Mushroom Travel LINE
เราช่วยคุณได้
@mushroomtour
จันทร์ - เสาร์
9:00-22:00
อาทิตย์
9:00-18:00
Call Mushroom Travel
Call Center
02 105 6234
จอง 6 คนขึ้นไป
จอง 6 คนขึ้นไป
02 105 6244
Loading...

กินๆ อาหาร เกาหลี เที่ยว(+ส่องอปป้า) 8วัน7คืน สไตล์สองพี่น้องแบ๊คแพ๊คเกอร์ไม่พึ่งทัวร์ไม่พึ่งไกด์

โพสเมื่อ

กินๆ อาหาร เกาหลี เที่ยว(+ส่องอปป้า) 8วัน7คืน สไตล์สองพี่น้องแบ๊คแพ๊คเกอร์ไม่พึ่งทัวร์ไม่พึ่งไกด์

สวัสดีค่าาาาทุกคนนนนน เรามีโอกาสได้ไปเที่ยวเกาหลีตอนวันที่ 14มิถุนายน-21มิถุนายน รวมเป็น8วัน7คืนพอดี ครั้งนี้เราไปโซลกับชุนชน ซึ่งจังหวัดชุนชนที่เราไปนั้นมีเรื่องพีคๆเยอะมาก555 การ มาเกาหลี ครั้งนี้เราไปกับน้องกัน2คน เลยขอตั้งชื่อทริปนี้ว่าทริป ‘อนแซง’5555 มาจากอนนี่ที่แปลว่าพี่สาว กับทงแซงที่แปลว่าน้อง55555 โดยครั้งนี้พวกเรา มาเกาหลี กันเป็นครั้งที่2 ตอนที่ไปครั้งแรกนี่คือไปแบบงงๆ ไม่ได้ติ่งไม่ได้อะไรเลยแค่อยากลองไปกิน อาหาร เกาหลี 55555 พอไปแล้วมีความติดใจกลับมาไทยเลยไปเรียนภาษาเกาหลีเพื่อจะได้พออ่านออก55555555

ส่วนเรื่องตม. ไม่น่ากลัวเลย เราไปมาไม่เคยมีปัญหาเลย ตม.ไม่เคยแม้แต่จะถาม5555555 สงสัยหน้าตาบ่งบอกมาว่าเป็นนักท่องเที่ยว อิอิ แต่ถ้าเพื่อนๆคนไหนจะไปแนะนำว่าให้เตรียมเอกสารไว้ให้พร้อมน่าจะเซพกว่านะคะ ส่วนเรื่องแพลนท่องเที่ยวในแต่ละวัน น้องของเราเป็นคนทำแพลน เราก็เป็นผู้ตาม5555555

มารอบนี้ไม่ได้เช่าพ็อคเกต wifi เพราะรอบก่อนที่มาหา wifi ฟรี ได้ตามถนน บวกกับลดค่าใช้จ่ายเอาไว้ช้อปปิ้งด้วย55555 พอไม่ได้เช่า wifi ทำให้เวลาขึ้นรถไฟมีเวลาดูคนเยอะแยะ ทำให้สังเกตได้ว่าคนเกาหลีชอบเดินไปมาระหว่างขบวนมากค่ะ เดินจนงงจนเรากับน้องยืนขำกันแบบไม่ได้เดินเพื่อหาที่นั่งแต่คือแค่เดินไปมา555555555

1

DAY 1

เรามาถึงสนามบินอินชอนตอนเวลาประมาณ 9.30น. เมื่อเราผ่านตม.รอรับกระเป๋า ซื้อบัตร T-money ที่ร้านมินิมาร์ท เราซื้อที่ร้าน GS martในสนามบิน โดยบัตรนี้เราสามารถใช้ขึ้นซับเวย์ รถบัส แท๊กซี่บลาๆได้เพียงแค่เติมเงินลงไปในบัตร แล้วเราก็นั่งรถไฟ airport railroad เข้าเมืองเลยกันเลย ตอนขึ้นรถไฟเรานี่หลับอย่างเดียวเลยเพราะตอนนั่งบนเครื่องบินไม่ได้นอนเพราะมีป้าลุงคนเกาหลีนั่งติดกันแล้วคือเค้าคุยกันตลอดเลย พอหยุดคุยกันเราก็ดีใจแบบจะได้หลับแต่คือป้าเอาแขนมาชนตลอดละคือกลิ่นตัวและกลิ่นปากป้าลุงแบบว่าไม่รู้เคยแปรงฟันมั้ย เราทนไม่ไหวจริงๆจนต้องเอาผ้าห่มคลุมหัว ฮือออออ อายคนก็อายแต่ดีกว่าเหม็น 55555
พอลงจาก airport railroadก็ต่อซับเวย์ไปที่พักกันต่อ การ มาเกาหลี ทำให้รู้ว่าถ้ามาเกาหลีสะพายเป้มาอย่างเดียวสะดวกกว่าเพราะรอบนี้เราเอากระเป๋าลากมา แล้วคือเกาหลีเนี่ยในซับเวย์มันขึ้นๆลงๆบ่อยมากกกกกกกกกกกกก แล้วคือลำบากมากตอนยกกระเป๋าขึ้นๆลงๆมีความเหนื่อย5555 ตอนมารอบแรกคือเราเอาแต่เป้มาเลยไม่รู้สึกถึงความยากลำบากนี้ แล้วคืออากาศร้อนแบบเหมือนอยู่ไทย คุชชั่นที่โบกมานั้นไหลย้อยไม่มีชิ้นดี

ที่พักเราเป็นเกสต์เฮาส์อยู่แถวสถานี hyehwa ซึ่งเวลาที่เราไปนั้นยังไม่ถึงเวลาเช็คอินเราจึงฝากกระเป๋าไว้ที่ที่พักแล้ววันแรกเราก็ไปเที่ยวเมียงดงกันเบยยยยยยย จากที่พักเราขึ้นซับเวย์ไปเมียงดงเพียงแค่ 4 สถานี คือเร็วเวอร์ 55555 ตอนนั้นก็เริ่มเที่ยงๆบ่ายๆก็เริ่มหิว ในแพลนคือจะไปกินพิซซ่าร้าน parking in plate ที่แฝดสามเคยไปกินกัน ร้านอยู่ชั้น 4 พวกเราก็ขึ้นลิฟต์ไปด้วยความหิว พอลิฟต์เปิดปุ๊ป สรุปว่าร้านปิดไปแล้ว ปิดแบบปิดถาวร ช๊อคมากกกกกกก ก็เลยเดินลงมาแล้วตรงไปเรื่อยๆก็เจอร้านพิซซ่าก็คิดแบบเห้ย รอดตายละโหวยยยยยยย5555555555

โดยร้านที่เราไปกิน อาหารเกาหลี ชื่อว่าร้าน james chicago pizza สาขา myeongdong ขายเป็น deep dish pizza สไตล์ชิคาโก้ พวกเราก็สั่งพิซซ่าแล้วเดินไปตักเครื่องเคียงอย่างไวเพราะหิวมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ตอนนั่งรอพิซซ่าก็เห็นพนง.ของร้านที่เป็นอปป้าแต่หน้าไม่ค่อยพรีเมี่ยมเท่าไหร่เต้นๆร้องๆตามเพลงที่เปิดขำดี5555 พอพนง.เอาพิซซ่ามาวางเค้าก็จุดไฟแล้วบอกให้เรารอ 2 นาทีน่าจะรอให้ชีสละลายมั้ง นี่ก็จับเวลารอเลยเอา2นาทีเป๊ะๆ

2 3
มีความยืดดดดดดด

4

อันนี้เป็นเครื่องเคียงมีให้ตักเอง มีแตงกวาดองกับพริกดองเราตัดมาแต่แตงกวาดอง แล้วมีซอสเป็นซองๆเขียนว่า garlic กับ hot sauce garlic ก็คือมายองเนสที่รสชาติก็ไม่เห็นจะกระเทียมตรงไหนเบย 555

5
กินกับน้ำสัปปะรดแฟนต้าที่เมื่อก่อนที่ประเทศไทยของเราก็มีแต่ตอนนี้ไม่มีแล้ว กระป๋องน่ารักมากกก
แผนที่ร้าน : th.tripadvisor.com

