ปกติถ้าเราพูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวใน ยุโรป คนส่วนใหญ่ก็มักจะคิดถึงลอนดอน ปารีส กรุงโรม บาร์เซโลนา รวมถึงเมืองที่มีชื่อเสียงอีกหลายๆ แห่ง แต่ทราบไหมคะว่าที่ยุโรปน่ะจริงๆ แล้วยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่ซ่อนตัวอยู่ตามทะเล ภูเขา ซอกหลืบเมืองใหญ่ และป่าไม้อีกมากมายที่รอให้เราได้ไปสัมผัสสักครั้งในชีวิต ไม่เชื่อตามไปดูกัน
คอร์คูลา ประเทศโครเอเชีย
บนเกาะอันงดงามนอกชายฝั่งดัลเมเชี่ยน ในประเทศโครเอเชีย ซึ่งมีมีตำนานที่แพร่หลายเกี่ยวกับหมู่บ้านคอร์คูลาว่า ในอดีตที่นี่เคยเป็นอาณานิคมกรีกในศตวรรษที่ 4 ก่อนที่จะมาอยู่ภายใต้การปกครองของโรมัน ซึ่งปัจจุบันที่นี่คือเมืองเก่ายุคกลางที่มีถนนซึ่งปูด้วยหินสูงชัน มีร้านอาหารเรียงรายไปตามถนนริมน้ำและชายหาดที่สวยงาม มีโรงกลั่นเหล้าองุ่นที่มีอายุหลายศตวรรษ โดยผู้ที่มาเยือนสามารถจิบไวน์ท้องถิ่น เช่น Posip และ Rukatac ได้ และหากใครอยากชื่นชมทัศนียภาพของที่นี่ไปนานๆ ก็มีโรงแรมเล็ก ๆ แต่เก๋ไก๋ในเขตเมืองเก่าให้สามารถเข้าพักได้ โดยภายในมีห้องชุดใต้หลังคาซึ่งตกแต่งในสไตล์ที่ชวนให้นึกถึงอาหรับราตรี และสามารถมองเห็นวิวอันน่าพิศวงของที่นี่ในมุมมอง 360 องศา
บายาโดลิด ประเทศสเปน
แม้ว่าจะมีสถานะเป็นเมืองหลวงของแคว้นคาสตีล-เลออน แต่เมืองเล็กๆ แห่งนี้ก็ยังคงรักษาความสนุกสนานผ่อนคลายในบรรยากาศของหมู่บ้านที่เต็มไปด้วยอาคารแบบกอธิคไว้ได้เป็นอย่างดี ซึ่งอาคารหลักของที่นี่ได้แก่แกรนด์พลาซ่าที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่ใช้แสดงผลงานศิลปะมากมาย รวมไปถึงพิพิธภัณฑ์แห่งชาติที่เคยเป็นบ้านของ Miguel de Cervantes มาก่อน ซึ่งเขามีผลงานชิ้นเอกคือเรื่องดอนกิโฆเต้ ที่เคยได้รับการตีพิมพ์ในขณะที่อาศัยอยู่ที่นี่นั่นเอง นอกจากนี้ผู้มาเยือนก็ควรจะลิ้มลองไวน์ที่น่าทึ่งที่สุดของภูมิภาคอย่าง Ribera Del Duero ของ Abadia Retuerta ก่อนจะเข้าพักที่โรงแรม LeDomaine อันงดงามที่สร้างมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 12 ที่ภายในล้วนเต็มไปด้วยความสะดวกสบายที่ครบครันทั้งสปาและร้านอาหารระดับดาวมิชลิน
โฟลิกันดรอส ประเทศกรีซ
หากใครสักคนกำลังมองหาเกาะกรีกสุดคลาสสิกที่เต็มไปด้วยบ้านหินสีขาว ถนนที่ปูด้วยหิน และซุ้มเฟื่องฟ้าสีดสด แต่มีความวุ่นวายน้อยกว่าเกาะที่มีชื่อเสียงโด่งดังอย่างเกาะมิโคนอส หรือซานโตรินี่ล่ะก็ อัญมณีแห่งหมู่เกาะซิคละดีสแบบเกาะโฟลิกันดรอสนี่ล่ะค่ะที่เหมาะสมสำหรับการไปเยี่ยมเยียนมากที่สุด ด้วยทิวทัศน์ของทะเลอีเจียนอันพราวเสน่ห์ และกังหันลมไม้เก่าคร่ำคร่าที่เต็มไปด้วยร่องรอยของอดีตที่สวยงาม โดยที่นี่มีอยู่ทั้งหมด 3 หมู่บ้าน มีศูนย์กลางหลักเป็นหมู่บ้าน Folegandros Chora นอกจากนั้นหากเดินขึ้นเขาไปก็จะเจอกับโบสถ์ และป้อมปราการ Venetian ที่สร้างมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 11 ส่วนใครที่ต้องการพักผ่อนที่นี่ โฟลิกันดรอสก็มีห้องพักในสไตล์บูติกที่สะอาดเอี่ยมและเรียงรายไปด้วยสระว่ายน้ำอินฟินิตี้ที่งดงาม และร้านอาหารกรีกแบบดั้งเดิมไว้คอยบริการเช่นกัน
แอโรสเคอบิง ประเทศเดนมาร์ก
คำว่า”เทพนิยาย” มักจะถูกหยิบยกนำมาใช้เพื่ออธิบายเกาะ Aero แห่งประเทศเดนมาร์กอยู่เสมอ ซึ่งใครที่เคยไปเยือนที่นี่ก็คงจะพบกับเหตุผลที่เห็นได้ชัดในขณะที่กำลังขึ้นฝั่งจากเรือเฟอร์รี่ ซึ่งเป็นจุดที่ตั้งอยู่ในทะเลบอลติก และอยู่ห่างจากโคเปนเฮเกนไปประมาณ 3 ชั่วโมง โดยที่นี่มีหมู่บ้านที่ถนนปูด้วยหินแคบๆ อย่างเป็นระเบียบ ที่ประกบสองข้างทางด้วยบ้านครึ่งไม้ที่ปูด้วยกระเบื้องสีแดงที่เป็นมรดกตกทอดมาตั้งแต่ปี 1600 ซึ่งผู้ที่มาเที่ยวสามารถเช่าจักรยานปั่นไปตามถนนได้ ทั้งนี้ในระหว่างทางนอกจากจะได้เห็นวิวสวยๆ แล้ว ยังมี โรงเบียร์รสชาติเยี่ยมให้แวะชิมกันด้วย หรือหากใครอยากแวะจิบน้ำชายามบ่ายแสนอร่อยนสวนอันเงียบสงบ ที่นี่ก็มีบริการเช่นเดียวกัน
ซาน คาสเซียโน ประเทศอิตาลี
นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เมื่อคิดถึงอิตาลี แน่นอนว่าคงหนีไม่พ้นเมืองยอดนิยมอย่างฟลอเรนซ์ โรม และเวนิซ แต่หากใครที่กำลังมองหาความเงียบสงบใน ช่วงฤดูร้อนของอิตาลี ซาน คาสเซีย คืออัญมณีที่ซ่อนอยู่ในภูมิภาค Alta Badia ซึ่งล้อมรอบไปด้วยทิวทัศน์ของภูเขาอันยิ่งใหญ่ อย่างไรก็ดี แม้ซาน คาสเซียโนจะเป็นเพียงหมู่บ้านเล็กๆ ในชนบท แต่นี่ก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับผู้มาเยือนอย่างครบครัน ทั้งร้านอาหารระดับ 2 ดาวมิชลิน สปาชั้นยอดของโรงแรม ซาวน่า และสระว่ายน้ำที่สามารถมองเห็นวิวภูเขาได้อย่างถนัดตา ส่วนเรื่องการท่องเที่ยว ผู้คนนิยมมาที่นี่เพื่อการสำรวจเส้นทางป่าทึบและภูเขากันค่ะ เพราะที่นี่คือที่ตั้งของอุทยานธรรมชาติอย่าง Fanes-Senes-Braies นั่นเอง
บุดวา ประเทศมอนเตเนโกร
จากกำแพงดินเผาที่รายล้อมเมืองในยุคกลางบนคาบสมุทรที่ยื่นลงไปในทะเลเอเดรียติก ที่นี่มีหาดทรายถึงสามด้านที่อุดมไปด้วยความงามของธรรมชาติและประวัติศาสตร์อันเก่าแก่ บุดวาเป็นอีกหนึ่งเมืองของยุโรปที่มีอากาศอันบริสุทธิ์เหมาะสำหรับการพักผ่อนและคลายเครียด มีสถานที่ที่ผู้คนนิยมไปเยือนคือคริสตจักรเก่า ลานแกลเลอรี่และร้านกาแฟ ส่วนทางตอนใต้ของเมืองมีชายหาดและรีสอร์ทที่เคยได้รับรางวัลมาแล้ว เป็นรีสอร์ทบนเกาะเล็ก ๆ ที่เชื่อมโยงกับแผ่นดินใหญ่โดยคอคอดแคบ ซึ่งเสิร์ฟอาหารที่ผลิตจากสินค้าเกษตรอินทรีย์ในสถานที่อันแสนโรแมนติก
มาเวา ประเทศโปรตุเกส
