ถ้าพูดถึงมณฑลเสฉวน หลายคนก็มักจะนึกถึงสถานที่ท่องเที่ยวอย่าง จิ่วจ้ายโกว หรือภูเขาสี่ดรุณี แต่วันนี้พี่เห็ด มัชรูมทราเวล อยากมาแนะนำอีกหนึ่งที่เที่ยวธรรมชาติคือ อุทยานปี้เผิงโกว (Bipenggou) ที่บอกเลยว่า สวยไม่แพ้กัน ! วิวอลังการแบบเต็มร้อยให้ล้าน ธรรมชาติหลากหลาย เดินทางง่ายไม่ต้องกลัวเหนื่อย เพราะภายในอุทยานมีรถให้บริการตลอดเส้นทาง แถมยังมาเที่ยวได้ทั้งปี ตามพี่เห็ดไปดูกันว่าที่นี่มีจุดไฮไลต์อะไรน่าเที่ยวบ้าง และไปช่วงไหนฟินที่สุด !
ทำความรู้จัก อุทยานปี้เผิงโกว
อุทยานปี้เผิงโกว หรือ Bipenggou เป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับ 4A ของจีน และเป็นหนึ่งในจุดชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีที่โด่งดังมาก ตั้งอยู่ในเขตปกครองตนเองชนชาติทิเบตเชียงอาป้า (Aba Tibetan and Qiang Autonomous Prefecture) ทางตอนเหนือของมณฑลเสฉวน ห่างจากเมืองเฉิงตูประมาณ 200 กิโลเมตร ลักษณะเป็นหุบเขาที่มีความสูง 2,015 – 5,922 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 613 ตารางเมตร รายล้อมด้วยทัศนียภาพสุดตระการตาของภูเขาหิมะ ป่าดึกดำบรรพ์ ทุ่งหญ้าธรรมชาติ น้ำตกและทะเลสาบที่ใสสะอาด นอกจากนี้ยังมีพืชพรรณนานาชนิด และสามารถพบเจอสัตว์ป่าหายาก เช่น แพนด้าแดง ลิงสีทอง กวางชะมด แพะเขาใหญ่ ฯลฯ ที่อาศัยอยู่ตามธรรมชาติได้ด้วย จึงเป็นจุดหมายที่ตอบโจทย์การท่องเที่ยวทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะมาพักผ่อนชมวิวชิลๆ ศึกษาธรรมชาติ หรือเดินป่าผจญภัย ใครที่เหนื่อยล้าจากความวุ่นวายในเมืองใหญ่ แค่ได้มาที่นี่ก็เหมือนได้ชาร์จแบตเติมพลังให้ชีวิตเลยค่ะ
เที่ยวอุทยานปี้เผิงโกว เดือนไหนดี
ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม – พฤษภาคม)
ฤดูใบไม้ผลิเป็นฤดูกาลที่ อุทยานปี้เผิงโกว มีชีวิตชีวามาก ดอกไม้หลากสีจะบานไปทั่วป่า โดยเฉพาะดอกท้อที่บานสะพรั่งในช่วงเดือนมีนาคม สัตว์ต่างๆ จะออกมาอวดโฉมหลังจำศีลในฤดูหนาว ท้องฟ้าปลอดโปร่งมองเห็นยอดเขาหิมะได้ชัดเจน อย่างไรก็ตามอุณหภูมิยังค่อนข้างต่ำ อยู่ที่ประมาณ 2 – 15 องศาเซลเซียส แนะนำให้เตรียมเสื้อผ้ามาให้พร้อมรับลมหนาวกันด้วยนะคะ
ฤดูร้อน (มิถุนายน – สิงหาคม)
อากาศในฤดูร้อนมีแดดจัด แต่ก็ไม่ได้ร้อนจนเกินไป อุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 12 – 20 องศาเซลเซียส โดยเฉพาะช่วงเช้าและช่วงเย็นอุณหภูมิจะไม่สูงมาก มีฝนจะตกมากหน่อยช่วงเดือนมิถุนายน – กรกฎาคม บรรยากาศร่มรื่น เย็นสบาย เหมาะสำหรับการเดินป่า ชมธรรมชาติ ทิวทัศน์รอบข้างสวยงาม ภูเขาเต็มไปด้วยใบไม้สีเขียวขจี อีกทั้งยังเป็นช่วงที่ทะเลสาบและน้ำตกสวยสุดๆ ไปเลยค่ะ
ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน – พฤศจิกายน)
ฤดูใบไม้ร่วงเป็นไฮไลต์ของการท่องเที่ยว และสวรรค์ของคนที่รักการถ่ายรูป เพราะเป็นช่วงที่ อุทยานปี้เผิงโกว สวยที่สุด คนจะนิยมมาชมใบไม้เปลี่ยนสีกัน ตลอดเส้นทางเต็มไปด้วยต้นไม้ที่ผลัดใบเป็นสีแดง ส้ม เหลือง ตัดกับยอดเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาวสะอาด สะท้อนเงาลงบนผืนน้ำสวยงามมากๆ อุณหภูมิช่วงนี้จะอยู่ที่ประมาณ 1 – 17 องศาเซลเซียส ปลายฤดูก็จะเริ่มมีหิมะตกแล้วค่ะ
ฤดูหนาว (ธันวาคม – กุมภาพันธ์)
ฤดูนี้อากาศหนาวเย็นมาก อุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ -5 ถึง 3 องศาเซลเซียส มีหิมะตกสะสมหนาถึง 60 เซนติเมตร หุบเขากลายเป็นดินแดนหิมะ ต้นไม้ถูกปกคลุมด้วยสีขาว วิวทิวทัศน์สวยงามเหมือนไม่มีอยู่จริง ในฤดูนี้นักท่องเที่ยวสามารถสนุกไปกีฬาในฤดูหนาว และเพลิดเพลินกับน้ำพุร้อนได้ ทางเดินบางส่วนก็อาจมีหิมะหรือน้ำแข็งปกคลุม สามารถเดินได้ แต่ควรสวมรองเท้าที่เหมาะกับการลุยหิมะด้วยค่ะ
การเดินทาง
– นั่งรถบัสที่สถานีรถบัสซินหนานเหมิน (Xinnanmen Bus Station) ในเมืองเฉิงตู ไปยัง อุทยานปี้เผิงโกว จะมีรถบัสออกตอน 07:00 น. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง ราคาประมาณ 119 หยวน
– นั่งรถบัสจากสถานีรถบัสฉาเตี้ยนจื่อ (Chadianzi Bus Station) ในเมืองเฉิงตู ไปลงที่หลี่เสี้ยน (Lixian) มีรถออกวันละ 6 รอบ เวลา 07:10 / 08:10 / 09:00 / 10:30 / 13:10 / 14:50 ราคาประมาณ 68 หยวน แล้วต่อรถบัสหรือแท็กซี่ ประมาณ 30 นาที
– ภายในอุทยานมีบริการรถบัสไปลงที่ศูนย์บริการช่างไห่จื่อ (Shanghaizi) ค่าตั๋วไป-กลับ 60 หยวน/คน ใช้เวลาประมาณ 40 นาที จะมีร้านอาหาร ห้องน้ำ ร้านขายของ ฯลฯ หรือแวะลงระหว่างทางที่ ทะเลสาบหลงหวัง (Longwang Lake) ไปชมวิวแล้วค่อยๆ เดินไปขึ้นรถบัสต่อไปยังช่างไห่จื่อก็ได้เหมือนกัน
– บริเวณช่างไห่จื่อจะมีบริการรถไฟฟ้าไปลงที่ทะเลสาบปันหยาง ค่าตั๋วไป-กลับ 20 หยวน/คน ใช้เวลาประมาณ 10 นาที และจากจุดนี้จะมีบริการรถไฟฟ้าอีกคัน ไปยังเยี่ยนจื่อเหยียน (Yanziyan) ค่าตั๋วไป-กลับ 30 หยวน/คน ใช้เวลาอีกประมาณ 10 นาที ส่วนเวลากลับก็ใช้เส้นทางเดิมเลยค่ะ
