Mushroom Travel LINE
เราช่วยคุณได้
@mushroomtour
จันทร์ - เสาร์
9:00-22:00
อาทิตย์
9:00-18:00
Call Mushroom Travel
Call Center
02 105 6234
จอง 6 คนขึ้นไป
จอง 6 คนขึ้นไป
02 105 6244
Loading...

เคล็ดลับ 10 วิธีเลือก ซื้อทัวร์ เปรียบเทียบทัวร์ อย่างไร เที่ยวถูกใจและคุ้มค่าที่สุด

การตัดสินใจเลือกซื้อทัวร์ต่างประเทศ ส่วนใหญ่หลายคนจะดูจากราคาทัวร์ ส่วนลด หรือโปรโมชัน เป็นอันดับแรกใช่ไหมคะ? เมื่ออ่านเปรียบเทียบโปรแกรมทัวร์หลายๆ โปรแกรมก็ดูคล้ายกันไปหมด แยกไม่ออกว่าแตกต่างกันอย่างไร ซึ่งโดยปกติแล้ว ทัวร์ต่างประเทศ ที่ขายบนเว็บไซต์ทั่วไป เป็นทัวร์ในรูปแบบ Full board คือให้บริการครบ ทั้งตั๋วเครื่องบิน, โรงแรม, ไกด์, หัวหน้าทัวร์, อาหาร, รถบัสปรับอากาศ รวมถึงประกันอุบัติเหตุ เมื่อดูโปรแกรมทัวร์เผินๆ ราคาก็รวมทุกอย่างเหมือนกัน ที่เที่ยวคล้ายๆ กัน คนส่วนใหญ่จึงเลือกทัวร์ที่ราคาถูกที่สุด แต่ถ้าลองดูดีๆ การที่ราคาแตกต่างกันย่อมมีบริการบางอย่างที่แตกต่างกันด้วย วันนี้พี่เห็ด มัชรูมทราเวล จะมา แนะนำ 10 จุดเปรียบเทียบทัวร์ เพื่อให้เพื่อนๆ สามารถเลือก ซื้อทัวร์ ที่ถูกใจและคุ้มค่ามากที่สุด มีข้อสังเกตไหนบ้าง ไปชมกัน !!

1. ตั๋วเครื่องบิน

ซื้อทัวร์
Credit : Sinenkiy / canva.com
1) บินสายการบิน Full Service หรือ Low Cost

แน่นอนว่าสายการบิน Full Service หรือเรียกได้ว่า สายการบิน Premium อย่าง การบินไทย (Thai Airways), เอมิเรตส์ (Emirates), เจแปนแอร์ไลน์ (Japan Airlines) ส่วนใหญ่แล้วจะให้บริการที่สะดวกสบายกว่าสายการบิน Low cost ทั้งในเรื่องของขนาดที่นั่งและพื้นที่วางขา (Legroom) ที่กว้างกว่า มีบริการอาหารและเครื่องดื่มที่หลากหลาย พร้อมด้วยบริการ ผ้าห่ม, หมอน, หูฟัง และจอทีวีเพื่อความบันเทิง ในขณะที่สายการบิน Low Cost จะไม่ได้ให้บริการในส่วนนี้ หรือต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม นอกจากนี้สายการบิน Full Service ส่วนใหญ่จะให้บริการที่สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ ซึ่งเป็นสนามบินที่มีร้านช้อปปิ้งสินค้าดิวตี้ฟรี ร้านอาหาร และมีห้องรับรองพิเศษ (Lounge) ที่หลากหลาย และหรูหรากว่าสนามบินดอนเมือง ดังนั้นราคาสายการบิน Full Service จึงสูงกว่าสายการบิน Low Cost

2) การเลือกที่นั่ง 

หากเป็นการ เที่ยวกับทัวร์ ไม่ว่าสายการบิน Full Service หรือ สายการบิน Low Cost ลูกค้าจะไม่สามารถขอเลือกที่นั่งได้ เนื่องจากเป็นตั๋วกรุ๊ป ที่นั่งจึงถูกสุ่มตอนที่เราเช็กอิน กรณีต้องการที่นั่งใกล้กัน สำหรับสายการบิน Low Cost ต้องซื้อที่นั่งเพิ่ม แต่ถ้าเป็นสายการบิน Full Service ลูกค้าต้องแจ้งขอเลือกที่นั่งกับพนักงานขาย หรือเจ้าหน้าที่สายการบินที่เคาน์เตอร์เช็กอินในวันเดินทางค่ะ