พอท้องอิ่ม(มาก) พวกเราก็เดินไปช้อปปิ้งเครื่องสำอางค์แต่เสื้อผ้าพวกเราจะไม่ซื้อเพราะเสื้อผ้าที่เมียงดงจะแพงกว่าแถวอีแด เรารอไปซื้อที่อีแด หลังจากเดินเล่นๆส่องอปป้า ก็ไม่เจออปป้าหล่อสักคน555 พวกเราเลยไปโบสถ์เมียงดงกันเพราะการไปโบสถ์อาจทำส่งผลบุญให้เราเจออปป้าหล่อๆก็เป็นได้55555

6 7

ข้างในโบสถ์มีคนเข้ามาเยอะอยู่ค่ะ สวยมากๆเลย พอเที่ยวชมโบสถ์เสร็จก็เริ่มหิวเลยซื้อนมเปรี้ยวกินค่ะ เห็นเป็นรสมะม่วงเลยรีบซื้อเลยจขกท.เป็นทาสมะม่วงค่ะแฮ่ๆ

8
รสชาติก็เปรี้ยวๆหวานตามสไตล์นมเปรี้ยวแค่มีรสมะม่วงเพิ่มมานิดนุงงง
หลังจากพวกเราเดินๆช้อปๆเมียงดง เราก็ไปห้างลอตเต้ยังพลาซ่าค่ะ ในห้างมีร้านค้าให้ช้อปเยอะมากแต่เราเห็นคนเยอะเลยไม่ได้ถ่ายรูปมาให้ชมค่ะ เราแอบเห็นร้านที่ขายของที่ระลึกของค่าย SM ด้วย ใครชอบก็ไปซื้อได้นะคะ
พอเดินเล่นเสร็จก็เริ่มเย็นๆ พวกเรากะว่าจะไปนัมซานทาวเวอร์กันแม้ว่าจะไม่มีอปป้าไปห้อยกุญแจด้วย เพราะรอบก่อนที่มาไปตอนกลางวันรอบนี้จึงอยากไปดูวิวตอนกลางคืน เลยไปรอรถบัสกันแต่รอนานมากแล้วบัสไม่มาสักทีแล้วฝนก็เริ่มลงเม็ด สรุปคือพวกเราก็เลยกลับที่พักกัน แต่ระหว่างทางเดินไปซับเวย์สมองเรางงๆเพราะไม่ได้นอนมาเกือบ24ชม 5555 เลยทำบัตร T-money หายไปฮือออ ในบัตรเหลือเงินเป็นเบือ โง่มากๆๆๆๆๆเราเลยจะลงโทษตัวเองโดยการไม่ต้องกินข้าวเย็นไปสองวันจะได้สาสมที่ทำบัตรหาย55555 (ปญอ)

พอขึ้นซับเวย์มาถึงแถวที่พักก็มาเดินหาขนมเข้าไปกินกันต่อ แถวที่พักเราเป็นย่านมหาวิทยาลัยจึงมีร้านค้าร้านเครื่องสำอางค์ร้าน อาหารเกาหลี ร้านขนมเยอะมาก แล้วของกินเนี่ยราคาถูกด้วย แต่เนื่องจากตอนนั้นฝนตกพรำๆเลยไม่ได้ถ่ายรูปไว้เพราะต้องถือร่ม 55555 พอเดินๆไปเจอร้านขายขนมบุงงอปัง บุงงอปังคือขนมปังรูปปลาคล้ายไทยากิของญี่ปุ่นแต่รู้สึกว่าแป้งกรอบกว่า ร้านนี้ขายเป็นมินิบุงงอปัง 7ชิ้น 1,000 วอน ถูกอะไรเบอร์นั้น7ชิ้น30บาท หาไม่ได้ง่ายๆในประเทศนี้

9 10

แล้วน้องเราก็ซื้อน้ำพีชที่ผสมโซจูหรือเหล้านี่แหละเราไม่แน่ใจ แต่รสชาติคือเหมือนชาพีชไม่มีรสชาติเหล้าเลยซักกะติ๊ด5555 จบคืนวันที่ 1 ไป อิอิ

DAY 2

วันนี้เรามีแพลนจะไปวังกันค่ะ วังนี่จริงๆเดินไปจากที่พักเราก็ได้แต่พึ่งมารู้ทีหลัง พวกเราก็ขึ้นรถบัสไปกันจากที่พักเพียง1 สถานี

11
วิวตรงที่รอรถบัสค่ะ

ที่แรกพวกเราไปวัง changgyeonggung เสียค่าเข้า1,000 วอน

12 13 14

เท่าที่สังเกตคือส่วนมากคนมาเที่ยววังจะเป็นผู้สูงอายุของเกาหลีค่ะ มากันเป็นคู่หรือเป็นกลุ่มๆ น้องเราอ่านใบนำเที่ยวที่หยิบมาตอนเข้าวังเค้าบอกว่ามีสระน้ำอยู่วังสวยมาก พวกเราเลยอยากดูว่าสวยขนาดไหนเลยเดินไปดูกันค่ะ

15
พอเดินไปดูก็มองหน้ากันเหมือนอารมณ์ในการ์ตูนที่เงียบจนได้ยินเสียง กา กา กา อ่ะค่ะ5555555555555555
หลังจากนั้นเราก็ไปวัง changdeokgung กันต่อค่ะ วังนี้อยู่ติดกับวังแรกที่เราไปเลยแต่วังนี้เสียค่าเข้าชม 3,000 วอนค่ะ ตอนเราไปวังนี้ฝนเริ่มลงเม็ดแล้วค่ะ เราเลยรีบเดิน
16 17หลังจากไปมาสองวังก็ไม่รู้ว่าสองวังนี้แตกต่างกันยังไง ทำไมราคาต้องต่างกันแบบอันแรกพันวอนอันสองสามพันวอน 5555 ฝนก็ตกแรงขึ้นเรื่อยๆ น้องของเราเลยชวนไปนั่งร้านคาแฟ่ใกล้ๆวังเพื่อหลบฝน
ร้านนี้ชื่อว่าร้าน oh! lolly day ค่ะ เหมือนน้องเราอ่านกระทู้รีวิวมาจากพันทิพนี่แหละค่ะเลยไปตาม ด้วยความที่เราทำบัตร t-money หายแล้วยังเสียดายเงินอยู่เราเลยไม่กินค่ะ แต่พนง.บอกว่าต้องซื้อคนละแก้วน้องเราเลยเลี้ยงเราค่ะ 5555 โชคดีๆ เราสั่งอเมริกาโน่เย็นค่ะ แต่พอกินแล้วอะโหกาแฟเปรี้ยวเกลียดมากกกกกก ราคาก็ไม่ใช่ถูกๆอ่ะดันมาเปรี้ยวอีกเซ็งของน้องเราสั่งลาเต้ค่ะ ก็รสชาติดีกว่ากาแฟเปรี้ยว ร้านนี้น่ารักมากจะเห็นคนเกาหลีมานั่งเม้ามอยถ่ายรูปกัน พอกินเสร็จทางร้านถึงอนุญาตให้ขึ้นไปนั่งเล่นข้างบนดาดฟ้าได้ แต่วันที่เราไปฝนตกเลยถ่ายรูปได้ไม่กี่มุมค่ะเสียดายมากๆ
19 18 20

นี่คือบนดาดฟ้าค่ะ มีน้องหงษ์อยู่แต่ห้ามขึ้นไปนั่งบนน้องหงษ์ค่ะ ร้านนี้เค้ามีขายสมุดโน้ต เคสโทรศัพท์ด้วยนะคะ อยู่ตรงชั้น2ของร้านค่ะ

เรานั่งรอให้ฝนหยุดตกฝนก็ไม่หยุดสักทีเลยตัดใจออกไปเลยดีกว่า ตอนแรกจะขึ้นซับเวย์ไปอินซาดงต่อแต่น้องเราบอกว่ามันใกล้นะเดินเอามั้ย พวกเราชอบเดินกันอยู่แล้วเพราะจะได้มองดูวิวรอบๆตัวเลยตัดสินใจเดินกัน ระหว่างเดินฝนก็ตกพรำๆเม็ดใหญ่แต่ก็ไม่แคร์เดินกางร่มกันต่อไปจนถึงอินซาดง คือชอบมากเพราะทุกร้านเค้าเขียนเป็นภาษาเกาหลีหมดเลย

