@MushroomTravelWifi ฟรี…ดีแค่ไหน…?
ใครที่เคยไปเที่ยวต่างประเทศ น่าจะเคยถูกฝากซื้อของมาบ้าง (ซึ่งที่สุดแล้วจะเป็นของฝากซื้อหรือของซื้อฝากก็เป็นอีกเรื่องน่ะจ๊ะ) ก็จะเคยประสบภาวะปัญหามากมายเช่น “ไม่ใช่สูตรนี้” “ไม่ใช่ขนาดนี้” “บอกว่าสีทองตัวหนังสือสีขาว ซื้อสีทองตัวหนังสือสีครีมมาทำไม” ซึ่งทั้งหลายทั้งมวลจะจบลงที่ว่า “ซื้อมาผิดไม่จ่ายเงินนะ!!” (บ้านพี่ไม่ได้พิมพ์แบงค์ใช้เองนะจ๊ะน้อง)
วันนี้เราเลยมีวิธีแก้ปัญหานี้มาให้ง่ายๆ แถมฟรีอีกต่างหาก นั่นก็คือ…โทโฮกุ ฟรี wifi ที่ใช้ได้ทั่วภูมิภาค 6 จังหวัด ทั้ง อะโอะโมะริ อิวะเตะ อะกิตะ มิยะงิ ยะมะงะตะ ฟุกุชิมะ พ่วงด้วยจังหวัดใกล้เคียงอย่าง นีงะตะ ด้วยจุดกระจายสัญญาณ (hot spot) กว่า 45,000 จุด 10,000 สถานที่ จะร้านอาหาร โรงแรม วัด แหล่งช็อปปิ้ง สวนสาธารณะ สวนสัตว์ สวนสนุก ทีนี้จะฝากซื้อของสีไหน ไซส์อะไร จะอัพโหลดรูปโชว์ลงโวเชียลมีเดีย หรือจะไลน์โทรคุยกับญาติสนิทมิตรสหายก็ไม่ต้องจ่ายเงิยค่าเปิดโรมมิ่ง (แสนโหด) อีกต่อไป อะๆ เห็นเค้าใจป้ำขนาดนี้บอกเลยว่าพี่ยุ่นเขาใจป้ำได้มากกว่านี้อีกด้วยระยะเวลาการใช้งานถึง 14 วัน อ่าห์…ฟิน
วิธีการใช้งานก็ง๊ายง่าย ดี๊ดี แบ่งเป็น 3 เสต็ป
1. Get it! >>>
การขอรับ ID และ PASSWORD แบ่งได้ 2 วิธี
วิธีแรกคือนำพาสปอร์ตไปยื่นเพื่อขอรับการ์ดฟรี Wi-Fi ที่ศูนย์ข้อมูลท่องเที่ยวโตเกียว สาขาสนามบินฮาเนดะ เทอร์มินอลผู้โดยสารระหว่างประเทศ ชั้น 2 แถมยังเปิดทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมงอีกนะ #สะดวกกว่าพี่ก็เซเว่นแล้วน้อง สำหรังคนที่ไม่ได้ลงที่ฮาเดะก็ไม่ต้องกังวลไปเพราะการ์ดนี้สามารถขอรับได้ตามห้างสรรพสินค้า เช่น อิเซตัน มิสึโกชิ โฮลดิ้ง ห้างสรรพสินค้าเคโอ ไดมารู ซับโปโร ห้างสรรพสินค้าโทบุ หรือร้านแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ Travelex รวมถึงในจุดขอรับต่างๆ อีกหลายที่ที่กระจายตัวอยู่อย่างลอบคลุมและทั่วถึง ตรวจสอบจุดขอรับการ์ดฟรี wifi ไม่ต้องกลัวอ่านไม่ออกเพราะพียุ่นเขาจัดทำภาษาไทยให้ชาวสยามอย่างเราอ่านได้ง๊ายง่ายเลยล่ะ #ฉันรักประเทศนี้จริงๆ เลยให้ตายสิ
วิธีที่สองจะสามารถทำได้ตั้งแต่ก่อนเดินทางมาญี่ปุ่นเลยคือ ให้ดาวน์โหลดฟรีแอพพลิเคชั่น “NAVITIME for Japan Travel” ลงในสมาร์ทโฟนของท่านเพื่อรับฟรี Wi-Fi ID และพาสเวิร์ดผ่านทางแอพพลิเคชั่น #สะดวกสบายตั้งแต่ยังไม่ทันเข้าประเทศเลยนะเนี่ย สามารถดาน์โหลดแอพลิเคชั่นได้เลยที่ APP Store และ PLAY Store
