สำหรับสาวๆ ที่เป็นแฟนนิยายโรมานซ์อิงประวัติศาสตร์ ขณะที่กำลังอ่านนิยายจากนักเขียนคนโปรด ไม่ว่าจะเป็นผลงานของ Linda Howard, Lisa Kleypas, Judith Mcnaught, Julie Garwood ฯลฯ ก็มักจะจินตนาการย้อนเวลากลับไปอยู่ในยุคกลาง ยุควิคตอเรียน หรือยุครีเจนซี่ ว่าในยุคนั้นสิ่งต่างๆ จะเป็นอย่างไรบ้างนะ
โดยเฉพาะหากหนังสือเล่มนั้นใช้ฉากนอกกรุงลอนดอนเป็นแบ็กกราวนด์ในการดำเนินเรื่อง อย่างเช่นปราสาทในย่านชนบทของท่านลอร์ด ซึ่งแน่นอนค่ะว่ามันจะต้องมีป่าไม้ มีฟาร์มปศุสัตว์ที่รายล้อมไปด้วยทุ่งดอกไม้และดอกหญ้าหลากสีสัน ไม่ว่าจะเป็นทุ่งดอกแพนซี บลูเบลล์ แดฟโฟดิล แดนดิไลออน เรพซี้ด เดซี่ ฯลฯ เพราะฉะนั้นวันนี้เราจะพาคุณผู้อ่านไปตามหาแรงบันดาลใจของนักเขียนเหล่านี้ที่ประเทศอังกฤษกันค่ะ เพราะว่าช่วงนี้แหละที่เหมาะสมมากๆ สำหรับการเดินชมทุ่งดอกไม้ที่กำลังแข่งขันกันบานสะพรั่ง โดยเฉพาะดอกไม้ที่มีสีสันสะดุดตาผู้คนอย่าง “บลูเบลล์”
เที่ยวทุ่งดอกบลูเบลล์ เจ้าหญิงสีน้ำเงินแห่งผืนป่า.. อังกฤษ
ดอกบลูเบลล์ (Bluebell) เป็นดอกสีสันจัดจ้านตามลักษณะของชื่อก็คือ Blue และมีรูปร่างงองุ้มคล้ายระฆังนั่นคือ Bell จึงทำให้ดอกไม้ชนิดนี้มีชื่อรวมกันเรียกว่า Bluebell นั่นเองค่ะ โดยดอกบลูเบลล์นี้มีถิ่นกำเนิดอยู่ที่ประเทศอังกฤษ ดังนั้นมันจึงได้ชื่อว่าเป็นเจ้าหญิงสีน้ำเงินแห่งผืนป่าอังกฤษไปโดยปริยาย ทั้งนี้ดอกบลูเบลล์ตามภาษาดอกไม้นั้นแปลว่าความอ่อนน้อมถ่อมตน ความซื่อสัตย์และความจงรักภักดี และสำหรับปี 2016 นี้ ในช่วงไฮไลท์ฤดูใบไม้ผลิ สถานที่ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถไปชมทุ่งดอกบลูเบลล์ใกล้ๆ มีดังนี้ค่ะ
Blickling Estate นอร์ฟอล์ก
เกือบ 50% ของดอกบลูเบลล์จากทั่วโลกจะสามารถพบได้ในสหราชอาณาจักรและประเทศอังกฤษ ทั้งนี้ Blickling Estate ถือเป็นสุดยอดสถานที่ดีเยี่ยมทางตะวันออกของประเทศ ที่นักท่องเที่ยวจะสามารถค้นพบทุ่งดอกบลูเบลล์ที่สวยงามและสมบูรณ์ที่สุดท่ามกลางเส้นทางที่คดเคี้ยวของป่าใหญ่ ที่นี่จะเต็มไปด้วยดงดอกไม้สีน้ำเงินที่จะทำคุณตาค้างได้ง่ายๆ ค่ะ
Sheringham Park นอร์ฟอล์ก
การเดินผ่านสวนป่า Sheringham Park ในช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิ จะทำให้นักท่องเที่ยวได้พบกับจานสีน้ำเงินที่ใหญ่ที่สุดค่ะ ท่ามกลางดงดอกไม้หลากหลายประเภท ความเด่นสะดุดตาของบลูเบลล์จะทำให้นักท่องเที่ยวเพลิดเพลินไปกับการเดินเล่นและถ่ายรูปไปตลอดทั้งเส้นทาง
