Chill Out @ Singapore ตอนที่ 2 เป็นตอนสุดท้ายครับ เป็นการเที่ยวชมเมืองในวันที่ 3 กับ วันที่ 4 ที่สิงคโปร์ จะพาไปเที่ยวที่ไหน แวะที่ไหนกันบ้าง ลองติดตามดูละกันคร๊าบ
วันที่ 3 ของทริปนี้ ช่วงเช้า จะพาไปเดินเล่นออกกำลังกายที่ Chinese Garden สวนจีน แห่งนี้ สร้างขึ้นในปี 1975 ออกแบบโดยหยวนเซ็นยู (Yuen Chen Yu) สถาปนิกชาวไต้หวัน โดยใช้สถาปัตยกรรมและทิวทัศน์แบบตอนเหนือของจักรวรรดิจีน การเดินทางนั่งรถไฟฟ้า MRT ไปลงสถานี Chinese Garden ใช้ทางออก Chinese Garden ออกมาจากสถานีไฟฟ้า เดินผ่านสนามหญ้าที่ชาวสิงคโปร์เอาไว้ทำกิจกรรมต่าง เช่น เล่นฟุตบอล ออกกำลังกาย เดินผ่านมาสักพักก็จะถึงประตูทางเข้า Chinese Garden เป็นประตูทางเข้าสีแดง ต่อด้วยสะพานสีแดงเหมือนกัน จากประตูฝั่งนี้ จะมองเห็น เจดีย์ 7 ชั้น เด่นสง่าภายใน Chinese Garden
จากเจดีย์ 7 ชั้น เดินตรงไปจนสุดแล้วเลี้ยวไปทางซ้ายมือ เดินไปเรื่อยก็จะเจอเจดีย์คู่
ผ่านเจดีย์คู่ไปก็จะเป็น Garden Courtyard
Stone Boat จากฝั่งทางด้าน Tea House Pavilion
Confucius Statue (รูปปั้นขงจื้อ) ขงจื้อ เป็นนักคิดและนักปรัชญาสังคมที่มีชื่อเสียงของจีน คำสอนของขงจื๊อนั้น ฝังรากลึกลงไปในสังคมเอเชียตะวันออกมาเป็นเวลาถึง 20 ศตวรรษ
จาก Chinese Garden จะพาไปเดินชมหมู่บ้านฮอลแลนด์ที่สิงคโปร์ นั่งรถไฟฟ้า MRT มาลงที่สถานี Holland Village “ชุมชนโบฮีเมีย” (Bohemian enclave) แห่งสิงคโปร์ หมู่บ้านฮอลแลนด์ (Holland Village) แห่งนี้เป็นเสมือนชีวิตของชาวสิงคโปร์ขนาดย่อส่วน มีการผสมผสานอันน่าทึ่งระหว่างยุคสมัยเก่าและใหม่ มีร้านกาแฟโบราณและตลาดสดที่แออัดยัดเยียด นอกจากนี้ยังมีบาร์ไวน์ที่หรูหราและภัตตาคารที่ให้บริการอาคารค่ำชั้นเลิศ
สัญลักษณ์ของ Holland Village
ร้านค้า ร้านอาหาร ภายใน Holland Village ตอนเย็น ค่ำๆ น่าจะครึกครื้นยิ่งกว่านี้
ร้าน Old Chang Kee ร้านของทอดชื่อดังของสิงคโปร์ ร้านนี้ อยู่ใน สถานี Holland Village
จาก Holland Village กลับเข้าไปโรงแรม แล้วออกมา Bugis อีกครั้ง เพื่อทานโรตี มะตะบะ ที่ ร้าน ZAM ZAM (ลงสถานี Bugis ออกทาง Raffles Hospital (Exit B) และเดินไปประมาณ 5-10 นาที)
Sultan Mosque จะอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ ร้าน ZAM ZAM
Singapore Zam Zam – เป็นร้านอาหารมุสลิม 2 คูหา 2 ชั้น ที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก อยู่ตรงข้ามกับมัสยิด Sultan Mosque
