Mushroom Travel LINE
เราช่วยคุณได้
@mushroomtour
จันทร์ - เสาร์
9:00-22:00
อาทิตย์
9:00-18:00
Call Mushroom Travel
Call Center
02 105 6234
จอง 6 คนขึ้นไป
จอง 6 คนขึ้นไป
02 105 6244
Loading...

เช็คลิสต์ 15 สิ่งห้ามพลาด สวนสนุก Everland 2024 ท่องโลกความสนุกที่เกาหลี

พาเพื่อนๆ ย้อนวัยกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง ด้วยการพาไปตะลุยทัวร์ที่ “สวนสนุก เอเวอร์แลนด์ (Everland)” สวนสนุกกลางแจ้งที่ใหญ่และดีที่สุดแห่งหนึ่งในเกาหลีใต้ จนได้รับการขนานนามว่าเป็น “ดิสนีย์แลนด์เกาหลี” และจัดเป็น 1 ใน 4 สวนสนุกยอดนิยมของโลกอีกด้วย งานนี้ไม่ใช่แค่เฉพาะเด็กๆ ที่สนุกเท่านั้น แต่ที่นี่ยังเป็นแหล่งรวมตัวของชาวเกาหลีและนักท่องเที่ยวทุกเพศทุกวัย วันนี้พี่เห็ด มัชรูมทราเวล เลยจะมา แนะนำโซนต่างๆ ใน สวนสนุก Everland พร้อมเช็คลิสต์ 15 ไฮไลต์ห้ามพลาด! เตรียมปลดปล่อยความสนุกไปกับเครื่องเล่น และบรรยากาศสุดพิเศษกันได้ ใครไป ทัวร์เกาหลี ต้องไม่พลาดที่นี่เลย

ทำความรู้จักสวนสนุก Everland

สวนสนุก Everland
Credit : Nghia Khanh / shutterstock.com

แทบจะไม่มีใครไม่รู้จัก สวนสนุก Everland เพราะเป็นสวนสนุกยอดฮิตที่มีขึ้นเพื่อคนทุกเพศทุกวัย นับเป็นสวนสนุกสำหรับครอบครัวแห่งแรก และเป็นสวนสนุกที่ใหญ่ที่สุดของเกาหลีใต้ เปรียบได้กับ “ดิสนีย์แลนด์ของเกาหลี” และยังถูกจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 4 สวนสนุกยอดนิยมของโลกในปี ค.ศ. 2005 โดยนิตยสาร Forbes ตั้งอยู่ในเมืองยงอิน (Yongin) จังหวัดคยองกี (Gyeonggi) เปิดให้บริการมาอย่างยาวนานเกือบ 50 ปีแล้ว เริ่มเปิดให้บริการในปี ค.ศ.1976 แต่ในช่วงแรกใช้ชื่อว่า “Yongin Jayeon Nongwon” หรือ “Yongin Natural Farm” จากนั้นในปี ค.ศ.1996 จึงมีการเปิดโซนใหม่ และเปลี่ยนชื่อเป็น Everland” (에버랜드) เพื่อให้จดจำได้ง่าย และเป็นที่รู้จักมากขึ้น โดยนอกจากเครื่องเล่นสนุกๆ มากมายแล้ว ที่นี่ยังมีโซนสวนสัตว์ขนาดใหญ่ พร้อมด้วยการตกแต่งที่สวยงาม แปลงโฉมสวนสนุกให้เป็นธีมต่างๆ ตามเทศกาลและฤดูกาลที่เปลี่ยนไปอีกด้วย สามารถเที่ยวได้ตลอดปีไม่มีเบื่อเลย

สวนสนุก Everland
Credit : Lifestyle Travel Photo / shutterstock.com

การเดินทางจากโซล

จากโซลสามารถเดินทางไปยัง สวนสนุก Everland ได้หลายวิธี แม้จะอยู่ห่างจากตัวเมืองแต่ก็เดินทางสะดวกสบายมากๆ พี่เห็ดสรุปมาให้ 3 วิธีการเดินทาง ตามนี้เลยจ้า

