ประเทศอียิปต์ ตั้งอยู่ตอนเหนือสุดทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือของทวีปแอฟริกา เป็นดินแดนแห่งประวัติศาสตร์และอารยธรรมโบราณที่สั่งสมมานานกว่า 5,000 ปี บ้านเมืองอาจจะไม่ได้หรูหราเต็มไปด้วยตึกสูงระฟ้า แต่มีเสน่ห์ของความเป็นเมืองเก่าที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมสวยๆ และสิ่งมหัศจรรย์ระดับโลกมากมาย จนอดทึ่งไม่ได้เลยว่าคนสมัยก่อนเขาสร้างได้ยังไง ทั้งพีระมิด สุสานฟาโรห์ วิหารสุดอลังการ เหมือนได้ย้อนเวลากลับไปผจญภัยในยุคฟาโรห์เลยค่ะ เป็นประสบการณ์ที่บอกเลยว่าหาที่ไหนไม่ได้ ต้องไป เที่ยวอียิปต์ เท่านั้น !
แต่ก่อนไปอย่าลืมเช็กสภาพอากาศกันด้วยนะคะ สภาพอากาศในอียิปต์แบ่งเป็น 4 ฤดู คือ
– ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม-พฤษภาคม) อุณหภูมิประมาณ 15 – 32 องศาเซลเซียส อากาศไม่ร้อนไม่หนาว แต่อาจมีลมแรง
– ฤดูร้อน (มิถุนายน – สิงหาคม) อุณหภูมิประมาณ 21 – 43 องศาเซลเซียส อากาศร้อนและแห้งแล้ง เดือนกรกฎาคมถึงเดือนสิงหาคมเป็นช่วงที่ร้อนที่สุด
– ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน – พฤศจิกายน) อุณหภูมิประมาณ 19 – 34 องศาเซลเซียส อากาศเย็นสบาย นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมาเที่ยวในช่วงนี้
– ฤดูหนาว (ธันวาคม – กุมภาพันธ์) อุณหภูมิประมาณ 8 – 20 องศาเซลเซียส อากาศอบอุ่น บริเวณชายฝั่งมีฝนตกเล็กน้อย ตอนกลางคืนอากาศจะเย็นกว่ากลางวัน บริเวณทะเลทรายอุณหภูมิลดได้ต่ำที่สุดถึง 0 องศาเซลเซียส
ช่วงที่เหมาะกับการ เที่ยวอียิปต์ อยู่ช่วงประมาณ เดือนตุลาคม – เมษายน อากาศสบายๆ กำลังดี สามารถเที่ยวชมสถานที่ต่างๆ และบรรยากาศในเมืองได้แบบเพลินๆ
มาเก็บข้อมูล 17 สถานที่ เที่ยวอียิปต์ ที่พี่เห็ดคัดมาให้ เปิดประสบการณ์ใหม่แบบไม่ซ้ำใคร มีที่ไหนน่าเที่ยวบ้าง ตามไปดูกันเลยยย
1. มหาสุสานกีซ่า (Giza Necropolis)
เริ่มต้นด้วย ที่เที่ยว อียิปต์ ที่ห้ามพลาดเด็ดขาด นั่นก็คือ มหาสุสานกีซ่า ที่มีพีระมิดกิซ่า 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณอยู่ภายใน แม้ที่อียิปต์จะมีพีระมิดหลายแห่ง แต่ที่เมืองกิซ่าถือเป็นพีระมิดที่ยิ่งใหญ่ที่สุด สร้างขึ้นเมื่อประมาณ 4,500 ปีก่อน ในสมัยฟาโรห์คูฟู (Khufu) แห่งราชวงศ์ที่ 4 ซึ่งปกครองอียิปต์โบราณ ใช้เป็นที่เก็บพระศพ ความมหัศจรรย์ของสถานที่แห่งนี้คือ ในยุคที่ไม่มีเทคโนโลยี ใช้เพียงแรงงานคนเท่านั้นในการก่อสร้างสิ่งที่ใหญ่โตขนาดนี้
ฐานของพีระมิดตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 13 เอเคอร์ หรือประมาณพื้นที่สนามฟุตบอล 7.3 สนาม ตัวพีระมิดมีปริมาตรกว่า 8.3 ล้านลูกบาศก์เมตร เทียบได้กับตึกเอ็มไพร์สเตท 30 ตึก อีกทั้งยังมีความสูง 138 เมตร หรือเทียบได้กับตึกสูง 48 ชั้นในปัจจุบัน สร้างโดยการใช้หินหนักเฉลี่ยก้อนละ 2.5 ตัน มากกว่า 2,300,000 ก้อน รวมน้ำหนักกว่า 6 ล้านตัน นอกจากนี้ภายในมหาสุสานกิซ่ายังมีพีระมิดฟาโรห์คาเฟร์ (Khafre) ที่ใกล้กันมีสฟิงซ์ รูปแกะสลักจากหินปูนเพียงก้อนเดียวที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในอียิปต์ และพีระมิดฟาโรห์เมนคูเร (Menkaure) อยู่ไม่ไกลกัน มาที่นี่ยังสามารถขี่อูฐชมความสวยงามและความยิ่งใหญ่ของที่นี่ได้อีกด้วย บอกเลยว่าเป็นประสบการณ์ที่คุณจะต้องจดจำไปตลอดชีวิตอย่างแน่นอน
เวลาเปิด-ปิด : 06.00 – 16.00 น.
