Mushroom Travel

17 ที่ เที่ยวอียิปต์ พิกัดชิคแบบไม่ซ้ำ ในดินแดนอารยธรรมโบราณ

เที่ยวอียิปต์

ประเทศอียิปต์ ตั้งอยู่ตอนเหนือสุดทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือของทวีปแอฟริกา เป็นดินแดนแห่งประวัติศาสตร์และอารยธรรมโบราณที่สั่งสมมานานกว่า 5,000 ปี บ้านเมืองอาจจะไม่ได้หรูหราเต็มไปด้วยตึกสูงระฟ้า แต่มีเสน่ห์ของความเป็นเมืองเก่าที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมสวยๆ และสิ่งมหัศจรรย์ระดับโลกมากมาย จนอดทึ่งไม่ได้เลยว่าคนสมัยก่อนเขาสร้างได้ยังไง ทั้งพีระมิด สุสานฟาโรห์ วิหารสุดอลังการ เหมือนได้ย้อนเวลากลับไปผจญภัยในยุคฟาโรห์เลยค่ะ เป็นประสบการณ์ที่บอกเลยว่าหาที่ไหนไม่ได้ ต้องไป เที่ยวอียิปต์ เท่านั้น !

แต่ก่อนไปอย่าลืมเช็กสภาพอากาศกันด้วยนะคะ สภาพอากาศในอียิปต์แบ่งเป็น 4 ฤดู คือ

– ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม-พฤษภาคม) อุณหภูมิประมาณ 15 – 32 องศาเซลเซียส อากาศไม่ร้อนไม่หนาว แต่อาจมีลมแรง
– ฤดูร้อน (มิถุนายน – สิงหาคม) อุณหภูมิประมาณ 21 – 43 องศาเซลเซียส อากาศร้อนและแห้งแล้ง เดือนกรกฎาคมถึงเดือนสิงหาคมเป็นช่วงที่ร้อนที่สุด
– ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน – พฤศจิกายน) อุณหภูมิประมาณ 19 – 34 องศาเซลเซียส อากาศเย็นสบาย นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมาเที่ยวในช่วงนี้
– ฤดูหนาว (ธันวาคม – กุมภาพันธ์) อุณหภูมิประมาณ 8 – 20 องศาเซลเซียส อากาศอบอุ่น บริเวณชายฝั่งมีฝนตกเล็กน้อย ตอนกลางคืนอากาศจะเย็นกว่ากลางวัน บริเวณทะเลทรายอุณหภูมิลดได้ต่ำที่สุดถึง 0 องศาเซลเซียส

ช่วงที่เหมาะกับการ เที่ยวอียิปต์ อยู่ช่วงประมาณ เดือนตุลาคม – เมษายน อากาศสบายๆ กำลังดี สามารถเที่ยวชมสถานที่ต่างๆ และบรรยากาศในเมืองได้แบบเพลินๆ

มาเก็บข้อมูล 17 สถานที่ เที่ยวอียิปต์ ที่พี่เห็ดคัดมาให้ เปิดประสบการณ์ใหม่แบบไม่ซ้ำใคร มีที่ไหนน่าเที่ยวบ้าง ตามไปดูกันเลยยย


1. มหาสุสานกีซ่า (Giza Necropolis)

Credit : ErenMotion / shutterstock.com

เริ่มต้นด้วย ที่เที่ยว อียิปต์ ที่ห้ามพลาดเด็ดขาด นั่นก็คือ มหาสุสานกีซ่า ที่มีพีระมิดกิซ่า 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณอยู่ภายใน แม้ที่อียิปต์จะมีพีระมิดหลายแห่ง แต่ที่เมืองกิซ่าถือเป็นพีระมิดที่ยิ่งใหญ่ที่สุด สร้างขึ้นเมื่อประมาณ 4,500 ปีก่อน ในสมัยฟาโรห์คูฟู (Khufu) แห่งราชวงศ์ที่ 4 ซึ่งปกครองอียิปต์โบราณ ใช้เป็นที่เก็บพระศพ ความมหัศจรรย์ของสถานที่แห่งนี้คือ ในยุคที่ไม่มีเทคโนโลยี ใช้เพียงแรงงานคนเท่านั้นในการก่อสร้างสิ่งที่ใหญ่โตขนาดนี้

ฐานของพีระมิดตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 13 เอเคอร์ หรือประมาณพื้นที่สนามฟุตบอล 7.3 สนาม ตัวพีระมิดมีปริมาตรกว่า 8.3 ล้านลูกบาศก์เมตร เทียบได้กับตึกเอ็มไพร์สเตท 30 ตึก อีกทั้งยังมีความสูง 138 เมตร หรือเทียบได้กับตึกสูง 48 ชั้นในปัจจุบัน สร้างโดยการใช้หินหนักเฉลี่ยก้อนละ 2.5 ตัน มากกว่า 2,300,000 ก้อน รวมน้ำหนักกว่า 6 ล้านตัน นอกจากนี้ภายในมหาสุสานกิซ่ายังมีพีระมิดฟาโรห์คาเฟร์ (Khafre) ที่ใกล้กันมีสฟิงซ์ รูปแกะสลักจากหินปูนเพียงก้อนเดียวที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในอียิปต์ และพีระมิดฟาโรห์เมนคูเร (Menkaure) อยู่ไม่ไกลกัน มาที่นี่ยังสามารถขี่อูฐชมความสวยงามและความยิ่งใหญ่ของที่นี่ได้อีกด้วย บอกเลยว่าเป็นประสบการณ์ที่คุณจะต้องจดจำไปตลอดชีวิตอย่างแน่นอน

เวลาเปิด-ปิด : 06.00 – 16.00 น.
ค่าเข้าชม : เช็คได้ที่ https://www.pyramid-of-giza.com/
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/M1vfUhuDqUE53C2H9


2. พิพิธภัณฑ์อารยธรรมอียิปต์แห่งชาติ (National Museum of Egyptian Civilization : NMEC) 

Credit : Melnikov Dmitriy / shutterstock.com

ไปเช็คอิน ที่เที่ยวอียิปต์ ต่อกันที่ พิพิธภัณฑ์อารยธรรมอียิปต์แห่งชาติ ตั้งอยู่ในกรุงไคโร เป็นสถานที่เก็บรวบรวมวัตถุโบราณตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์จนถึงปัจจุบัน รวมกว่า 50,000 ชิ้น ไฮไลต์คือมัมมี่ของราชวงศ์ 22 องค์ ที่ถูกย้ายจากพิพิธภัณฑ์อียิปต์ (The Egyptian Museum) ในจัตุรัสทาห์รีร์ มาจัดแสดงไว้ที่นี่ และนิทรรศการสุดล้ำที่จะเปิดเผยความลับ พิธีกรรม เครื่องมือ และความเชื่อทางศาสนาที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังการทำมัมมี่ ใครเป็นสายประวัติศาสตร์ถูกใจแน่นอน

เวลาเปิด-ปิด : จันทร์ – พฤหัสบดี เวลา 09.00 – 17.00 น. / ศุกร์ เวลา 09.00 – 17.00 น.  และ 18.00 – 21.00 น.
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 500 EGP / เด็ก 250 EGP (อายุต่ำกว่า 6 ขวบ เข้าฟรี)
เว็บไซต์ : https://nmec.gov.eg/
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/1waySagNoQFod5wD8


3. ป้อมปราการซิทาเดล (Citadel of Saladin)