1. รถบัส : จากโซลมีรถบัสไป Everland ทั้งหมด 4 สาย คือ
– 5002 A,B เส้นทาง Sinnonhyeon Station – Gangnam Station – Yangjae Station – Everland
– 5700 A, B เส้นทาง Gangbyeon Station – Jamsil Station – Songpa Station – Suseo Station – Everland
– 1500-2 เส้นทาง Sadang Station – Nambu Bus Terminal – Pangyo Station – Bundang (Seohyun Station) – Everland
– 1113 เส้นทาง Gangbyeon Station – Gangdong Station – Gwangju City Hall – Foreign Language College of Korea– Everland
หากมาจากสนามบินอินชอน จะมีรถบัสจากเมืองอินชอนมุ่งตรงมาที่จังหวัดคยองกี 6 สาย ได้แก่ รถบัสด่วน (Non-Stop bus) สาย 8478, 8862 และ 8839 และรถบัสธรรมดา สาย 66, 66-4 และ 670 เมื่อถึงจังหวัดคยองกีแล้ว ต่อรถบัส 4 สายข้างต้นมายังสวนสนุกได้เลย

2. รถไฟ : จากโซล ขึ้นรถไฟมาลงที่ สถานี Jeondae-Everland ทางออก 3 แล้วต่อรถ Shuttle Bus ให้บริการฟรี ไปสวนสนุกได้เลย มีรถวิ่งตั้งแต่เวลา 05.30 – 23.30 น.

3. รถ Everland Shuttle Bus : จากโซลมีอีกหนึ่งวิธีที่สะดวกมากๆ ก็คือ บริการรถ Everland Shuttle Bus ขึ้นได้ตามจุดต่างๆ ในโซล เช่น ฮงแด เมียงดง คังนัม และอีกมากมาย ค่ารถไปกลับประมาณ 12,000 วอน ดูจุดขึ้นรถบัสได้ที่ >> คลิก

สนุกไปกับ 5 โซนในเอเวอร์แลนด์

พื้นที่ภายใน สวนสนุก เอเวอร์แลนด์ มีขนาดใหญ่มากๆ แบ่งออกเป็น 5 โซนหลัก แต่ละโซนก็จะเป็นธีมที่แตกต่างกันออกไป ใครอยากไปเที่ยวให้ครบทุกโซน ดาวน์โหลดแผนที่ในสวนสนุกได้ที่นี่เลย >> แผนที่ สวนสนุกเอเวอร์แลนด์

1. Global Fair
Credit : OTTO-FOTO / shutterstock.com

มาเริ่มกันที่โซนแรก Global Fair ตรงบริเวณทางเข้า และทางออกหลักของสวนสนุก ตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมแบบตะวันตกและตะวันออก ได้แรงบันดาลใจมาจากเมืองแห่งเทพนิยาย ทำให้รู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปในโลกอีกใบ ภายในโซนจะมีร้านขายของที่ระลึก ร้านอาหาร และร้านค้ามากมาย รวมถึงบริการต่างๆ จากทางสวนสนุก เช่น บริการตู้เก็บของ จุดชาร์จโทรศัพท์ เช่าพาวเวอร์แบงค์ เช่ารถเข็นเด็ก เป็นต้น ส่วนถ้าใครอยากซื้อของฝาก ก็สามารถช้อปได้ที่โซนนี้เลย มีของน่ารักๆ ให้เลือกเพียบ และต้องไม่ลืมถ่ายรูปเช็คอินกับ Everland Tree ต้นไม้ขนาดใหญ่ที่ตกแต่งอย่างน่ารักเหมือนอยู่ในนิทาน เป็นแลนด์มาร์คสุดฮิตของที่นี่เลย ถือเป็นโซนเบาๆ เหมาะการถ่ายรูป ช้อปปิ้ง เดินเล่นชิลๆ

