Mushroom Travel

วันวานยังหวานอยู่ ณ ควีนส์ทาวน์ นิวซีแลนด์

Guest ของมัชรูมทราเวล วันนี้ เป็นคุณแม่ที่อาศัยอยู่ในนิวซีแลนด์มานานหลายปีค่ะ นั่นจึงทำให้เธอมีความเชี่ยวชาญทางด้านการท่องเที่ยวในประเทศนิวซีแลนด์มากเป็นพิเศษ เรียกว่ารู้จักแทบจะทุกซอกทุกหลืบของประเทศแห่งนี้ก็ว่าได้ ซึ่งวันนี้เธอก็จะพาเราและครอบครัวไปเที่ยวกันที่ ควีนส์ทาวน์ เมืองซึ่งตั้งอยู่บนเกาะใต้ของนิวซีแลนด์ และได้ชื่อว่าเป็นอีกหนึ่งเมืองในโลกที่นักท่องเที่ยวอยากมาเยี่ยมชมมากที่สุด

วันวานยังหวานอยู่ ณ ควีนส์ทาวน์ นิวซีแลนด์

การกลับมาอีกครั้งที่เมืองควีนส์ทาวน์ครั้งนี้กับครอบครัว ทําให้คิดถึงสมัยก่อนตอนเรียนเมื่อ 13 ปีที่แล้ว ตอนมาเที่ยวที่นี่ครั้งแรกกับเพื่อน คิดแล้วรู้สึกแก่ยังไงก็ไม่รู้ นึกย้อนเหตุการณ์กลับไป ทุกๆ วันศุกร์แรกของเดือนโรงเรียนจะหยุดครึ่งวัน เพื่อให้นักเรียนได้พักผ่อนและเผื่อใครอยากจะไปเที่ยว จะได้มีเวลาหลายวันหน่อย ปลากับเพื่อนๆ อีก7คน ก็วางแผนไว้ว่าจะไปเที่ยวต่างเมืองกัน จุดหมายปลายทางครั้งนี้ของพวกเราคือเมืองควีนส์ทาวน์

ก่อนอื่นจะต้องไปเช่ารถกันก่อน คนที่จะเช่ารถได้จะต้องมีใบขับขี่สากล หรือใบขับขี่ของนิวซีแลนด์ ค่าเช่าตกประมาณวันละ $55-$150 ขึ้นอยู่กับขนาดของรถ รถที่พวกเราเช่าเป็นรถตู้ ราคา $90 ต่อวัน เวลาเอารถมาคืนก็จะต้องเติมนํ้ามันให้เต็มถังเหมือนเดิม

พอโรงเรียนเลิกทุกคนก็รีบเก็บของแล้วมาที่รถกันอย่างรวดเร็ว ได้เวลาออกเดินทางแล้ว yeah!!! จาก Timaru ไป ควีนส์ทาวน์ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง นั่งเม้าท์ไป กินขนมไป ดูวิวไป จอดแวะกินกาแฟระหว่างทางไป ไม่นานเราก็มาถึง แวบแรกที่เห็นเลยคืออึ้ง และตะลึงในความสวย

ควีนส์ทาวน์เป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากๆ ใครไม่มาที่นี่ ถือว่ามาไม่ถึงเกาะใต้ ที่ ควีนส์ทาวน์ มีกิจกรรมมากมายหลายอย่างให้ทำ เช่น Bungy Jump สำหรับคนที่ไม่กลัวความสูง ค่ากระโดดตกประมาณ $150 เวลากระโดดจะต้องเดินไปบนสะพานแขวนสูง สูงมาก แค่เดินไปใกล้ริมสะพาน ใจก็เต้นตุ๊บๆ หน้ามืดขึ้นมาทันที ช้านจะเป็นลม ข้างล่างก็จะเป็นแม่น้ำสีฟ้าอมเขียว สวยมากๆ

แต่แนะนำว่าไม่มองจะดีกว่า เดี๋ยวจะไม่ได้โดดเอา หลังจากที่ผูกข้อเท้าจนแน่นแล้ว เจ้าหน้าที่เค้าก็จะนับ 3 2 1แล้วก็พุ่งลงไปเลย มีหลายคนพอไปยืนตรงนั้นจริงๆ ขาสั่นพั่บๆ หมดแรงเปลี่ยนใจไม่โดดก็มี แล้วตอนที่กระโดดทางเจ้าหน้าที่จะถ่ายวิดีโอให้ไว้เป็นที่ระลึกพร้อมกับเสื้อยืดอีกด้วย

