ฮั่นแน่..รออัพเดตกันอยู่รึเปล่า วันนี้เป็นคิวของ… การไปเยี่ยมชมปราสาทต่างๆ ในยุโรปค่ะ ซึ่งแต่ละแห่งนอกจากจะได้รับการการันตีว่าสวยงาม โรแมนติกที่สุดในยุโรปแล้ว ปราสาทแห่งนี้ยังเก่าแก่และมีประวัติศาสตร์อันยาวนานอีกด้วยค่ะ นี่จึงเหมาะมากๆ ที่เราจะได้ไปฝึกปรือฝีมือการถ่ายภาพ เพื่อนำภาพสวยๆ มาลงในอินสตราแกมยังไงล่ะคะ ส่วนผู้ที่กำลังขะมักเขม้นไปกับการเล่นเกม Pokémon GO งานนี้เราอาจจะได้ไปจับเจ้า Pokémon สายพันธุ์แปลกๆ ภายในปราสาทอายุหลายร้อยปีกันค่ะ ว้าววว แค่คิดก็ตื่นเต้นแล้ว แหะๆๆ ขอนิดนึงน้า ช่วงนี้เทรนด์…กำลังมา
พระราชวังแห่งชาติเปนา
ปราสาทแห่งแรกตั้งอยู่ที่เมืองซินตรา ประเทศโปรตุเกสค่ะ ที่นี่เรียกว่าเป็นจุดขายของโปรตุเกสก็ว่าได้ เพราะนักท่องเที่ยวทุกคนควรต้องมาเยือนที่นี่เป็นอย่างยิ่งค่ะ ซึ่งคุณจะได้ตื่นตาตื่นใจไปกับปราสาทเก่าแก่ที่สร้างมาตั้งแต่ในศตวรรษที่ 19 ที่ดูยังไงก็คล้ายกับหลุดออกมาจากเทพนิยายตั้งอยู่บนเนินเขาเหนือเมืองซินตรา ซึ่งปัจจุบันได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลก รวมถึงทางการโปรตุเกสเองก็ยกย่องปราสาทแห่งนี้ให้เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของประเทศด้วยล่ะ นอกจากนี้ความโดดเด่นของปราสาทอีกอย่างก็คือ ไม่ว่าคุณจะมองมาจากมุมไหนภายในเมือง คุณก็จะสามารถมองเห็นปราสาทแห่งนี้ได้อย่างโดดเด่นเป็นสง่า แถมยังถ่ายภาพออกมาได้สวยสะเด็ดไปเลยค่ะ
เวลา เปิด-ปิด: 09:30–19:00 น.
ระดับความอินเทรนด์: ✩✩✩✩✩
วิธีการเดินทาง: มีรถไฟจากลิสบอนไปถึงเมือง Sintra โดยใช้เวลาประมาณ 40 นาที จากนั้นก็นั่งรถบัสสาย 434 ไปยังตัวปราสาทได้เลย
แผนที่:
ปราสาทอัลคาซ่าเซโกเบีย
อัลคาซ่าเซโกเบียยเป็นปราสาทที่สร้างในลักษณะของป้อมปราการหินซึ่งตั้งอยู่ในเมืองเก่าของสเปนอย่างเมืองเซโกเบียยค่ะ โดยความโดดเด่นของที่นี่ที่มองป๊าดเดียวก็สามารถจินตนาการได้ว่านี่คือปราสาทในเทพนิยายชัดๆ ก็คือ ตัวปราสาทนั้นตั้งอยู่บนผาหินค่ะ แถมยังอยู่ในจุดบรรจบของแม่น้ำ Eresma และ Clamores ใกล้ๆ กับภูเขา Guadarrama จึงทำให้ที่นี่ได้รับการยกย่องว่าเป็น เป็น 1 ในปราทสาที่สวยที่สุดของประเทศสเปนค่ะ นอกจากนั้นประวัติของปราสาทนี้ก็ใช่ย่อยนะคะ คือเคยเป็นทั้งที่อยู่อาศัยของเชื้อพระวงศ์ เป็นทั้งโรงเรียนสอนทหาร และเป็นทั้งที่คุมขังนักโทษอีกแน่ะ
เวลา เปิด-ปิด: 09:30–19:00 น.