เมืองแห่งป้อมปราการสีขาวแห่งนี้เป็นเมืองที่ตงอยู่ท่ามกลางยอดเขาหินแกรนิต Serra de São Mamedeทางภาคเหนือของ Alentejo ที่เหล่าอินสตราแกรมเมอร์ใฝ่ฝันถึง เพราะด้านบนของยอดเขาที่ความสูงถึง 3,000 เมตรนั้นถูกประดับด้วยมงกุฎเพชรอย่างปราสาทมัวร์ที่สร้างมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 ที่กำแพงหินถูกทะลายลงมาเพื่อให้มองเห็นวิวทิวทัศน์ของภูเขาชายแดนประเทศสเปนที่อยู่บริเวณใกล้เคียง ทั้งนี้หมู่บ้านทั้งหมดในมาเวาทั้งหมดล้วนมีเสน่ห์ด้วยก้อนหินปูถนนและบ้านมุงหลังคากระเบื้องดินเผา รวมถึงเกสท์เฮ้าส์ที่สร้างมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 ซึ่งมีทัศนียภาพอันงดงาม
ฮัลล์สตัทท์ ประเทศออสเตรีย
แน่นอนว่าหากใครมีโอกาสได้มาเยือนเมืองริมทะเลสาบที่สวยที่สุดในโลกคงจะอยากหยิกตัวเองสักครั้ง เพื่อให้มั่นใจว่านี่คือความฝันหรือความจริง ฮัลล์ทัทท์คือเมืองท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ ด้วยความงดงามที่ดูคล้ายหลุดออกมาจากเทพนิยาย จากภูมิทัศน์ของทะเลสาบฮัลล์ทัทท์และเทือกเขาน้อยใหญ่สูงตระหง่านที่รายล้อม นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นที่ตั้งของคริสตจักรน่าพิศวงที่เก็บหัวกะโหลกมนุษย์วึ่งที่มีมากกว่า 1,200 กะโหลกมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 – 19 รวมไปถึงเส้นทางเดินป่าที่นักเขียนและจิตรกรกว่าศตวรรษใช้เป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงาน
เรอินเนอ ประเทศนอร์เวย์
ที่นี่อาจจะเป็นปลายทางในฝันของใครๆ อีกหลายๆ คน สำหรับหมู่บ้านที่ตั้งอยู่เหนือ Arctic Circle แห่งนี้ เรอินเนอเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่ห้อมล้อมไปด้วยวิวทิวทัศน์ของเทือกเขา ปกคลุมด้วยหิมะขาวโพลนสวยงามตระการตาในช่วงหน้าหนาว ส่วนหน้าร้อนก็สวยงามด้วยวิวของฟยอร์ด ภูเขา ทุ่งหญ้าเขียวชอุ่ม และกระท่อมน่ารักภายใต้ดวงอาทิตย์เที่ยงคืน โดยที่นี่ เป็นหมู่บ้านชาวประมงเก่าแก่ที่เลี้ยงชีพด้วยการจับปลาค็อด แล้วนำมาตากแห้งเพื่อเก็บไว้รับประทานในฤดูหนาว เพราะฉะนั้นผู้ที่มาเที่ยวที่นี่นอกจากจะได้ชมวิวสวยๆ แล้ว ยังอาจจะได้ตกปลาและรับประทานปลาที่ตกขึ้นมาเองก็ได้ค่ะ
กอร์เดส ประเทศฝรั่งเศส
กอร์เดส ได้ชื่อว่าเป็นสุดยอดหมู่บ้านที่สวยติดอันดับต้นๆ ของฝรั่งเศส ที่ตั้งอยู่บนยอดเขาในแถบเทือกเขาลูแบรงอันเป็นแหล่งผลิตไวน์ ที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของฝรั่งเศสในแคว้นโพรวองซ์ แต่สิ่งที่พิเศษกว่านั้นก็คือนอกจากที่นี่จะเป็นที่ตั้งของโบสถ์เซ-นองซ์ อับ เบยย์ และบ้านหินสีเบจที่ซ้อนลงเนินเขา รวมถึงปราสาทในศตวรรษที่ 12 แล้ว ยังล้อมรอบไปด้วยทุ่งลาเวนเดอร์และป่าไม้อีกด้วย ส่วนใครที่ต้องการพักผักที่นี่ กอร์เดสนอกจากจะมีสถานที่พักผ่อนที่พิเศษแล้ว ยังมีบริการสปาซิสเล่ย์และร้านอาหารที่ได้รับรางวัลมาแล้วด้วย ที่สำคัญร้านอาหารแห่งนี้ยังมีระเบียงที่สามารถมองเห็นวิวหุบเขาและภูเขา Luberon ได้อย่างชัดเจน
ขอขอบคุณข้อมูลจาก http://www.jetsetter.com