2. Connect! >>>
การเชื่อมต่อเองก็แบ่งได้ 2 วิธีเช่นกันคือ การเชื่อมต่อผ่านบราวเซอร์ วิธีนี้เริ่มที่เข้าไปตั้งค่า SSID ที่อุปกรณ์ของท่านเพื่อเชื่อมต่อไปยัง 0000FLETS-PORTAL แล้วกด “Wi-Fi” กด “Vistors” เลือกภาษาเป็น “English” คลิ๊กเครื่องหมายถูกที่ช่องแล้วกด “Log in” หลังจากอ่านข้อควรระวังแล้ว ต่อด้วยใส่ ID และพาสเวิร์ดที่อยู่บน “การ์ดฟรี Wi-Fi” พร้อมกับอีเมล์แอดเดรส จากนั้นกด “Log in” เพื่อเริ่มการบริการ จะมีข้อความ “Login Succeeded” เด้งขึ้นมายืนยันว่าล็อคอินเสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้ว
วิธีที่สองคือ เชื่อมต่อผ่านแอพลิเคชั่น “Japan Connected-free Wi-Fi” หลังจากดาวน์โหลดและเปิดเข้าไปในแอพแล้ว ให้เริ่มต้นแอพพลิเคชั่น เพื่อลงทะเบียนใช้งาน แล้วกดที่ “เครื่องมือท่องเที่ยว” กด “คูปอง” กดที่ “FREE Wi-Fi” กด “Set/Change” ตามด้วยใส่ ID และรหัสผ่านตามที่ระบุไว้ที่บัตร จากนั้นกดที่ “Set/Change” อีกครั้งเป็นอันเสร็จสิ้นขั้นตอนการตั้งค่า และเมื่อ้องการใช้งานให้เข้าไปที่แอพลิเคชั่น กดเลือก “Connect” แล้วก็เริ่มใช้งาน wifi ฟรีๆ ได้แบบไม่จำกัดเลย รายละเอียดการเชื่อมต่อเพิ่มเติม สามารถดาน์โหลดแอพลิเคชั่นได้เลยที่ APP Store และ PLAY Store
3. Enjoy! >>>
ทีนี้ก็ออกเดินทางท่องโลกออนไลน์และเชื่อมต่อทุกกาใช้งานได้อย่างง่ายดายฟรี! ติดต่อกันถึง 14 วัน หรือ 336 ชั่วโมง! จะไลน์จะฟสบุ๊ก เฟสไทม์ อินตราแกรมก็ไม่ใช่เรื่องยากและแพงอีกต่อไป #ของดีwifiฟรีๆมีที่ญี่ปุ่น
ขอกระซิบเพิ่มเติมว่าโหลดแอพลิเนทั้งสองตัวล่วงหน้าไว้จะสบายมากๆ เพราะจะไม่ต้องเดินหาจุดรับการ์ด (ในขั้นตอนที่ 1: Get it!) เพราะเราสามารลงทะเบียนของรับ ID และ PASSWORD ได้เลยตั้งแต่ก่อนไปด้วยซ้ำ และในขั้นตอนการเชื่อมต่อ (ขั้นตอนที่ 2: Connect!) จะช่วยให้การเชื่อมต่อในครั้งต่อๆ ไปสามารถเชื่อมต่อได้อย่างรวดเร็ว ง่ายดายเพียงแค่ 2 คลิ๊กเท่านั้น
ทีนี้ก็พร้อมลุยเที่ยว กิน ช็อป อัพเดทลงโซเชียลหรือหาข้อมูลการเดินทางรวมถึงการติดต่อสื่อสารทั่วทุกมุมโลกได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องเสียเงินแล้วล่ะ!