทางไปเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ ประเทศที่มีวิวภูเขาที่ว่ากันว่าสวยงามที่สุดแห่งหนึ่ง แต่อาจจะติดตรงค่าใช้จ่ายที่สูง ไหนจะต้องทำวีซ่าเชงเก้นอีกด้วย กว่าจะได้เดินทางก็ต้องวางแผนและเก็บเงินกันนานหน่อย แต่ก็มีอีกหนึ่งประเทศที่วิวสวยไม่แพ้กัน แถมยังเที่ยวได้ในราคาที่ถูกกว่าและไม่ต้องขอวีซ่า ก็คือ ประเทศจอร์เจีย
- ไปสัมผัสวิวเทือกเขาสวยๆ ในประเทศจอร์เจีย กับ ที่เที่ยว 5 พิกัด ที่ มัชรูมทราเวล คัดมาแนะนำ บอกเลยว่าดีงามไม่แพ้สวิตเซอร์แลนด์
จอร์เจีย ประเทศที่อยู่สุดขอบเอเชียใกล้กับทวีปยุโรป ภูมิประเทศโดยทั่วไปจะมี เทือกเขาคอเคซัส ล้อมรอบ ซึ่งเป็นเทือกเขาสูงที่ด้านบนจะมีหิมะปกคลุมอยู่ตลอด ทำให้ทิวทัศน์ของที่นี่สวยงามไม่แพ้ประเทศไหนๆ ซึ่งถ้าใครอยากไปชื่นชมวิวสวยๆ เหมือนทางยุโรป พี่เห็ดขอแนะนำประเทศจอร์เจียเลยค่ะ แถมนักท่องเที่ยวชาวไทยอย่างเรายังสามารถไปเที่ยวได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า อีกทั้ง ค่าครองชีพจอร์เจีย ก็ยังไม่แพง และวันนี้ พี่เห็ด ก็มีที่เที่ยววิวสวยมาแนะนำ พาไป เปิดพิกัด 5 ที่เที่ยวจอร์เจีย วิวสวยหลักล้านไม่แพ้สวิส มีที่ไหนบ้างไปดูกัน!!
1. โบสถ์เกอร์เกติ (Gergeti Trinity Church)
ที่เที่ยวจอร์เจีย ที่แรก โบสถ์เกอร์เกติ หรือ โบสถ์สมินดา ซาเมบา (Tsminda Sameba) ในภาษาจอร์เจียน โบสถ์เก่าแก่อายุกว่า 600 กว่าปีที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น หนึ่งในโบสถ์ที่สวยที่สุดในโลก เนื่องจากมีเทือกเขาคอเคซัสที่ตั้งตระหง่านเป็นฉากหลัง โบสถ์นี้สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 14 ด้วยหินแกรนิตขนาดใหญ่ ตั้งอยู่บนยอดเขาคาสเบก (Mt.Kazbek) ใจกลางเทือกเขาคอเคซัส เมืองคาสเบกิ (Kazbegi) สูงจากน้ำทะเล 2,170 เมตร
โบสถ์เกอร์เกติแห่งนี้ได้กลายเป็นสัญลักษณ์สำคัญหนึ่งของประเทศจอร์เจีย ที่นอกจากจะเป็นศาสนสถานสำคัญของศาสนาคริสต์แล้ว ในอดีตยังเคยเป็นสถานที่หลบภัยของผู้คนในยามที่ประเทศถูกรุกรานอีกด้วย สำหรับการเดินทางขึ้นไปยังโบสถ์เกอร์เกติสามารถนั่งแท็กซี่หรือจะเดินขึ้นไปตามเส้นทางเดินเขาก็จะได้ชมวิวทิวทัศน์สองข้างทางไปด้วย บอกเลยว่าวิวสวยจนแทบจะหยุดหายใจ นับว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ห้ามพลาดในการ ไปจอร์เจีย เลยนะคะ
พิกัด : https://goo.gl/maps/XesrveYEBqKqxtE79
2. อนุสรณ์สถานรัสเซีย-จอร์เจีย (Russia–Georgia Friendship Monument)
ที่เที่ยวจอร์เจีย ถัดมา เราจะพาคุณไปชมวิวเทือกเขาคอเคซัสกันแบบ 360 องศา พร้อมชมสถาปัตยกรรมศิลปะโซเวียตไปพร้อมๆ กันที่ อนุสรณ์สถานรัสเซีย-จอร์เจีย (Russia–Georgia Friendship Monument) หรือที่คนท้องถิ่นเรียกกันว่า Gudauri View Point ซึ่งที่นี่มีลักษณะเป็นกำแพงหินโค้งขนาดใหญ่บนเนินเขา โดยมีจิตรกรรมภาพวาดบนกระเบื้องสีสันสดใสตัดกับฉากหลังของภูเขาที่สวยงาม บอกเล่าประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ระหว่างจอร์เจียและรัสเซีย
สำหรับอนุสรณ์สถานแห่งนี้ สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1983 เพื่อเฉลิมฉลองครอบรอบ 200 ปีสนธิสัญญาจอร์จีเอฟสกี (Treaty of Georgievski) และฉลองความสัมพันธ์ระหว่างสหภาพโซเวียต และจอร์เจีย ตั้งอยู่บนทางหลวง Georgian Military Highway ระหว่าง Gudauri Ski Resorti และ หุบเขา Jvari โดยเราจะสามารถมองเห็นวิวของ หุบเขาปีศาจ (Devil’s Valley) แห่งเทือกเขาคอเคซัส ที่สวยแบบลืมหายใจกันไปเลย ใครที่วางแผน ไปจอร์เจีย อย่าลืมลิสต์ที่นี่ไว้ด้วยนะ สามารถเข้าชมได้ตลอดทั้งวันโดยไม่เสียค่าเข้า