21

ทุกคนต้องกางร่มกันหมดเพราะฝนตกตลอด หลังจากเดินๆเล่นกัน พวกเราก็เริ่มหิวจึงหาร้านอาหารกิน โดยเรากินร้านอาหาร local เจ้าของร้านเป็นคนทำเองเลย แต่มีอปป้าเป็นพนง.เสิร์ฟ555 นี่คือเครื่องเคียง เราชอบกิมจิจานหน้าสุดมากแต่ไม่รู้ว่าคืออะไร

22
เราสั่งเนื้อบุลโกกิ ให้เนื้อเยอะมากกกกินแทบไม่หมด ขนาดเราเป็นคนกินเยอะยังรู้สึกว่าให้เยอะมาก ราคาประมาณ 7,000-8,000 วอน ไม่แน่ใจแต่คือคุ้มมากกก เนื้ออร่อยหวานๆ หลังกิน อาหารเกาหลี มื้อนี้เสร็จพวกเราก็เดินเล่นในอินซาดงกันต่อ

23 24
อันนี้คือขนมตงปัง ตงแปลว่าอึหรืออุนจิ ปังก็คือขนมปัง ก็คล้ายๆบุงงอปังที่เรากินเมื่อวานแต่ว่าแป้งมันจะเหนียวๆกว่า ลุงคนขายบอกว่ามี 2 รส คือถั่วแดงกับช้อคโกแลต เรากินไส้ถั่วแดงอร่อยดีค่ะ 1,000วอน ถ้าช้อคโกแลต 1,500 วอน
หลังจากนั้นพวกเราก็ไปทงแดมุนกันต่อ ฝนก็ยังตกอยู่ค่ะ คือรำคาญฝนเกาหลีมากกกก ตกแบบโอ้ยรำคาญ ตกๆหยุดๆสลับกันไปมาคือน่ารำคาญมาก55555 แถวนี้มีห้างขายเสื้อผ้าเยอะมากอารมณ์แบบแพลทินั่ม แต่เราชอบห้าง DOOTA มาก คือเป็นห้างที่เสื้อผ้าดูไม่โหลมากเท่าร้านอื่นๆ
อันนี้คือตรงที่เค้าจัดงาน seoul fashion week อยากไปช่วงเดือน 3 กับเดือน 10 มาก ที่มีแฟชั่นโชว์มากกกก แต่ช่วงนั้นคือยังไม่ปิดเทอมอยากไปส่องนายแบบ
26 25
อยากไปถ่ายรูปดอกไม้ตอนกลางคืน คือรอจนทุ่มนึงยังไม่มือสักที รอจนขี้เกียจรอเค้าเปิดไฟตรงดอกไม้เลยแบบ เออกลับเถอะกลับๆ555555

DAY 3

วันนี้ตอนเช้าพวกเราไปหมู่บ้านบุกชน (bukchon hanok village) กันค่ะ หลังจากลงซับเวย์มาแล้วก็เดินๆมาแป๊ปนึงค่ะระหว่างทางเดินมีศิลปะให้ดูเยอะแยะ แบบข้างบนตึกก็มีอะไรให้ดูเยอะแยะเลย

2728

อันนี้เหมือนเป็นผู้หญิงวิ่งอยู่บนหลังคา กิ๊บเก๋ยูเรก้ามากก

29 30

อันนี้เป็นระหว่างทางที่เดินๆจะไปหมู่บ้าน bukchon ค่ะ
พอถึงซอยที่มีร้านชูร์โรว์เราก็เดินขึ้นไปเลยค่ะ บันไดจะอยู่ทางด้านขวามือ วันนั้นที่ไปอากาศร้อนแดดจ้ามากค่ะ เดินขึ้นบันไดไปปาดเหงื่อไปค่ะ พอเดินขึ้นไปถึงนี่รีบยกน้ำกินเหมือนไม่เคยได้กินมาก่อน

31
รูปนี้ถ่ายจากด้านบนหมู่บ้านค่ะ ในหมู่บ้านมีร้านให้เช่าชุดฮันบกใส่ด้วยเหมือนจะคิดเงินเป็นรายชั่วโมง

32
ตอนแรกเราคิดว่าหมู่บ้านนี้มีไว้ให้ท่องเที่ยวอย่างเดียวพึ่งรู้ว่าเค้ามีคนอยู่จริงๆค่ะ แอบสงสารคนที่อยู่แบบว่าวันๆมีคนเดินไปเดินมาชมเยอะมากๆๆๆๆๆ 55555
พอเดินลงมาจากหมู่บ้านก็เริ่มหิวแล้วก็ปวดฉี่มากๆๆๆๆเลยค่ะ ที่เกาหลีนี่ห้องน้ำจะมีในซับเวย์แล้วก็ตามร้านอาหาร พอปวดฉี่ทีนี่ต้องรีบไปหาอะไรกินที5555 เราเห็นร้านนี้คนเกาหลีกินเยอะขายซนคัลกุกซู ซึ่งถ้าแปลตรงตัวก็ประมาณว่าก๋วยเตี๋ยวเส้นทำมืออะไรแบบนี้อ่ะค่ะ ร้านนี้ถ้าสั่งเป็นเซตจะได้แฮมเบิร์กเนื้อน้ำหนัก300กรัมด้วย คืออร่อยมากกกก เราชอบที่สุดใน อาหารเกาหลี เลยคัลกุกซูเนี่ย ตอนนั้นครูเกาหลีที่สอนภาษาถามว่าชอบ อาหารเกาหลี อะไรที่สุด เราตอบว่าซนคุลกุกซูครูบอกแปลกมาก555555 คือมันจืดๆดี อาจจะไม่ค่อยถูกปากคนไทย

33

รสชาติคล้ายๆอุด้งค่ะแต่รสชาติอ่อนกว่า ตอนเราไปกินโต๊ะข้างๆเป็นคุณป้าชาวญี่ปุ่นสองคนมาเที่ยวกัน ก็แอบได้ยินคุณป้าเค้าคุยกันว่ารสชาติคล้ายอุด้งค่ะ555555

หลังจากนั้นพวกเราก็เดินกันมาจนถึงวังเคียงบกกุงค่ะ พวกเรากะว่าจะเดินเล่นเฉยๆไม่คิดจะเข้าไปชมวังแล้วเพราะวังก็คล้ายๆกันหมดเก็บไว้กินดีกว่าค่ะ อิอิ แต่ตอนเราไปนั้นเป็นเวลาใกล้บ่ายสองพอดี เค้าจะมีทหารมาเดินให้ชมกันค่ะ โชคดีเวอร์ๆๆๆไม่ต้องจ่ายตังแถมได้ดูฟรีอีก

34 35

ส่วนมากทหารที่เดินจะเป็นหน้าตาเกาหลีออริจินัลค่ะ แต่มีอปป้านางนึงนางคงผ่านการเสกซิลิโคนเข้าจมูกมากแล้วคือหน้าตาแอบดีค่ะ พออปป้าเดินผ่านเรากับน้องจะแบบอู้ยพี่ดั้งเป๊ะมาแล้วๆ5555
36
จะมีเสียงคนสั่งให้ตีกลอง3ทีค่ะ ทหารคนนี้ก็จะตี

37

ข้างหน้าวังจะมีทหารยืนเฝ้ายามอยู่ค่ะ นักท่องเที่ยวแล้วก็เด็กๆที่มาทัศนศึกษาก็เข้าไปถ่ายคู่กับพี่ทหาร
เท่าที่สังเกตคือวังนี้มีเด็กมาทัศนศึกษากันเยอะมากค่ะ เราก็ส่องเด็กๆน่าจะประมาณประถมปลายที่ตลกคือกลุ่มเดียวกันมีเด็กบางคนสูงแบบสูงมากๆเกือบเท่าจขกท.ทั้งๆที่จขกท.ก็เป็นผญสูง555 บางคนก็ตัวเล็กแบบมากๆๆค่ะ เหมือนยังโตไม่เท่ากันตลกดี แต่ที่สังเกตคือเด็กๆผู้ชายดั้งโด่งกันหลายคนมากค่ะ งงมาก555
ที่พวกเราเดินผ่านวังเพราะจะไปคลองชองเกชอน (Cheonggyecheon) กันค่ะ
พอออกจากวังก็ข้ามถนนมาแล้วเดินตรงไปเรื่อยๆ