Credit : zevana / shutterstock.com

ป้อมปราการซิทาเดล หรือที่คนอียิปต์เรียกกันว่า ป้อมปราการซอลาฮุดดีน ตั้งอยู่บนเนินเขาในกรุงไคโร สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1176 โดย “เศาะลาฮุดดีน” สุลต่านแห่งอียิปต์ ผู้กอบกู้กรุงเยรูซาเล็มในสงครามครูเสด และนำชิ้นส่วนของพีระมิดแห่งกิซ่า ซากมัสยิด และหินอื่นๆ ที่กู้มาได้ มาใช้ในการก่อสร้าง บริเวณนี้ถือเป็นยุทธศาสตร์ที่ดีมาก เพราะมองเห็นกรุงไคโรได้ทั้งเมือง จึงยากที่ศัตรูจะโจมตี หากมาชมวิวในวันที่อากาศแจ่มใส จะมองเห็นพีระมิดแห่งกิซ่าได้ด้วย

เวลาเปิด-ปิด : 08.00 – 17.00 น.
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 450 EGP / นักเรียน 230 EGP
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/33cnTNxSjDmyYzFz6


4. มัสยิด โมฮัมหมัด อาลี ปาชา (Mosque of Muhammad Ali Pasha)

Credit : agsaz / shutterstock.com

มัสยิด โมฮัมหมัด อาลี ปาชา ตั้งตระหง่านอยู่บนป้อมปราการซิทาเดล ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1830 โดย “มูฮัมหมัด อาลี ปาชา” ผู้ที่ปกครองอียิปต์มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1805 – 1848 และได้ชื่อว่าเป็นผู้นำพาอียิปต์ไปสู่ความทันสมัย สถาปัตยกรรมเป็นแบบตุรกี มีโดมใหญ่ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 21 เมตรอยู่ตรงกลาง รายล้อมด้วยโดมเล็กที่ลดหลั่นลงมาเป็นชั้นๆ ขนาบข้างด้วยหอคอยสูงสุเหร่าคู่สูง 84 เมตร ซึ่งถือว่าสูงที่สุดในอียิปต์

เวลาเปิด-ปิด : 08.00 – 17.00 น.
ค่าเข้าชม : ค่าตั๋วรวมอยู่ในค่าเข้าชมป้อมซิทาเดล (ผู้ใหญ่ 450 EGP / นักเรียน 230 EGP)
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/qSgYKa8iY4BbHRL27


5. สุสานแห่งอเล็กซานเดรีย (Catacombs Of Alexandria)

Credit : Justina Atlasito / shutterstock.com

เที่ยวอียิปต์ กันต่อเลยที่ สุสานแห่งอเล็กซานเดรีย 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์แห่งโลกยุคกลาง เป็นสถานที่ฝังศพของกษัตริย์อียิปต์โบราณ ตั้งอยู่บนเขา El-Shoqafa มีลักษณะเป็นอุโมงค์ใต้ดินขนาด 3 ชั้น ภายในมีทางเดินยาวหลายกิโลเมตร วนเวียนซับซ้อนเหมือนเขาวงกต บนผนังแกะสลักเป็นภาพนูนต่ำรูปต่างๆ ปัจจุบันเปิดให้เข้าชมแค่ ชั้น 1 และ 2 ส่วนชั้น 3 ซึ่งเป็นระดับพื้นดินถูกน้ำท่วมไปแล้ว ทำให้ไม่สามารถเข้าถึงได้

เวลาเปิด-ปิด : 09.00 – 16.00 น.
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/eHUMqiJqDhm3LKem6


6. ห้องสมุดแห่งอเล็กซานเดรีย (Bibliotheca Alexandrina)

Credit : suronin / shutterstock.com

ถึงจะไม่ใช่หนอนหนังสือ แต่ถ้ามา เที่ยวอียิปต์ ก็อยากให้แวะมาชมความยิ่งใหญ่ของ ห้องสมุดแห่งอเล็กซานเดรีย กันนะคะ เพราะที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นห้องสมุดที่ใหญ่ที่สุดในโลก ในอดีตอนุญาตให้เฉพาะพระเจ้าแผ่นดิน เจ้านาย ขุนนาง และชนชั้นที่ร่ำรวยเท่านั้นที่สามารถใช้บริการได้ อาคารหลังเดิมถูกเพลิงไหม้ไปเมื่อ 2,000 กว่าปีก่อน จึงสร้างขึ้นใหม่เป็นอาคาร 11 ชั้น ที่ดูทันสมัยสวยงาม สามารถจุหนังสือได้ถึง 8 ล้านเล่ม ภายในมีหนังสือทุกภาษา และยังมีพวกหนังสือโบราณ หนังสือหายาก รวมถึงโซนต่างๆ เช่น พิพิธภัณฑ์ หอศิลป์ ท้องฟ้าจำลอง ห้องสมุดเด็ก ศูนย์การประชุม ฯลฯ อีกด้วย

