ช่วงนี้มีคนมาถามพี่เห็ดเรื่องการไปเที่ยวจีนเยอะมากๆ บางคนเห็นรูปกับรีวิวบนโซเชียลแล้วก็อยากไปเที่ยวตาม หรือบางคนเคยไปมาแล้วก็ยังอยากไปเส้นทางใหม่ๆ อีก วันนี้พี่เห็ด มัชรูมทราเวล เลยจะขออาสาพาทุกคนไปตะลุย ภูเขาหิมะกลาเซียร์ ต๋ากู่ปิงชวน สถานที่ท่องเที่ยวสุดโด่งดังของเมืองเฉิงตู ที่คนไทยอาจจะยังไม่ค่อยรู้จัก แต่ของจริงสวยงามอลังการมาก จนได้ฉายาว่าเป็น “สวิตเซอร์แลนด์แดนมังกร” จะน่าเที่ยวขนาดไหน ? เดินทางอย่างไร ? และควรไปช่วงไหนดี ? ตามไปอ่านกันได้เลย
ทำความรู้จัก ต๋ากู่ปิงชวน
ต๋ากู่ปิงชวน หรือ Dagu Glacier National Park เป็นธารน้ำแข็งกลาเซียร์ที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวระดับ 4A ของจีน ตั้งอยู่ที่เมืองเฮยสุ่ย ในมณฑลเสฉวน ห่างจากเมืองเฉิงตูประมาณ 300 กิโลเมตร ถือเป็นธารน้ำแข็งที่อายุน้อยที่สุด ที่ตั้งอยู่ในระดับความสูงที่ต่ำที่สุด และอยู่ใกล้กับเมืองมากที่สุดในบรรดาธารน้ำแข็งทั้งหมด โดยอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 3,800-5,100 เมตร จุดสูงที่สุดที่นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปได้จะอยู่ที่ 4,860 เมตร
ธารน้ำแข็งแห่งนี้มีอายุหลายล้านปี และเพิ่งถูกค้นพบผ่านดาวเทียมเมื่อปี ค.ศ. 1992 โดยนักวิทยาศาสตร์ชาวญี่ปุ่น ภายในอุทยานประกอบไปด้วยธารน้ำแข็งถึง 13 แห่ง รวมพื้นที่กว่า 8.25 ตารางกิโลเมตร และเชื่อกันว่าเป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์ที่ยังไม่เคยมีใครพิชิตได้ ล้อมรอบด้วยป่าดึกดำบรรพ์ ทุ่งหญ้าอัลไพน์ และทะเลสาบ อีกทั้งสภาพอากาศหนาวเย็น และมีหิมะปกคลุม ให้ฟีลเหมือนเทือกเขาหิมะในยุโรป ช่วงฤดูร้อนหิมะจะเหลือน้อยหน่อย แต่ก็สวยงามไปอีกแบบ
เที่ยวต๋ากู่ปิงชวน เดือนไหนดี
ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม – พฤษภาคม)
ฤดูนี้อากาศที่ ต๋ากู่ปิงชวน จะอุ่นขึ้นเล็กน้อย แต่ก็ยังถือว่าหนาวมากอยู่ค่ะ อุณหภูมิประมาณ 5 – 10 องศาเซลเซียส บรรยากาศรอบๆ จะเต็มไปด้วยสีสันและความมีชีวิตชีวา ของดอกไม้นานาชนิดที่บานสะพรั่งทั่วป่า สวยงามมาก
ฤดูร้อน (มิถุนายน – สิงหาคม)
ใครกลัวหนาว แนะนำให้มาฤดูร้อน อุณหภูมิจะอยู่ที่ประมาณ 15 – 20 องศาเซลเซียส ที่ยังถือว่าเย็นสบาย เป็นช่วงที่อบอุ่นที่สุดของปี ฤดูนี้ต้นไม้ใบหญ้าจะเขียวชอุ่ม ดูสดชื่น ถ้าไปช่วงเดือนมิถุนายน – กรกฎาคม อาจจะเจอฝนบ้าง บริเวณด้านล่างไม่มีหิมะ แต่ขึ้นไปบนยอดเขาจะยังพอมีหิมะอยู่บ้าง
ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน – พฤศจิกายน)
ฤดูใบไม้ร่วงเป็นช่วงที่ ต๋ากู่ปิงชวน สวยที่สุด ภูเขาทั้งลูกจะถูกปกคลุมด้วยใบไม้หลากสี ทั้งสีแดง สีส้ม สีเหลือง บางส่วนก็ร่วงลงจนพื้นเหมือนถูกปูด้วยพรม อากาศจะค่อยๆ เย็นลง อุณหภูมิประมาณ 4 – 13 องศาเซลเซียส ยังมีฝนโปรยปรายบ้างในช่วงต้นฤดู ส่วนหิมะจะเริ่มตกช่วงปลายฤดู หรือตั้งแต่ประมาณกลางเดือนตุลาคมเป็นต้นไป
ฤดูหนาว (ธันวาคม – กุมภาพันธ์)
พอเข้าฤดูหนาว อากาศจะเย็นลงมากๆ ลมแรง อุณหภูมิประมาณ -13 ถึง -5 องศาเซลเซียส ทุกอย่างถูกปกคลุมด้วยหิมะจนกลายเป็นสีขาวทุกทิศทาง ทะเลสาบกลายเป็นน้ำแข็ง ใครชอบอากาศหนาวๆ อยากเจอหิมะแน่นๆ แนะนำฤดูนี้เลย รับรองว่าไม่ผิดหวัง
วิธีเดินทางไปต๋ากู่ปิงชวน
การเดินทางที่สะดวกที่สุด ให้ขึ้นรถบัสที่ สถานีฉาเตี้ยนจื่อ (Chadianzi Bus Station) ในเมืองเฉิงตู เพื่อมุ่งหน้าไปยังเฮยสุ่ย (Heishui) จะมีรถออกวันละ 3 รอบ เวลา 07.10, 08.30 และ 11.00 น. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 ชั่วโมง จากนั้นให้นั่งแท็กซี่ต่อไปยัง Dagu Glacier ซึ่งอยู่ห่างจากจุดลงรถประมาณ 9 กิโลเมตร เมื่อมาถึงจะมีบริการรถบัสพาไปยังจุดขึ้นกระเช้า โดยจะแวะตามจุดชมวิวต่างๆ ให้ด้วย ใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 1 ชั่วโมง เสร็จแล้วไปขึ้นกระเช้าลอยฟ้าที่สูงที่สุดในโลก ความยาวรวม 3,400 เมตร ใช้ประมาณ 15 นาที ก็จะถึงบริเวณจุดชมวิวบนยอดเขา
แต่เนื่องจากเส้นทางค่อนข้างสลับซับซ้อน สภาพอากาศที่ไม่แน่นอนในแต่ละวัน และระยะเวลาในการเดินทางที่นานพอสมควร การไปเที่ยวกับทัวร์ก็ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดี เพราะไม่ต้องกังวลเรื่องเส้นทาง คนขับรถมีความชำนาญ ทั้งยังมีไกด์คอยให้คำแนะนำ พี่เห็ดว่าสะดวกสบายกว่าเยอะเลยค่ะ
ไฮไลต์เด็ดที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาต๋ากู่ปิงชวน
1. จุดชมวิว 4,860 เมตร (4,860 Meter Viewing Platform)
จุดชมวิวที่ความสูง 4,860 เมตร อยู่ด้านบนของยอดเขา ลงกระเช้าแล้วเดินตามสะพานไม้มาก็เจอเลยค่ะ เป็นลานทรงกลมกว้างๆ เอาไว้ให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูป ชมวิว จากจุดนี้จะมองเห็นธารน้ำแข็ง Dagu Glacier และภูเขาหิมะ 3 ลูกเรียงกัน ว่ากันว่าคือสันหลังของมังกร สามารถไปเดินเที่ยวรอบๆ หรือไปชมทะเลสาบใกล้ๆ ได้ด้วย แต่ควรเดินอย่างช้าๆ เพราะอากาศค่อนข้างเบาบางเนื่องจากอยู่ที่สูงมากๆ จะทำให้เหนื่อยง่าย หรืออาจจะพกออกซิเจนกระป๋องไปด้วยก็ได้ ใครใช้ไม่เป็น พี่เห็ดมี >> วิธีใช้ออกซิเจนกระป๋อง แบบละเอียดๆ ไว้ให้แล้ว
2. ทะเลสาบต๋ากู่ (Dagu Lake)
ระหว่างทางไปยังจุดขึ้นกระเช้า มีที่เที่ยวสวยๆ และทะเลสาบหลายแห่งเลยค่ะ อย่างที่นี่คือ ทะเลสาบต๋ากู่ เป็นทะเลสาบที่วิวสวยที่สุดในอุทยาน มองเห็นวิวยอดเขาหิมะ มีอายุเป็นพันปี เกิดจากการละลายของหิมะจากบนยอดเขา น้ำใสมากจนสะท้อนวิวรอบข้างได้ราวกับกระจก สีของน้ำจะเปลี่ยนไปตามฤดูกาล โดยฤดูร้อนน้ำในทะเลสาบจะมีสีเขียวเข้ม ส่วนในฤดูหนาวน้ำในทะเลสาบจะกลายเป็นธารน้ำแข็ง ชาวจีนเชื่อกันว่าหากมาขอพรที่นี่ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คุ้มครองทะเลสาบจะบันดาลให้สมหวังด้วยนะ
3. ทะเลสาบลิงขนทอง (Golden Monkey Lake)
อีกหนึ่งทะเลสาบที่บรรยากาศสวยงามมาก ก็คือ ทะเลสาบลิงขนทอง หรือชื่อภาษาจีนคือ ทะเลสาบจินโหว (Jinhouhai 金猴海) วิวสวยมากจนหลายคนบอกว่าเหมือนจิ่วจ้ายโกว (Jiuzhaigou) โดยชื่อก็มาจากลิงขนทองที่พบในอุทยานแห่งนี้ เป็นสัตว์ป่าหายากที่ใกล้สูญพันธุ์ ถึงจะไม่ดุแต่ก็ต้องระวังเก็บสัมภาระให้ดี สะพายกระเป๋าไว้ด้านหน้า เพราะอาจโดนเจ้าจ๋อพวกนี้ขโมยได้
4. ต๋ากู่คาเฟ๋ (Dagu Cafe)
บนยอดเขามีคาเฟ่ให้นั่งเล่นด้วย เป็นคาเฟ่ที่สูงที่สุดในโลก และเป็นอาคารเพียงหลังเดียวที่ตั้งอยู่บนความสูง 4,860 เมตร ท่ามกลางหิมะขาวโพลนที่โปรยปรายอยู่โดยรอบ มีบริการชา กาแฟ น้ำผลไม้ เค้ก ของว่าง ฯลฯ ผนังรอบๆ เป็นกระจก สามารถนั่งชมทิวทัศน์อันน่าทึ่งของยอดเขาหิมะได้แบบชิลๆ เลย
ใครอยากไปชมธารน้ำแข็งกลาเซียร์แบบไม่ต้องเดินทางไปไกลถึงยุโรป ต้องไปที่ ต๋ากู่ปิงชวน ประเทศจีน เลยค่ะ เป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวสวยๆ ที่มีวิวหิมะให้ชมแบบจัดเต็ม ถ่ายรูปลงโซเชียลได้รัวๆ ใครสนใจเที่ยวกับทัวร์ก็ติดต่อ มัชรูมทราเวล ได้เลย พี่เห็ดมีโปรแกรมทัวร์ให้เลือกเยอะมาก ไม่ว่าจะสายธรรมชาติ สายชิล สายช้อป ก็ตอบโจทย์ทุกการเดินทางได้แบบฟินๆ แน่นอน !