นอกจาก Bungy Jump แล้วก็ยังมีกิจกรรมยอดฮิตอีกอย่างนึงก็คือ Shotover Jet คล้ายๆ กับการล่องแก่งบ้านเรานั่นแหละ ใช้เวลาประมาณ 15 นาที คนขับจะขับเร็ว และจะขับแบบฉวัดเฉวียน วนไปวนมา เฉี่ยวหน้าผาบ้างให้คนนั่งได้ร้องกรี๊ดๆๆ บางคนเล่นเสร็จก็อ้วกซะหมดไส้หมดพุง

แต่ถ้าใครไม่ชอบความหวาดเสียว ก็สามารถไปชมวิวได้ที่ Gondola (กระเช้าลอยฟ้า) กระเช้าจะเคลื่อนขึ้นลงไปตามสายเคเบิ้ล เป็นจุดชมวิวที่สวยมากๆ ถ้ามองลงมาจะเห็นเมือง ควีนส์ทาวน์ ทั้งเมืองและทะเลสาบวาคาทิปุ (Lake Wakatipu) ชัดมากๆ สวยสุดๆ แถมข้างบนยังมีร้านอาหารอีกด้วย กินไปดูวิวไป เจริญอาหารน่าดู แต่ว่าราคาอาหารนี่อย่างแพงอ่ะค่ะ

พอพวกเรามาถึงก็หาที่พักกันก่อน แล้วเราก็ได้พักที่ Backpacker แห่งหนึ่ง ราคาไม่แพงมากนัก เปิดห้อง 2 ห้อง ในแต่ละห้องจะมีเตียงเดี่ยว 4 เตียง มีกระจก มีชั้นวางของให้ ส่วนห้องน้ำนั้นจะอยู่ด้านนอก ต้องใช้รวมกับคนอื่น ราคาตกอยู่ที่ประมาณคนละ $19 ต่อวัน หลังจากเก็บของเรียบร้อยก็เริ่มจะหิว เราก็ออกไปซื้อของมาทำกินกัน ซึ่งจะประหยัดมากกว่าการออกไปกินที่ร้าน

ครัวที่ Backpacker ค่อนข้างจะใหญ่โต แล้วมีอุปกรณ์การทำอาหารครบครัน มื้อนั้นพวกเราจึงได้กินอาหารจากหลายๆชาติ ก๋วยเตี๋ยวผัดจากไต้หวัน ซูชิจากญี่ปุ่น หมูผัดซีอิ๊วจากเกาหลี และต้มยำส่งเข้าประกวดโดยคนไทย ที่ขอบอกว่ามื้อนั้น อร่อยมากๆๆ แหม๊ เสียดายว่าไม่มีครก ไม่งั้นก็จะตำส้มตำ ให้ได้ซี๊ดซ๊าดกัน

หลังจากอิ่มหนำสำราญแล้วก็ต้องเก็บกวาดให้เรียบร้อย ทำทุกอย่างให้เข้าที่เหมือนเดิม ถ้าใครกินแล้วไม่เก็บถือว่าหยาบคายมาก พอเก็บเสร็จเราก็มานั่งรวมกันในห้อง คิดแผนว่าเราจะเอายังไงกันดีถึงจะเที่ยวได้อย่างประหยัด ก็สรุปว่าคืนนี้เราจะออกเดินเที่ยวกัน เพราะที่พักที่พวกเราอยู่นั้นไม่ไกลจากตัวเมืองเท่าไหร่ เป็นการออกกำลังและประหยัดน้ำมันไปในตัว

พวกเราเดินไปเรื่อยๆ จนถึงตัวเมือง มีร้านขายของที่ระลึกมากมาย มีร้านอาหาร ผับ บาร์ ตลอดสองข้างทาง บรรยากาศดีมากๆ เหมือนกับในละครที่เคยดู ขาดก็แต่พระเอก เฮ้อ พอเดินเลยไปอีกนิดก็จะถึงทะเลสาบ เสียงคลื่นกระทบฝั่ง บวกกับ แสงไฟในเมือง และผู้คนที่ดูมีความสุข ทำให้พวกเราพลอยมีความสุขไปด้วย พวกเรานั่งอยู่ซักพักก็ชวนกันกลับที่พัก