ได้ขึ้นมาทานที่ชั้น 2 ครับ ตู้เครื่องดื่มหลากหลายชนิด หลากสีสัน
เครื่องเคียงที่ให้เป็นน้ำราดแบบต่างๆ อันบนสุดน่าจะดีสุด
Chicken Briyani ข้าวหมกไก่
Chicken Murtabak มะตะบะไก่
ทางร้านจะมีเมนูอาหารและราคาติดไว้อย่างชัดเจนที่กำแพงร้านเลยครับ สรุปแล้ว ร้านนี้อาหารจานค่อนข้างใหญ่ ใครที่ไม่ค่อยชอบทานอาหารมุสลิม ไม่แนะนำให้ลอง เลี่ยนมากๆ ทานไม่หมดด้วย ฮ่าๆ
ย่านร้านค้าแถว Arab Street
Haji Lane ถนนสายอาร์ต ที่พาไปเดินเล่นในวันที่ 2 ของทริปนี้
ร้านค้าแถวย่าน Bugis
จากเดินด้านอกร้อนๆ มาเดินชมภายในห้าง Bugis Junction ห้างสรรพสินค้าย่าน Bugis
Tori Q Japanese Yakitori เป็นร้านปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่น ที่ซื้อมาลองชิมเป็น Chicken Balls (ลูกชิ้นไก่ปิ้ง) กับ Pork (หมูปิ้ง) อร่อยดีครับ
Four Leaves ภายใน Bugis Juction – ร้านเบเกอรี่ ของสิงคโปร์ มีเค้กหลายหลายแบบ สีสัน หน้าตาน่าทานมากๆ
ออกจาก Bugis Junction ไปต่อกันที่ Chinatown
นั่งรถไฟ MRT ลงสถานี Chinatown ทางออก A (Pagoda Street) แหล่งของฝากในสิงคโปร์
Chinatown Heritage Centre พิพิธภัณฑ์แสดงเรื่องราวประวัติความเป็นมา การใช้ชีวิตของชาวจีนในสมัยอดีตที่เริ่มเข้ามาตั้งรกรากในสิงคโปร์ ภายในพิพิธภัณฑ์ถูกแบ่งออกเป็น 3 ชั้น ซึ่งอาคารพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ก็ได้ถูกดัดแปลงมาจาก Shophouse ทั่วไป เปิด 9.00 – 20.00 ค่าชม 10 เหรียญ
ร้านค้าบนถนน Southbridge ย่าน Chinatown ตึกต่างๆบนถนนนี้ แม้สีสันจะไม่แรงมาก แต่ก็มีสีสันบ้างพอสมควร
แวะทานอาหารที่ Maxwell Food Centre ศูนย์อาหารยอดนิยมย่าน Chinatown ภายในศูนย์อาหารจะมีร้านข้าวมันไก่ชื่อดัง Tian Tian Hainanese Chicken Rice เคยลองกินมานานมากแล้ว ไม่ค่อยชอบ ชอบแบบไทยๆ มากกว่า
Wu Xiang Guan Chang ร้านขายของทอดในศูนย์อาหาร ร้านนี้คนขายพูดไทยได้
เติมพลังเสร็จแล้ว ใกล้ๆกับ Maxwell Food Centre จะเป็น Singapore City Gallery ภายในจะจัดแสดงผังเมืองของประเทศสิงคโปร์ เปิดวันจันทร์ถึงวันเสาร์ เวลา 9.00 – 17.00 ค่าชมฟรี
Central Area Model โมเดลแสดงผังเมืองของประเทศสิงคโปร์
ลงมาชั้น 1 ภายใน Singapore City Gallery จะแสดงผังเมืองของประเทศสิงคโปร์ยุคแรกๆ