38

ก็จะผ่านรูปปั้นกษัตริย์เซจง

39

ตอนนั้นที่เราไปเหมือนเค้ามีจัดแสดงรูปถ่ายด้วยค่ะ มีเรื่องเกี่ยวกับสงคราม ข่าวดังๆ จนถึงเกาหลีเหนือค่ะ ภาพไหนที่น่าสนใจมากๆก็จะมีแค่ภาษาเกาหลีบรรยายแบบไม่มีบรรยายอังกฤษอ่ะค่ะ เซ็งมากอ่านไม่ออก5555
ตรงที่มีน้ำพุก็จะมีเด็กๆมาวิ่งเล่นกันค่ะ นึกถึงตอนดูสามแฝดวิ่งเล่นในน้ำพุเลย

40
ตรงนี้จะมีจัดเตนท์ให้ไว้อาลัยแก่ผู้เสียชีวิตตอนเหตุการณ์เรือเซวอนล่มด้วยค่ะ เราแค่เดินผ่านยังรู้สึกขนลุกเลยยืนไว้อาลัยอยู่ข้างหน้าเตนท์ค่ะ ไม่กล้าเข้าไป

41
มีรูปของผู้เสียชีวิตทุกคนแล้วก็บุคคลที่สูญหายค่ะ
หลังจากเดินผ่านเตนท์ตรงนี้ไปเราก็ข้ามถนนไปร้านมินิมาร์ทเพื่อหาน้ำดื่มกันค่ะ

43 44

เราชอบถ่ายเก็บไว้ดูค่ะ ตอนกลางคืนหิวๆก็นั่งซูมดูว่าอยากกินอะไรดี5555555
สรุปเราก็ซื้อน้ำ milkis ค่ะ เพราะชอบกินตอนอยู่ไทย แต่ปกติจะกินรสเมล่อนพอมาเกาหลีเจอแต่รสดั้งเดิมของมัน

45

รสชาติก็คล้ายๆคาร์พิสแลคโตะแบบซ่าอ่ะค่ะ
กรี๊ดดด เราพึ่งเห็นว่าเราไม่ได้ถ่ายรูปคลองมาเลย บ้าจริง

46

มีแต่ถ่ายน้ำมาค่ะTT

47

อันนี้เป็นเด็กๆไปเที่ยวกันค่ะ แต่งตัวเหมือนผู้ใหญ่ย่อส่วน สังเกตได้ว่าเด็กเกาหลีส่วนใหญ่จะใส่แว่นกัน 55555
หลังจากนั้นพวกเราก็ไปย่านอิแทวอนกันค่ะ นั่งซับเวย์เปลี่ยนสายไปมาแต่พอถึงอิแทวอนแล้วเรากับน้องก็งงๆค่ะ มันคืออะไรคือไม่เหมือนเดินอยู่เกาหลีอ่ะค่ะ ฟิลแบบเดินแถวๆประตูน้ำเลยแต่มีคนต่างชาติเยอะมากๆแล้วเรากับน้องก็รู้สึกกลัว 555 จริงๆอยากไปกินไก่ร้านนายแบบซนมินโฮมากกกก แต่หาทางเดินไปไม่เป็นบวกกับไม่รู้จะเดินอะไร น้องเลยบอกว่ากลับกันเถอะ555 แล้วระหว่างทางกลับก็เหมือนมีคนมาดันๆเราก็แบบหันไปแบบคิดในใจดันทำไมยะไรงี้ หันไปเจอเป็นกระเทย กระเทยเกาหลีค่าาา เกิดมาพึ่งเคยเห็นแบบว่าตัวใหญ่กันมากมาเป็นแก๊งเลย แต่งเป็นหญิงด้วย 5555

ด้วยความที่เกสต์เฮ้าส์ที่เราพักติดกับแมคโดนัลล์ เราเห็นไอติมอันนี้แปะอยู่แบบโอ้ยอยากกินมาหลายวัน วันนี้เลยได้ฤกษ์กินเสียที

48

เป็นซอฟต์ครีมวานิลลา เคลือบซอลต์คาราเมล โคนวาฟเฟิล คืออร่อยมากไม่หวานมากราคา 1,500 วอน เองค่า

DAY 4

วันนี้เรามาย่านอีแด (ehwa woman university) หรือย่านมหาวิทยาลัยหญิงอีฮวาค่ะ
ย่านนี้จำได้ว่าของถูก ตอนมาครั้งก่อนนี่ช้อปไม่ลืมหูลืมตาเลยค่ะ ใครชอบช้อปแนะนำให้มาย่านนี้ค่ะเพราะเสื้อผ้าที่เกาหลีแบบเหมือนๆกันหมดค่ะ แค่ราคาต่างกันตามสถานที่เฉยๆอีแดนี่เราว่าถูกค่ะ ใครเจอที่ถูกกว่าอีแดบอกด้วยน้าาา
ระหว่างนั่งซับเวย์มา ด้วยความที่ไม่มีเน็ตใช่มั้ยคะก็จะดูชาวบ้านไปทั่วค่ะ คนเกาหลีเนี่ยเหมือนจะมีคู่รักมากกว่าคนโสดยังไงไม่รู้ 5555 สวีทกันทุกที่มากค่ะ ตอนนั่งในซับเวย์วันนี้มีพี่ทหารน่าจะเป็นทหารที่เข้ากรมแล้ววันนี้วันศุกร์เลยได้กลับบ้านอ่ะค่ะนั่งอยู่ข้างๆคู่รัก แล้วคือคู่รักก็สวีทกันแบบมากๆๆๆจนพี่ทหารเหล่มอง สงสารพี่ทหารคงจะเศร้า55555555
พอค่ะ จบเรื่องเม้ามอยชาวบ้าน

พอถึงอีแด อย่างแรกที่ทำคือหาสตรีทฟู๊ดกินค่ะ!!!!
รอบก่อนมาไม่ได้กินค่ะ คเยรันปังหรือขนมปังไข่ จริงๆเราว่ามันคือเนื้อมัฟฟินหวานๆแหละแล้วก็มีไข่อยู่ข้างในหวานๆเค็มๆ

49

ในโซลมีขายหลายร้านค่ะ แต่เราว่าแถวอีแดขายถูกเลยมาซื้อแถวนี้ค่ะ555 จริงๆแถวมหาลัยจะขายถูกค่ะ

50

ไส้กรอกอันนี้ชอบมากค่ะขาย 3,000 วอน ก็ยอมซื้อ บางอันจะยัดไส้ต๊อกด้วยราดซอสมะเขือเทศกับฮันนี่มัสตาร์ดค่ะ เกือบทุกอย่างของเกาหลีต้องใส่ต๊อกแต่ที่งงสุดคือต๊อกที่ใส่ในขนมปังปิ้งในร้านบิงซูอ่ะค่ะ 555555555555

ไปเดินเล่นมหาลัยอีฮวาค่ะ รอบก่อนเดินนานแล้วรอบนี้เลยขอแป๊ปเดียวพอ ร้อนค่ะ55555

51
เดินเล่นจากอีแดเสร็จเราก็ไปฮงอันต่อค่ะ จริงๆจำได้ว่าฮงแดคืนวันศุกร์นั้นอปป้าแซ่บมาก แต่ตอนเราไปยังบ่ายๆอยู่เลยค่ะแล้วก็ไม่รู้จะไปไหนกันแล้ววันนั้นเรารู้สึกปวดๆหัว5555เลยกลับที่พักเร็วค่ะ เพราะแดดร้อนๆอปป้าหล่อๆก็ไม่มาเดิน555 แต่เดินเล่นไปก็เจออปป้าร้านแว่นที่หล่อตามที่เพจอาจุมม่าบ้าเกาหลีเคยเอาลงในเฟสอ่ะค่ะตัวจริงแบบว่าดีงามมากกกกก แต่ตอนเดินๆอยู่ก็ได้กินสตรีทฟู๊ดอีกอย่างคือ ทัคค๊อพหรือไก่ทอดในถ้วย ร้านนี้จะมี 4 รสให้เลือกคือรสเผ็ด บาร์บีคิว มัสตาร์ด แล้วก็อีกรสจำไม่ได้แล้วค่ะ ราคาถ้วยเล็กถ้วยละ 3,000 วอน