วันนี้เหนื่อยกันมามากแล้ว นอนเอาแรงไว้พรุ่งนี้ดีกว่า วันรุ่งขึ้นพวกเราตรงไปที่ Information Center เพื่อหาข้อมูลในการเที่ยว แล้วก็สรุปลงตัวที่การขับรถไปดูที่ๆ เค้ามีกิจกรรมให้ทำ Bungy Jump, Jetover, Gondola, Speed Boat แล้วใครจะเล่นอะไรก็ตามสบาย ตบท้ายด้วยการแวะซื้อของที่ระลึก

ของที่ระลึกก็จะมีหลายอย่าง เช่น ตุ๊กตาแกะ, พวงกุญแจ, ครีมทาผิวทำมากจากรกแกะ (อันนี้แหละที่เค้าว่าใช้แล้วหน้าจะเด้งดึ๋งดั๋ง), สบู่ผลไม้ , เสื้อผ้าขนแกะ และกีวี เป็นต้น พอกลับถึงที่พักก็แยกย้ายกันไปทำธุระส่วนตัว แล้วกลับมาเจอกันอีกทีตอนกินข้าว วันนี้เรากินกันแบบง่ายๆ นั่นก็คือมาม่า ง่าย สะดวก และอร่อย เพียงแค่ใส่ไข่ ใส่ผัก จบ ไม่อยากกินเยอะ เดี๋ยวไม่มีแรงแด๊นซ์ คริคริ

พอตกดึกพวกคนแก่ทั้งหลายที่อายุเกิน 18 ก็ออกไป Drink กันที่ผับ ราคาของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่นิวซีแลนด์ก็ใกล้เคียงกับที่ไทย แพงกว่านิดหน่อย ผับที่นู่นก็เหมือนกับบ้านเรานั่นแหละ มีร้องเพลงเต้นรำ มองไปตรงไหนก็มีแต่คนเมา แต่ก็อย่าซ่ามากนัก จงสำนึกไว้เสมอว่าฝรั่งที่ชอบคนเอเชียมีเยอะ แต่ส่วนที่ไม่ชอบก็มีเหมือนกัน ถ้าซ่ามากๆ ก็อาจจะโดนเหยียบเอาได้

พูดถึงฝรั่งที่ไม่ชอบคนเอเชีย ขอเล่านิดนึง ตอนมาถึงแรกๆ แล้วจะต้องเดินบนถนนคนเดียวที่มีฝรั่งขับรถผ่านไปผ่านมาก็เกร็งจะแย่อยู่แล้ว หันหน้าหันหลัง ระแวงไปหมด แล้วต้องมาเจอไอ้พวกฝรั่งวัยรุ่นที่มันจะขับรถผ่านไปเฉยๆ ไม่ได้ ต้องขอบีบแตร์ดังๆ ให้เราหันไปมองมัน พอหันไปก็ได้นิ้วกลางมาเต็มๆ

บางทีมีเสียงมาด้วย F_ck you asia, stupid asia ,go away etc. ไอ้เฟี้ยเอ๊ย เป็นคนเอเชียแล้วมันเสียหายตรงไหนฟะ ฉลาดกว่าพวกแกตั้งเยอะ อย่างน้อยฉันก็พูดได้สองภาษา ถึงแม้ว่าภาษาอังกฤษจะไม่ค่อยแข็งแรงก็เหอะ พอโดนหลายๆ ครั้งเข้าก็ทนไม่ไหว หันไปด่าสวนมันบ้าง แต่เป็นภาษาไทย ฮ่าๆๆเป็นไงล่ะเมิง ฟังไม่รู้เรื่องอะดิ๊ พวกเมิงด่ากรูพอจะเข้าใจ แต่เวลากรูด่า พวกมิงไม่เข้าใจ ใครกันแน่ฟะที่โง่