2. American Adventure
Credit : Lifestyle Travel Photo / shutterstock.com

เดินต่อเข้ามาอีกหน่อยก็จะเจอโซน American Adventure ผจญภัยอเมริกัน จำลองประเทศสหรัฐอเมริกาแบบย้อนยุค กลับไปเมื่อ 500 ปีก่อน สมัยโคลัมบัสค้นพบประเทศอเมริกาใหม่ๆ มาจนถึงยุคเฟื่องฟูของดนตรีร็อคแอนด์โรล และราชาแห่งยุคอย่าง เอลวิส เพรสลีย์ พร้อมดนตรีประกอบสุดเร้าใจ เหมาะกับวัยรุ่นและผู้ใหญ่วัยเก๋า แต่ที่พลาดไม่ได้ของโซนนี้ คือบรรดาเครื่องเล่นสุดหวาดเสียวที่รวบรวมเอาไว้มากมาย ทั้ง เรือเหาะ Columbus Adventures, Double Rock Spin, รถไฟเหาะ Rolling X-Train หรือ Hurricane ใครที่ชอบเครื่องเล่นแบบผาดโผนหน่อยแนะนำโซนนี้เลย

3. Magic Land
สวนสนุก Everland
Credit : Alen thien / shutterstock.com

พาน้องๆ หนูๆ มาที่โซน Magic Land ดินแดนมหัศจรรย์ เทพนิยายแฟนตาซี มีการตกแต่งสวยงามราวกับเมืองในฝัน ได้แรงบันดาลใจมาจากเรื่องราวในนิทานอีสป ภายในโซนมีทั้งร้านอาหาร เครื่องเล่นเบาๆ สำหรับเด็ก เช่น ม้าหมุน รถไฟเหาะจิ๋ว เป็นต้น และไฮไลต์ที่พลาดไม่ได้ของโซนนี้เลยก็คือ หมู่บ้านอีสป (Aesop’s Village) ซึ่งเป็นการจำลองโลกของนิทานอีสปให้เด็กๆ ได้เข้ามาสัมผัสโลกในจินตนาการอย่างใกล้ชิด พร้อมสอดแทรกเนื้อหาสาระ แง่คิดดีๆ ผ่านตัวละครสุดน่ารักจากนิทานเรื่องต่างๆ เข้าไปด้วย ใครที่มาเที่ยวสวนสนุกเป็นครอบครัว หรือมีเด็กๆ ร่วมทริปด้วย มาโซนนี้รับรองว่าถูกใจน้องๆ หนูๆ แน่นอน

4. European Adventure
Credit : mastapiece / shutterstock.com

มาถึงโซน European Adventure ที่เมื่อเข้ามาแล้วเหมือนได้บินไปยุโรปจริงๆ เพราะเน้นการตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์ยุโรป ได้รับแรงบันดาลใจมาจากวัฒนธรรมดัชต์ มีการจำลองตึก อาคาร และการแต่งสวนดอกไม้สไตล์ฝรั่งเศส ซึ่งจะปรับเปลี่ยนไปตามแต่ละฤดูกาล ภายในโซนมีเครื่องเล่นหลากหลายระดับ แต่ที่เป็นไฮไลต์ที่สุดของโซนนี้ก็คือ “รถไฟเหาะ T-Express” รถไฟเหาะไม้แห่งแรกของเกาหลี และเป็นเครื่องเล่นที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในสวนสนุกแห่งนี้ ตามด้วย “คฤหาสน์ลึกลับ Mystery Mansion” ร่วมผจญภัยไปในบ้านผีสิงและสนุกไปกับการใช้ปืนเลเซอร์ยิงผี อีกทั้งโซนนี้ยังเป็นสถานที่ในการรับชมโชว์ตามฤดูกาลของ สวนสนุก Everland อีกด้วย