ระดับความอินเทรนด์: ✩✩✩✩
วิธีการเดินทาง: นั่งรถไฟด่วน AVE จากมาดริดมายังเซโกเบีย โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที
แผนที่:
ปราสาทนอยชวานชไตน์
ในบรรดาปราสาททั่วทุกแห่งในภูมิภาคยุโรป ต้องยอมรับจริงๆ ค่ะว่าปราสาทที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากที่สุดก็คือ ปราสาทนอยชวานชไตน์ ที่ตั้งอยู่ในเทือกเขาแอลป์ แถบแคว้นบาวาเรีย ประเทศเยอรมนีนี่เอง ซึ่งสาเหตุทั้งหมดก็เพราะว่าที่นี่คือต้นแบบของการสร้างปราสาทเทพนิยายเจ้าหญิงนิทราที่สวนสนุกดิสนีย์แลนด์นั่นเองล่ะค่ะ อย่างไรก็ดี ตัวปราสาทของจริงความสวยงามก็ไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่ากันเลยค่ะ ซึ่งภายในปราสาทที่เปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมได้จะมีอยู่ทั้งหมด 14 ห้อง โดยห้องที่เป็นไฮไลท์ก็คือ ห้องบรรทมของพระเจ้าลุดวิก ที่สร้างขึ้นในศิลปะแบบโกธิก และตกแต่งด้วยงานแกะสลักไม้อย่างวิจิตรบรรจง และอีกห้องก็คือ Throne Hall ที่สร้างขึ้นอย่างยิ่งใหญ่อลังการในศิลปะแบบไบแซนไทน์นั่นเอง
เวลา เปิด-ปิด: 08:00–17:00 น.
ระดับความอินเทรนด์: ✩✩✩✩✩
วิธีการเดินทาง: จากเมืองมิวนิคให้นั่งรถไฟไปยังเมือง Füssen จากนั้นจึงต่อรถเมล์ไปยังหมู่บ้าน Hohenschwangau แล้วจึงต่อรถบัสอีกรอบเพื่อไปยังตัวปราสาท
แผนที่:
ปราสาทคอนวี่ย์
ปราสาทคอนวี่ย์เป็นหนึ่งในป้อมปราการที่โดดเด่นที่สุดในโลกซึ่งสร้างมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 โดยพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 1 วีบนชายฝั่งทางตอนเหนือของเวลส์ ที่มีความโดดเด่นอยู่ที่ 8 หอคอยของปราสาท ซึ่งนักท่องเที่ยวที่มาเยือนจะสามารถมองเห็นทัศนียภาพของปากอ่าวคอนวี่ย์บนหอคอยทั้ง 8 แห่งนี้ได้อย่างชัดเจน และในปัจจุบันองค์การยูเนสโกก็ได้บรรจุให้ปราสาทแห่งนี้กลายเป็นมรดกโลกไปแล้วค่ะ แถมยังถูกยกย่องหเป็นปราสาทแบบป้อมปราการที่ดีที่สุดในยุคกลางอีกด้วย
เวลา เปิด-ปิด: 10:00–16:00 น.
ระดับความอินเทรนด์: ✩✩✩✩✩
วิธีการเดินทาง: สามารถนั่งรถไฟจากลอนดอนไปยังเมืองคอนวี่ย์ได้ โดยออกเดินทางจากสถานี Euston Station จากนั้นจึงไปเปลี่ยนขบวนเพื่อไปยังเมืองคอนวี่ย์ที่สถานีรถไฟเมือง Chester โดยใช้เวลาในการเดินทางกว่า 3 ชั่วโมง
แผนที่:
ปราสาทเอลทส์
ปราสาทเอลทส์คือปราสาทที่สร้างในยุคกลางและมีอายุมากกว่า 850 ปี ที่ตั้งอยู่บนเนินเขาสูงประมาณ 70 เมตร เหนือแม่น้ำโมแซลระหว่างเมืองโคเบลนซ์และเมืองเทรียร์ ซึ่งความโดดเด่นของปราสาทแห่งนี้ก็คือยอดแหลมที่ประดับด้วยงานไม้แบบทิวดอร์ ส่วนภายในนั้นได้รับการตกแต่งด้วยชุดของสะสมโบราณ ภาพเขียนและอาวุธที่นักรบในยุคโบราณนิยมใช้กัน นอกจากนั้นในปัจจุบันตระกูลเอลทส์ซึ่งเป็นเจ้าของปราสาทแห่งนี้มาตั้งแต่ต้นก็ยังคงอาศัยอยู่ภายในปราสาทค่ะ
เวลา เปิด-ปิด: 09:30–17:30 น.