ซื้อทัวร์
Credit : AlexeyPetrov / canva.com
3) อาหารบนเครื่อง 

โดยปกติแล้ว สายการบิน Full Service จะมีบริการอาหารบนเที่ยวบิน ส่วนสายการบิน Low Cost จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับซื้ออาหาร ส่วนนี้เพื่อนๆ ต้องสังเกตว่าโปรแกรมทัวร์ได้ระบุบริการอาหารบนเครื่องบินหรือไม่ ส่วนนี้ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ ทัวร์ที่ระบุรวมอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบินมีราคาสูงกว่า นั่นเองค่ะ

4) ระยะเวลาบิน 

หากเที่ยวข้ามทวีป เช่น ทัวร์ยุโรป โปรแกรมทัวร์ที่บินตรง จะมีราคาสูงกว่าทัวร์ที่บินแวะเปลี่ยนเครื่อง เพราะไม่ต้องเสียเวลาแวะเปลี่ยนเครื่องนาน 3 – 6 ชั่วโมง ทำให้มีเวลาเที่ยวมากกว่า คุ้มกว่านั่นเอง อย่างไรก็ตามลูกค้าบางกลุ่มก็ชอบเลือกทัวร์ที่บินแบบแวะเปลี่ยนเครื่อง เนื่องจากไม่สะดวกนั่งเครื่องบินนานๆ การเปลี่ยนเครื่องก็ได้ยืดเส้นยืดสาย ได้แวะช้อปปิ้งที่สนามบิน ดังนั้นการเลือกทัวร์บินตรงหรือบินแวะเปลี่ยนเครื่อง จึงขึ้นอยู่กับความชอบและความสะดวกของลูกค้า แต่ทัวร์ที่บินแวะเปลี่ยนเครื่องจะมีราคาประหยัดกว่าบินตรงนั่นเอง

5) เวลาเที่ยวบิน 

ในโปรแกรมทัวร์จะระบุเวลาบินไว้ชัดเจน ตั้งแต่เวลาออกเดินทางและเวลาที่เดินทางถึงปลายทาง ทัวร์ที่บินถึงประเทศปลายทางช่วงเช้ามักได้รับความนิยมมากกว่า เพราะถึงแล้วก็ได้เที่ยวทันที ไม่เสียเวลา ส่วนขากลับ หากได้บินกลับช่วงค่ำ จะมีเวลาเที่ยววันสุดท้ายเต็มที่ มีความคุ้มค่ามากกว่า ทำให้เที่ยวบินที่บินถึงเช้าและกลับค่ำ มีราคาสูงกว่าเที่ยวบินอื่นๆ

**ซื้อทัวร์ กับพี่เห็ดดีกว่าอย่างไร ? พี่เห็ดช่วย อัปเกรดที่นั่ง, อาหารบนเครื่อง, ตั๋วเครื่องบินภายใน ซื้อบริการเพิ่มกับพี่เห็ดได้เลยนะคะ 

2. วันที่เดินทาง

ซื้อทัวร์
Credit : Elena Photo / canva.com

การเดินทางในช่วงที่คนนิยมเที่ยวเยอะๆ เช่น วันหยุดเสาร์ – อาทิตย์, เทศกาลวันหยุดยาว, สงกรานต์, ปีใหม่ หรือช่วงเวลาไฮซีซั่น อย่าง ฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ฤดูหนาว ย่อมมีราคาสูงกว่า เพราะเป็นช่วงเวลายอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยว ทั้งตั๋วเครื่องบิน โรงแรม จะถูกจองเต็มในช่วงเวลาดังกล่าว หรือราคาขยับสูงขึ้นตามความต้องการที่เพิ่มขึ้นนั่นเอง

3. เที่ยวครบทุกวัน VS มีวันเที่ยวอิสระ

แน่นอนว่าการนำเที่ยวครบทุกวัน ย่อมมีราคาสูงกว่าโปรแกรมทัวร์ที่มีวันเที่ยวอิสระ (Free day) แต่ในปัจจุบันโปรแกรมทัวร์ที่มีวันเที่ยวอิสระถือว่าได้รับความนิยมมากขึ้น เพราะนอกจากราคาทัวร์จะประหยัดกว่าแล้ว ลูกค้ายังสามารถเที่ยวได้ตามสไตล์ของตัวเอง ไปเที่ยวในที่ที่ไม่มีในโปรแกรมทัวร์ มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น เหมาะกับผู้ที่สามารถวางแผนเที่ยว, ขึ้นรถสาธารณะ หรือสั่งอาหาร ได้ด้วยตัวเอง