Blake’s Wood เอสเซกซ์
อีกแห่งหนึ่งทางตะวันออกของอังกฤษที่จะพลาดไม่ได้ก็คือที่เอสเซกซ์ค่ะ การไปเยือนป่าโบราณในช่วงฤดูใบไม้ผลิจะทำให้นักท่องเที่ยวตื่นเต้นไปกับทุ่งดอกไม้สีน้ำเงินสดของบลูเบลล์ท่ามกลางสีเหลืองของดอกพริมโรสและกอร์ส นอกจากนี้คุณยังจะได้ฟังเสียงเพลงเพราะๆ จากนกไนติงเกลขับกล่อมไปตลอดทางด้วยค่ะ
Sutton Hoo ซัฟฟอล์ก
ที่พื้นที่ป่าซัตตันฮูแห่งซัฟฟอล์ก นักท่องเที่ยวจะได้พบกับผืนพรมสีน้ำเงินของดอกบลูเบลล์ที่กำลังเบ่งบาน ซึ่งจะเรียกรอยยิ้มให้กับคุณได้ตลอดทั้งวันเลยทีเดียวค่ะ นอกจากนั้นคุณยังจะสามารถเห็นวิวของแม่น้ำ Deben ได้อย่างชัดเจนเต็มๆ ตา ทั้งนี้ซัตตันฮูถือเป็นแหล่งค้นพบทางโบราณคดีที่ยิ่งใหญ่อีกแห่งของโลก เพราะคุณจะสามารถเดินสุสานฝังศพโบราณและเรื่องราวอันน่าทึ่งของกษัตริย์แห่งเรือแองโกลแซกซอนและสมบัติของเขาด้วยค่ะ
Emmetts Garden เคนต์
ช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการเยี่ยมชมสวนบนเนินเขา Emmetts Garden ก็คือในช่วงเดือนพฤษภาคมนี้เองค่ะ เพราะว่านักท่องเที่ยวจะสามารถมองเห็นเนินเขาที่เต็มไปด้วยดอกบลูเบลล์ที่สวยงามที่สุด ซึ่งดูคล้ายกับผืนทะเลสีน้ำเงินใต้ต้นไม้ใหญ่ที่เต็มไปด้วยละอองหมอก นอกจากนี้คุณยังสามารถเพลิดเพลินไปกับวิวทิวทัศน์ของเดนบีช และป่ารกทึบแห่งเคนต์ได้ด้วย
Hatchlands Park เซอร์รีย์
Hatchlands Park ที่ตั้งอยู่บนขอบของเทือกเขาเซอร์รีย์คือความสวยงามที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดอีกเช่นกันค่ะ เนื่องจากไม่ไกลจากกรุงลอนดอนมากนัก เพียง 45 นาทีเท่านั้นคุณก็จะพบกับสวนที่ล้อมรอบไปด้วยหมู่บ้านที่มีเสน่ห์และเงียบสงบ ที่นี่ถือเป็นหนึ่งในสวนป่าโบราณที่ใหญ่ที่สุดในประเทศที่เปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปชมทิวทัศน์ของประวัติศาสตร์แห่งเซอร์รีย์ และพรมสีน้ำเงินของดอกบลูเบลล์ที่จะปรากฎขึ้นในช่วงปลายเดือนเมษายนและช่วงต้นเดือนพฤษภาคม
Nymans เวสต์ซัสเซกซ์
ป่าโบราณรอบๆ Nymans คืออีกแห่งที่ดีที่สุดสำหรับการมาชมทุ่งดอกบลูเบลล์ที่เริ่มผลิบานมาตั้งแต่ช่วงปลายเดือนเมษายนค่ะ นอกจากนั้นที่นี่ยังเหมาะสำหรับการท่องเที่ยวในทุกฤดูกาล เพราะคุณจะสามารถเพลิดเพลินไปกับสวนที่กว้างขวางที่ตั้งอยู่รอบๆ หมู่บ้านอันแสนโรแมนติก ซากปรักหักพักที่มีมาตั้งแต่ในช่วงปลายของศตวรรษที่สิบเก้า จึงทำให้ที่นี่เป็นที่ที่สมบูรณ์แบบสำหรับการมาปิกนิกและอ่านนิยายเล่มโปรดไปด้วย