ระดับความอินเทรนด์: ✩✩✩✩
วิธีการเดินทาง: นักท่องเที่ยวต้องเดินขึ้นเขาจากสถานีรถไฟ Moselkern มายังปราสาท โดยใช้เวลาประมาณ 45 นาที
แผนที่:
พระราชวังช็องบอร์
พระราชวังช็องบอร์ 1 ในพระราชวังที่ใหญ่ที่สุดแห่งลุ่มแม่น้ำลัวร์ ในแคว้นซองท์ ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งในอดีตนั้นที่นี่คือใจกลางของป่าสงวนที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป นอกจากนั้นพระราชวังช็องบอร์ยังมีชื่อเสียงก้องโลก ด้วยเป็นหนึ่งในสถาปัตยกรรมชิ้นเอกแห่งยุคเรอเนสซองต์ ที่เป็นงานสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานระหว่างการก่อสร้างแบบยุคกลางของฝรั่งเศสกับสถาปัตยกรรมคลาสสิกของอิตาลีได้อย่างสวยสดงดงาม ส่วนภายในปราสาทนั้นประกอบไปด้วยห้องต่างๆ ถึง 426 ห้อง โดยถูกประดับด้วยงานแกะสลักต่างๆ กว่า 800 ชิ้น
เวลา เปิด-ปิด: 09:00–18:00 น.
ระดับความอินเทรนด์: ✩✩✩✩✩
วิธีการเดินทาง: นั่งรถไฟจากปารีสไปยังเมืองบลัว เมืองหลวงของจังหวัดลัวเรแชร์ในแคว้นซ็องทร์-วาลเดอลัวร์ จากนั้นก็ต่อรถบัสที่หน้าสถานีเพื่อไปยังพระราชวังช็องบอร์ได้เลย
แผนที่:
ปราสาทคัลเซียน
ปราสาทคัลเซียนถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของสกอตแลนด์ซึ่งตั้งอยู่ในเมือง Maybole จนอาจเรียกได้ว่า เป็นอัญมณีบนมงกุฎแห่งชาติสกอตแลนด์เลยก็ว่าได้ โดยตัวปราสาทแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นบนหน้าผาในในช่วงปลายศตวรรษที่ 18 โดยนักออแบบที่ชื่อโรเบิร์ต อาดัม ในสไตล์จอร์เจียน และศิลปะแบบนีโอคลาสสิก โดยมีความพิเศษอีกอย่างคือ ห้องทุกห้องในปราสาทจะถูกออกแบบให้มีความสมมาตรทั้งหมด ยกตัวอย่างเช่น หากห้องๆ นึงมีรูปภาพติดอยู่บนผนังฝั่งซ้าย ก็จะต้องมีรูปภาพขนาดเดียวกันบนผนังฝั่งขวาด้วย หรือหากผนังฝั่งไหนมีประตู ก็จะต้องมีประตู 2 บาน เป็นต้น นอกจากนั้นทุกห้องภายในปราสาทยังถูกออกแบบให้มีความโค้งตาม Oval Staircase โดยมีบันไดเป็นจุดศูนย์กลางของปราสาท ซึ่งแตกต่างจากปราสาททั่วๆ ไปนั่นเอง
เวลา เปิด-ปิด: 10:30–17:00 น.
ระดับความอินเทรนด์: ✩✩✩✩✩
วิธีการเดินทาง: นั่งรถไฟสาย First ScotRail จากเมืองกลาสโกว์ไปลงที่สถานี Maybole Station ซึ่งสถานีรถไฟแห่งนี้จะอยู่ห่างจากตัวปราสาทประมาณ 4 ไมล์ จากนั้นก็ต่อรถบัส Stagecoach ที่หน้าสถานี หมายเลข 60/360 ซึ่งจะไปจอดที่หน้าปราสาทได้เลย
แผนที่:
พระราชวังวินด์เซอร์
นี่คือหนึ่งในพระราชวังที่สวยงามที่สุดในยุโรปที่นักท่องเที่ยวจะพลาดไม่ได้ค่ะ พระราชวังวินเซอร์เป็นปราสาทที่มีความใหญ่โตที่สุดในโลกโดยครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 5 ไร่ บนเนินสูงของถนนวินเซอร์แห่งกรุงลอนดอน ซึ่งสมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธที่ 2 มักจะมาประทับที่นี่อยู่เสมอในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ โดยจุดเด่นของที่นี่หลักๆ เลยก็คือ มีอพาร์ทเม้นท์ที่สวยงามซึ่งตกแต่งด้วยสมบัติจากของสะสมของพระราชวงศ์ มีโบสถ์เซนต์จอร์จที่เป็นหนึ่งในโบสถ์ที่สวยที่สุดในประเทศอังกฤษ มีบ้านตุ๊กตาของสมเด็จพระราชินีแมรี่ และมีนิทรรศการแกลลอรี่ภาพวาดของราชวงศ์ เป็นต้น
เวลา เปิด-ปิด: 09.45 – 17.15น.
