@MushroomTravel
มาติดตามการบอกเล่าประสบการณ์จาก Guest สุดพิเศษ พาเที่ยวเมือง เว้ เวียดนาม กันต่อในตอนที่ 2 ในทริปตะลุยเวียดนามกลาง ฮอยอัน เว้ และดานัง ไปชมกันต่อได้เลย
Central Vietnam [Hoi An-Hue-Danang] Vol.2 Hue ไม่หว่าเว้
สวัสดีค่า เราจะมาต่อรายละเอียดทริปเวียดนามกลางของเรา จากบทความ Vol.1 Hoi An ฉันรักเธอ
Vol.2 เราจะเดินทางไป “Hue หรือ เว้” กันค่ะ
เว้ เวียดนาม เคยเป็นเมืองหลวงเก่าในราชวงศ์เหงียน (Nguyen) ในช่วง พ.ศ.2345-2488 และก็ถูกยกย่องเป็นมรดกโลกจากยูเนสโกอีกที่นึง
วิธีไป : จากฮอยอันมาเว้ เราใช้บริการรถของบ. Stop And Go แบบ private car คนละ USD33 หรือประมาณพันนิดๆ เป็นทัวร์ Transfer C โปรแกรมทัวร์จะแวะเที่ยวดานัง สามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ http://stopandgo-hue.com/tour-name-transfer-c/
Day 2
Hoi An-Hue
10:30 น. รถก็มารับเราที่หน้าโรงแรม ได้คนขับชื่อ Vu มาเป็น driver ของสองแม่ลูกคู่นี้ ภาษาอังกฤษดีเยี่ยม แถมเฟรนลี่สุดๆ
เรามาเริ่มที่แรกกันเลยดีกว่า
1. Marble Mountain : ที่นี่จะเป็นแนวขึ้นเขาลงเขา แนะนำให้ใส่รองเท้าผ้าใบนะคะ เต็มไปด้วยถ้ำ อุโมงค์และจุดชมวิวหลายจุด ค่าเข้าคนละ 40,000 ด่อง + ค่าลิฟต์อีกคนละ 15,000 ด่อง (ขาเดียว) ส่วนขาลงไปซื้อได้จากด้านบนตอนจะลงแล้วค่ะ รวมแล้วคนละ 70,000 ด่องหรือประมาณ 110 บาท
ที่นี่ผลาญพลังงานเราไปเยอะมาก 5555555 ลงมาปุ๊บต้องให้วูพาไปหาอาหารสำหรับมื้อกลางวัน แล้วก็ได้ร้าน Com Bac เป็นร้านอาหารเวียดนามเล็กๆ อยู่ในดานังนี่แหละ
เรามีสั่งข้าวผัด เฝอไก่ แล้วก็ Nem Ran (แนมร้าน) หรือปอเปี๊ยะทอด
อร่อยทุกอย่างแถมราคาไม่แพง ทั้งหมด 220,000 ด่อง หรือแค่ 300 นิดๆ
อิ่มแล้วก็ไปลุยทัวร์กันต่อจ้า
2. Monkey Mountain : มี Lady Buddha องค์สูงที่สุดในเวียดนามตั้งอยู่
ข่าวร้ายคือ พอขึ้นรถได้ซักพักฝนดันเทลงมาจ้า ทำให้ไม่ได้แวะทะเลดานังตามแพลน แต่ก็โชคดีที่ไม่เปียกฝนมากกว่า อิอิ
ต่อไปจะเป็นการนั่งรถยาวๆ เข้าสู้ เว้ อย่างจริงจังแล้ว ซึ่งก็จะต้องผ่าน Hai Van Pass ว่ากันว่าเป็นถนนที่วิวสวยที่สุดและเป็นภูเขาแห่งเมฆหมอก (เมฆเยอะ+ฝนตก เลยทำให้ได้แค่นั่งบนรถอย่างเดียวไม่ได้จอดลงไปถ่ายรูปค่ะ) และเป็นเส้นทางที่ต้องลอดอุโมงค์ยาวถึง 6.3 กิโลเมตร (ยาวที่สุดในเอเชียใต้)
วิวระหว่างทางค่ะ ด้านซ้ายภูเขา ขวาทะเล ทางบางจุดเป็นโค้งหักศอก เลี้ยวเยอะ มีแอบเวียนหัวนิดหน่อย 555