5. Zootopia
Credit : english.visitkorea.or.kr

เปลี่ยนบรรยากาศไปเจอเหล่าสัตว์น้อยใหญ่ตัวเป็นๆ ในโซน Zootopia นครสัตว์มหาสนุก โซนที่เพื่อนๆ จะเพลิดเพลินไปความน่ารักของสัตว์นานาชนิด ไม่ว่าจะเป็น หมีขั้วโลก, ฟลามิงโก, สิงโตทะเล, เพนกวิน, เสือ, แกะ, แพะ และอื่นๆ อีกกว่า 20 ชนิด มากถึง 100 กว่าตัวเลยทีเดียว แต่ไฮไลต์ที่พลาดไม่ได้เลยก็คือ ลูกไลเกอร์ (Liger) ลูกแฝดคู่แรกของโลกที่เป็นการผสมระหว่างเสือและสิงโต ภายในโซนเราสามารถนั่งรถบัสเข้าไปสัมผัสเหล่าสัตว์กันได้แบบใกล้ชิด พร้อมมีการจัดแสดง และกิจกรรมต่างๆ ให้ได้ร่วมสนุก เช่น ขี่ม้า หรือนั่งกระเช้าลอยฟ้า (Human Sky) ชมบรรยากาศสวนสนุกมุมสูง และธรรมชาติสุดร่มรื่นก็เพลินไปอีกแบบ ยกให้เป็นอีกหนึ่งโซนที่น้องๆ หนูๆ ชอบกันมาก

15 ไฮไลต์ห้ามพลาดในสวนสนุกเอเวอร์แลนด์

สวนสนุก Everland มีเครื่องเล่นละลานตา และมีกิจกรรมให้ทำเยอะมาก พี่เห็ดคัดมาให้แล้วกับ 15 ไฮไลต์เด็ดๆ ในสวนสนุก ให้ทุกคนได้เตรียมจดเช็คลิสต์ พร้อมปักหมุดเที่ยวไว้ได้เลย

สวนสนุก Everland
Credit : kikujungboy CC / shutterstock.com

1. รถไฟเหาะ T-Express (โซน European Adventure) : เครื่องเล่นสุดฮอตที่ได้รับความนิยมสูงสุดในสวนสนุก ทั้งยังเป็นรถไฟเหาะไม้แห่งแรกของเกาหลี และลาดชันที่สุดเป็นอันดับ 4 ของโลกอีกด้วย เรียกว่าต้องได้กรี๊ดกันให้สุดเสียง เพราะว่าสูงถึง 56 เมตร วิ่งด้วยความเร็ว 104 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และมีความชันถึง 77 องศา ใครชอบเครื่องเล่นหวาดเสียว อยากท้าทายความตื่นเต้น ห้ามพลาด!

2. Lost Valley (โซน Zootopia) : เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ให้เพื่อนๆ ได้นั่งรถบัสแบบเปิดเข้าไปสัมผัส เยี่ยมเยือน และให้อาหารสัตว์ต่างๆ มากกว่า 20 ชนิดอย่างใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็น ยีราฟ, ฟลามิงโก้, อูฐ, แรด หรือช้าง มีครบทั้งบนบกและในน้ำ โดยมีการออกแบบให้สภาพแวดล้อมใกล้เคียงกับวิถีชีวิตดั้งเดิมของพวกสัตว์ต่างๆ มากที่สุด ทั้งยังออกแบบกิจกรรมให้รบกวนชีวิตประวันของสัตว์น้อยที่สุดอีกด้วย

3. Safari World (โซน Zootopia) : ไปนั่งชมสัตว์แบบเพลินๆ อย่างใกล้ชิดกันต่อ แต่เปลี่ยนจากรถบัสแบบเปิดเป็นรถบัสคันเล็กที่มีกระจกใสรอบคัน เพราะมีการพาเข้าไปชมสัตว์ดุร้ายใกล้ๆ อย่าง เสือ, สิงโต, หมี และไฮยีนา ตัวรถออกแบบมาให้มีความปลอดภัย และความสูงในระดับที่พอดี พร้อมด้วยช่องระบายอากาศที่ทำให้เราได้สัมผัสทั้งภาพ เสียง กลิ่น ชมวิถีชีวิตของสัตว์ได้อย่างใกล้ชิดสุดๆ

4. ล่องแก่ง Amazon Express (โซน Zootopia) : พาไปตะลุยป่าอเมซอน ล่องแก่งไปตามสายน้ำไหลเชี่ยวที่มีความยาว 580 เมตร ท่ามกลางหมู่มวลแมกไม้นานาพันธุ์ ผ่านถ้ำและเกาะต่างๆ ให้ฟีลเหมือนอยู่ในป่าเมซอนจริงๆ ใครจะเล่นเครื่องเล่นนี้อย่าลืมนำชุดมาเปลี่ยนด้วยนะ เพราะอาจจะมีจังหวะที่ต้องน้ำเล็กน้อย บอกเลยว่ามันส์มาก

Credit : witheverland.com

5. Panda World (โซน Zootopia) : ตามมาดูความน่ารักของครอบครัวแพนด้ายักษ์แสนน่ารัก อย่าง ครอบครัวเป่า (Panda Bao Family) ที่คนเกาหลีชื่นชอบกันมาก โดยมีสมาชิกในครอบครัวคือ ตัวพ่อ “เล่อเป่า” (Le Bao), ตัวแม่ “อ้ายเป่า” (Ai Bao) และ ลูกคนโต “ฟู่เป่า” (Fu Bao) ที่ถึงแม้ตอนนี้ฟู่เป่าจะกลับจีนไปแล้ว แต่ก็มีสมาชิกใหม่เป็นลูกแพนด้ายักษ์แฝด ที่มีชื่อว่า “รุ่ยเป่า” (Rui Bao) และ “ฮุ่ยเป่า” (Hui Bao) บอกเลยว่าน่ารักไม่แพ้พี่สาวฟู่เป่าเลยทีเดียว และในโซนนี้ก็ยังมี ครอบครัวแพนด้าแดง ด้วยนะ เราจะได้เห็นชีวิตความเป็นอยู่แบบเรียลไทม์ ถือเป็นไฮไลต์เด็ดที่ถูกใจทุกเพศทุกวัยอย่างแน่นอน แถมยังมีของที่ระลึกแพนด้าสุดน่ารักให้ได้ช้อปอีกหลายอย่างเลย

Credit : english.visitkorea.or.kr

6. รถไฟเหาะตีลังกา Rolling X-Train (โซน American Adventure) : ใครชอบความหวาดเสียว ต้องไม่พลาด รถเหาะไฟตีลังกาแบบ 360 องศา หมุนเกรียวไปเลย 2 รอบ กรี๊ดกันจนเสียงแหบ ถึงใจกันแบบสุดๆ

7. Hurricane (โซน American Adventure) : อีกหนึ่งเครื่องเล่นสุดหวาดเสียวที่ให้ความรู้สึกเหมือนได้หลุดเข้าไปอยู่จุดศูนย์กลางของพายุหมุน โดยจะหมุนไปรอบๆ พร้อมเหวี่ยงไปที่ความสูง 19 เมตรจากพื้น บอกได้เลยว่างานนี้ ต้องจับให้แน่น หวาดเสียวไม่แพ้เครื่องเล่นอื่นเลย

Credit : pink stockers / shutterstock.com

8. Let’s Twist (โซน American Adventure) : ถึงแม้ว่ารูปร่างหน้าตาอาจจะคล้ายกังหันลม แต่บอกเลยว่าโหดกว่านั้นมาก เครื่องเล่นนี้เหมือนเป็นปืนกล ที่พร้อมจะเหวี่ยงหมุน 360 องศา แบบรัวๆ เรียกได้ว่าเป็นการหมุนซ้อนหมุน และซ้อนหมุนอีกที ถ้าใครไหวแนะนำให้พุ่งตัวมาไวๆ เลย รับรอง รับรองมันส์ถึงใจแน่นอน