ฝั่งตรงข้ามของ Singapore City Gallery จะเป็น Red Dot Museum อาคารพิพิธภัณฑ์สีแดงที่รวบรวมผลิตภัณฑ์แนวความคิดสร้างสรรค์ที่ชนะการประกวดโดย Red dot Awards ซึ่งรางวัลนี้ถือว่าเป็นรางวัลระดับโลก และ มีความสำคัญมากสำหรับผู้ที่เข้าประกวด เปิดวันจันทร์ อังคาร และ ศุกร์ เวลา 11.00 – 18.00 วันเสาร์ อาทิตย์ เปิด 11.00 – 20.00 ค่าชม 8 เหรียญ ไปครั้งนี้ไม่มีโอกาสเข้าชม ครั้งต่อๆ ไปจะลองหาโอกาสเข้าชมว่าภายในมีอะไรแสดงบ้างครับ
เดินย้อนกลับมาทาง Maxwell Food Centre ฝั่งตรงข้ามของ Maxwell Food Centre จะเป็น Buddha Tooth Relic Temple (วัดพระเขี้ยวแก้ว) วัดนี้ถูกสร้างขึ้นมาเมื่อไม่นาน โดยออกแบบเป็นสถาปัตยกรรมสมัยราชวงศ์ถัง ด้านในจะมี 4 ชั้น แบ่งเป็นโซนต่างๆ เกี่ยวกับศาสนาพุทธ
เยื้องๆกับ Buddha Tooth Relic Temple เป็นถนน Erskine Road ย่าน Chinatown เป็นที่ตั้งของโรงแรมเก๋ๆ ชื่อว่า Scarlet ตามแนวถนนนี้ กับ ถนน Ann Siang จะมีร้านน้ำชาเก๋ๆ น่านั่ง
Sri Mariamman Temple ระหว่างเดินกลับไปที่สถานี Chinatown
Pagoda Street แหล่งของฝากในสิงคโปร์ ของฝากที่นี้ถูกกว่าที่อื่นครับ
นั่งชิงช้า ชมวิวอ่าว Marina กันที่ Singapore Flyer นั่งรถไฟฟ้า MRT ลงสถานี Promenade ทางออก A เปิด 8.30-22.30 ค่าขึ้น 33 เหรียญฯ (รูปชุดนี้จากการเดินทางครั้งก่อนครับ)
SkyPark @ Marina Bay Sands จาก Singapore Flyer สามารถเดินมา และข้ามสะพาน Helix มายัง Marina Bay Sands ได้ หรือ นั่งรถไฟฟ้า ลงสถานี Bayfront ทางออก C วันจันทร์ถึงพฤหัส เปิด 9:30 – 22.00 ส่วนศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ เปิด 9.30 – 23.00 ค่าขึ้นชม 23 เหรียญ ซื้อตั๋วได้ที่ชั้นใต้ดินของตึก 3 แนะนำให้มาช่วงบ่ายแก่ๆ ก่อนพระอาทิตย์ตก จะได้ชมบรรยากาศได้ทั้ง 2 แบบ
ออกมาทางด้านหน้า The Shoppes ของ Marina Bay Sands ชมการแสดง Wonder Full Show การแสดงนี้ ใช้เวลาแสดงประมาณ 15 นาที ไม่เสียค่าชม โดยวันอาทิตย์ ถึง วันพฤหัสบดี จะมี 2 รอบ คือ 20.00 และ 21.30 ส่วนวันศุกร์ เสาร์ จะมี 3 รอบ คือ 20.00, 21.30 และ 23.00
จบจากการแสดง Wonder Full ก็ยังอยู่ที่บริเวณริมอ่าว Marina ชมแสงสีเมืองสิงคโปร์ในคำคืนสุดท้ายก่อนกลับกลุ่มอาคารสำนักงาน กับ The Fullerton Hotel
The Fullerton Hotel
ร้าน Louis Vuitton
Marina Bay Sand
Esplanade – Theatres on the Bay