52
53

ในถ้วยจะมีไก่ทอด ต๊อก แฮชบราวน์ค่ะ กินรวมกันแล้วอร่อยมากกก เรากินรสบาร์บีคิวกินไปกินมารู้สึกหวานไป แต่น้องเรากินรสเผ็ดคืออร่อยค่ะ ร้านนี้มีแบบใส่ชีสเพิ่มด้วย คือเพิ่มอีก 500 วอน แต่เราเคยลองใส่ชีสแล้วคือรู้สึกไม่คุ้มเพราะชีสโดนไก่อยู่ประมาณ 2 ชิ้น TT
หลังจากนั้นเราก็กลับเกสต์เฮ้าส์ไปนอนเอาแรงค่ะ พอตื่นมาก็ยังไม่มืดเลย 5555 เลยชวนน้องไปเดินเล่นแถวที่พัก(อีกละ) แต่เป็นอีกฝั่งนึงของที่พัก น้องเจอเกมส์เซนเตอร์เลยเดินเข้าไปดูค่ะ เจอห้องคาราโอเกะแบบหยอดเหรียญมีติดป้ายว่า 2เพลง 500 วอน 4 เพลง 1,000 วอน แหมๆจะไม่ร้องได้ไง เลยจัดไป 2 เพลง เพราะมีเหรียญ 500 วอน เหรียญเดียว 5555 ทั้งร้องทั้งเต้นกันสองคนเหมือนผีบ้าแต่ไม่ค่อยอายเพราะตู้ข้างๆเป็นอปป้ามาคนเดียวร้องเพลงโหยหวนโชว์พลังเสียง ราคาถูกกว่าร้องตู้ที่ไทยแต่แอร์ไม่มีนะคะเปิดพัดลมเอา55555

54
55

เดินเล่นค่ะ มีแต่นักศึกษาเดินไปมา ตอนนี้เค้ากำลังฮิตกินน้ำผลไม้ปั่นแก้วใหญ่ๆ 1 ลิตรกัน เดินถือเต็มเมืองเลยทั้งหญิงชาย555 เดินๆไปก็หาของกินเล่นค่ะ ไม่อยากกินข้าว เพราะถ้ากินข้าวที่เกาหลีจะอิ่มจนไม่สามารถยัดขนมเข้าไปได้ 5555

56

อันนี้ซื้อร้านคุณลุงที่ขายมินิบุงงอปัง หน้าตาลุงน่าสงสารเลยชอบไปอุดหนุน 555 คือเห็นถูกดี 500 วอน แต่แป้งก็กรอบๆบางๆจืดๆไส้ข้างในเป็นน้ำตาล+cinnamon+งา

57

ไอติมแมคค่ะ 500 วอน ชอบแบบโคนวาฟเฟิลเคลือบคาราเมลมากกว่า หวานน้อยกว่าไทยค่ะ

58

เราชอบกินบะหมี่ไก่เผ็ดอันนี้ พอไปมินิมาร์ทเหยมีรสชีสเลยซื้อมาค่ะ แต่ตอนต้มเราเบลอมากดันใส่ผงปรุงลงไปเลยเซ็งมากกกกก 5555 กลายเป็นเผ็ดจืดๆไปเลย

DAY 5

วันนี้ไปย่านกังนัมอัพกูจองค่ะ ลงสถานีอัพกูจองเลย พอถึงแล้วน้องเราติ่งค่ะ เลยไปถ่ายรูปกับหมีที่เป็นวงดนตรี แต่ละวงก็คนละตัววางอยู่เต็มถนนเลยค่ะ เราถ่ายมาตัวนึงเอามาฝากเพื่อนที่ชอบทงบังค่ะ 55555

59
แล้วก็ไปเดินเล่นย่านอับกูจองค่ะ

60

ใครเคยดูรายการthe return of superman คงรู้จักแฝดสองซอออนซอจุนใช่มั้ยคะ เราบังเอิญเจอออมม่าแฝดสองที่นี่ด้วยแหละค่ะ ตัวจริงสวยตัวเล็กขาวมากกกก อยากจะขอไปถ่ายรูปแล้วบอกว่าเป็นแฟนคลับน้องแฝดแต่ก็ไม่กล้าค่ะ555555
วันนี้สงสัยเราไปเช้าไปยังไม่มีอปป้าหล่อมาเดินเลยยยย อากาศก็ร้อนเลยไปนั่งพักหาขนมกินค่ะ ช่วงที่ไปมีพุดดิ้งเมล่อนของ starbucks ออกใหม่ค่ะ อยากลองว่าอร่อยขนาดไหนเลยได้พุดดิ้งอันสุดท้ายมา รีบหยิบเลยกลัวโดนแย่ง5555555555

61

แต่พอกินเข้าไปแล้ว …… ตอนแรกมโนรสชาติว่าต้องเป็นเมล่อนหวานหอม แต่ความจริงแล้วหอมอ่ะใช่แต่มันเป็นเมล่อนเปรี้ยว คืองงมากและเสียดายเงินมากกก555
หลังจากนั้นเราก็เดินต่อไปที่กาโรซูกิลลลลล ช่วงนี้เป็นหน้าร้อนเดินอยู่ก็จะหิวน้ำบังเอิญเดินผ่านร้านน้ำผลไม้คือราคาถูกแค่ 1,500 วอน แต่ไม่มีเมนูภาษาอังกฤษ นี่แหละเราจะได้ใช้ความรู้ที่เรียนมาให้เป็นประโยชน์ 5555 เลยสั่งน้ำสตรอเบอร์รี่กล้วยไปค่ะ ตอนแรกคิดว่าเป็นน้ำปั่นแต่จริงๆเหมือนเค้าเอาแค่ผลไม้ไปปั่นแล้วเท่ใส่น้ำแข็งแต่คืออร่อยมากกกก สตรอเบอร์รี่ยังเป็นชิ้นๆอยู่เลย

62

หลังจากเดินเลียบๆถนนไปพอเจอธนาคารก็ข้ามถนนค่ะ ในซอยนั้นจะมีร้าน LeTao ค่ะ น้องเราอยากกินไอติมเลยแวะซื้อ โดยจะมีสามแบบนี่แหละค่ะ มีสองแบบที่มีชีสแต่อันที่มีชีสอีกอันคือไม่มี เอ่อแล้วพนง.จะพูดให้งงทำมายยยยย 555555

63

ตอนแรกมีความเดินเลยร้าน เพราะป้ายเล็กเกิน

64

อันนี้แบบมีชีส พอชิมแล้วก็บอกได้เลยว่ารสชาติเหมือนซุปข้าวโพดเย็นๆ555555555
เดินต่ออีกหน่อยก็ถึงย่านกาโรซูกิลแล้วค่าาา วันที่ไปเป็นวันเสาร์คนเลยเยอะมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆจนไม่มีมุมให้ถ่ายรูปเลยก็เลยไม่ได้ถ่ายมาเลยค่ะ 55555555 หลังจากนั้นน้องก็บอกเนี่ยไปเดินห้างกัน ก็ไปที่ห้าง coex mall ค่ะ เดินๆไปอ้าวมีร้าน kakao friends ด้วย ไอเราก็ชอบ kakao อยู่แล้วเลยเข้าไปดู ก็ได้ขนมอันนี้มาค่ะ

65

เราชอบตัวพีชอยู่แล้ว ขนมเป็นชีสคุ้กกี้ค่ะ แต่รสชาติคือช้อตเบรด อร่อยเกินราคา 1,000 วอนค่ะ
หลังจากนั้นพวกเราก็เดินเล่นกันจนเจอยามค่ะ ยามหล่อมากค่ะะะ จนเรากับน้องนั่งมองพี่ยามคือแบบว่ามีเด็กผู้หญิงมาถามเยอะมาก บางคนก็มาเป็นกลุ่มๆแล้วพอมีคนนึงถามคนที่เหลือก็มองหน้ากันแล้วทำเขิน