ระดับความอินเทรนด์: ✩✩✩✩✩
วิธีการเดินทาง: จากกรุงลอนดอนไปยัง พระราชวัง Windsor ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันตก สามารถเดินไปกลับจากลอนดอนได้ง่ายๆ ด้วยรถไฟฟ้า National Rail ต้นทางที่สถานี London Waterloo ซึ่งจะลงที่สถานี Windsor & Eton Riverside หรือสามารถมาจากสถานีต้นทาง Paddington ก็จะลงทีสถานี Windsor Castle Station ได้เช่นเดียวกัน
แผนที่:
ปราสาทคอร์วิน
ปราสาทคอร์วิน หรือปราสาทฮุนยาร์ด หรืออีกชื่อก็คือปราสาทฮุนโดรา เป็นปราสาทซึ่งเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของประเทศโรมาเนีย ที่ตั้งอยู่ในเมืองฮุนโดรา โดยตัวปราสาทแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นด้วยหินขนาดใหญ่ในงานสถาปัตยกรรมแบบโกธิกเรอเนซองส์ ซึ่งปัจจุบันนี้ได้ถูกปรับปรุงให้เป็นพิพิธภัณฑ์ ที่จัดแสดงของเก่าจำพวกเสื้อผ้า เอกสาร งานศิลปะ เป็นต้น โดยภายในจะให้บรรยากาศที่เหมือนกับย้อนเวลาไปในช่วงยุคกลางเลยล่ะค่ะ
เวลา เปิด-ปิด: 09:00–19:45น.
ระดับความอินเทรนด์: ✩✩✩✩
วิธีการเดินทาง: จากตัวเมืองฮุนโดรา วิธีที่จะเดินทางไปปราสาทที่ง่ายและสะดวกสบายที่สุดก็คือ การเช่ารถขับกินลมไปเรื่อยๆ นั่นเองค่ะ โดยขับรถไปตามถนนสาย DN7 (E15) เพื่อไปยัง Sântuhalm จากนั้นก็ขับไปตามถนนสาย DJ 687 ที่เข้าสู่เส้นทางฮุนโดรา จากนั้นขับไปเรื่อยๆ ก็จะถึงตัวปราสาทเลยค่ะ
แผนที่:
ปราสาทบราน
มาถึงปราสาทสุดท้ายแล้วค่ะ รู้หรือไม่คะว่าปราสาทบรานแห่งประเทศโรมาเนียแห่งนี้นี่เองค่ะ ที่ได้ชื่อว่าเป็น ปราสาทแดร็กคูล่า ซึ่งนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มาเยือนโรมาเนียมักจะต้องมีจุดหมายปลายทางมาเห็นที่นี่ด้วยสายตาของตัวเองสักครั้ง ทั้งนี้ตัวปราสาทแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในปี คศ. 1212 โดยอัศวินชาวเยอรมัน บนหน้าผาที่สูงชัน เพื่อใช้เป็นป้อมปราการป้องกันการรุกรานจากข้าศึก และปัจจุบันที่นี่ก็ได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ผู้มาเยือนในแต่ละวันมากมาย โดยรอบๆ ปราสาทนั้นจะเต็มไปด้วยร้านขายของที่ระลึกเพียบเลยค่ะ ทั้งเสื้อยืด จานรองแก้ว โปสการ์ด ฯลฯ
เวลา เปิด-ปิด: 09:00–18:00 น.
ระดับความอินเทรนด์: ✩✩✩✩✩
วิธีการเดินทาง: จากบลูคาเรสต์ เมืองหลวงของโรมาเนีย สามารถเดินทางมายังปราสาทได้โดยนั่งรถไฟจากสถานี Bucharest North railway station ไปลงที่สถานี Brașov โดยใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงกว่าๆ
แผนที่: