นักท่องเที่ยวหลายๆ คนเมื่อทำการจองตั๋วเครื่องบินทุกครั้ง มักจะคลิ้กยกเลิกประกันภัยเดินทางทิ้ง เนื่องจากมองว่าเป็นสิ่งที่สิ้นเปลือง และทำให้ตั๋วเครื่องบินมีราคาที่สูงขึ้นโดยไม่จำเป็น ทั้งๆ ที่หากมองตามความจริงแล้ว ประกันการเดินทางสามารถลดความเสี่ยงทางการเงินซึ่งมาจากการเดินทางของคุณได้ เนื่องจากประกันในส่วนนี้จะครอบคลุมทั้งอุบัติเหตุและการเจ็บป่วย ในกรณีที่พลาดเที่ยวบินหรือยกเลิกเที่ยวบิน สัมภาระหาย การก่อร้ายจากการเดินทาง เป็นต้น
เพราะฉะนั้นประกันภัยการเดินทางจึงถือเป็นสิ่งสำคัญอีกอย่างสำหรับการเดินทางค่ะ แต่บางคนก็อาจจะสงสัยว่า แล้วหากเป็นการเดินทางหรือท่องเที่ยวในทริประยะสั้นๆ ล่ะ ประกันภัยการเดินทางยังจะสำคัญอยู่ไหม วันนี้มัชรูมทราเวลไม่รอช้า รีบหาข้อมูลเกี่ยวกับประกันภัยการเดินทางบางส่วนมาเพื่อประกอบการตัดสินใจของคุณๆ ดังนี้
ข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับการประกันภัย
ในการเดินทางทุกครั้ง เราไม่สามารถรู้ได้ว่าจะเกิดอะไรกับตัวเราบ้าง ไม่ว่าจะเป็นอุบัติที่ไม่คาดคิดนับแต่เหตุการณ์เล็กๆ น้อยๆ ไปจนถึงเหตุการณ์ใหญ่ๆ ที่สร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน เพราะฉะนั้นประกันภัยการเดินทางจึงเป็นความคุ้มครองอย่างหนึ่งที่จะมาช่วยแบ่งเบาภาระจากความสูญเสียหรือเสียหายเหล่านั้น โดยแบ่งออกเป็นทั้งหมด 2 แบบคือ การประกันภัยอุบัติเหตุการเดินทาง ที่สามารถทำได้ทั้งการเดินทางในประเทศและต่างประเทศ โดยสิ่งที่คุ้มครองก็จะเป็นในเรื่องของอุบัติเหตุทางร่างกายที่อาจเกิดขึ้นได้ในระหว่างเดินทางค่ะ และอีกแบบก็คือการประกันภัยการเดินทางต่างประเทศ ที่เราจะไปเจาะลึกกันในวันนี้นั่นเอง
ประกันภัยการเดินทางต่างประเทศ
ประกันภัยชนิดนี้มีชื่อเต็มๆ ว่า Comprehensive Travel Accident Insurance ค่ะ ซึ่งคนไทยหลายๆ คนน่าจะคุ้นเคยกันดี เมื่อต้องเดินทางไปในประเทศที่จำเป็นจะต้องขอวีซ่า เพราะประกันการเดินทางต่างประเทศถือเป็นอีกหนึ่งหลักฐานประกอบการพิจารณาขอวีซ่าที่ทางสถานทูตมักจะเรียกหาจากผู้เดินทางทุกครั้ง โดยประกันลักษณะนี้จะไม่ได้คุ้มครองเฉพาะความสูญเสียที่เกิดขึ้นจากอุบัติเหตุเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมไปถึงการเจ็บป่วยที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดระยะเวลาในการเดินทาง ซึ่งหากไม่มีการทำประกันภัยเอาไว้ คงต้องเสียค่ารักษาพยาบาลที่แพงมากๆ อย่างแน่นอน โดยเฉพาะในประเทศที่มีค่าครองชีพสูง ไม่เพียงเท่านั้น ข้อดีของประกันประภัยประเภทนี้ยังให้ความคุ้มครองที่รวมไปถึงในกรณีที่ทรัพย์สินถูกลักขโมยหรือสูญหายด้วยค่ะ ดังนั้นเมื่อเทียบความคุ้มค่ากับราคาสำหรับค่าเบี้ยประกันภัยที่้ต้องจ่ายไปก็ถือว่าคุ้ม!!
ประเภทของความคุ้มครอง
- ค่าชดเชยในกรณีเสียชีวิต ทุพพลภาพ สูญเสียอวัยวะ
- ค่ารักษาพยาบาลที่เกิดจากการบาดเจ็บอันเนื่องมาจากอุบัติเหตุไม่ว่าจะเป็นผู้ป่วยนอก หรือผู้ป่วยใน รวมถึงการเจ็บป่วยที่เกิดในระหว่างการเดินทาง รวมถึงค่าใช้จ่ายในการเคลื่อนย้ายเนื่องจากการบาดเจ็บหรือเจ็บป่วยสาหัส ค่าเดินทาง และค่าที่พักสำหรับญาติใกล้ชิดเพื่อดูแลหรือร่วมเดินทางกลับภูมิลำเนาในกรณีที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ รวมถึงค่าใช้จ่ายในการส่งศพหรือกระดูกกลับภูมิลำเนา
- ค่าชดเชยระหว่างรักษาตัวในโรงพยาบาล ด้วยเงินสดรายวันในกรณีที่ต้องรักษาตัวในฐานะผู้ป่วยใน
- ค่าใช้จ่ายสำหรับบุคคลภายนอก สำหรับการบาดเจ็บหรือทรัพย์สินเสียหายจากอุบัติเหตุขณะเดินทางในต่างประเทศ แต่ไม่รวมถึงความรับผิดที่เกิดจากการใช้ยานพาหนะ
- ค่าชดใช้ในกรณีที่กระเป๋าเดินทางและทรัพย์สินส่วนตัวที่อยู่ภายในกระเป๋าเดินทางสูญหาย ไม่ว่าจะในโรงแรม ในสนามบิน หรือเกิดเหตุชิงทรัพย์ โดยต้องมีการแจ้งความ และนำหลักฐานมายืนยัน ซึ่งกรมธรรม์ประกันภัยจะชดใช้ให้ตามจริงแต่ไม่เกินจำนวนเงินที่กำหนดไว้
- ค่าชดใช้สำหรับการล่าช้าของกระเป๋าเดินทาง ในกรณีที่กระเป๋าเดินทางมาล่าช้ากว่าตัวเราที่เดินทางมาถึงแล้ว ซึ่งอาจเกิดจากความผิดพลาดของสายการบิน จนทำให้ผู้เดินทางต้องซื้อเสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัวที่จำเป็นใหม่ โดยต้องเก็บใบเสร็จและขอหนังสือรับรองจากสายการบินเอาไว้ เพื่อทำการขอคืนค่าใช้จ่ายที่ได้จ่ายไป
- ค่าชดใช้เมื่อเที่ยวบินเกิดการล่าช้า หรือเลื่อนเวลาเดินทางออกไปอย่างน้อย 12 ชั่วโมงจากเวลาที่กำหนดไว้ เนื่องจากเหตุการณ์ที่ไม่คาดหมาย และอยู่นอกเหนือการควบคุมของสายการบิน
- ค่าเสียหายจากเหตุวินาศกรรมบนเครื่องบิน ยกตัวอย่างเช่นการจี้เครื่องบิน โดยกรมธรรม์จะจ่ายค่าชดเชยให้ทุก 24 ชั่วโมงที่ถูกจี้
ทั้งนี้ประกันภัยเดินทางต่างประเทศนั้นเหมาะสำหรับทั้งนักท่องเที่ยวที่ชอบเดินทางท่องเที่ยวด้วยตัวเอง และนักท่องเที่ยวที่ใช้บริการทัวร์ค่ะ โดยเฉพาะผู้ที่เดินทางไปในประเทศที่มีค่าครองชีพสูง เพราะหากเกิดอะไรขึ้นมา เงินที่เราจะต้องควักจ่ายด้วยตัวเองนั้น ต้องถือว่าสูงกว่าค่าเบี้ยประกันภัยเป็นอย่างมากเลยล่ะค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก www.ricksteves.com