66
แอบถ่ายพี่ยามมาค่ะ 55 ตอนแรกกะจะทำหลงไปถามทางแต่เหมือนนั่งมองพี่ยามมากไปจนพี่ยามคงรู้ตัวเค้ามองมาบ่อยมากเลยเลิกมองค่ะ 55555

หลังจากส่องพี่ยามเสร็จก็เดินๆในห้าง แล้วเห็นเด็กผู้หญิงวิ่งกันค่ะ ไอเราก็คิดว่าดารามาแน่ๆเลยเดินตามไป คือเหมือนมีงานตรงหน้าโรงหนัง เห็นเด็กผู้ชายมีกล้องที่แบบเลนส์ใหญ่มาก เราอยากรู้ว่าใครมา ถ้าดังจะได้อยู่ส่องเลยไปถามเด็กผู้ชายแฟนคลับ 555 สรุปคือเป็นนักร้องผู้หญิงวงอะไรไม่รู้ไม่รู้จัก เพราะน้องเค้าเปิดรูปให้ดู 555555
หลังจากนั้นก็คุยกับน้องกันว่าหิวละอยากกินไก่ทอดแต่ก็อยากไปฮงแดสรุปคือไปฮงแดแบบงงๆ ละคือจากกังนัมไปฮงแดก็ไกลอยู่แต่ก็สู้เพื่อไก่ทอด 5555555 ก็หากันว่าจะไปกินร้านไหนดี จนเจอรีวิว http://seoulcafe2013.blogspot.com/2014/07/blog-post.html

ร้านที่เราไปชื่อร้าน NOO NAA HOL DAK

67

ไก่ทอดดดด เราสั่งแบบฮาฟๆสไปซี่ คืออันเผ็ดคือเผ็ดจริงๆเผ็ดร้อนมากกก

68

เฟรนฟรายกรอบๆดีค่ะ

69

อันนี้เป็นเครื่องเคียงกับซอสค่ะ เราไม่ค่อยได้จิ้มเพราะไก่ก็อร่อยอยู่แล้ว
มาเกาหลีก็ต้องกินชีแม๊กใช่มั้ยละค่ะ ชีแม๊กก็คือ ชีกิ้น(ชิคเก้น)+แม๊กจู(เบียร์) น้องเราสั่งเบียร์แก้วเล็กสุดมาค่ะ พอเค้ามาเสิร์ฟแอบตกใจว่าทำไมแก้วใหญ่จัง น่าจะประมาณเบียร์กระป๋องใหญ่ได้เลยล่ะค่ะ เห็นคนโต๊ะข้างๆสั่งมาเป็นเหยือกแล้วตกใจยิ่งกว่าเพราะเหยือกใหญ่มากกกก แค่เห็นก็ตกใจแล้ว 555555
หลังจากกินไก่ไปครึ่งตัวก็ได้เวลาไปส่องอปป้าหล่อๆค่ะ คืองานดีมากจริงๆแค่ส่องป้าก็มีความสุข เย็นนี้จะมีคนมาเต้นโคฟเวอร์ ร้องแรฟ เล่นดนตรีสดเยอะแยะเลยค่ะ แต่เราไปดูวงนึงเป็นวงเต้นโคฟเวอร์คือมีน้องคนนึงหน้าตาดีมากจริงๆ5555 ชื่อวงDOB น้องที่ชื่อดงฮันคือหล่อมาก5555

70

ละคราวนี้พอดูจบแฟนคลับก็ไปถ่ายรูปกัน คือแฟนคลับแบบเยอะมากกกกกกก แต่ตอนแราถ่ายคนไม่ค่อยมีแล้ว แล้วตอนน้องเอามือถือเราไปก็มีรถมาพอดีน้องเค้าก็บอกแฟนคลับแบบทุกคนระวังนะครับแล้วมีความมาโอบเอวเรา คือแบบโฮ้ยยเขินนนแต่ตอนนั้นพุงกลมมากเพราะพึ่งกินไก่ทอดหมดไปครึ่งตัวไงรู้สึกเซ็งมากเห้อ 5555555555555

71
มีความฟิน แม้ไฟจะตกไม่ถึงหน้าเราก็ตาม TT
หลังจากติ่งคนหล่อเสร็จเราก็ไปเดินเล่น แต่ไม่ซื้อเสื้อผ้าที่ฮงแดนะคือมันแพงกว่าที่อื่น 555555 แม้ว่าจะแบบเดียวกันก็ตาม มาฮงแดคือมาหาของกินกับส่องอปป้าหล่อๆ จริงๆอยากจะลองไปผับเกาหลีมากแต่สภาพร่างกายตัวเองไม่เอื้ออำนวย55555555

DAY 6

วันนี้ล่ะค่ะจะไปจังหวัด chuncheon กัน! ด้วยความที่เรากับน้องเป็นสายชิลล์เลยตื่นกี่โมงกันก็ตื่นค่ะ สรุปได้ออกจากที่พักประมาณเที่ยง ยังมีอารมณ์นั่งกินข้าวร้านแถวที่พักอีก 555 เหมือนเป็นร้านเฟรนชายน์อ่ะค่ะ แต่อร่อยให้เยอะ

72

ร้านนี้ไม่มีเมนูภาษาอังกฤษอีกแล้วค่ะ เราสั่งคิมบับทูน่ามายองเนสค่ะ คืออร่อยมากกกกก

73

น้องเราสั่งมาม่าค่ะ แต่อร่อยมาก
ร้านนี้มีกิมจิให้ตักเองกับมีน้ำซุปให้กดเองค่ะ น้ำซุปอร่อยมากๆๆๆๆ
แอบซื้อขนมปังไส้ครีมถั่วแดงของร้าน paris baquetteเก็บไว้ในกระเป๋าค่ะ

74
ข้างในเป็นไส้ถั่วแดงกับครีม ครีมเหมือนครีมที่อยู่ในโดนัทเลยค่ะ
ทางไป chuncheon นะคะ

1.จากที่พักเราสถานี hyehwa สายสีฟ้า เรานั่งไปลงสถานี dongdaemun เพื่อเปลี่ยนเป็นสายสีน้ำเงิน
2. หลังจากนั้นนั่งรถไฟสายสีน้ำเงินไปถึงสถานี Hoegi แล้วเปลี่ยนสายเป็นสีเขียวมิ้นเข้ม
3.นั่งไปจนสุดสาย สถานี chuncheon

ตอนแรกที่ดูในแอพ seoul subway พวกเราคิดว่าแป๊ปๆจะถึง เอาเข้าจริงเกือบ 3 ชั่วโมงค่ะ เราไปถึงเกือบ4โมงเย็น
ตอนที่ขึ้นรถไฟไปชุนชนเนี่ยมีแม่ค้าเข้ามาขายของในรถไฟด้วยค่ะ ตอนแรกตกใจมากเลยคือกำลังจะหลับก็มีเสียงคนพูดขึ้นประมาณว่าถุงเท้านี้ใส่ดีมาก ใส่ออกกำลังกายก็ได้พร้อมยืดๆให้ดู แล้วมีหลายอย่างมากถุงมือ หมวก555 แต่ก็มีคนซื้อนะคะ

75

ระหว่างทางก็ดูวิวไป สวยๆทั้งนั้นเลยจะเห็นมีคุณลุงคุณป้าใส่ชุดปีนเขา บางคนก็แบกจักรยานมา คงไปออกกำลังกายกันแน่ๆเลย
หลังจากนั้นปวดตูดเกือบสองชั่วโมงในรถไฟต่อสุดท้าย ในที่สุดเราก็ถึงชุนชนนนนนน เย่

76

แดดจ้ามาก ขนาด 4 โมงเย็น ตรงไปร้านข้างหน้าจะมีร้านเช่าจักรยานให้ขี่ริมน้ำค่ะ

78 77

หลังออกจากสถานีมาก็ข้ามถนนมาป้ายรถบัสค่ะ เพื่อรอรถบัสไป soyang dam เป็นทะเลสาบค่ะ

79

รถบัสที่ชุนชนจะไม่มีประกาศเป็นภาษาอังกฤษนะคะ ประกาศแต่ภาษาเกาหลี ตัวหนังสือที่วิ่งๆก็เป็นภาษาเกาหลีค่ะ ใครจะมาก็ฟังดีๆนะคะ แต่ soyang dam นี่สุดสายอยู่แล้วค่ะเลยไม่ต้องกังวล
รถบัสที่นี่ขับซิ่งกว่าในโซลอีกค่ะ ขนาดขับขึ้นเขาเลี้ยวไปเลี้ยวมายังขับประมาณ 80กม/ชม. ไม่กี่นาทีก็ถึงทะเลสาบแล้วค่าาา พอเห็นนี่เราคิดว่าสวยมากเลยค่ะ คุ้มที่นั่งมาไกล
80 81

เค้ามีบริการนั่งเรือชมด้วยค่ะ ส่วนมากคนมาเที่ยวจะเป็นคนเกาหลี ที่ไปนี่ไม่เห็นชาวต่างชาติสักคนเลยค่ะ คนที่นี่เลยไม่ค่อยพูดภาษาอังกฤษกันค่ะ

หลังจากที่พวกเราชมวิวเสร็จแล้วเราก็นั่งรสบัสออกมา เราก็จะไปหาอะไรกินกันนนน เราจะไปกินทัคคาลบี้อี้อี้อี้อี้อี้ เพราะว่าจังหวัดนี้เป็นบ้านเกิดของทัคคาลบี้ นี่ก็ไม่เคยกินทัคคาลบี้ที่ไทยเลยเพราะน้องบอกว่าที่ไทยไม่ค่อยเวิร์คเลยลองมากินที่นี่ทีเดียว พอเราลงรถบัสเดินเข้าไปนิดหน่อยจะเห็นเป็นทัคคาลบี้สตรีทเลยทั้งซอยมีแต่ร้านทัคคาลบี้ จะมีอาจุมม่าคอยมาชะเง้อเรียก แต่พวกเราดันเข้าร้านที่ไม่มีคนมาเรียก 55555

82

มีหลายร้านมากๆๆๆ
เราเข้าร้านที่ชื่อ 명문 닭갈비 (มยองมุน ทัคคาลบี้)

83

มา2 คนก็สั่งแบบ 2 ที่ค่ะ ที่นึงแบบธรรมดา อีกที่เพิ่มชีส แต่ชีสนี่มาแบบจานเท่าจานข้าวเลยอ่ะค่ะตกใจมาก กะทะก็ใหญ่มาก

84

เค้าจะมีพนง.มาคอยผัดให้ค่ะ นี่ค่ะสุกแว้ววว เค้าก็จะถามเราว่าใส่ชีสเลยรึเปล่า เราก็ใส่เลยค่าาา555

85

พอใส่ชีสแล้วเค้าก็จะปิดฝาไว้ สักพักก็ยืดดดดด
คืออิ่มมากๆๆๆ ในกะทะมีมันหวานกับต๊อกด้วยกินด้วยกันแล้วอร่อยมากๆๆ กินกันเกือบไม่หมดแต่ก็หมด ตอนแรกกะจะไปปั่นจักรยานต่อแต่เริ่มเย็นแล้วกลัวไม่ทันรถไฟแล้วก็อิ่มมากคือถ้าปั่นคือคงอ้วกอยู่ตรงนั้นเลยตัดสินใจไปเดินเล่น ในตัวจังหวัดก็มีร้านค้าร้านเครื่องสำอางค์เหมือนในโซลเลย แต่คนเค้าจะฮิตใส่เสื้อลายทางใหญ่ๆกัน เรากับน้องก็เรียกว่าเสื้อผึ้ง คือเห็นใครใส่ก็จะแบบผึ้งมาๆ คือวันนั้นเจอผึ้งเกือบยี่สิบตัว 55555

86
เดินแล้วก็ซื้อน้ำปั่นกิน ร้านนี้มีทั่วเกาหลีเลยค่ะให้เยอะแก้วใหญ่ อันนี้น้ำสตรอเบอร์รี่กล้วยปั่น
อันนี้ไอซ์ซึโดนัทค่ะ ตอนแรกพูดไอซ์โดนัท พนง.มีความงงส่งสายตาเควชั่นมาส์กมาใส่ค่ะ5555 เป็นของคริสปี้ครีม

87

ตอนนั่งในร้านมีคู่รักเข้ามาค่ะ ผู้หญิงก็นั่งเฉยๆตามประสาผู้หญิงเกาหลีแล้วผู้ชายก็เดินไปซื้อออกให้เอามาเสิร์ฟถึงโต๊ะเลย แล้วประเด็นคือซื้อ 6 ชิ้น 55555555 คือแบบโอ้ยอปป้าทุ่มมากค่ะ

หลังจากกินเสร็จก็ประมาณทุ่มกว่าแต่ยังไม่มืด พวกเรานั่งรอรถเมล์กันค่ะ ตอนแรกไปป้ายตรงข้ามที่ลงแต่ดันไม่มีสายไหนที่ไปสถานีรถไฟเลย เลยข้ามมาอีกฝั่งนั่งรถสายที่บอกว่าจะไปสถานีค่ะ แต่พอขึ้นแล้วรถเมล์ขับไปไหนไม่รู้แล้วด้วยความที่ตอนนั้นสองทุ่มนิดๆแล้ว พวกเราก็งงมากเพราะเน็ตก็ไม่มีถามใครก็ไม่ได้ จนคนลงหมดรถค่ะ นี่น้ำตาเกือบไหลเลยเดินถามคุณลุงคนขับว่าคันนี้ไป ชุนชนยอคมั้ย คือถามว่าไปสถานีชุนชนมั้ยแต่ถามภาษาอังกฤษ แต่ลุงตอบเกาหลีมารัวเลยค่ะ ละนี่งงมากแบบโอ้ยยข่อยอยู่ไสของโลกใบนี้ ก็หายใจเข้าลึกๆแล้วก็ตั้งใจฟังที่ลุงพูด เอาความรู้ที่เรียนมาใช้ให้เป็นประโยชน์55555

สรุปคือลุงบอกว่าให้ข้ามไปฝั่งตรงข้าม แล้วลุงก็บอกสายรถที่ไปสถานีมา แบบบอกมาทุกสาย แล้วคือลุงใจดีมากๆไม่คิดตังค์เราคือให้เราติ๊ดบัตร T-money ตรงทางขึ้นแล้วคือมันจะไม่คิดตัง เลยพูดขอบคุณคุณลุงแบบดังมาก5555 แล้วคือรีบเดินไปป้ายรถเมล์อีกฝั่ง มืดก็มืดยังกะในหนังละคือต่างจังหวัดสองทุ่มก็เงียบหมดแล้ว พอเจอรถสายที่ลุงบอกว่าไปก็รีบขึ้นแล้วถามคนขับเลยว่าไปชุนชนยอคใช่มั้ย พอเค้าพยักหน้านี่โล่งเลย555

สรุปคือถ้าจะขึ้นไปสถานี ต้องเดินย้อนออกมาตรงทางแยกอีกแยกนึงถึงขึ้นรถบัสไปได้ ละคือใครจะไปรู้คือบ้านเรานั่งฝั่งตรงข้ามคือนั่งกลับ55555 ตั้งแต่แบ๊คแพ๊คกันมานี่เป็นครั้งแรกที่หลงทาง 55555 พอถึงสถานีคือรีบเดินตูดบิดขึ้นรถไฟเลยกลัวไม่ทันมาก สรุปคือถึงที่พักห้าทุ่มกว่า เกือบไม่ทันรถไฟแล้ววววว คือเป็นวันที่ตื่นเต้นแต่ก็ได้ประสบการณ์มากๆ55555

88

นี่คือความมืดของเมืองเมื่อมองออกไปจากสถานีรถไฟ

DAY 7

วันนี้เราจะเช็คเอาท์จากที่พักเก่าค่ะเพื่อไปนอนอีกที่นึงที่ฮงแดคือรวมมากับค่าเครื่องบิน เราเลยฝากกระเป๋าไว้แล้วจะไปกินซี่โครงฟันชีส น้องเราบอกว่ามีร้านอยู่แถวที่พัก ร้านติดป้ายว่าเปืด11โมง ตอนนั้น10.45พวกเราเลยเดินเล่นรอค่ะ พอ11โมงปุ๊ปพวกเราก็เข้าร้านเลยเป็นลูกค้ารายแรกเลยทีเดียว 555555 ร้านนี้ชื่อว่า james cheese back rib คือมีหลายสาขามาก อยู่ใกล้ที่ไหนไปที่นั่นโลดดดด