แม้ว่าการเดินทางโดยรถจะมองเห็นทัศนียภาพได้ไม่ชัดเจนเท่าเส้นทางการเดินป่า แต่เมื่อเทียบกับความสะดวกสบายแล้ว ก็เป็นตัวเลือกที่ช่วยให้การท่องเที่ยวไม่เหนื่อยจนเกินไป เซฟแรงเพื่อไปเที่ยววันที่ต่อๆ ไปได้ดีเลย
จุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจ
1. ทะเลสาบหลงหวัง (Longwang Lake)
ทะเลสาบหลงหวัง เป็นหนึ่งในจุดชมวิวที่สวยงามอลังการมาก เกิดจากการละลายของธารน้ำแข็งจากบนภูเขา สีของน้ำจะเปลี่ยนไปตามฤดู บางช่วงเป็นสีฟ้าใส บางช่วงก็กลายเป็นสีเขียวมรกต แต่น้ำใสและสงบนิ่งมากราวกับกระจก สะท้อนภาพของภูเขาหิมะที่อยู่เบื้องหน้าอย่างชัดเจน มีสะพานไม้ให้เดินไปชมบรรยากาศใกล้ๆ และหามุมถ่ายรูปได้แบบชิลๆ
2. น้ำตกมังกรขาว (Bailong Waterfall)
น้ำตกมังกรขาว หรือ น้ำตกไป่หลง ตั้งอยู่ที่ความสูง 3,671 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล เป็นน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในอุทยาน Bipenggou ขนาดกว้าง 10 เมตร และตกจากหน้าผาลงสู่ผืนน้ำด้านล่างด้วยความสูงกว่า 100 เมตร มองไกลๆ ดูคล้ายมังกรสีขาวที่กำลังเลื้อยอยู่ สวยงามอลังการมากๆ ค่ะ
3. ทะเลสาบปันหยาง (Panyang Lake)
ทะเลสาบปันหยาง ตั้งอยู่ที่ความสูง 3,676 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล มีขนาดพื้นที่ครอบคลุมถึง 450,000 ตารางกิโลเมตร ลึก 2 – 6 เมตร เป็นทะเลสาบอัลไพน์ที่ขึ้นชื่อเรื่องความใสของน้ำและมีปลาอาศัยอยู่จำนวนมาก ล้อมรอบด้วยภูเขา ป่า ดอกไม้ และใบไม้ที่เปลี่ยนสีตามฤดูกาล มีความอุดมสมบูรณ์จนกลายเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการศึกษาด้านชีววิทยาและการถ่ายภาพธรรมชาติ โดยชื่อปันหยางนั้นมาจากชื่อของแพะภูเขาชนิดหนึ่งที่พบเห็นได้บ่อยในบริเวณนี้ แต่เพื่อนๆ จะเจอหรือไม่ก็ต้องไปลุ้นอีกทีค่ะ
4. เยี่ยนจื่อเหยียน (Yanziyan)
เยี่ยนจื่อเหยียน ตั้งอยู่ที่ความสูง 3,800 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล เป็นจุดที่สูงที่สุด อากาศหนาวจัดและออกซิเจนค่อนข้างเบาบาง แนะนำให้ค่อยๆ เดินนะคะ จุดนี้จะมองเห็นวิวภูเขาหิมะได้แบบใกล้มากๆ และยังจะได้เพลิดเพลินกับทัศนียภาพมุมกว้างของทุ่งหญ้า ลำธาร และน้ำตกด้วย
เห็นแบบนี้แล้วใครเป็นสายธรรมชาติ หลงรักการชมวิวสวยๆ และอยากมาสัมผัสความยิ่งใหญ่อลังการของ อุทยานปี้เผิงโกว ก็อย่ารอช้า รีบกด จองทัวร์ กับมัชรูมทราเวล แล้วเตรียมตัวไปเก็บประสบการณ์สุดประทับใจพร้อมกันได้เลย พี่เห็ดมีโปรแกรมสนุกๆ ในราคาสุดคุ้มรอเพื่อนๆ อยู่อีกเพียบ อยากไปเที่ยวประเทศไหน เส้นทางไหน บอกมาพี่เห็ดพร้อมจัดให้ !