ร้านอาหารวิวสวยบนชั้นดาดฟ้านั้นมีอยู่หลายแห่งทั่วโลก ซึ่งแต่ละแห่งก็มีจุดขายที่แตกต่างกันออกไป อย่างไรก็ดี สิ่งหนึ่งที่ทุกร้านมีเหมือนกันก็คือ การนำเสนอวิวทิวทัศน์ที่สวยงามภายในเมืองอันเป็นที่ตั้งของร้านอาหารนั่นเองค่ะ เช่นเดียวกับร้านอาหารที่ดิฉันจะมาแนะนำทุกท่านในวันนี้ ซึ่งมีจุดเด่นก็คือวิวทิวทัศน์บนความสูงเหนือตัวเมืองในแบบพาโนราม่า ในแบบที่ไม่ธรรมดาเท่านั้นเอ๊งงง
Dinner in the Sky คือร้านอาหาร 1 ใน 10 แห่งของโลกที่นิตยสาร Forbes ให้นิยามว่าเป็นร้านอาหารสุดแปลกและแหวกแนวมากที่สุด ด้วยความสูงเหนือระดับพื้นดินถึง 150 ฟุต หรือ 45 เมตร ซึ่งมันคงไม่ใช่เรื่องแปลกหรือหวาดเสียวแต่ประการใด หากร้านอาหารแห่งนี้จะมีตัวอาคารรองรับเอาไว้บ้าง
Dinner in the Sky กินไปเสียวไปใน บรัสเซลส์
ณ กรุงบรัสเซลส์เมืองหลวงของประเทศเบลเยี่ยม ที่นี่มีร้านอาหารสุดแปลกและหวาดเสียวที่สุดในโลก ซึ่งเปิดทำการมาตั้งแต่ปี 2006 จนตอนนี้ก็ 10 ปีเต็มมาแล้วค่ะ โดยความแปลกที่ว่าก็คือ เขาจะใช้รถเครนยกส่วนของโต๊ะอาหารขึ้นไปบนท้องฟ้าเหนือกรุงบรัสเซลส์ บนความสูง 45 เมตร โดยโต๊ะอาหารนี้จะมีสามารถรองรับแขกได้ครั้งละ 22 ท่าน โดยตรงกลางจะเป็นส่วนของครัวแบบเปิด และมีเชฟ 2 ท่านที่คอยปรุงอาหารสุกใหม่เพื่อเสิร์ฟให้กับลูกค้าจนกว่ามื้ออาหารจะจบลงค่ะ ซึ่งในรอบปีที่ผ่านมา ทางร้านก็ได้เฉลิมฉลองโอกาสครบรอบปีที่ 10 ด้วยการจัดเวิลด์ทัวร์ เพื่อเปิดประสบการณ์ของการกินอาหารแบบสุดเสียวในเมืองใหญ่ไม่น้อยกว่า 55 ประเทศทั่วโลก
ความพิเศษของ Dinner in the Sky
ความพิเศษของ Dinner in the Sky มิใช่แค่เพียงการรับประทานอาหารมื้อกลางวัน (เวลา 12.30 น.) มื้อเย็น (19.30 น.) หรือมื้อค่ำ (21.30 น.) เหนือท้องของกรุงบรัสเซลส์เท่านั้นค่ะ แต่ที่นี่ยังมีเชฟถึง 10 ท่านที่จะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนขึ้นไปให้ความสำราญแก่แขกที่มาใช้บริการ โดยเชฟทุกท่านล้วนมีประสบการณ์ทางด้านการทำอาหารคาว และอาหารหวานมาอย่างโชกโชน ซึ่งบางท่านก็มีดีกรีเป็นถึงเชฟในระดับมิชลินสตาร์ด้วยค่ะ
โดยผู้ที่จะมารับประทานที่นี่ได้จะต้องทำการจองล่วงหน้ามาจากเว็บไซต์ ซึ่งมีคิวการจองที่ยาวเหยียดเลยทีเดียวล่ะค่ะ ทั้งที่ราคาของอาหารที่นี่ก็ไม่ใช่ธรรมดาๆ แต่เรียกว่าแพงมากเลยทีเดียว ทั้งนี้อาหารที่เสิร์ฟโดยส่วนใหญ่ก็จะเป็นอาหารสัญชาติเบลเยี่ยมที่ปรุงขึ้นจากวัตถุดิบชั้นดี โดยจานแนะนำที่พลาดไม่ได้นั้นคือ หอยแมลงภู่ วาฟเฟิลเบลเยียม เฟรนช์ฟราย ชีส ช็อกโกแลต และเบียร์ เป็นต้น เพราะไม่อย่างนั้นอาจเรียกว่ามาไม่ถึงเบลเยี่ยมก็ว่าได้ค่ะ