9. Thunder Falls (โซน Magic Land) : ไปเติมความสดชื่นด้วยการเล่นล่องแก่งสุดหวาดเสียว ช่วงแรกๆ อาจนั่งเล่นชมบรรยากาศ ดูชิลๆ แต่พอถึงช่วงไคลแมกซ์ เรือจะถูกปล่อยตัวมาตามรางน้ำที่สูงชันอย่างรวดเร็ว จนน้ำกระจายไปทั่ว เตรียมใจให้พร้อมสำหรับความเปียก แต่ถ้าใครกังวล เขาก็มีชุดกันฝนให้บริการด้วยนะ

10. ชมสวน Four Seasons Garden (โซน European Adventure) : พักจากเครื่องเล่นหวาดเสียว ไปเดินเล่นชิลๆ ชมความสวยความงามของดอกไม้กันที่ “สวนสี่ฤดู” สวนขนาด 10,000 ตารางเมตร สามารถเที่ยวชมได้ตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะอยู่ในช่วงฤดูกาลไหนก็จะเต็มไปด้วยดอกไม้จากฤดูนั้นๆ เช่น ดอกทิวลิปในฤดูใบไม้ผลิ หรือ ดอกกุหลาบในฤดูร้อน สีสันสดใส ถ่ายรูปตรงไหนก็สวยไปหมด ใครอยากเห็นดอกไม้อะไรก็อย่าลืมตรวจสอบช่วงเวลาผลิบานของดอกไม้นั้นๆ ให้ดีนะคะ

Credit : english.visitkorea.or.kr

11. ขบวนพาเหรด Moonlight Parade (โซน European Adventure) : ตื่นตาตื่นใจไปกับขบวนพาเหรดแสงสียามค่ำคืน อลังการด้วยดวงไฟ LED สว่างไสวไปทั่วบริเวณ มาพร้อมการแสดงที่จะได้เห็นตัวละครสุดน่ารักออกมาโลดแล่น เต้นรำไปตามเสียงเพลง โดยขบวนพาเหรดจะมีทุกวัน ใช้เวลาแสดงประมาณ 30 นาที

Credit : english.visitkorea.or.kr

12. โชว์พลุ Every Moment with Everland (โซน European Adventure) : หากอยู่สวนสนุกจนถึงช่วงกลางคืน พลาดไม่ได้กับการแสดงพลุสุดตระการตา หลากหลายรูปแบบ ดูกันให้จุใจ เพราะมากันแบบรัวๆ เป็นการจบวันในสวนสนุกที่เต็มอิ่มและประทับใจแน่นอน

Credit : english.visitkorea.or.kr

13. สนุกกับเทศกาลตลอดทั้งปี : ถ้าเพื่อนๆ มาเที่ยวสวนสนุกเอเวอร์แลนด์ไม่ว่าจะช่วงเดือนไหน ก็จะเจออีเวนต์ต่างๆ ที่ไม่ซ้ำกัน เรียกได้ว่ามีเทศกาลตลอดทั้งปี เริ่มตั้งแต่ช่วงเดือนมีนาคมไปจนถึงเมษายน พบกับ เทศกาลดอกทิวลิป (Tulip Festival) สีสันสวยงาม ละลานตาทั่วทั้งพื้นที่, เดือนพฤษภาคมถึงมิถุนายนพบกับ เทศกาลดอกกุหลาบ (Rose Festival) หอมกลิ่นเย้ายวนไปตลอดทาง, เดือนมิถุนายนถึงสิงหาคม เป็นช่วงเข้าสู่หน้าร้อน ก็จะมีงาน ซัมเมอร์สแปลช (Summer Splash) โดนน้ำสาดกันถ้วนหน้า แล้วไปต่อกันที่งาน วันขอบคุณพระเจ้า (Happy Thanksgiving) พบกับดอกไม้ในฤดูใบไม้ร่วง ช่วงเดือนกันยายนถึงพฤศจิกายน ในระหว่างเดือนตุลาคม ก็จะเจอกับ เทศกาลฮาโลวีน (Halloween) แล้วปิดท้ายปีกับ เทศกาลคริสต์มาส (Christmas) ที่สุดของความครึกครื้น ผู้คนแห่กันมาร่วมฉลองส่งท้ายปี ภายในพื้นที่ก็จะตกแต่งด้วยธีมคริสต์มาสน่ารักๆ นอกจากนี้ยังมีอีกหลายเทศกาลน่าไป แนะนำให้ติดตามบนหน้าเว็บไซต์ให้ดี เพราะมีเทศกาลพิเศษอยู่เรื่อยๆ ตลอดทั้งปีจริงๆ