Sheffield Park and Garden อีสต์ซัสเซกซ์
สวนสาธารณะเชฟฟิลด์คือความสมบูรณ์แบบของการออกแบบภูมิทัศน์ในตลอดหลายศตวรรษที่ผ่านมาค่ะ ซึ่งในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ป่าไม้และทุ่งหญ้าของเชฟฟิลด์พาร์คจะจมอยู่ใต้ทะเลสีน้ำเงินของดอกบลูเบลล์ ที่เรียกให้เหล่าผีเสื้อและแมลงปอจำนวนมหาศาลโบยบินอวดสีสันไปมารอบๆ บริเวณ
Sissinghurst Castle เคนต์
เมื่อเดินผ่านสวนของปราสาท Sissinghurst นักท่องเที่ยวก็จะได้ดื่มด่ำกับรรยากาศของฤดูใบไม้ผลิและเพลิดเพลินไปกับความอุดมสมบูรณ์ของคอทเทจการ์เด้นและกอบลูเบลล์ที่มีอยู่มากมายภายในเขตป่าใกล้ๆ แล้วล่ะค่ะ ทั้งนี้อดีตเจ้าของปราสาทเขาได้ควบคุมการออกแบบและการเพาะปลูกดอกไม้ภายในสวนทั้งหมดด้วยตัวเอง นั่นจึงทำให้ที่นี่โดดเด่นได้ในทุกฤดู โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่ทุกตารางนิ้วจะเต็มไปด้วยช่อดอกสีน้ำเงินของบลูเบลล์
Winkworth Arboretum เซอร์รีย์
ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ผืนพรมที่สวยงามของดอกบลูเบลล์จะครอบคลุมพื้นที่ในสวนรุกขชาติแห่งนี้ทั่วทุกตารางนิ้ว นอกจากนั้นที่ Winkworth Arboretum คุณยังจะได้พบกับดอกแม็กโนเลียและดอกซากุระที่กำลังผลิบานควบคู่ไปกับบลูเบลล์อีกด้วยค่ะ
Clumber Park นอตทิงแฮมเชอร์
หากนักท่องเที่ยวได้มีโอกาสเดินผ่านป่าเก่าแก่แห่งนี้ แล้วข้ามเขตเพาะปลูกผ่านไปยังโรงเรียนเก่า จากนั้นเดินลงไปบนถนนและผ่านพื้นที่อื่นๆ ของป่าเพื่อมุ่งหน้าไปทางทะเลสาบ Clumber ตลอดระยะทางทั้งหมดคุณจะได้พบกับทุ่งดอกบลูเบลล์ที่ปูพรมไปตลอดทางเลยล่ะค่ะ
Croome วุร์สเตอร์เชียร์
ชื่นชมทะเลดอกบลูเบลล์ที่เบ่งบานไปทั่วบริเวณโบสถ์และทะเลสาบ ที่นี่คือสวรรค์บนดินที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดอีกเช่นเดียวกันค่ะ เพราะความรู้สึกแรกที่คุณได้มาเหยียบย่างที่แห่งนี้อาจทำให้คุณจินตนาการไปว่าตัวเองคือนางเอกนิยายโรมานซ์เรื่องโปรดก็ได้
Coughton Court วาร์วิคเชอร์