สังเกตรูปนี้จะเห็นรถไฟออกจากอุโมงค์ด้วยนะคะ
ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมงกว่าๆ ก็ถึงตัวเมืองเว้แล้ว
อ๋อ..ลืมบอกไปว่า ที่เวียดนามเขามีจำกัดความเร็วรถไม่เกิน 60 กม/ชม. และที่สำคัญ ทุกคนก็ปฏิบัติได้เหมือนกันหมดเลย สุดยอดจริงๆ ค่ะ
ที่พักใน เว้ เวียดนาม สำหรับ 2 คืนของพวกเรา คือ Beaulieu Boutique Hotel เป็นแค่ตึกแถวเล็กๆ เหมาะกับพวก backpack ซะส่วนใหญ่ แต่เราเลือกที่นี่เพราะอยู่ใกล้ของกินและพวกร้านนั่งชิว เพราะฉะนั้นไม่เปลี่ยวแน่นอน
ห้องพักเป็นประเภท Superior Double With City View
ถือว่าโอเคในระดับนึงเลย ทำเลดี พนักงานบริการดี แต่อาจจะเล็กไปหน่อยนึง
มื้อเย็นของเราวันนี้จะไปกินที่ ร้านหลักเทียน (Lac Thien) เพราะเห็นหลายคนแนะนำมา
วิธีไปก็คือ ข้ามสะพานเจืองเตียนแล้วเลี้ยวซ้ายลงไป และเลี้ยวขวาเข้าถนน Dinh Tien Houang พอเข้าซอยไปแล้ว จะเจอ 2 ร้านติดกันที่ใช้ชื่อหลักเทียนเหมือนกัน เราจะกินร้านที่ 2 นับจากปากซอย หรือสังเกตดีๆ จะมีกำแพงที่มีข้อความของนักท่องเที่ยวเยอะแยะมากมาย
มื้อนี้เราสั่ง ข้าวปลาทอดราดซอสมะเขือเทศ (Com Ca) ก๋อยกวั่น (Goi Cuon) และ ข้าวหมูทอด (Thit Noung)
ก๋อยกวั่น : จะคล้ายๆกับก๊วยเตี๋ยวลุยสวนบ้านเรา แต่น้ำจิ้มเป็นถั่วลิสงแทนค่ะ
กินเสร็จเราไปเดินเล่นกันต่อที่ Walking Street หาง่ายมากแค่ข้ามสะพานกลับมาฝั่งเดิม แล้วมองใต้สะพานด้านขวาก็จะเจอ
ใครว่างก็แนะนำให้ไปเดินเล่นกันได้ ส่วนใหญ่จะเน้นขายของจุกจิกหรือพวกของฝากค่ะ
จบแล้วสำหรับวันที่ 2 ของทริปนี้ เตรียมตัวพักผ่อนเตรียมไปทัวร์เมือง เว้ เวียดนาม พรุ่งนี้อีกวัน
Day 3
Hue
เริ่มต้นเช้าวันใหม่ด้วยอาหารเช้าของโรงแรมกัน ด้วยความที่เป็นโรงแรมขนาดเล็ก อาหารเช้าเลยจำกัดเป็นคนละจานไม่ใช่แบบบุฟเฟต์
08:30 น. รถมารอรับหน้าโรงแรมแล้วค่า วันนี้เราใช้บริการของบ. Stop And Go อีกวัน สำหรับทัวร์เว้ครึ่งวัน ราคาคนละ US22
ในแพลนทัวร์วันนี้จะมีด้วยกัน 5 ที่ด้วยกัน แบ่งเป็น
1. Minh Mang Tomb
2. Khai Dinh Tomb
3. Tu Duc Tomb
4. Hue Royal Palace
5. Thien Mu Pagoda
เริ่มกันเล้ยยย
1. สุสานจักรพรรดิมิญมาง หรือ Minh Mang Tomb : สุสานแห่งนี้มีขนาดใหญ่ถึง 40 เฮกตาร์ ใช้เวลาอยู่ในนี้ประมาณชั่วโมงนึง ก่อนจะเข้าไปเราต้องซื้อตั๋วเข้าก่อน
มันจะมีตั๋วอยู่ 2 ประเภทคือ :
1. ตั๋วรวม คือรวมสุสานทั้ง 3 แห่งและพระราชวังเว้ ทั้งหมดคนละ 360,000 ด่องหรือประมาณ 500 บาท