Credit : facebook.com/Minimeltskorea

14. ของกินห้ามพลาดในสวนสนุก : ระหว่างเที่ยวอยู่ในสวนสนุก รับรองได้ว่าไม่มีช่วงปล่อยให้ท้องร้องอย่างแน่นอน เพราะมีร้านอาหาร ของกิน และคาเฟ่กระจายอยู่ตามโซนต่างๆ มากมาย ของกินยอดฮิตที่ซื้อได้ตามซุ้มของว่างก็คือ ไอศกรีมเม็ด Minimelts, น่องไก่ตุรกี (Turkey Leg), ชูโรส (Churros), พิซซ่าโรล และอีกมากมาย นอกจากนี้ก็ยังมีร้านอาหารนานาชาติ ไม่ว่าจะเป็น อาหารเกาหลี จีน ญี่ปุ่น ตะวันตก เวียดนาม รวมถึงอาหารแม็กซิกัน ถูกใจสายกินแน่นอน

15. ช้อปปิ้งของฝาก : เตรียมเงินไว้ให้พร้อม เพราะที่นี่มีร้านของฝาก ของที่ระลึกน่ารักๆ น่าซื้อกลับบ้านเพียบ ยิ่งถ้าใครเป็นแฟนคลับครอบครัวแพนด้าเป่าแล้วล่ะก็ ต้องแวะ Panda World Shop” ซื้อตุ๊กตาน่ารักๆ หรือของต่างๆ ติดไม้ติดมือกลับไปสักชิ้นสองชิ้นเก็บไว้เป็นของที่ระลึก

รายละเอียดเพิ่มเติม

ค่าเข้าชม : ราคาแตกต่างกันไปตามประเภทของบัตร ฤดูกาล และอายุของผู้เยี่ยมชม ตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางเว็บไซต์ https://www.everland.com/everland/promotion/usage-fee
เวลา เปิด-ปิด : ทุกวันเวลา 10.00 – 22.00 น.
เว็บไซต์ : https://www.everland.com/everland/home/main
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/dXnDnJPDhi6wjCfM8

เรียกได้ว่าถ้าใครมา เที่ยวเกาหลี แล้วไม่ได้ไป สวนสนุก Everland บอกได้เลยว่าพลาดมากๆ เพราะ เอเวอร์แลนด์ เป็นแหล่งรวมความสนุกความบันเทิงแบบครบเครื่องมากๆ มาเที่ยวคนเดียวก็เที่ยวได้ มากันเป็นคู่ก็ไม่ติด หรือถ้ามากันทั้งครอบครัวจะยิ่งฟิน มีน้องๆ หนูๆ มาเที่ยวด้วย ยิ่งหรรษาไปอีก ครบจบในที่เดียว แต่ถ้าใครอยากมาเที่ยวเกาหลีแบบง่ายๆ สะดวกสบาย มีคนดูแลให้ครบทุกขั้นตอน จอง ทัวร์เกาหลี กับพี่เห็ด มัชรูมทราเวล รับรองว่าสะดวกสบาย ประทับใจจนจบทริปแน่นอน


ชอบ บทความ มัชรูมทราเวล ทำไงดี…?
1. กดแชร์ต่อ ให้เพื่อนอ่านบ้าง
2. คลิก Likeและติดตามเราได้ที่ Facebook www.facebook.com/mushroomtravel/

—————
Mushroom Travel มีโปรแกรม ทัวร์เกาหลี ให้เลือกมากที่สุด
โทร. 02-105-6234 (30 คู่สาย)
Line id : @mushroomtravel

สินค้าที่เกี่ยวข้อง