โชคดีทางการสิงคโปร์มีการซ้อมการแสดงพลุ ที่ริมอ่าว Marina ก่อนการแสดงจริงในการเฉลิมฉลองวันชาติสิงคโปร์ ก็สงสัยอยู่ทำไมคนมาจับจองที่ริมอ่าวกันเต็มไปหมด
ก่อนจะกลับโรงแรม แว่ะไป Gardens by the Bay (สามารถเดินจาก Marina Bay Sand ไปได้ครับ) เพื่อชมแสงสีของ Supertree ในตอนกลางคืน เดินไปเดินมาหลงหาทางออกไม่เจอ ฮ่าๆ จนมั่วๆออกมาได้ ซึ่งไม่เคยได้เข้าไปช่วงสว่างๆ เลยไม่ค่อยรู้ทาง เดี่ยวครั้งหน้าจะไปสำรวจ Gardens by the Bay อีกครั้งครับ
วันที่ 4 วันสุดท้ายของทริป ช่วงเช้าไปเดินเล่นแถวๆ บริเวณอ่าวมารีน่า โดยนั่งรถไฟฟ้า MRT มาลงสถานี Raffles Place ทางออก H เดินไปหา Singapore River แล้วเดินไปทาง Fullerton Hotel เลาะด้านข้างโรงแรม ไปเรื่อยๆ จะเจอถนนใหญ่ ข้ามถนนก็จะเจอ Merlion Park
One Fullerton ริมอ่าว Marina บริเวณนี้ส่วนใหญ่จะเป็นร้านอาหารวิวอ่าว ในตอนกลางคืน ก็ค่อนข้างจะคึกคักพอสมควร
สิงโตพ่นน้ำ สัญลักษณ์ของประเทศสิงคโปร์ ที่ Merlion Park
Kids Jumping in the Singapore River Statue และ Cavenagh Bridge
The River Merchants ริมแม่น้ำสิงคโปร์ เป็นรูปปั้นที่แสดงให้เห็นการเจรจาการค้าระหว่างพ่อค้าชาวจีนและผู้นำขาวมาเลย์ ในระหว่างที่ชาวจีนกับชาวอินเดีย ขนสินค้าขึ้นไปบนเกวียน ซึ่งเป็นสิ่งที่พบเห็นกันทั่วไปในยุคสมัยก่อนในประเทศสิงคโปร์
อาคารสำนักงาน และ Boat Quay ริมแม่น้ำสิงคโปร์ บริเวณนี้ตอนเย็นๆ ถึงกลางคืน จะเต็มไปด้วยร้านอาหาร มีร้านอาหารหลากหลายชนิด อาหารไทยก็สามารถหากินได้ที่นี้เช่นกัน
นั่งรถไฟฟ้า MRT ไปลงที่สถานี City Hall ทางออก A แล้วเดินออกมาทางออกถนน Stamford เพื่อไปชมสถานที่สำคัญๆ ของประเทศสิงคโปร์ จุดแรก War Memorial Park บนถนน Stamford อนุสรณ์สงครามพลเรือน จะมีเสาทั้งหมด 4 ต้น ซึ่งเป็นตัวแทนของชนชาติหลักทั้ง 4 ของชาวสิงคโปร์
เดินข้ามถนนมาที่ Connaught Drive จะเจอ น้ำพุสไตล์วิคทอเรีย Tan Kim Seng Fountain
ถัดไปจะเป็น Cenotaph อนุสาวรีย์ที่สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงทหาร 124 คนที่เสียชีวิตในช่วงสงครามโลก
Lim Bo Seng Memorial อนุสาวรีย์ที่สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึง Lim Bo Seng ผู้ซึ่งเป็นวีระบุรุษสงครามของชาวสิงคโปร์
เดินเลียบแม่น้ำสิงคโปร์มาเรื่อยๆ จะเจอ Asian Civillisations Museum เป็นสถานที่จัดแสดงพัฒนาการทางสังคม การเมืองและเศรษฐกิจตลอดช่วงประวัติศาสตร์จีน และแสดงเฟอร์นิเจอร์ เครื่องเซรามิกหยก รวมทั้งผลงานศิลปะที่ดีที่สุดของจีน วันเสาร์ ถึง วันพฤหัส เปิด 10.00-19.00 น. วันศุกร์ เปิด 10.00-21.00 น. ไม่เสียค่าเข้าชม ยกเว้น นิทรรศการพิเศษ