พิกัด : https://goo.gl/maps/qgvTh42mv3zjaDVGA
3. หมู่บ้านอูชกูลี (Ushguli)
ปิดท้าย จอร์เจีย ที่เที่ยว อีกหนึ่งแห่งที่วิวสวยเหมือนสวิสก็คือ หมู่บ้านอูชกูลี ชุมชนโบราณกลางหุบเขาที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก ในฐานะชุมชนที่มีผู้อยู่อาศัยถาวรบนพื้นที่สูงที่สุดในยุโรป ตั้งอยู่บริเวณที่ราบเชิงเขาชคารา (Shkhara) ในเขตสเวเนติ (Svaneti) มีความสูงจากระดับน้ำทะเลมากกว่า 2,100 เมตร ล้อมรอบด้วยภูเขาสูงของเทือกเขาคอเคซัส ภายในชุมชนแบ่งออกเป็น 4 หมู่บ้านย่อย ปัจจุบันมีชาวบ้านอาศัยอยู่ประมาณ 300 คน ลักษณะบ้านเรือนของที่นี่ส่วนใหญ่จะสร้างจากอิฐและหินศิลปะยุคกลาง ซึ่งเป็นแบบดั้งเดิมตั้งแต่กว่า 800 ปีที่แล้ว โดยมีหอคอยเป็นเอกลักษณ์ตามแบบฉบับของชาวสเวเนติ ในอดีตหอคอยเหล่านี้เอาไว้ใช้สอดส่องและป้องกันผู้บุกรุก
สำหรับการเดินทาง ไปจอร์เจีย เพื่อเที่ยวหมู่บ้านอูชกูลีนั้น จะต้องเริ่มต้นจาก เมืองเมสเตีย (Mestia) แล้วเหมารถไป ซึ่งระหว่างทางก็จะมีวิวสวยๆ ให้แวะถ่ายรูปตลอดทางเลยค่ะ ที่อูชกูลิจะมีหิมะปกคุลมอยู่ประมาณ 6 เดือน บางครั้งหิมะหนามากจนถึงกับต้องปิดทางเข้าออกหมู่บ้านกันเลยทีเดียว อาจฟังดูน่ากลัวแต่จริงๆ แล้วก็สามารถเที่ยวได้ทุกฤดู และถึงแม้จะอยู่ในหุบเขาอันห่างไกล แต่ที่นี่ก็มีทั้งโรงเรียน โบสถ์ ร้านอาหาร ร้านค้า และโรงแรมที่พักไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยว มาที่เดียวครบเลยค่ะ
พิกัด : https://goo.gl/maps/Fj39HUkDvyFGrcEs6
4. เมืองกูดาอูรี (Gudauri)
เอาใจคนชอบหิมะกันบ้าง ไปกันที่ เมืองกูดาอูรี (Gudauri) หรือ กูเดาริ เมืองสกีรีสอร์ทที่มีชื่อเสียงของประเทศจอร์เจีย ตั้งอยู่บริเวณที่ราบเชิงเขาของเทือกเขาคอเคซัส ซึ่งสูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 2,100-3,200 เมตร ในพื้นที่จะมีสกีรีสอร์ทอยู่หลายแห่ง ซึ่งในช่วงฤดูหนาว หรือประมาณ เดือนธันวาคมถึงเดือนเมษายน จะมีหิมะปกคลุมหนาแน่นตลอดเวลา สามารถเล่นกิจกรรมฤดูหนาวได้ทุกรูปแบบ และนอกจากกิจกรรมสนุกๆ แล้ว บอกเลยว่าที่นี่วิวสวยมาก มองไปทางไหนก็เจอแต่ภูเขาหิมะสีขาวโพลน เล่นหิมะฟูนุ่มได้อย่างจุใจ คนชอบความหนาวและกิจกรรมสนุกๆ ต้องมาเที่ยวจอร์เจียที่นี่นะคะ
พิกัด : https://goo.gl/maps/VnDbubANB3qVKr2F6
5. เมืองบอร์จอมี (Borjomi)
ปิดท้ายไปเที่ยวเมืองตากอากาศของชาวจอร์เจียกันที่ เมืองบอร์จอมี (Borjomi) เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงเรื่องน้ำแร่และการแช่น้ำร้อน น้ำแร่ของที่นี่มีการวิจัยว่าช่วยรักษาโรคที่เกี่ยวกับระบบย่อยอาหารและโรคเบาหวาน อีกทั้งยังมีการส่งออกน้ำแร่แบบบรรจุขวดไปยังประเทศต่างๆ อีกด้วยค่ะ อย่างที่บอกว่าที่นี่เป็นเมืองตากอากาศที่คนจอร์เจียนิยมมาเที่ยวพักผ่อน นอกจากการแช่น้ำร้อนแล้ว ธรรมชาติของที่นี่ก็ยังสวยงามและอุดมสมบูรณ์ บรรยากาศสดชื่น อีกทั้งยังมีเส้นทางนั่งกระเช้าชมเมืองขึ้นไปบนเขาอีกด้วย
พิกัด : https://goo.gl/maps/QN4bBTQEXHvKRQuq5
ใครอยากหาทริปต่างประเทศที่ได้วิวสวยเหมือนไปสวิตเซอร์แลนด์ แต่ไม่ต้องขอวีซ่าและค่าใช้จ่ายน้อยกว่า พี่เห็ดแนะนำ ประเทศจอร์เจีย เลยค่ะ วิวเทือกเขาคอเคซัสของที่นี่สวยไม่แพ้เทือกเขาแอลป์ในยุโรปเลยทีเดียว แถมธรรมชาติก็ยังสวยงาม ไปแล้วจะหลงรักจอร์เจียนะคะ