เวลาเปิด-ปิด : อาทิตย์ – พฤหัสบดี เวลา 10.00 -17.00 น. / เสาร์ เวลา 10.00 – 14.00 น.
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 150 EGP / นักเรียน 20 EGP / ผู้สูงอายุ ( อายุ 60 ปีขึ้นไป) 150 EGP
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/2x6mdhqzQEteP32s8


7. วิหารเอ็ดฟู (Temple of Edfu)

Credit : Alexandree / shutterstock.com

วิหารเอ็ดฟู ถูกปกคลุมด้วยทรายจนเกือบถึงยอดเสาเป็นเวลานาน ทำให้เป็นหนึ่งในวิหารโบราณไม่กี่แห่งที่ยังคงสภาพสมบูรณ์มาก สร้างขึ้นเพื่อบูชาเทพเจ้าฮอรัส โดยเริ่มสร้างในรัชสมัยของปโตเลมีที่ 3 แต่กว่าจะแล้วเสร็จก็ในรัชสมัยของปโตเลมีที่ 12 เท่ากับใช้เวลาไปทั้งหมดถึง 180 ปี ทางเข้าวิหารมีปราการหินขนาดใหญ่ 36 เมตร และรูปปั้นเหยี่ยว ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเทพฮอรัส ส่วนกำแพงภายในวิหารเต็มไปด้วยอักษรโบราณ และภาพแกะสลักที่บอกเล่าเรื่องราวต่างๆ มากมาย

เวลาเปิด-ปิด : จันทร์ – อังคาร และ พฤหัสบดี – เสาร์ เวลา 07.00 – 17.00 น. / พุธ และอาทิตย์ เวลา 06.00 – 17.00 น.
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 300 EGP / นักเรียน 150 EGP
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/qjmajZ8X2tRvkhrZ8


8. อาบูซิมเบล (Abu Simbel)

Credit : Danita Delimont / shutterstock.com

อาบูซิมเบล มหาวิหารที่งดงามที่สุดของยุคอียิปต์โบราณ เป็น ที่เที่ยว อียิปต์ ที่ถูกสร้างขึ้นด้วยหินก้อนใหญ่จำนวน 2 ก้อน มีรูปหินแกะสลักของฟาโรห์รามเสสที่ 2 (Ramses II) นั่งบนบัลลังก์ 4 องค์ เรียงกันข้างละ 2 องค์ หันหน้าไปทางแม่น้ำ แสดงถึงพลังและอำนาจของฟาโรห์ที่คอยปกป้องเหล่าเรือใบที่แล่นในแม่น้ำไนล์ มหาวิหารแห่งนี้สร้างขึ้นในช่วงสมัยของฟาโรห์รามเสสที่ 2 ประมาณช่วงศตวรรษที่ 13 ก่อนคริสตกาล ก่อสร้างโดยการเจาะเข้าไปในหิน เป็นอนุสรณ์สถานแห่งสุดท้ายของพระองค์และพระมเหสี (พระนางเนเฟอร์ทารี) นอกจากนี้ยังสัญลักษณ์ในการเฉลิมฉลองกับชัยชนะของอียิปต์ที่มีต่อนิวเบียที่สมรภูมิแห่งคาเดส อีกทั้งเพื่อเป็นการข่มขู่ไม่ให้นิวเบียมารุกรานอียิปต์ซึ่งเป็นอาณาจักรใกล้เคียงอีกด้วย