รูปปั้น ด้านข้าง Asian Civillisations Museum ริมแม่น้ำสิงคโปร์
เดินเลย Asian Civillisations Museum ไปจะเจอ รูปปั้นท่านเซอร์แสตมฟอร์ด แพฟเฟิลส์ (Sir Stamford Raffles Landing Site) ได้รับการยกย่องว่าเป็นบิดาของประเทศสิงคโปร์ ณ ที่ตั้งนี้ เป็นตำแหน่งที่ได้มาเหยียบบนแผ่นดินสิงคโปร์เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน ค.ศ. 1819 หลังจากนั้นท่านได้เป็นผู้นำในการพัฒนาเกาะเล็ก ๆ ให้มีความเจริญก้าวหน้าขึ้นมา
เดินเข้ามาทางถนนใหญ่ จะเจอ Parliament House เป็นอาคารรัฐสภา ถูกสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2542
ก่อนกลับ แวะมาทาน Jumbo Seafood Gallery (The Riverwalk) – ร้านอาหารชื่อดังแห่งหนึ่งในสิงคโปร์ มีเมนูยอดนิยม คือ Chilli Crab เป็น 1 ใน 3 ภารกิจหลักในการเดินทางมาสิงคโปร์ การเดินทางไปร้าน Jumbo Seafood ให้นั่ง MRT ไปลงสถานี Clarke Quay แล้วเดินออกมาทางทางออก F เดินลอดสะพานไปทาง Boat Quay ก็จะเจอร้านตั้งอยู่ริมแม่น้ำ มื้อนี้หมดไป 143.59 เหรียญ
Cha Siew (BBQ Pork) หมูย่าง อร่อยๆ แต่น้อยกว่าที่ฮ่องกงนิดหน่อย ราคา 14.00 เหรียญ
Prawn with Cereal กุ้งทอดนำไปคลุกกับเกล็ดขนมปังผสม Cereal อร่อยดีครับ ราคา 20.00 เหรียญ
Chilli Crab ปูผัดพริก ได้กินเนื้อปูนิดหน่อย น้ำที่ราดมาอร่อยมากๆ เอาขนมปังจิ้มกินก็อร่อยแล้วครับ ราคา 56.00 เหรียญ
Mini Bun – Deep Fried เป็นขนมปังเอาไว้จิ้มกับน้ำราด Chilli Crab อร่อยดีครับ ราคา 2.40 เหรียญ
Fried Rice with Seafood ข้าวผัดทะเล รสชาติจืดไปหน่อย ราคา 16.00 เหรียญ
แวะซื้อของฝากยอดนิยม ข้าวโพด Garrett Popcorn ที่ Somerset 313 – ร้านข้าวโพดคั่วจากแดนแยงกี้ รสชาติค่อนข้างหวาน ชอบสุดน่าจะเป็น Macadamia CaramelCrisp
ร้าน Bak Kut Teh ร้านดังอีกแห่งหนึ่งในสิงคโปร์ Songfa Bak Kut Teh อยู่แถวๆ Clarke Quay อยู่ริมถนนตรงข้ามกับห้าง Central โดยจะเยื้องไปทางแม่น้ำสิงคโปร์ ร้านนี้เคยกินเมื่อปีที่แล้ว รสชาติอร่อยเหมือนกัน
และแล้วก็ได้เวลากลับประเทศไทย จากสนามบิน Changi
จบทริปสำหรับการเดินทางไปชิลล์ๆ ที่สิงคโปร์ ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชมครับ