@MushroomTravel
นครฉงชิ่ง อีกหนึ่งเมืองใหญ่ของประเทศจีน ที่มีสถานที่ท่องเที่ยวสวยๆ น่าสนใจไม่แพ้เมืองอื่นๆ ซึ่งตอนนี้ใครที่อยากไป ทัวร์ฉงชิ่ง ก็มีไฟลท์บินตรงจากไทยที่สะดวกมากๆ ใช้เวลาบินประมาณ 3 ชั่วโมงนิดๆ ไม่ต้องต่อเครื่องหรือนั่งรถให้เสียเวลา วันนี้พี่เห็ด มัชรูมทราเวล จะขอพาทุกคนไปรู้จักกับ 11 ที่เที่ยวฉงชิ่ง ครบรสทั้งธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ และเมืองทันสมัย สวยงามน่าประทับใจ ควรค่าแก่การไปเยือน จะมีที่ไหนบ้าง ตามาดูกันเลยค่าา
1. อุทยานแห่งชาติหลุมฟ้า 3 สะพานสวรรค์ (Three Natural Bridges)
ที่เที่ยวฉงชิ่ง ที่แรกคือ อุทยานแห่งชาติหลุมฟ้า 3 สะพานสวรรค์ หรือ Three Natural Bridges (Wulong Karst) ตั้งอยู่ในเมืองอู่หลง ฉงชิ่ง ที่นี่นับว่าเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติที่สวยงามมากแห่งหนึ่งของโลก สถานที่แห่งนี้เกิดจากการยุบตัวของเปลือกโลก ทำให้เกิดเป็นหลุมขนาดใหญ่ ลึกประมาณ 300 – 500 เมตร และมีบางส่วนเป็นโพรงทะลุราวกับสะพานที่ทอดข้ามระหว่างภูเขา โดยมีไฮไลต์อยู่ที่การเดินป่าในเส้นทางชมธรรมชาติ
แต่ก่อนที่จะเดินไปตามเส้นทางธรรมชาตินั้น เราจะเจอกับ ระเบียงแก้ว ซึ่งเป็นกระจกใส สร้างยื่นออกมาจากหน้าผา ให้เดินชมวิวท้าความสูงจากพื้นถึง 1,200 เมตร มองลงไปข้างล่างอาจมีขาสั่นได้ จากนั้นเราต้องลงลิฟท์แก้วริมหน้าผาที่สูงกว่า 80 เมตร เพื่อไปยังหลุมฟ้า จากนั้นก็เดินไปตามทางที่ทำไว้อย่างดี ระหว่างทางจะเจอ โรงเตี๊ยมโบราณ ซึ่งเป็นจุดแวะพักของคนเดินทางในสมัยก่อน เนื่องจากหุบเขานี้เป็นเส้นทางลัดจากเสฉวนไปยังเหอหนาน ปัจจุบันโรงเตี๊ยมนี้ถูกสร้างขึ้นมาใหม่แทนของเดิมที่ผุพังเสียหาย
สำหรับอุทยานแห่งชาติหลุมฟ้า จะมีจุดที่ถูกเรียกว่าสะพานสวรรค์อยู่ 3 แห่งด้วยกัน คือ
– Tianlong Bridge เป็นสะพานที่อยู่ใกล้กับโรงเตี๊ยมโบราณ มีลักษณะเป็นโพรงทะลุ ใกล้กับผนังถ้ำมีการแกะสลักลวดลายมังกรสวยงาม
– Qinglong Bridge สะพานนี้มีลักษณะเป็นโพรงยาว มีลำธารไหลผ่าน
– Heilong Bridge สะพานแห่งนี้อยู่ในส่วนที่แคบที่สุด จึงทำให้มีความมืดทึบ
ด้วยความสวยงามอลังการนี้เอง ทำให้ที่นี่ถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์อย่าง Transformer 4 ด้วยนะ ใครมา ทัวร์ฉงชิ่ง ต้องห้ามพลาดที่นี่เลย
2. ผาหินแกะสลักต้าจู๋ (Dazu Rock Carvings)
มาชมสุดยอดความสามารถของมนุษย์ในอดีตกันบ้างกับ ผาหินแกะสลักต้าจู๋ มรดกโลกทางวัฒนธรรมปี ค.ศ.1999 ตั้งอยู่ที่อำเภอต้าจู๋ ห่างจากนครฉงชิ่งออกไปทางทิศตะวันตกประมาณ 80 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางจากฉงชิ่งประมาณ 2 ชั่วโมง เป็นเมืองที่มีพื้นที่สีเขียวด้วยผืนป่า และอากาศเย็นสบายตลอดปี สำหรับไฮไลต์ของที่นี่ก็คือ ผาหินแกะสลักพระพุทธรูป พระโพธิสัตว์ และรูปปั้นอื่นๆ มากมายอายุกว่าพันปี โดยจะอยู่ตามหลืบหน้าผา นับว่าเป็นงานศิลปะที่ถ่ายทอดออกมาอย่างสวยงาม โดยการรวมเอาความเชื่อในศาสนาพุทธ เต๋า และหลักคำสอนของขงจื๊อ รวมทั้งเทพเจ้าของจีน มารวมเข้าด้วยกันอย่างลงตัว เป็นอีกหนึ่ง ที่เที่ยวฉงชิ่ง ที่ไม่ควรพลาดเลยค่ะ
3. มหาศาลาประชาคมฉงชิ่ง (Chongqing Great Hall of the People)
มาเที่ยวในเมืองกันบ้าง กลางเมือง ฉงชิ่ง มี มหาศาลาประชาคม หรือที่เรียกกันในภาษาจีนว่า ต้าหลี่ถัง เป็นอาคารขนาดใหญ่ในรูปแบบชิโน-โซเวียต มีโดมขนาดใหญ่คล้ายกับ หอสักการะฟ้าเทียนถาน (Temple of Heaven) ในกรุงปักกิ่ง ภายในมีหอประชุมขนาด 4,000 ที่นั่ง สำหรับใช้เป็นที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร และยังสามารถใช้เป็นโรงละครสำหรับประชาชนอีกด้วย มหาศาลาประชาคมแห่งนี้นับว่าเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของฉงชิ่ง โดยด้านหน้าเป็นจัตุรัสขนาดใหญ่ ตกแต่งด้วยน้ำพุและไฟ พื้นของจัตุรัสปูด้วยกระเบื้องหินเรียบ มีเวทีสำหรับการแสดง ในตอนกลางคืนจะมีไฟประดับรอบๆ ตัวอาคารอย่างสวยงาม ใครมา ทัวร์ฉงชิ่ง ก็สามารถมาเดินเล่นถ่ายรูปแถวนี้ได้ค่ะ
4. หมู่บ้านโบราณฉือชี่โข่ว (Ancient Town of Ciqikou)
แวะเดินเล่นในหมู่บ้านในบรรยากาศจีนๆ กันที่ หมู่บ้านโบราณฉือชี่โข่ว ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจียหลิง ทางตะวันตกของนครฉงชิ่ง เป็นหมู่บ้านที่มีหลายชนเผ่ามาอยู่รวมกัน และเคยได้ชื่อว่าเป็นเมืองท่าแห่งเครื่องเคลือบในสมัยราชวงศ์หมิง ปัจจุบันอาคารบางแห่งได้รับการปรับปรุงและอนุรักษ์ไว้ และพัฒนากลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว มีร้านค้าขายสินค้าพื้นเมือง อาหารท้องถิ่น ขนมและของฝาก ให้นักท่องเที่ยวได้ช้อปปิ้ง แถมยังได้ถ่ายรูปสวยๆ เหมือนอยู่ในซีรีส์จีนย้อนยุคอีกด้วย
5. ตลาดหงหยาต้ง (Hongyadong)
อีกหนึ่งที่เที่ยวชื่อดังของเมืองฉงชิ่ง และหลายคนน่าจะเคยเห็นภาพในโลกโซเชี่ยล นั่นก็คือ หงหยาต้ง เป็นแหล่งช้อปปิ้งขนาดใหญ่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจียหลิง ภายในจะแบ่งเป็นโซนมากมายหลายชั้น มีทั้งตลาดของกิน แหล่งช้อปปิ้ง และธุรกิจโรงแรม ส่วนตอนกลางคืนจะเปิดไฟส่องสว่างสวยงาม บรรยากาศโดยรอบได้อารมณ์แบบจีนโบราณ ตั้งอยู่ท่ามกลางตึกสูงในเมืองใหญ่ บนชั้น 4 จะเป็นตลาดของกินที่มีจุดชมวิวให้ได้เดินเล่นรับลมชิลๆ ชมวิวแม่น้ำ ดูงานประติมากรรม เพลิดเพลินกับวิถีชีวิตของคนฉงชิ่ง ใครมา ทัวร์ฉงชิ่ง ห้ามพลาดเลยค่ะ ถูกใจทั้งคนชอบช้อปปิ้ง สายกิน และคนชอบถ่ายรูปแน่นอน
6. อุทยานเขานางฟ้า (Fairy Maiden Mountain)
ไปดื่มด่ำกับความสวยงามของธรรมชาติกันต่อที่ อุทยานเขานางฟ้า แห่งเมืองอู่หลง พื้นที่ธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ได้ชื่อว่าเป็น ดินแดนแห่ง 4 สิ่งมหัศจรรย์ ได้แก่ ผืนป่าขนาดใหญ่และหนาแน่น ภูเขาสวยรูปทรงแปลกตา ทุ่งหญ้าเขียวขจีที่ใช้เลี้ยงสัตว์ได้ตลอดทั้งปี และช่วงฤดูหนาวจะกลายเป็นลานหิมะขนาดใหญ่ พื้นที่แห่งนี้ล้อมรอบไปด้วยภูเขามากมาย ที่มีความสูงถึง 2,023 เมตร สภาพอากาศจึงค่อนข้างเย็นสบาย แม้ในฤดูร้อนอุณหภูมิเฉลี่ยก็ยังอยู่ที่ 22-25 องศาเซลเซียส ทำให้ที่นี่เป็นอุทยานที่เหมาะสำหรับการพักผ่อน ใช้เวลากับครอบครัว โดยเฉพาะในฤดูร้อนที่มีกิจกรรมน่าสนใจอย่างการเล่นว่าว ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถซื้อว่าวในอุทยานได้เลย หรือจะนั่งรถรางชมวิวก็ชิลมากๆ บอกเลยว่าที่นี่ถ่ายรูปสวยทุกมุม
7. เมืองผีเฟิงตู (Fengdu Ghost City)
เมืองผีเฟิงตู เป็นอีกหนึ่ง ที่เที่ยวฉงชิ่ง ที่มีชื่อเสียง เพราะนอกจากความสวยงามของสถาปัตยกรรม และประติมากรรมอันเก่าแก่แล้ว ยังมีประตูนรก ประตูสวรรค์ ที่สะท้อนเรื่องราวของบาป บุญ คุณ โทษ รวมทั้งหลักคำสอนต่างๆ ที่ทำให้มนุษย์ตระหนักถึงการทำความดีความชั่วอีกด้วย ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความลึกซึ้ง น่าสนใจมากๆ ค่ะ
8. สถานีหลีจื่อป้า (Liziba Station)