สบายใจแระ เล่าต่อ… วันรุ่งขึ้นต้องกลับบ้านแล้ว พวกเราออกกันแต่เช้าเพราะว่าจะไปแวะเมืองอื่นด้วย ขับไปไม่นานก็มาถึง Arrow town แอร์โร่ทาวน์ เป็นเหมืองทองเก่า สมัยก่อนมีนักขุดทองพากันมาเสี่ยงโชคมากมาย แม้กระทั่งสมัยนี้ก็ยังมีให้เห็นอยู่ มาเป็นกลุ่มบ้าง คนเดียวบ้าง นั่งร่อนหินอยู่ ในใจหวังว่าจะโชคดีบ้าง เมืองแอร์โร่ เป็นเมืองขนาดเล็ก ใจกลางเมืองส่วนใหญ่จะเป็นร้านขายของที่ระลึก พวกเราก็เดินไปดูทุกร้านแบบ window shopping ก็คือ ดูแต่ตา ไม่ควักตังค์ซื้อนั่นเอง วะฮ่ะฮ่า

ของที่ระลึกที่คนส่วนมากซื้อ คือ Gold Nugget เป็นก้อนทองธรรมชาติที่ยังไม่ได้ถลุง คนขายบอกว่าราคาแค่ร้อยกว่าๆ เอง ซื้อไปซักสองสามอัน ร้อยกว่าดอลเนี่ยนะไม่แพง ตลกแระลุง หนูเก็บไว้กินข้าวดีกว่ามั้งคะ อิ่มด้วย

ถ้าใครมีงบน้อยแต่อยากจะซื้ออะไรติดไม้ติดมือกลับบ้าน ก็เปลี่ยนมาซื้อ Jade หินหยกแทนก็ได้ ราคาไม่แพงมาก ตกประมาณ $30-$120 หลังจากที่พวกเรากินข้าวกลางวันที่แอร์โร่ ทาวน์แล้วก็มุ่งหน้ากลับทิมารู กว่าจะถึงทิมารูก็เย็นมากแล้ว ยังต้องเอารถไปคืนอีก สภาพแต่ละคนก็ดูไม่จืดด้วยกันทั้งนั้น พอเสร็จเรียบร้อยแล้วก็แยกย้ายกันกลับบ้าน เฮ้อ ถึงบ้านซักที แต่ว่า การบ้านยังไม่ได้ทำเลย ฮือๆๆๆ คืนนี้เก๊าจะได้นอนไหมเนี่ย

กลับมาสู่เหตุการณ์ปัจจุบัน พอคราวนี้ได้กลับไปเที่ยวอีกพร้อมครอบครัว ก็รู้สึกดีไปอีกแบบนึง ว่าแล้วก็ไปดูรูปกันดีกว่าเนอะ ถนนเส้นที่จะไป ควีนส์ทาวน์ ก็จะมีหลายแบบหลายอารมณ์ มีทั้งแบบแห้งๆ ดูโล่งๆ

แล้วก็จะมีแบบสีสันสดใส สวยมากมาย

วันที่ไปฝนตกๆ หยุดๆ ตลอดทาง พอไปถึงควีนส์ทาวน์ฝนก็หยุดตกพอดี ได้เห็นสายรุ้งค่อยๆ พาดบนภูเขา คือว่าสวยอ่ะ ยืนมองอยู่อึ้งอยู่พักนึง นึกขึ้นได้ก็ถ่ายรูปสิคะ

หลังจากนั้นก็พาเด็กๆ ไปดูรอบๆ ถ่ายรูปเล่นไปเรื่อย

บรรยากาศที่เหลือรอบๆ เมือง

จบแล้วค่า….ปล. ถ้าใครสนใจอยากดูภาพบรรยากาศต่างๆ จากนิวซีแลนด์ ก็ลองเข้าไปชมกันได้ในเพจ Pla Gallery นะคะ จุ๊บๆ

ประสบการณ์มาเต็มแบบนี้ รับเสียงปรบมือจากเราไปเล้ย แปะๆๆ !!
ระดับความสนุก: ✩✩✩✩✩
เครดิต:www.facebook.com/plaifahgallery


บทความแนะนำ ที่เกี่ยวข้อง

ชอบ บทความ มัชรูมทราเวล ทำไงดี…?
1.กดแชร์ต่อ ให้เพื่อนอ่านบ้าง
2. คลิก Like และ ติดตามเราได้ที่ Facebook www.facebook.com/mushroomtravel/

วันวานยังหวานอยู่ ณ ควีนส์ทาวน์ นิวซีแลนด์ was last modified: September 5th, 2018 by Editor.Mushroom Travel
Exit mobile version