นอกจากนั้นความพิเศษอีกอย่างของคอแอลกอฮอล์ก็คือ ในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนพฤษภาคม จะเป็นสัปดาห์ไวน์ของบรัสเซลส์ ที่นี่ก็จะเสิร์ฟไวน์อย่างไม่อั้น หรือหากใครที่เป็นสาวกเครื่องดื่มประเภทมีฟองมากกว่า ก็ต้องมาในช่วงสัปดาห์แรกของเดือนกันยายน อันเป็นช่วงงานเทศกาลเบียร์เบลเยียมนั่นเอง
ที่ตั้งของร้าน
Dinner in the Sky ไม่ได้มีหน้าร้านหรือจุดตั้งร้านที่ปักหลักอยู่ ณ ที่ใดที่หนึ่ง เพราะพวกเขาจะพาคุณเปลี่ยนบรรยากาศไปเรื่อยๆ เพื่อเพลิดเพลินไปกับมุมมองที่เหนือชั้นและสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกันรอบกรุงบรัสเซลส์ได้อย่างเต็มที่ โดยพื้นที่แต่ละแห่ง เพื่อความปลอดภัยเจ้าหน้าร้านจะมองหาพื้นที่เปิดที่ความกว้างอย่างน้อย 30 x 15 เมตร จากนั้นก็ใช้เครนที่ออกแบบมาเป็นพิเศษยกร้านที่เต็มไปด้วยลูกค้าทั้ง 22 ที่นั่งขึ้น โดยก่อนที่พวกเขาจะยกทั้งหมดขึ้นไป จะมีการตรวจสอบความปลอดภัยเสียก่อนว่าลูกค้าทุกคนได้รัดเข็มขัดติดอยู่กับเก้าอี้เรียบร้อยแล้ว และเมื่อตรวจสอบความปลอดภัยเสร็จ ทั้งหมดก็จะถูกยกขึ้นไปเหนือท้องฟ้าที่ความสูง45 เมตร ภายในไม่กี่วินาที
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเกี่ยวกับ Dinner in the Sky
ช่วงเวลาที่ดีที่สุดและได้รับความนิยมมากที่สุดสำหรับการมาเยือนร้านอาหารแห่งนี้จะอยู่ในช่วงเดือนเมษายนถึงเดือนกันยายนค่ะ ซึ่งเป็นช่วงฤดูซัมเมอร์ ที่มีอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ยต่อวันไม่เกิน 22 องศา แต่ในบางครั้งก็จะมีฝนตกบ้างนะคะ ซึ่งหากวันไหนสภาพอากาศไม่เป็นใจ คือมีลมแรงกว่าปกติ ร้านก็จะปิดให้บริการและคืนเงินเต็มจำนวนให้กับลูกค้าที่ได้ทำการจองเอาไว้ ทั้งนี้ทางร้านจะให้ความสำคัญแก่สภาพอากาศในแต่ละวันเพื่อความปลอดภัยนั่นเองค่ะ
ที่สำคัญอีกอย่างก็คือ ผู้ที่จะมารับประทานอาหารที่นี่จะต้องเตรียมเสื้อคลุมมาด้วยทุกครั้ง แม้จะเป็นวันที่อากาศร้อนที่สุดก็ตาม เนื่องจากเมื่อเครนถูกยกขึ้นไปแล้ว สายลมที่พัดปะทะตลอดเวลาจะให้บรรยากาศที่หนาวเย็นมากๆ นั่นเองค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจากwww.dinnerinthesky.be