4. ทัวร์ลงร้าน VS ทัวร์ไม่ลงร้าน

เที่ยวกับทัวร์ บางประเทศ เช่น ทัวร์จีน จะมีทัวร์แบบลงร้านหรือไม่ลงร้าน ให้นักท่องเที่ยวได้เลือกซื้อ ซึ่งทั้ง 2 แบบ มีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกัน ทัวร์ที่ลงร้านมักมีราคาถูกกว่า เนื่องจากบริษัททัวร์ได้รับการสนับสนุนจากร้านค้าที่เป็นพันธมิตร ทำให้สามารถลดต้นทุนในการจัดโปรแกรมทัวร์ได้ ใครที่ชอบช้อปปิ้งอยู่แล้วอาจจะถูกใจโปรแกรมทัวร์ที่ได้ลงร้านช้อป โดยส่วนใหญ่จะเป็นร้านขายของฝาก ร้านอัญมณี ร้านเครื่องสำอาง ร้านยาจีน ร้านสินค้าพื้นเมือง ซึ่งทางบริษัททัวร์ก็ไม่มีการบังคับซื้อนะคะ ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจในสินค้าที่ทางร้านนำเสนอขายค่ะ

ส่วนใครที่ไม่อยากเสียเวลาเข้าร้านช้อป อยากใช้เวลาเที่ยวให้เต็มที่และคุ้มค่า สามารถเลือก ซื้อทัวร์ ไม่ลงร้าน ได้ค่ะ แต่จะมีราคาสูงกว่า หรือบางโปรแกรมจะระบุชัดเจนว่า ถ้าไม่ลงร้าน ลูกค้าต้องจ่ายเพิ่มเป็นจำนวนกี่บาท ดังนั้นเพื่อนๆ ต้องสังเกตโปรแกรมทัวร์ในแต่ละวันว่ามีสถานที่ช้อปปิ้งกี่ร้าน เป็นร้านอะไรบ้าง ใช่ร้านที่ชอบหรือไม่ เพื่อเป็นตัวเลือกในการตัดสินใจ

5. โรงแรม

Credit : TwaN’s Images / canva.com

โรงแรมที่เราจะไปพักในแต่ละคืน ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่จะทำให้ทริปเที่ยวครั้งนี้เป็นทริปที่สะดวกสบาย เมื่อดูโรงแรมในโปรแกรมทัวร์ ลูกค้าควรดู 2 จุดใหญ่ๆ ได้แก่

1) ระดับดาว

ในโปรแกรมแต่ละคืน พักโรงแรมระดับใดบ้าง ซึ่งแต่ละระดับดาวจะหมายถึงคุณภาพ, ขนาดห้อง และราคา เช่น โปรแกรมทัวร์แรก พัก 3 ดาว 4 คืน + พัก 4 ดาว 1 คืน กับ โปรแกรมทัวร์ที่สอง ได้พัก 4 ดาว ทั้ง 5 คืน โปรแกรมทัวร์ที่สอง จะราคาสูงกว่า เพราะคุณภาพที่พักดีกว่า

Credit : chayakorn lotongkum / canva.com
2) ทำเล

โรงแรมที่ตั้งอยู่ในแลนด์มาร์กสำคัญ เช่น ใจกลางเมือง ใกล้สถานีรถไฟ หรือ ใกล้แหล่งช้อปปิ้ง จะมีราคาสูงกว่าโรงแรมทำเลนอกเมือง ลูกค้าส่วนใหญ่จะเลือกทำเลในตัวเมือง เพราะแม้จะต้องจ่ายในราคาที่สูงขึ้นอีกนิดหน่อย แต่สามารถออกไปเที่ยวได้เองในตอนกลางคืน เช่น ชมแสงสีเสียง, ชิมสตรีทฟู้ด หรือช้อปปิ้ง ทำให้เที่ยวได้คุ้มค่ามากขึ้น