มหาวิหารแห่งนี้เคยถูกทะเลทรายกลืนกินจนถูกทิ้งร้าง ต่อมานักประวัติศาสตร์ชาวสวิตเซอร์แลนด์ที่ชื่อว่า โจฮัน ลุดวิก เบิร์คฮารดต์ ได้ค้นพบส่วนบนของฟรีส ซึ่งเป็นลวดลายสลักใต้ชายคาของสิ่งก่อสร้าง ในปี ค.ศ.1813 และในช่วงทศวรรษที่ 1960 มีการเคลื่อนย้ายมหาวิหารแห่งนี้ออกไปด้วยความช่วยเหลือขององค์การ UNESCO เมื่อจะมีการสร้างเขื่อนอัสวาน ซึ่งอาจมีผลให้วิหารแห่งนี้จมสู่ใต้น้ำ ที่สำคัญมหาวิหารแห่งนี้ยังเป็นมรดกโลกที่สำคัญอีกด้วย

เวลาเปิด-ปิด : 05.00 – 18.00 น.
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/CdnUVw3Nm4UAxHQV8


9. หุบเขากษัตริย์ (Valley of the Kings)

Credit : Anton Belo / shutterstock.com

หลุมศพของกษัตริย์และราชวงศ์ในราชอาณาจักรใหม่ ตั้งแต่ราชวงศ์ที่ 18 ถึง 20 ของอียิปต์โบราณ หรือที่เรียกว่า หุบเขากษัตริย์ มีอายุกว่า 3,000 ปี ตั้งอยู่ทางตะวันตกของแม่น้ำไนล์ ตรงข้ามกับเมืองธีปส์ หรือเมืองลักซอร์ในปัจจุบัน ด้านหน้ามียักษ์ Memnon ขนาดใหญ่ ตั้งเฝ้าหุบเขากษัตริย์อยู่ หุบเขาแห่งนี้มีหลุมศพอยู่ 63 แห่ง ภายในมีห้องเล็กๆ มากมาย จนถึงสุสานที่มีห้องซับซ้อนมากกว่า 120 ห้อง แม้จะชื่อว่า หุบเขากษัตริย์ แต่ก็มีการฝังผู้ที่มีบรรดาศักดิ์และได้รับความดีความชอบจากกษัตริย์ด้วย เช่น เชื้อพระวงศ์ หรือขุนนางคนสนิท นอกจากนี้ยังมี หุบผาราชินี (Valley of the Queens) เพื่อเป็นสุสานสำหรับราชินีอีกด้วย

หุบเขากษัตริย์ มีชื่อเสียงในการได้รับการกล่าวถึง จากการค้นพบสุสานของฟาโรห์ตุตันคามุน ที่เลื่องลือด้านคำสาปฟาโรห์ และยังถือเป็นหนึ่งในสถานที่โบราณคดีที่โด่งดังที่สุดในโลก ซึ่งในปี ค.ศ. 1979 หุบเขากษัตริย์แห่งนี้ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลก ร่วมกับส่วนที่เหลือของธีบันเนโครโพลิส

แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/xh7QoDhzcRgFxWZb7


10. วิหารคอมออมโบ (Kom Ombo Temple)

Credit : hemro / shutterstock.com

อีกหนึ่งที่เที่ยวน่าสนใจในเมืองอัสวาน ก็คือ วิหารคอมออมโบ วิหารขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่บนเนินเขาเล็กๆ ที่ล้ำออกมาถึงแม่น้ำไนล์ ประวัติความเป็นมาของวิหารแห่งนี้ ในอดีตสร้างขึ้นเพื่อถวายแด่เทพเจ้า 2 องค์ คือ เทพโซเบ็ก ที่มีรูปร่างเป็นมนุษย์แต่มีเศียรเป็นจระเข้ ซึ่งนับถือกันว่าเป็นเทพแห่งความอุดมสมบูรณ์ และเทพฮาโรเอริส มีเศียรเป็นเหยี่ยว ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งการแพทย์อียิปต์โบราณ ทำให้วิหารแห่งนี้มีอีกชื่อหนึ่งก็คือ วิหารสองเทพเจ้า หินที่ใช้ในการก่อสร้างวิหารแห่งนี้มีความแตกต่างจากวิหารอื่นๆ อีกทั้งการวางแบบแปลนของพื้นที่ยังมีความเฉพาะตัว เป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวที่ไม่ควรพลาด นอกจากการชมความยิ่งใหญ่ของวิหารแล้ว จากบริเวณนี้เราจะสามารถมองเห็นวิวแม่น้ำไนล์ที่สวยงามได้อย่างชัดเจน

เวลาเปิด-ปิด : 07.00 – 21.00 น.
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/cPrUC6qPFR9V4K6B7


11. มหาวิหารคาร์นัค (Karnak)

Credit : AlexAnton / shutterstock.com

มหาวิหารคาร์นัค สร้างขึ้นเพื่อถวายแด่เทพเจ้าอะมอนรา (สุริยะเทพ) ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองลักซอร์ประมาณ 3 กิโลเมตร ที่นี่ใช้เป็นสถานที่จัดพิธีกรรมเกี่ยวกับความเชื่อของอียิปต์โบราณ สร้างขึ้นโดยฟาโรห์เซซอสตริสที่ 1 (Sesostris I) และอีกหลายพระองค์ในช่วงสมัยยุคกลาง ซึ่งในช่วงราชวงศ์ที่ 18 – 20 มีการบูรณะวิหารแห่งนี้มากที่สุด และต่อเนื่องมาจนถึงยุคที่โรมันเข้ามาครอบครอง ทำให้วิหารแห่งนี้มีอาคารจำนวนมากและใหญ่โตที่สุดในโลก

มหาวิหารคาร์นัคแบ่งได้ 3 ส่วน คือ วิหารเทพอะมอนรา (ตรงกลาง) ประกอบด้วยหมู่สถาปัตยกรรมของเหล่าฟาโรห์หลายยุค ส่วนที่สองอยู่ทางทิศเหนือ คือ วิหารเทพมอนตู (Montu) เป็นเทพประจำถิ่น สัญลักษณ์แห่งการรบของฟาโรห์และเทวีมะอัต(Maat) ส่วนที่สามคือ วิหารเทวีมัต (Mut) อยู่ทางด้านใต้ของวิหารอะมอนรา ด้วยลานกว้างหน้าวิหารลักซอร์ จะมีรูปปั้นสฟิงซ์เรียงรายตลอดเส้นทางจนถึงมหาวิหารคาร์นัค เป็นอีกหนึ่ง ที่เที่ยว อียิปต์ ที่สวยงาม และยังคงความยิ่งใหญ่จนถึงปัจจุบัน ถ้าได้ไปอียิปต์ต้องไปเช็คอินให้ได้นะคะ

เวลาเปิด-ปิด : 06.00 – 17.30 น.
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/jogNyk7YtxQ4k8ty9


12. โบสถ์เซนต์เซอร์เจียส (Church of Saint Sergius and Bacchus)

Credit : Stanley Kalvan / shutterstock.com

โบสถ์เซนต์เซอร์เจียส หรือที่รู้จักกันในชื่อ โบสถ์อบู เซอร์กา (Abu Serga) เป็น ที่เที่ยวอียิปต์ ที่ตั้งอยู่ในย่านไคโรเก่า และเป็นหนึ่งในโบสถ์คริสต์นิกายคอปติกออร์โธดอกซ์ที่เก่าแก่ที่สุดของอียิปต์ มีการออกแบบตามรูปแบบของมหาวิหาร เชื่อกันว่าบริเวณนี้คือถ้ำที่พระนางมารีย์ โยเซฟ และพระกุมาร (พระเยซู) ใช้เป็นที่หลบภัยเป็นเวลากว่า 4 ปี ในตอนที่กษัตริย์เฮโรดสั่งฆ่าเด็กชายที่เกิดใหม่ทั้งหมด เพราะกลัวว่าจะมีผู้มาแย่งชิงอำนาจ

เวลาเปิด-ปิด : 09.00 – 16.00 น.
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/thbxry95jqsSc4PDA


13. โบสถ์แขวน (The Hanging Church)

Credit : ViktoriyaFivko / shutterstock.com

อีกหนึ่งโบสถ์ที่น่าสนใจในย่านไคโรเก่าคือ โบสถ์แขวน เป็นโบสถ์ที่ผสมผสานระหว่างสไตล์คอปติกและโรมัน สาเหตุที่ได้ชื่อนี้เพราะสร้างบนซากปรักหักพังของป้อมโรมันโบราณ ทำให้พื้นโบสถ์สูงกว่ารอบข้าง จึงดูเหมือนโบสถ์แขวนอยู่เหนือเสาค้ำยัน ภายนอกดูเรียบๆ แต่พอเข้าไปแล้วต้องทึ่งกับความสวยงาม เพราะประดับประดาไปด้วยลวดลายวิจิตรบรรจง จิตรกรรมฝาผนังที่บอกเล่าเรื่องราวในพระคัมภีร์ ทั้งยังเต็มไปด้วยผลงานศิลปะถึง 110 ภาพ ส่วนใหญ่เป็นภาพสมัยศตวรรษที่ 8 – 18 ภาพที่เก่าแก่ที่สุดคือ “Coptic Mona Lisa” ซึ่งเป็นตัวแทนของพระแม่มารีย์ พระเยซู และยอห์นผู้ให้บัพติศมา

เวลาเปิด-ปิด : 09.00 – 16.00 น.
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/SqunnX9g8MCXVEQd8


14. ตลาดข่าน เอล คาลิลี่ (Khan El Khalili Bazaar)

Credit : Stock Photos 2000 / shutterstock.com

ใครมา เที่ยวอียิปต์ แล้วอยากช้อปพวกสินค้าพื้นเมือง หรือหาซื้อของที่ระลึกกลับไปฝากคนทางบ้าน แนะนำให้มาที่ ตลาดข่าน เอล คาลิลี่ เป็นตลาดเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ในกรุงไคโร ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1382 มีตรอกซอกซอยที่เต็มไปด้วยแผงขายของหลายร้อยแผง ร้านค้ามากกว่า 4,000 ร้าน มีขายทุกอย่าง ทั้งผ้าทอ เครื่องประดับ น้ำหอม ภาพวาด งานฝีมือ เครื่องเทศ อาหารท้องถิ่น รวมไปถึงร้านกาแฟเก่าแก่อย่าง El-Fishawi Cafe ที่เปิดมายาวนานกว่า 200 ปี โดยร้านค้าส่วนใหญ่มักจะตั้งราคาสูงกว่าความเป็นจริงเกือบเท่าตัว ดังนั้นก่อนซื้ออย่าลืมต่อราคากันด้วยนะคะ

เวลาเปิด-ปิด : 09.30 – 23.00 น.
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/DPDMbFRD98ABiMkM6


15. ห้างซิตี้ สตาร์ส มอลล์ (City Stars Mall)

Credit : citystars-heliopolis.com.eg

อีกหนึ่งจุดหมายที่ขาช้อปต้องมาคือ ห้างซิตี้ สตาร์ส มอลล์ เป็นศูนย์กลางการช้อปปิ้งและความบันเทิงที่หรูหรา ทันสมัย ได้รับความนิยมมากที่สุดในกรุงไคโรเลยค่ะ วันหยุดสุดสัปดาห์คนจะเยอะหน่อย เพราะนอกจากจะมีพวกสินค้าแฟชั่น ทั้งแบรนด์ท้องถิ่น และแบรนด์ต่างประเทศให้ช้อปกันกระหน่ำแล้ว ยังมีโรงหนัง สวนสนุกหิมะในร่ม คาเฟ่ และร้านอาหารอีกเพียบ สามารถมาเที่ยวเล่นได้ทั้งวันเลย

เวลาเปิด-ปิด : เสาร์ – พุธ เวลา 10.00 – 23.00 น. / พฤหัสบดี – ศุกร์ เวลา 10.00 – 24.00 น.
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/Y5fkFmh6GsmEsNdVA


16. ทะเลทรายขาว (White Desert National Park)

Credit : Kamchatka / canva.com

ทะเลทรายขาว เป็น ที่เที่ยวอียิปต์ ที่มีชื่อเสียงมาก อยู่ห่างจากกรุงไคโรประมาณ 500 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 72,000 ตารางกิโลเมตร ในทะเลทรายมีหินชอล์กสีขาวรูปร่างแปลกตามากมาย มีทั้งขนาดเล็กใหญ่แตกต่างกันไป เป็นผลงานศิลปะจากธรรมชาติที่เกิดจากการกัดเซาะของลมนานหลายล้านปี ส่วนใหญ่คนจะนิยมมาในช่วงฤดูหนาว ชมพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ขึ้นตก บางคนก็มาตั้งแคมป์นอนดูดาวกลางทะเลทราย

แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/iF8F4sJ1ziHjZTwAA


17. มัสยิดอัมร์ อิบน์ อัล-อัส (The Mosque of Amr Ibn al-As) 

Credit : ruigsantos / canva.com

มัสยิดอัมร์ อิบน์ อัล-อัส เป็นมัสยิดที่เก่าแก่ที่สุดในอียิปต์ ถูกสร้างขึ้นหลังจากที่กองทัพอิสลามเข้ามายึดครองอียิปต์ในช่วงศตวรรษที่ 7 มีลานขนาดใหญ่ และห้องละหมาดที่สวยงาม สามารถรองรับผู้ที่มาสักการะได้ถึง 4,000 คน แม้จะถูกบูรณะหลายครั้ง แต่ยังคงรักษาความเรียบง่ายของสถาปัตยกรรมอิสลามในยุคแรกๆ ไว้ได้ และยังใช้เป็นสถานที่สักการะของชาวมุสลิมมาจนถึงปัจจุบัน

เวลาเปิด-ปิด : 09.00 – 16.00 น.
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/dm5g4LCVfevsRJ8V8

อียิปต์เป็นประเทศที่น่าเที่ยวมากๆ ทุกมุมเต็มไปด้วยเรื่องราวและประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ รับรองมาแล้วไม่ผิดหวัง แต่ถ้าใครจะเดินทางไปเที่ยวเอง ก็ต้องเตรียมตัวให้พร้อม ศึกษาข้อมูลและเส้นทางอย่างละเอียดด้วยนะคะ เพราะคนท้องถิ่นไม่ได้พูดภาษาอังกฤษได้ทุกคน ส่วนใครที่อยากไป เที่ยวอียิปต์ แบบชิลๆ พี่เห็ดแนะนำไปกับทัวร์ดีที่สุด สบายใจ ปลอดภัยกว่า มีไกด์คอยดูแลตลอดทริป แค่จัดกระเป๋าให้พร้อม แล้วเตรียมออกเดินทางไปผจญภัยในดินแดนฟาโรห์กันได้เลย !


ชอบ บทความ มัชรูมทราเวล ทำไงดี…?
1. กดแชร์ต่อ ให้เพื่อนอ่านบ้าง
2. คลิก Likeและติดตามเราได้ที่ Facebook www.facebook.com/mushroomtravel/

—————
Mushroom Travel มีโปรแกรม ทัวร์อียิปต์ ให้เลือกมากที่สุด
โทร. 02-105-6234 (30 คู่สาย)
CustomerService@Mushroomtravel.com
Line id : @mushroomtravel

17 ที่ เที่ยวอียิปต์ พิกัดชิคแบบไม่ซ้ำ ในดินแดนอารยธรรมโบราณ was last modified: October 31st, 2024 by Editor.Mushroom Travel
Exit mobile version