89
90

สั่ง 2 ความเผ็ดระดับ1 ถามว่าเผ็ดมั้ยคือไม่ได้รสชาติเผ็ดเลย5555

91

อันนี้พนง.มาพันให้ค่ะ เอาจริงๆคือเรากินแล้วไม่อิ่มเลย5555ฮือออ
หลังจากนั้นเราก็แบกกระเป๋าไปฮงอันต่อ ตอนกลับลำบากกว่าเดิมคือสะพายเป้ใบใหญ่พร้อมลากกระเป๋าลาก เหนื่อยมากตอนแบกขึ้นบันไดซับเวย์ บันไดก็ยาวสูงมาก

หลังจากเช็คอินเข้าที่พักใหม่พวกเราก็เดินเล่นฮงแด 5555 ไปดูเสื้อผ้าเครื่องสำอางค์(อีกละ) พร้อมไปส่องอปป้าร้านแว่นอีกรอบ วันนี้ไปอปป้าพูดยินดีต้อนรับพร้อมสบตา1วิ โอ้ยหล่อๆๆ 5555 แล้วเราก็ไปกินบิงซูกัน ตอนแรกคุยกันซะดิบดีว่าจะกินบิงซูเมล่อนกันแต่งงมากว่าทำไมพอเข้าร้านแล้วกลายเป็นสั่งเบอรี่บิงซูได้

92

ฮงแดตอนกลางวันก็ไม่ค่อยมีคนตามเคย 555 แต่ยังมีคนมาเล่นดนตรีแม้แดดจะร้อนจัด

93

คนเล่นกีต้าร์แอบน่ารักเลยแอบถ่ายมาอิอิอิอิ

เดินฮงแดจนแดดเริ่มร่ม ก็ถึงเวลาที่เราจะไปปิคนิคกันนนนนน
รอบก่อนที่มาเกาหลีเราก็ไปชมแม่น้ำฮันมาแล้วตรงสะพานบันโพ รอบนี้เลยลองมาที่สวนยออิโดนารุ (yoeidonaru) คือใกล้ฮงแดมากๆขึ้นมาประมาณ 2 สถานีเอง คือจริงๆเรามีแผนจะมาตั้งแต่แรกแล้วคือกะจะเตรียมเสื่อมานั่งแต่คือลืม ลืมสนิท555จริงๆในสวนมีให้เช่าเสื่อด้วยนะแต่น้องเราเป็นสายงกมันบอกนั่งพื้นนี่แหละ เราก็เออเอาวะ แต่คือพอเข้าไปในสวนจะมีป้าๆมาแจกใบปลิวร้านไก่ร้านพิซซ่ามาแจกกันทีนี่ รู้สึกเราป๊อปปูล่ามาก รุมแจกกันแบบ 55555

94
คือคนเกาหลีเค้านิยมกินไก่ทอดไม่ก็พิซซ่าเวลามาปิคนิคแบบนี้ พอได้ใบปลิวมาเค้าก็จะโทรสั่งกันเลย ตอนแรกไอเราก็คิดนะว่าอย่างเราจะสั่งไงแต่นั่งๆไปก็เห็นถ้ามีคนเอาไก่มาส่งเราก็สั่งกับคนมาส่งก็ได้ 555 แต่คือตอนนั้นไม่หิวเลยไม่สั่ง แถมเอาใบปลิวมารองตูดอีก 5555

95 96 97

พอเริ่มเย็นก็ลองขยับไปนั่งแกว่งขาริมน้ำ บางคนมากับแฟนก็สวีทหนุงหนิงมากกก บางคนมาคนเดียวก็นั่งจิบเบียร์คนเดียว มีหลายอารมณ์มากๆ

พอเริ่มมืดเราก็กลับไปฮงอันอีกครั้งเพื่อไปหาของกิน รอบนี้กินอาหารจีนชื่อร้านฮ่องกงๆอะไรซักอย่าง

98

จัมปง รสชาติเหมือนก๋วยเตี๋ยวใส่น้ำมันงาเผ็ดๆ

99

จาจังมยอน ให้เยอะมากๆๆๆๆๆๆแล้วราคาถูกมากกก อยากกินของถูกและเยอะให้มาร้านอาหารจีน

100

อันนี้ทังซูยุกหรือหมูเปรี้ยวหวาน กินกับจาจังมยอนอร่อยมากๆ

DAY 8

ไฟล์ทบินกลับไทยเราเป็นไฟล์ทเช้า เลยต้องตื่นเช้ามากเลยค่ะ ตอนแรกเราตั้งนาฬิกาปลุกตอนหกโมงแต่ตื่นมาท้องฟ้าสว่างจ้ามากก็ตกใจคิดว่านาฬิกาไม่ปลุก เลยรีบดูนาฬิกา สรุปคือพึ่งตี 5 แต่คือฟ้าสว่างเหมือน 7 โมง
พอถึงสนามบินเช็คอินฝากกระเป๋าเสร็จแล้วก็ไปหาอะไรกิน

101

เลยเข้าร้านเบอร์เกอร์ LOTTERIA ซื้อชุดเบอร์เกอร์กุ้ง

102103 มาเกาหลีรอบนี้ก็สนุกมาก มารอบต่อไปจะลองไปจังหวัดอื่นๆดู แต่แบบว่าคู๋รักเกาหลีเยอะมากจริงๆแล้วเค้ากอดจูบกันโจ่งแจ้งมากไม่เหมือนบ้านเรา แต่เจอหลายคู่มากที่ผู้ชายก้มลงไปผูกเชือกรองเท้าให้ผู้หญิงคือแบบเห้ย แกทำตามซีรีย์กันแน่ๆเบยยย แต่ที่ชอบคือชอบคู่รักคู่นึงผู้ชายเป็นทหารน่าจะไปเข้ากรม คือผู้ชายเข้าติ๊ดบัตรเข้าไปจะขึ้นซับเวย์แล้วนะแต่ไม่ยอมไป ยังยืนบ๊ายบายแฟนพร้อมทำหน้าเศร้า 5555 แบบลุงป้าที่เป็นแฟนกันก็เดินจับมือกัน มาขี่จักรยานกันคือเห็นแล้วน่ารักมากกกก แต่คือเค้ากอดจูบกันบ่อยมากตอนเห็นแรกๆก็ตกใจแต่อยู่ไปนานๆก็ชิน555

แต่คือตลกตอนคนเกาหลีขึ้นรถไฟ คือพอรถไฟจะมาทุกคนจะเข้าไปยืนติดประตู แบบกลัวไม่ได้เข้ามาก ละคือพอประตูเปิดก็ไม่มีการรอให้คนออกมาก่อนนะคือเดินบุกไปเลย คือกลัวไม่ได้เข้ากันหรอ
แต่รวมๆคือสนุกดีชอบๆๆ ถ้ามีโอกาสอยาก มาเกาหลี ช่วงเดือน 3 หรือเดือน 10 บ้าง กำลังสวยเลยยยยยย

ขอบคุณรีวิวน่ารักๆจาก Guest สุดพิเศษ ที่มามอบประสบการณ์จัดเต็มแบบนี้ รับเสียงปรบมือจากเราไปเล้ย แปะๆๆ !!
ระดับความน่าไป : ✩✩✩✩✩
พูดคุยกับ Guest ได้ที่ : FB/iameatmonster


บทความแนะนำ ที่เกี่ยวข้อง

15-03-17_Flower-Festival-Korea
9 เทศกาลชม ดอกไม้บาน เกาหลี ปี2017
12-03-17_คน-ไทย-เกาหลี
คนไทย เกาหลี กับ 6 เหตุผลที่มัดใจ ให้ต้องไปสักครั้งในชีวิต

ชอบ บทความ มัชรูมทราเวล ทำไงดี…?
1.กดแชร์ต่อ ให้เพื่อนอ่านบ้าง
2. คลิก Like และ ติดตามเราได้ที่ Facebook www.facebook.com/mushroomtravel/

—————

Mushroom Travel มีโปรแกรม ทัวร์เกาหลี ให้เลือกมากที่สุด
โทร. 02-105-6234 (30 คู่สาย)
[email protected]
Line id : @mushroomtravel