**หากซื้อทัวร์กับพี่เห็ด ลูกค้าสามารถเลือกประเภทเตียง ทั้งเตียงเดี่ยว และเตียงคู่ได้นะคะ

6. อาหาร

Credit : Promo_Link / canva.com

มื้ออาหารเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ราคาทัวร์มีความแตกต่างกัน พี่เห็ดแนะนำให้นับจำนวนมื้ออาหารที่อยู่ในโปรแกรมทัวร์ หรือสังเกตว่า ในแต่ละวันมีมื้ออิสระที่ต้องหาร้านอาหารทานเองกี่มื้อ บางโปรแกรมทัวร์จะปล่อยอิสระอาหารกลางวัน หรืออิสระอาหารเย็น เพื่อให้สอดคล้องกับการจัดทัวร์ เช่น ช้อปปิ้งที่ชินจูกุในช่วงเย็น จึงเป็นอิสระอาหารเย็น เพื่อให้ลูกค้าสามารถใช้เวลาช้อปปิ้งได้สะดวกนั่นเอง

นอกจากนี้ เพื่อนๆ สามารถสังเกตว่า โปรแกรมทัวร์มีมื้อพิเศษ หรือเข้าร้านอาหารชื่อดังหรือไม่ เช่น ทัวร์ญี่ปุ่น เข้าร้านบุฟเฟ่ต์เนื้อย่าง, ยากินิคุระดับพรีเมียม, ร้าน Rokkasen ยอดนิยมของคนไทย หากมีร้านอาหารพรีเมียม หรือมื้อพิเศษ ราคาทัวร์อาจจะสูงขึ้นมาอีกนิด แต่ข้อดีคือ นักท่องเที่ยวจะได้ทานร้านอาหารที่หากไปเองอาจจะจองได้ยาก อย่างเช่น ได้ทานเนื้อวากิวเกรด A โดยไม่ต้องต่อแถวรอคิว

**หากซื้อทัวร์กับพี่เห็ด ลูกค้าสามารถแจ้งอาหารที่แพ้ หรืออาหารที่ไม่ทานได้ เพื่อที่ทางทัวร์จะได้จัดเตรียมให้ล่วงหน้าค่ะ 

7. ทัวร์เสริม (Option tour)

ค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวในโปรแกรมทัวร์ส่วนใหญ่จะรวมอยู่ในค่าทัวร์เรียบร้อยแล้ว แต่อาจมีบางสถานที่ที่ต้องชำระเงินเพิ่มสำหรับกิจกรรมพิเศษที่ให้เราได้เลือก เรียกว่า Option tour เช่น การล่องเรือ, ขึ้นบอลลูน หรือการแสดงท้องถิ่น แต่ถ้าเราไม่ต้องการทำกิจกรรมนั้นๆ จะไม่จ่ายเพิ่มก็ได้ เพราะฉะนั้นการเลือกโปรแกรมทัวร์ นอกจากการเปรียบเทียบราคาแล้ว ลูกค้าควรสังเกตว่า ในโปรแกรมทัวร์นั้นรวมหรือไม่รวมค่าเข้าชมสถานที่หรือค่ากิจกรรมใดบ้าง ซึ่งค่าใช้จ่ายดังกล่าวนี้ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ทัวร์มีราคาต่างกัน

การมีทัวร์เสริม หรือ Option tour ให้เลือกซื้อเพิ่มก็มีข้อดีเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น ทัวร์ตุรกี ที่ส่วนใหญ่จะไม่ได้รวม Option ขึ้นบอลลูน เพราะต้องรอดูสภาพอากาศในวันนั้นๆ หากวันไหนสภาพอากาศไม่ดี บอลลูนไม่สามารถขึ้นได้ ลูกค้าก็จะได้ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ หากเราตัดสินใจซื้อทัวร์ที่รวมทุกอย่างมาแล้วตั้งแต่ต้น แต่ในวันที่เราไปเที่ยวกลับเจอหมอกหรือฝน สภาพอากาศไม่ดี ก็จะทำให้เสียเงินแต่ไม่ได้ภาพสวยๆ อย่างที่ต้องการ