พาไปชมความล้ำของการคมนาคมในเมืองฉงชิ่งกันที่ สถานีหลีจื่อป้า ที่มีความพิเศษก็คือ รถไฟจะวิ่งทะลุตึก ซึ่งเป็นอาคารที่พักอาศัยของประชาชน ความสูง 19 ชั้น แต่ไม่ได้มีการรื้อถอนหรือเวนคืนตึกแต่อย่างใด เพราะใช้พื้นที่แค่ชั้น 6-8 ของตึกเท่านั้น อีกทั้งยังไม่ต้องกังวลเรื่องเสียงรบกวน เพราะมีการออกแบบพิเศษเพื่อลดเสียงการทำงาน โดยมีความดังเทียบเท่าเครื่องล้างจาน หรือประมาณ 75.8 เดซิเบลเท่านั้น นอกจากจะได้ชมความแปลกใหม่ของรถไฟแล้ว ด้านล่างของสถานียังมีงานอาร์ตบนกำแพงให้ได้ถ่ายรูปเก๋ๆ อีกด้วย
9. วัดสือเป่าจ้าย (Shibaozhai)
ต่อกันที่อีกหนึ่งวัดสวยแห่ง ฉงชิ่ง อย่าง วัดสือเป่าจ้าย ตัววัดตั้งอยู่บนหน้าผาทางทิศเหนือของแม่น้ำแยงซีเกียง ล้อมรอบด้วยเขื่อนขนาดเล็ก มีทางเข้าเป็นสะพานเชื่อมมาจากอีกด้านหนึ่ง ทำให้ดูเหมือนวัดตั้งอยู่กลางน้ำ มีเจดีย์โบราณสีแดง 12 ชั้น ก่อตัวผสานไปกับหน้าผาความสูงประมาณ 200 เมตร ภายในมีการจัดแสดงสิ่งของต่างๆ และมีบันไดที่สามารถขึ้นไปชมวิวทิวทัศน์รอบๆ ได้
10. ย่านเจียฟางเป่ย (Jiefangbei Pedestrian Street)
เอาใจสายช้อปกันบ้าง กับ ย่านเจียฟางเป่ย ย่านธุรกิจที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองฉงชิ่ง เป็นเแหล่งรวมทั้งแบรนด์ดัง ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ โรงแรม รวมทั้งร้านอาหารอร่อยๆ ไว้มากมาย บริเวณรอบๆ มีการติดตั้งไฟ จอ LED รวมไปถึงจอโฆษณา ที่ช่วยเพิ่มความคึกคักตลอดทั้งคืน อีกทั้งยังเป็นย่านที่ขึ้นชื่อเรื่องแฟชั่น ทำให้ที่นี่เป็นเหมือนศูนย์รวมของวัยรุ่นที่มีสไตล์การแต่งตัวเฉพาะ ถือเป็นอีกหนึ่ง ที่เที่ยวฉงชิ่ง ที่ไม่ควรพลาดเลย
11. สวนสัตว์ฉงชิ่ง (Chongqing Zoo)
ปิดท้ายด้วยที่เที่ยวสุดน่ารักอย่าง สวนสัตว์ฉงชิ่ง สวนสัตว์ขนาดใหญ่ที่มีไฮไลต์เด็ดอย่าง แพนด้ายักษ์ และ แพนด้าแดง ให้ได้ชมอย่างใกล้ชิด ถ้าใครมาช่วง 8-9 โมงเช้า ก็จะได้ชมน้องแพนด้านั่งกินไผ่อย่างเอร็ดอร่อย เพราะเป็นช่วงเวลาให้อาหารพอดี นอกจากนี้ยังมีสัตว์อื่นๆ อย่างเช่น จิงโจ้ ช้าง เสือ ยีราฟ ฮิปโป กวาง และปลาแปลกๆ ให้ได้ชมอีกมากมาย อีกทั้งบรรยากาศภายในสวนสัตว์ก็มีความร่มรื่น เหมาะแก่การมาเดินเล่น พักผ่อนในวันสบายๆ
แต่ละสถานที่ที่พี่เห็ดคัดมาบอกเลยว่าสวยงามอลังการ และมีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป มีทั้งธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ แหล่งช้อปปิ้ง กิน เที่ยว ครบทุกสไตล์ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมจีนกลายเป็นอีกหนึ่งประเทศมาแรงที่คนไทยนิยมไปเที่ยวกัน แถมยังบอกกันปากต่อปากว่าอยากกลับไปเที่ยวอีกครั้งด้วย