สถานที่แห่งนี้จะทำให้นักท่องเที่ยวที่มาเยือนรู้สึกเหมือนกับได้ผจญภัย ด้วยการเดินผ่านสนามและทุ่งหญ้า จากนั้นก็เดินเข้าไปในป่าละเมาะที่เงียบสงบ คุณก็จะได้พบกับทุ่งดอกบลูเบลล์ที่น่าทึ่งแล้ว
Clent Hills เวสต์มิดแลนส์
จากช่วงปลายเดือนเมษายนจนถึงกลางเดือนพฤษภาคม Clent Hills จะถูกปูพรมไปด้วยทุ่งดอกบลูเบลล์ ซึ่งที่นี่นักท่องเที่ยวจะสามารถค้นหาดอกไม้สีน้ำเงินนี้ได้หลากหลายพื้นที่บนเนินเขา แต่หนึ่งในจุดที่ดีที่สุดนั้นจะอยู่ที่เบื้องหลังหินทางด้านข้างของหุบเขา เพราะตกนี้จะถูกปกคลุมไปด้วยไม้ไม้และดอกบลูเบลล์ไปจนถึงด้านล่างของหุบเขา
Rufford Old Hall แลงคาเชอร์
Rufford Old Hall ตั้งอยู่ภายในพื้นที่ของสวนและป่าไม้จำนวน 14 เอเคอร์ ในรูปแบบที่พบได้ในช่วงปลายสมัยวิคตอเรีย ที่นี่นักท่องเที่ยวจะได้เพลิดเพลินไปกับการเดินเล่นภายในหมู่เล็กๆ ท่ามกลางผืนป่าและหลากหลายของต้นไม้พื้นเมืองเช่นเดียวกับผืนผพรมทุ่งดอกบลูเบลล์ในฤดูใบไม้ผลิ โดยช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่คุณจะได้เห็นมันก็คือปลายเดือนเมษายนและช่วงต้นเดือนพฤษภาคมนั่นเอง
Speke Hall เมอร์ซีย์ไซด์
ภายในพื้นที่รอบคฤหาสน์ในยุคทิวดอร์บนฝั่งแม่น้ำเมอร์ที่ได้รับการบูรณะในศตวรรษที่ 19 แห่งนี้ ทางทิศตะวันตกของคฤหาสน์ไปจนถึงป่าไม้ นักท่องเที่ยวที่จะทึ่งกับสวนสวยงามที่กลายเป็นทะเลสีน้ำเงินในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ที่นี่คือจุดสมบูรณ์ที่สุดสำหรับการเดินเล่มชมดอกบลูเบลล์อีกแห่งค่ะ
Dunham Massey เชชเชอร์
ที่ Dunham Massey นอกจากจะเต็มไปด้วยทุ่งดอกคามิเลียกว่า 10,000 ต้นภายในในป่าแล้ว ทุ่งดอกหญ้าสีเหลืองยังทำให้คุณสามารถใช้เวลาเดินไปอย่างเพลิดเพลินได้ จนกระทั่งคุณจะได้พบกับทุ่งดอกบลูเบลล์ที่สวยงามและใหญ่โตที่สุดแห่งหนึ่งที่ตั้งริมบึง ภายใต้ร่มเงาของต้นโอ๊กต้นใหญ่
Killerton เดวอน
ในช่วงศตวรรษที่ 19 เซอร์โทมัส เจ้าของพื้นที่แห่งนี้ได้ปลูกต้นสนเอาไว้จำนวนมากสำหรับพื้นที่ Killerton และนั่นจึงส่งผลให้พื้นที่กว่า 300 เฮกตาร์กลายเป็นป่าที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในภาคตะวันออกของเดวอน ที่นี่ถือเป็นสวรรค์สำหรับนกผีเสื้อ และดอกไม้ป่า เช่นกล้วยไม้สีม่วง และทุ่งดอกบลูเบลล์ เป็นต้น
Lanhydrock คอร์นวอลล์
Lanhydrock เป็นบ้านที่สมบูรณ์แบบและแทนความรู้สึกของครอบครัวได้ดีที่สุด ที่นี่เหมาะสมกับการสำรวจป่าไม้โบราณและเส้นทางริมแม่น้ำที่เงียบสงบ โดยนักท่องเที่ยวสามารถปั่นจักรยานไปบนเส้นทางที่ปิดถนนไว้เพื่อเป็นเส้นทางพิเศษสำหรับครอบครัวและผู้ขับขี่มือใหม่ ที่สำคัญที่นี่ยังมีสวนที่งดงามที่เต็มไปด้วยดอกแมกโนเลีย แดฟโฟดิล และบลูเบลล์
Leigh Woods บริสตอล
ฤดูใบไม้ผลินำความอุดมสมบูรณ์ของดอกบลูเบลล์มาสู่ลีห์วูดส์ โดยพื้นที่เส้นทางคดเคี้ยวที่ต้องผ่านต้นโอ๊ค เลมอน และป่าละเมาะ ที่นี่จะทำให้นักท่องเที่ยวเพลิดเพลินไปกับทะเลดอกบลูเบลล์สีน้ำเงินสดที่ให้มุมมองยอดเยี่ยมที่สุดสำหรับเมืองแห่งนี้
Stourhead วิลต์เชอร์
พื้นที่กว่า 2,650 ไร่ภายใน Stourhead นี้ล้วนเต็มไปด้วยความงดงามของสวนภูมิทัศน์ที่ได้รับการอธิบายว่าเป็นการทำงานและการใช้ชีวิตของศิลปะ ซึ่งที่นี่นอกจากจะเต็มไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ของสัตว์ป่าที่เดินเตร็ดเตร่ไปมาตั้งแต่โบราณแล้ว ในบริเวณใกล้เคียงยังเต็มไปด้วยทุ่งดอกบลูเบลล์ในช่วงฤดูใบไม้ผลิอีกด้วย
Bodnant Garden คอนวี่ย์
นอกจากกอของดอกแดฟโฟดิลภายในสวนแห่งนี้แล้ว ดอกบลูเบลล์ยังส่งผลให้ท้องทุ่ง ผืนป่า และทุ่งหญ้าแห่งนี้ กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสุดพิเศษยิ่งขึ้น นอกจากนั้นผู้ที่มาเยือนที่นี่ยังสามารถมีส่วนร่วมในการปลูกดอกบลูเบลล์ได้ด้วย
Roseberry Topping ยอร์กเชอร์
Roseberry Topping คือตัวอย่างที่ดีที่สุดของสถานที่ท่องเที่ยวที่สร้างจากสวนไม้โอ๊คกึ่งป่าไม้ธรรมชาติป่าไม้ภายในพื้นที่ที่เต็มไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ของสัตว์ป่า นอกจากนี้มันยังมีชื่อเสียงว่าเป็นจุดชมดอกบลูเบลล์ที่สวยงามที่สุดอีกด้วย โดยเฉพาะในช่วงเดือนพฤษภาคม ถือเป็นเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการท่องเที่ยวที่นี่เลยล่ะค่ะ
อย่างไรก็ดี แม้ว่าดอกบลูเบลล์นั้นจะสวยงามสักแค่ไหน แต่ต้องบอกนิดหนึ่งสำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากไปชมหรือเห็นด้วยตาตัวเองนะคะ นั่นคือห้ามเด็ดดอกบลูเบลล์ออกจากต้นอย่างเด็ดขาด เพราะเขาจะมีโทษปรับสำหรับการเด็ดด้วย เพราะดอกบลูเบลล์ถือเป็นพันธุ์ไม้คุ้มครองที่ถูกขึ้นทะเบียนโดย Wildlife and Countryside Act ดังนั้นจึงไม่มีการนำไปปลูกที่บ้านอย่างเด็ดขาดค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก www.nationaltrust.org.uk