8. ค่าทิป

Credit : SolStock / canva.com

ส่วนใหญ่ค่าทิปไกด์ คนขับรถ และหัวหน้าทัวร์ จะไม่รวมอยู่ในค่าทัวร์ ลูกค้าต้องตรวจสอบว่าแต่ละโปรแกรมทัวร์มีค่าทิปเพิ่มอีกเท่าไหร่ ซึ่งในโปรแกรมทัวร์จะระบุจำนวนเงินค่าทิปที่ต้องจ่ายเพิ่มไว้อย่างชัดเจน บางทัวร์ขอเก็บค่าทิปที่สนามบินในวันแรกของการเดินทาง บางทัวร์จะแยกเก็บค่าทิปไกด์และคนขับรถท้องถิ่น โดยระบุไว้ในโปรแกรมทัวร์จำนวนหนึ่ง และมีส่วนเพิ่มเติมคือ ค่าทิปหัวหน้าทัวร์คนไทยตามความพึงพอใจในการให้บริการ ดังนั้น โปรแกรมทัวร์ที่เที่ยวเหมือนกัน ราคาถูกกว่า แต่อาจมีค่าทิปมากกว่า เมื่อสรุปราคารวมที่ต้องจ่ายอาจสูงกว่าอีกโปรแกรมก็เป็นไปได้

9. สถานที่ท่องเที่ยว

ในโปรแกรมทัวร์จะมีแผนการเดินทางในแต่ละวันมาให้เรียบร้อยว่าจะไปที่ไหนบ้าง แต่สิ่งที่ต้องสังเกตให้ดีก็คือ บางสถานที่ในโปรแกรมอาจระบุว่า ผ่านชม หรือ ถ่ายรูปด้านหน้า หมายความว่าลูกค้าจะได้ใช้เวลาที่นั่นไม่นาน หรือไม่ได้เข้าไปด้านใน ยกตัวอย่างเช่น นำท่านถ่ายรูปคู่กับพิพิธภัณฑ์ลูฟท์ ลูกค้าจะไม่ได้เข้าชมภายในพิพิธภัณฑ์ลูฟท์ จะเป็นเพียงการถ่ายรูปด้านหน้า ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 30 – 40 นาทีเท่านั้น แต่หากโปรแกรมที่มีการพาเข้าชมภายใน จะมีการระบุไว้ชัดเจน

10. ค่าวีซ่า

Credit : BanarTABS / canva.com

สำหรับประเทศที่ต้องทำวีซ่าจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม แต่ก็มีบางโปรแกรมที่มีโปรโมชันราคาทัวร์รวมค่าวีซ่าเรียบร้อยแล้ว แนะนำให้เพื่อนๆ อ่านรายละเอียดท้ายโปรแกรมให้ดีก่อนนะคะ เพราะโปรแกรมทัวร์ที่ราคาถูกกว่า อาจจะไม่รวมค่าทำวีซ่า ซึ่งสุดท้ายเราก็ต้องจ่ายเพิ่มอยู่ดี พี่เห็ดแนะนำว่าถ้าเจอทัวร์ที่รวมค่าวีซ่าแล้ว อยากให้รีบจองกันนะคะ เพราะราคาโปรโมชันที่นั่งจะมีจำนวนจำกัดค่ะ

และนี่ก็คือ 10 เคล็ดลับในการเลือกดูโปรแกรมทัวร์ให้ได้ราคาสุดคุ้มโดนใจ การเลือกทัวร์ของเพื่อนๆ จะง่ายขึ้นแน่นอน ได้ไป เที่ยวกับทัวร์ ในทริปที่เราต้องการจริงๆ พี่เห็ดขอปิดท้ายอีกนิดว่า นอกจากเคล็ดลับ 10 ข้อที่บอกไปข้างต้น เพื่อนๆ ควรดูความน่าเชื่อถือของบริษัททัวร์ประกอบการตัดสินใจด้วยนะคะ อาจดูจากรีวิวที่ Facebook Fanpage หรือการให้บริการของเจ้าหน้าที่แนะนำทัวร์ หวังว่าเพื่อนๆ จะได้ ประสบการณ์ท่องเที่ยวที่ดี ตรงกับความคาดหวัง และคุ้มค่ากับเงินที่เราจ่าย ถ้าชอบบทความนี้ ให้โอกาสพี่เห็ด มัชรูมทราเวล ดูแลลูกค้าที่น่ารักทุกท่านในทริปต่อไปนะคะ


ชอบ บทความ มัชรูมทราเวล ทำไงดี…?
1. กดแชร์ต่อ ให้เพื่อนอ่านบ้าง
2. คลิก Like และ ติดตามเราได้ที่ Facebook www.facebook.com/mushroomtravel/

—————

Mushroom Travel มีโปรแกรม ทัวร์ต่างประเทศ ให้เลือกมากที่สุด
โทร. 02-105-6234 (30 คู่สาย)
[email protected]
Line id : @mushroomtravel

สินค้าที่เกี่ยวข้อง