2. ตั๋วแยก ที่นี่จะอยู่ที่คนละ 100,000 ด่อง
ซึ่งถ้าเทียบกันแล้วแบบแรกก็จะคุ้มกว่าสำหรับใครที่ไปครบค่ะ
ประตูได๋ฮง (Dai Hong) : ถูกเปิดออกแค่ครั้งเดียวคือตอนนำพระบรมศพของจักรพรรดิมิญมางมาฝังที่นี่
อาคารบีดิญ (Bi Dinh) : จะมีศิลาจารึกเล่าประวัติพระจักรพรรดิมิญมางซึ่งเขียนโดยองค์ชายเถี่ยวจี่ (โอรสที่จะครองราชย์ต่อ)
พระตำหนักมิญ (Minh Pavilion) หรือพระตำหนักแห่งแสงสว่าง (Pavilion Of Light)
พื้นที่สุสาน : เขาว่ากันว่าไม่มีใครรู้บริเวณที่ฝังศพเลย เพราะว่าคนที่นำศพไปฝังถูกปลิดชีพหมดค่ะ
2. สุสานจักรพรรดิไคดิญ หรือ Khai Dinh Tomb : ถือเป็นสุสานหลวงที่สุดท้ายของเวียดนาม
3. สุสานจักรพรรดิตือดึก หรือ Tu Duc Tomb : เป็นจักรพรรดิที่ครองราชย์นานที่สุดของราชวงศ์ สุสานนี้จะคล้ายๆ กับของจักรพรรดิมิญมาง ส่วนตำแหน่งก็ไม่มีใครรู้เช่นเดียวกันค่ะ
หลังจากเสร็จสุสานทั้ง 3 แห่งก็ได้เวลามื้อเที่ยงแล้ว วูได้พาเราไปกินที่ร้าน Hanh เป็นร้านขายอาหารพื้นเมืองเว้เลยทีเดียว มาครั้งนี้เราสั่งหลายอย่างมากเพราะมีคนเวียดนามเองมาแนะนำ อิอิ
แบ๋งควาย (Banh Khoai) หรือ แพนเค้กเว้
แนมหลุ่ย (Nam Lui) จะมาพร้อมกับแผ่นแป้งแข็งๆ และผัก วิธีกินก็ห่อกับแป้งแล้วราดกับซอสถั่ว
และสุดท้ายคือ แบ๋งแบ๋ว (Banh Beo) คล้ายขนมถ้วยโรยด้วยกุ้ง กระเทียมเจียวและแคปหมู กินคู่กับซอสหวานๆ เค็มๆ
อิ่มแล้วก็ไปต่อ
4. พระราชวังเว้ หรือ Hue Royal Palace
5. เจดีย์เทียนมู่ หรือ Thien Mu Pagoda : เป็นเจดีย์ทรง 8 เหลี่ยม 7 ชั้น สูง 21 เมตร ซึ่งถือว่าเป็นเจดีย์ที่สูงที่สุดของเวียดนามค่ะ
จบแล้วสำหรับทริปครึ่งวันเมืองเว้ เราถึงที่พักประมาณบ่ายสามโมง ก็เลยเข้าไปนั่งพักเท้าพักขาในห้องก่อนแปปนึง
พอตกเย็นเราได้แวะเข้าร้านกาแฟชื่อ Highlands Coffee (น่าจะเป็นแบรนด์ดังของเวียดนามเพราะเห็นมีหลายสาขาค่ะ)
เรามีสั่งชาเขียวร้อน ช็อคโกแลตปั่นและชีสเค้กกาแฟ
ทั้งหมดนี้ค่าเสียหาย 78,000 ด่องหรือประมาณ 120 บาท (ถือว่าถูกมากกกกถ้าเทียบกับบ้านเรา)
จบแล้วสำหรับวันที่ 3 ของทริปนี้ และลาก่อนเมืองเว้ ทิ้งท้ายด้วยรูปนี้แปลว่า “ฉันรักเว้”
ขอบคุณ Guest สุดพิเศษ คุณ Trippa สังกัด pantip จากกระทู้ “[CR] Central Vietnam [Hoi An-Hue-Danang] Vol.2 Hue ไม่หว่าเว้” ที่มามอบประสบการณ์ เที่ยว ดานัง และ เว้ เวียดนาม ให้ชมแบบจัดเต็ม! ได้รับเสียงปรบมือจากเราไปเล้ยย!!
ระดับความน่าไป : ✩✩✩✩✩