ค่าเข้าชม : เช็คได้ที่ https://www.pyramid-of-giza.com/
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/M1vfUhuDqUE53C2H9
2. พิพิธภัณฑ์อารยธรรมอียิปต์แห่งชาติ (National Museum of Egyptian Civilization : NMEC)
ไปเช็คอิน ที่เที่ยวอียิปต์ ต่อกันที่ พิพิธภัณฑ์อารยธรรมอียิปต์แห่งชาติ ตั้งอยู่ในกรุงไคโร เป็นสถานที่เก็บรวบรวมวัตถุโบราณตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์จนถึงปัจจุบัน รวมกว่า 50,000 ชิ้น ไฮไลต์คือมัมมี่ของราชวงศ์ 22 องค์ ที่ถูกย้ายจากพิพิธภัณฑ์อียิปต์ (The Egyptian Museum) ในจัตุรัสทาห์รีร์ มาจัดแสดงไว้ที่นี่ และนิทรรศการสุดล้ำที่จะเปิดเผยความลับ พิธีกรรม เครื่องมือ และความเชื่อทางศาสนาที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังการทำมัมมี่ ใครเป็นสายประวัติศาสตร์ถูกใจแน่นอน
เวลาเปิด-ปิด : จันทร์ – พฤหัสบดี เวลา 09.00 – 17.00 น. / ศุกร์ เวลา 09.00 – 17.00 น. และ 18.00 – 21.00 น.
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 500 EGP / เด็ก 250 EGP (อายุต่ำกว่า 6 ขวบ เข้าฟรี)
เว็บไซต์ : https://nmec.gov.eg/
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/1waySagNoQFod5wD8
3. ป้อมปราการซิทาเดล (Citadel of Saladin)
ป้อมปราการซิทาเดล หรือที่คนอียิปต์เรียกกันว่า ป้อมปราการซอลาฮุดดีน ตั้งอยู่บนเนินเขาในกรุงไคโร สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1176 โดย “เศาะลาฮุดดีน” สุลต่านแห่งอียิปต์ ผู้กอบกู้กรุงเยรูซาเล็มในสงครามครูเสด และนำชิ้นส่วนของพีระมิดแห่งกิซ่า ซากมัสยิด และหินอื่นๆ ที่กู้มาได้ มาใช้ในการก่อสร้าง บริเวณนี้ถือเป็นยุทธศาสตร์ที่ดีมาก เพราะมองเห็นกรุงไคโรได้ทั้งเมือง จึงยากที่ศัตรูจะโจมตี หากมาชมวิวในวันที่อากาศแจ่มใส จะมองเห็นพีระมิดแห่งกิซ่าได้ด้วย
เวลาเปิด-ปิด : 08.00 – 17.00 น.
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 450 EGP / นักเรียน 230 EGP
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/33cnTNxSjDmyYzFz6
4. มัสยิด โมฮัมหมัด อาลี ปาชา (Mosque of Muhammad Ali Pasha)
มัสยิด โมฮัมหมัด อาลี ปาชา ตั้งตระหง่านอยู่บนป้อมปราการซิทาเดล ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1830 โดย “มูฮัมหมัด อาลี ปาชา” ผู้ที่ปกครองอียิปต์มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1805 – 1848 และได้ชื่อว่าเป็นผู้นำพาอียิปต์ไปสู่ความทันสมัย สถาปัตยกรรมเป็นแบบตุรกี มีโดมใหญ่ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 21 เมตรอยู่ตรงกลาง รายล้อมด้วยโดมเล็กที่ลดหลั่นลงมาเป็นชั้นๆ ขนาบข้างด้วยหอคอยสูงสุเหร่าคู่สูง 84 เมตร ซึ่งถือว่าสูงที่สุดในอียิปต์
เวลาเปิด-ปิด : 08.00 – 17.00 น.
ค่าเข้าชม : ค่าตั๋วรวมอยู่ในค่าเข้าชมป้อมซิทาเดล (ผู้ใหญ่ 450 EGP / นักเรียน 230 EGP)
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/qSgYKa8iY4BbHRL27
5. สุสานแห่งอเล็กซานเดรีย (Catacombs Of Alexandria)
เที่ยวอียิปต์ กันต่อเลยที่ สุสานแห่งอเล็กซานเดรีย 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์แห่งโลกยุคกลาง เป็นสถานที่ฝังศพของกษัตริย์อียิปต์โบราณ ตั้งอยู่บนเขา El-Shoqafa มีลักษณะเป็นอุโมงค์ใต้ดินขนาด 3 ชั้น ภายในมีทางเดินยาวหลายกิโลเมตร วนเวียนซับซ้อนเหมือนเขาวงกต บนผนังแกะสลักเป็นภาพนูนต่ำรูปต่างๆ ปัจจุบันเปิดให้เข้าชมแค่ ชั้น 1 และ 2 ส่วนชั้น 3 ซึ่งเป็นระดับพื้นดินถูกน้ำท่วมไปแล้ว ทำให้ไม่สามารถเข้าถึงได้
เวลาเปิด-ปิด : 09.00 – 16.00 น.
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/eHUMqiJqDhm3LKem6
6. ห้องสมุดแห่งอเล็กซานเดรีย (Bibliotheca Alexandrina)
ถึงจะไม่ใช่หนอนหนังสือ แต่ถ้ามา เที่ยวอียิปต์ ก็อยากให้แวะมาชมความยิ่งใหญ่ของ ห้องสมุดแห่งอเล็กซานเดรีย กันนะคะ เพราะที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นห้องสมุดที่ใหญ่ที่สุดในโลก ในอดีตอนุญาตให้เฉพาะพระเจ้าแผ่นดิน เจ้านาย ขุนนาง และชนชั้นที่ร่ำรวยเท่านั้นที่สามารถใช้บริการได้ อาคารหลังเดิมถูกเพลิงไหม้ไปเมื่อ 2,000 กว่าปีก่อน จึงสร้างขึ้นใหม่เป็นอาคาร 11 ชั้น ที่ดูทันสมัยสวยงาม สามารถจุหนังสือได้ถึง 8 ล้านเล่ม ภายในมีหนังสือทุกภาษา และยังมีพวกหนังสือโบราณ หนังสือหายาก รวมถึงโซนต่างๆ เช่น พิพิธภัณฑ์ หอศิลป์ ท้องฟ้าจำลอง ห้องสมุดเด็ก ศูนย์การประชุม ฯลฯ อีกด้วย
เวลาเปิด-ปิด : อาทิตย์ – พฤหัสบดี เวลา 10.00 -17.00 น. / เสาร์ เวลา 10.00 – 14.00 น.
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 150 EGP / นักเรียน 20 EGP / ผู้สูงอายุ ( อายุ 60 ปีขึ้นไป) 150 EGP
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/2x6mdhqzQEteP32s8
7. วิหารเอ็ดฟู (Temple of Edfu)
วิหารเอ็ดฟู ถูกปกคลุมด้วยทรายจนเกือบถึงยอดเสาเป็นเวลานาน ทำให้เป็นหนึ่งในวิหารโบราณไม่กี่แห่งที่ยังคงสภาพสมบูรณ์มาก สร้างขึ้นเพื่อบูชาเทพเจ้าฮอรัส โดยเริ่มสร้างในรัชสมัยของปโตเลมีที่ 3 แต่กว่าจะแล้วเสร็จก็ในรัชสมัยของปโตเลมีที่ 12 เท่ากับใช้เวลาไปทั้งหมดถึง 180 ปี ทางเข้าวิหารมีปราการหินขนาดใหญ่ 36 เมตร และรูปปั้นเหยี่ยว ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเทพฮอรัส ส่วนกำแพงภายในวิหารเต็มไปด้วยอักษรโบราณ และภาพแกะสลักที่บอกเล่าเรื่องราวต่างๆ มากมาย
เวลาเปิด-ปิด : จันทร์ – อังคาร และ พฤหัสบดี – เสาร์ เวลา 07.00 – 17.00 น. / พุธ และอาทิตย์ เวลา 06.00 – 17.00 น.
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 300 EGP / นักเรียน 150 EGP
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/qjmajZ8X2tRvkhrZ8
8. อาบูซิมเบล (Abu Simbel)
อาบูซิมเบล มหาวิหารที่งดงามที่สุดของยุคอียิปต์โบราณ เป็น ที่เที่ยว อียิปต์ ที่ถูกสร้างขึ้นด้วยหินก้อนใหญ่จำนวน 2 ก้อน มีรูปหินแกะสลักของฟาโรห์รามเสสที่ 2 (Ramses II) นั่งบนบัลลังก์ 4 องค์ เรียงกันข้างละ 2 องค์ หันหน้าไปทางแม่น้ำ แสดงถึงพลังและอำนาจของฟาโรห์ที่คอยปกป้องเหล่าเรือใบที่แล่นในแม่น้ำไนล์ มหาวิหารแห่งนี้สร้างขึ้นในช่วงสมัยของฟาโรห์รามเสสที่ 2 ประมาณช่วงศตวรรษที่ 13 ก่อนคริสตกาล ก่อสร้างโดยการเจาะเข้าไปในหิน เป็นอนุสรณ์สถานแห่งสุดท้ายของพระองค์และพระมเหสี (พระนางเนเฟอร์ทารี) นอกจากนี้ยังสัญลักษณ์ในการเฉลิมฉลองกับชัยชนะของอียิปต์ที่มีต่อนิวเบียที่สมรภูมิแห่งคาเดส อีกทั้งเพื่อเป็นการข่มขู่ไม่ให้นิวเบียมารุกรานอียิปต์ซึ่งเป็นอาณาจักรใกล้เคียงอีกด้วย
มหาวิหารแห่งนี้เคยถูกทะเลทรายกลืนกินจนถูกทิ้งร้าง ต่อมานักประวัติศาสตร์ชาวสวิตเซอร์แลนด์ที่ชื่อว่า โจฮัน ลุดวิก เบิร์คฮารดต์ ได้ค้นพบส่วนบนของฟรีส ซึ่งเป็นลวดลายสลักใต้ชายคาของสิ่งก่อสร้าง ในปี ค.ศ.1813 และในช่วงทศวรรษที่ 1960 มีการเคลื่อนย้ายมหาวิหารแห่งนี้ออกไปด้วยความช่วยเหลือขององค์การ UNESCO เมื่อจะมีการสร้างเขื่อนอัสวาน ซึ่งอาจมีผลให้วิหารแห่งนี้จมสู่ใต้น้ำ ที่สำคัญมหาวิหารแห่งนี้ยังเป็นมรดกโลกที่สำคัญอีกด้วย
เวลาเปิด-ปิด : 05.00 – 18.00 น.
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/CdnUVw3Nm4UAxHQV8
9. หุบเขากษัตริย์ (Valley of the Kings)
หลุมศพของกษัตริย์และราชวงศ์ในราชอาณาจักรใหม่ ตั้งแต่ราชวงศ์ที่ 18 ถึง 20 ของอียิปต์โบราณ หรือที่เรียกว่า หุบเขากษัตริย์ มีอายุกว่า 3,000 ปี ตั้งอยู่ทางตะวันตกของแม่น้ำไนล์ ตรงข้ามกับเมืองธีปส์ หรือเมืองลักซอร์ในปัจจุบัน ด้านหน้ามียักษ์ Memnon ขนาดใหญ่ ตั้งเฝ้าหุบเขากษัตริย์อยู่ หุบเขาแห่งนี้มีหลุมศพอยู่ 63 แห่ง ภายในมีห้องเล็กๆ มากมาย จนถึงสุสานที่มีห้องซับซ้อนมากกว่า 120 ห้อง แม้จะชื่อว่า หุบเขากษัตริย์ แต่ก็มีการฝังผู้ที่มีบรรดาศักดิ์และได้รับความดีความชอบจากกษัตริย์ด้วย เช่น เชื้อพระวงศ์ หรือขุนนางคนสนิท นอกจากนี้ยังมี หุบผาราชินี (Valley of the Queens) เพื่อเป็นสุสานสำหรับราชินีอีกด้วย
หุบเขากษัตริย์ มีชื่อเสียงในการได้รับการกล่าวถึง จากการค้นพบสุสานของฟาโรห์ตุตันคามุน ที่เลื่องลือด้านคำสาปฟาโรห์ และยังถือเป็นหนึ่งในสถานที่โบราณคดีที่โด่งดังที่สุดในโลก ซึ่งในปี ค.ศ. 1979 หุบเขากษัตริย์แห่งนี้ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลก ร่วมกับส่วนที่เหลือของธีบันเนโครโพลิส
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/xh7QoDhzcRgFxWZb7
10. วิหารคอมออมโบ (Kom Ombo Temple)
อีกหนึ่งที่เที่ยวน่าสนใจในเมืองอัสวาน ก็คือ วิหารคอมออมโบ วิหารขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่บนเนินเขาเล็กๆ ที่ล้ำออกมาถึงแม่น้ำไนล์ ประวัติความเป็นมาของวิหารแห่งนี้ ในอดีตสร้างขึ้นเพื่อถวายแด่เทพเจ้า 2 องค์ คือ เทพโซเบ็ก ที่มีรูปร่างเป็นมนุษย์แต่มีเศียรเป็นจระเข้ ซึ่งนับถือกันว่าเป็นเทพแห่งความอุดมสมบูรณ์ และเทพฮาโรเอริส มีเศียรเป็นเหยี่ยว ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งการแพทย์อียิปต์โบราณ ทำให้วิหารแห่งนี้มีอีกชื่อหนึ่งก็คือ วิหารสองเทพเจ้า หินที่ใช้ในการก่อสร้างวิหารแห่งนี้มีความแตกต่างจากวิหารอื่นๆ อีกทั้งการวางแบบแปลนของพื้นที่ยังมีความเฉพาะตัว เป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวที่ไม่ควรพลาด นอกจากการชมความยิ่งใหญ่ของวิหารแล้ว จากบริเวณนี้เราจะสามารถมองเห็นวิวแม่น้ำไนล์ที่สวยงามได้อย่างชัดเจน
เวลาเปิด-ปิด : 07.00 – 21.00 น.
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/cPrUC6qPFR9V4K6B7
11. มหาวิหารคาร์นัค (Karnak)
มหาวิหารคาร์นัค สร้างขึ้นเพื่อถวายแด่เทพเจ้าอะมอนรา (สุริยะเทพ) ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองลักซอร์ประมาณ 3 กิโลเมตร ที่นี่ใช้เป็นสถานที่จัดพิธีกรรมเกี่ยวกับความเชื่อของอียิปต์โบราณ สร้างขึ้นโดยฟาโรห์เซซอสตริสที่ 1 (Sesostris I) และอีกหลายพระองค์ในช่วงสมัยยุคกลาง ซึ่งในช่วงราชวงศ์ที่ 18 – 20 มีการบูรณะวิหารแห่งนี้มากที่สุด และต่อเนื่องมาจนถึงยุคที่โรมันเข้ามาครอบครอง ทำให้วิหารแห่งนี้มีอาคารจำนวนมากและใหญ่โตที่สุดในโลก
มหาวิหารคาร์นัคแบ่งได้ 3 ส่วน คือ วิหารเทพอะมอนรา (ตรงกลาง) ประกอบด้วยหมู่สถาปัตยกรรมของเหล่าฟาโรห์หลายยุค ส่วนที่สองอยู่ทางทิศเหนือ คือ วิหารเทพมอนตู (Montu) เป็นเทพประจำถิ่น สัญลักษณ์แห่งการรบของฟาโรห์และเทวีมะอัต(Maat) ส่วนที่สามคือ วิหารเทวีมัต (Mut) อยู่ทางด้านใต้ของวิหารอะมอนรา ด้วยลานกว้างหน้าวิหารลักซอร์ จะมีรูปปั้นสฟิงซ์เรียงรายตลอดเส้นทางจนถึงมหาวิหารคาร์นัค เป็นอีกหนึ่ง ที่เที่ยว อียิปต์ ที่สวยงาม และยังคงความยิ่งใหญ่จนถึงปัจจุบัน ถ้าได้ไปอียิปต์ต้องไปเช็คอินให้ได้นะคะ
เวลาเปิด-ปิด : 06.00 – 17.30 น.
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/jogNyk7YtxQ4k8ty9
12. โบสถ์เซนต์เซอร์เจียส (Church of Saint Sergius and Bacchus)
โบสถ์เซนต์เซอร์เจียส หรือที่รู้จักกันในชื่อ โบสถ์อบู เซอร์กา (Abu Serga) เป็น ที่เที่ยวอียิปต์ ที่ตั้งอยู่ในย่านไคโรเก่า และเป็นหนึ่งในโบสถ์คริสต์นิกายคอปติกออร์โธดอกซ์ที่เก่าแก่ที่สุดของอียิปต์ มีการออกแบบตามรูปแบบของมหาวิหาร เชื่อกันว่าบริเวณนี้คือถ้ำที่พระนางมารีย์ โยเซฟ และพระกุมาร (พระเยซู) ใช้เป็นที่หลบภัยเป็นเวลากว่า 4 ปี ในตอนที่กษัตริย์เฮโรดสั่งฆ่าเด็กชายที่เกิดใหม่ทั้งหมด เพราะกลัวว่าจะมีผู้มาแย่งชิงอำนาจ
เวลาเปิด-ปิด : 09.00 – 16.00 น.
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/thbxry95jqsSc4PDA
13. โบสถ์แขวน (The Hanging Church)
อีกหนึ่งโบสถ์ที่น่าสนใจในย่านไคโรเก่าคือ โบสถ์แขวน เป็นโบสถ์ที่ผสมผสานระหว่างสไตล์คอปติกและโรมัน สาเหตุที่ได้ชื่อนี้เพราะสร้างบนซากปรักหักพังของป้อมโรมันโบราณ ทำให้พื้นโบสถ์สูงกว่ารอบข้าง จึงดูเหมือนโบสถ์แขวนอยู่เหนือเสาค้ำยัน ภายนอกดูเรียบๆ แต่พอเข้าไปแล้วต้องทึ่งกับความสวยงาม เพราะประดับประดาไปด้วยลวดลายวิจิตรบรรจง จิตรกรรมฝาผนังที่บอกเล่าเรื่องราวในพระคัมภีร์ ทั้งยังเต็มไปด้วยผลงานศิลปะถึง 110 ภาพ ส่วนใหญ่เป็นภาพสมัยศตวรรษที่ 8 – 18 ภาพที่เก่าแก่ที่สุดคือ “Coptic Mona Lisa” ซึ่งเป็นตัวแทนของพระแม่มารีย์ พระเยซู และยอห์นผู้ให้บัพติศมา
เวลาเปิด-ปิด : 09.00 – 16.00 น.
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/SqunnX9g8MCXVEQd8
14. ตลาดข่าน เอล คาลิลี่ (Khan El Khalili Bazaar)
ใครมา เที่ยวอียิปต์ แล้วอยากช้อปพวกสินค้าพื้นเมือง หรือหาซื้อของที่ระลึกกลับไปฝากคนทางบ้าน แนะนำให้มาที่ ตลาดข่าน เอล คาลิลี่ เป็นตลาดเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ในกรุงไคโร ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1382 มีตรอกซอกซอยที่เต็มไปด้วยแผงขายของหลายร้อยแผง ร้านค้ามากกว่า 4,000 ร้าน มีขายทุกอย่าง ทั้งผ้าทอ เครื่องประดับ น้ำหอม ภาพวาด งานฝีมือ เครื่องเทศ อาหารท้องถิ่น รวมไปถึงร้านกาแฟเก่าแก่อย่าง El-Fishawi Cafe ที่เปิดมายาวนานกว่า 200 ปี โดยร้านค้าส่วนใหญ่มักจะตั้งราคาสูงกว่าความเป็นจริงเกือบเท่าตัว ดังนั้นก่อนซื้ออย่าลืมต่อราคากันด้วยนะคะ
เวลาเปิด-ปิด : 09.30 – 23.00 น.
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/DPDMbFRD98ABiMkM6
15. ห้างซิตี้ สตาร์ส มอลล์ (City Stars Mall)
อีกหนึ่งจุดหมายที่ขาช้อปต้องมาคือ ห้างซิตี้ สตาร์ส มอลล์ เป็นศูนย์กลางการช้อปปิ้งและความบันเทิงที่หรูหรา ทันสมัย ได้รับความนิยมมากที่สุดในกรุงไคโรเลยค่ะ วันหยุดสุดสัปดาห์คนจะเยอะหน่อย เพราะนอกจากจะมีพวกสินค้าแฟชั่น ทั้งแบรนด์ท้องถิ่น และแบรนด์ต่างประเทศให้ช้อปกันกระหน่ำแล้ว ยังมีโรงหนัง สวนสนุกหิมะในร่ม คาเฟ่ และร้านอาหารอีกเพียบ สามารถมาเที่ยวเล่นได้ทั้งวันเลย
เวลาเปิด-ปิด : เสาร์ – พุธ เวลา 10.00 – 23.00 น. / พฤหัสบดี – ศุกร์ เวลา 10.00 – 24.00 น.
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/Y5fkFmh6GsmEsNdVA
16. ทะเลทรายขาว (White Desert National Park)
ทะเลทรายขาว เป็น ที่เที่ยวอียิปต์ ที่มีชื่อเสียงมาก อยู่ห่างจากกรุงไคโรประมาณ 500 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 72,000 ตารางกิโลเมตร ในทะเลทรายมีหินชอล์กสีขาวรูปร่างแปลกตามากมาย มีทั้งขนาดเล็กใหญ่แตกต่างกันไป เป็นผลงานศิลปะจากธรรมชาติที่เกิดจากการกัดเซาะของลมนานหลายล้านปี ส่วนใหญ่คนจะนิยมมาในช่วงฤดูหนาว ชมพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ขึ้นตก บางคนก็มาตั้งแคมป์นอนดูดาวกลางทะเลทราย
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/iF8F4sJ1ziHjZTwAA
17. มัสยิดอัมร์ อิบน์ อัล-อัส (The Mosque of Amr Ibn al-As)
มัสยิดอัมร์ อิบน์ อัล-อัส เป็นมัสยิดที่เก่าแก่ที่สุดในอียิปต์ ถูกสร้างขึ้นหลังจากที่กองทัพอิสลามเข้ามายึดครองอียิปต์ในช่วงศตวรรษที่ 7 มีลานขนาดใหญ่ และห้องละหมาดที่สวยงาม สามารถรองรับผู้ที่มาสักการะได้ถึง 4,000 คน แม้จะถูกบูรณะหลายครั้ง แต่ยังคงรักษาความเรียบง่ายของสถาปัตยกรรมอิสลามในยุคแรกๆ ไว้ได้ และยังใช้เป็นสถานที่สักการะของชาวมุสลิมมาจนถึงปัจจุบัน
เวลาเปิด-ปิด : 09.00 – 16.00 น.
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/dm5g4LCVfevsRJ8V8
อียิปต์เป็นประเทศที่น่าเที่ยวมากๆ ทุกมุมเต็มไปด้วยเรื่องราวและประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ รับรองมาแล้วไม่ผิดหวัง แต่ถ้าใครจะเดินทางไปเที่ยวเอง ก็ต้องเตรียมตัวให้พร้อม ศึกษาข้อมูลและเส้นทางอย่างละเอียดด้วยนะคะ เพราะคนท้องถิ่นไม่ได้พูดภาษาอังกฤษได้ทุกคน ส่วนใครที่อยากไป เที่ยวอียิปต์ แบบชิลๆ พี่เห็ดแนะนำไปกับทัวร์ดีที่สุด สบายใจ ปลอดภัยกว่า มีไกด์คอยดูแลตลอดทริป แค่จัดกระเป๋าให้พร้อม แล้วเตรียมออกเดินทางไปผจญภัยในดินแดนฟาโรห์กันได้เลย !