14 ผลไม้ตามฤดูกาล ญี่ปุ่น ไปเที่ยวช่วงนี้ได้กินอะไร?!

ญี่ปุ่น เป็นประเทศที่ชวนให้เราตกหลุมรักได้ซ้ำๆ นอกจากจะเป็นประเทศที่ขึ้นชื่อในเรื่องของสถานที่ท่องเที่ยว มีธรรมชาติที่สวยงามในทุกฤดูกาล อาหารท้องถิ่นแสนอร่อย แล้วก็ยังมี ผลไม้ญี่ปุ่น เป็นอีกหนึ่งของดีขึ้นชื่อที่ใครๆ ก็อยากลิ้มลองรสชาติ ด้วยความที่ญี่ปุ่นมีฤดูกาลทั้งหมด 4 ฤดู และมีความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่เพาะปลูก ทำให้พืชผักผลไม้ต่างๆ มีความหลากหลาย รสชาติโดดเด่น หวานฉ่ำ กรอบอร่อย ราคาถูก ทั้งยังหากินได้ง่ายตลอดทั้งปี ถูกใจคนชอบกินผลไม้แน่นอน บทความนี้พี่เห็ด มัชรูมทราเวล รวบรวม 14 ผลไม้ตามฤดูกาล ญี่ปุ่น พร้อมช่วงเวลาแนะนำ มาให้ชม แต่ละชนิดจะน่าอร่อยหรือมีรสชาติแบบไหน มาเก็บข้อมูลกันได้เลย

1. สตรอว์เบอร์รี (Strawberry)

ช่วงเวลาแนะนำ : มกราคม – พฤษภาคม
จังหวัดที่ปลูกมากที่สุด : โทะจิกิ (Tochigi), ฟุกุโอกะ (Fukuoka) และซากะ (Saga)

แลนด์ดิ้งถึงถิ่นปุ๊ป ผลไม้ตามฤดูกาล ญี่ปุ่น อย่างแรกที่ต้องกินให้ได้เลยคือ สตรอว์เบอร์รี ลูกโตๆ หวานฉ่ำ ร้อยทั้งร้อยถ้าได้ลองกินเข้าปาก ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า อร่อย! ลูกเดียวคงไม่พอ ที่สำคัญญี่ปุ่นถือเป็นประเทศที่ปลูกและบริโภคสตรอว์เบอร์รีมากที่สุดในโลกอีกด้วย มีสายพันธุ์ยอดนิยมกว่า 10 สายพันธุ์ ถ้ามาในช่วงฤดูกาลเราจะเห็นตามท้องตลาดวางขายกันคึกคัก และฟาร์มหลายแห่งยังเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปเก็บสตรอว์เบอร์รีกินกันสดๆ จากสวนได้เลย

2. เชอร์รี (Cherry)

ช่วงเวลาแนะนำ : มิถุนายน – กรกฎาคม
จังหวัดที่ปลูกมากที่สุด : ยามากาตะ (Yamagata)

ไปต่อกันที่ เชอร์รี หรือในภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า ซากุรันโบะ (Sakuranbo) ผลไม้สีแดงฉ่ำเงาลูกเล็กดูน่ารัก รสชาติหอมหวานจนต้องยกนิ้วให้ รสชาติของเชอร์รีญี่ปุ่นนั้นไม่เหมือนกับเชอร์รีบ้านเรา เพราะจะมีรสหวานกลมกล่อม ไม่ออกรสเปรี้ยว ซึ่งแต่ละสายพันธุ์ก็จะให้สีและรสชาติที่แตกต่างกันออกไป ทุกปีในช่วงที่เชอร์รีออกผลให้เก็บเกี่ยว นักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาเก็บและกินเชอร์รีได้สดๆ จากสวน เรียกได้ว่าเป็นผลไม้ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงฤดูร้อน แต่ถ้าใครอยากจะซื้อไปเป็นของฝาก เนื่องจากไม่สามารถนำผลไม้สดเข้าประเทศไทยได้ พี่เห็ดแนะนำให้ซื้อแบบผลิตภัณฑ์แปรรูปอย่าง แยม หรือ เหล้า ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีเลยค่ะ แต่ใครที่จะซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กลับมา แนะนำให้ตรวจสอบรายละเอียดเรื่องการนำเข้าประเทศอีกครั้ง ต้องมีปริมาณไม่เกิน 1 ลิตร เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกดำเนินคดีนะคะ

3. บ๊วย (Japanese Plum)

ช่วงเวลาแนะนำ : มิถุนายน-กรกฎาคม
จังหวัดที่ปลูกมากที่สุด : วากายามะ (Wakayama)

อีกหนึ่ง ผลไม้ญี่ปุ่น ที่ไม่อยากให้พลาดกับ บ๊วย ในภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า อุเมะ (Ume) ซึ่งบ๊วยสายพันธุ์ญี่ปุ่นนั้นมีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนที่ไหน มีกลิ่นหอม รสชาติเปรี้ยวนิดๆ มักนำมาแปรรูปทำเป็นบ๊วยดอง ที่เรียกว่า อุเมะโบชิ (Umeboshi) ดองกับเกลือ หรือแช่ในน้ำผึ้ง นำไปประกอบอาหารหลายประเภท เช่น น้ำสลัด แซนด์วิช หรือไส้ข้าวปั้น นับเป็นเครื่องเคียงที่ขาดไม่ได้ นำมากินคู่กับข้าวได้เลย นิยมกินในช่วงฤดูหนาว แต่ไม่นิยมกินสดๆ เพราะมีสารบางอย่างที่เป็นอันตราย จึงต้องนำไปแปรรูปก่อน เพื่อทำเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น เหล้าบ๊วย ซอสปรุงรส ขนมหวาน เป็นต้น

4. เมล่อน (Melon)

ช่วงเวลาแนะนำ : มิถุนายน – กรกฎาคม
จังหวัดที่ปลูกมากที่สุด : ฮอกไกโด (Hokkaido), อิบารากิ (Ibaraki), ชิซุโอกะ (Shizuoka) และคุมาโมโตะ (Kumamoto)

อากาศร้อนๆ ในช่วงฤดูร้อนของญี่ปุ่น ก็ต้องดับกระหายด้วย เมล่อน (Melon) เนื้อหวาน ฉ่ำน้ำ กลิ่นหอม เปลือกนอกมีสีเขียว ผิวของเปลือกเมล่อนขรุขระเป็นลวดลายตาข่ายอันเป็นเอกลักษณ์ ถือเป็นผลไม้ประจำฤดูร้อน และเป็นผลไม้ขึ้นชื่อของจังหวัดฮอกไกโดอีกด้วย ซึ่งเนื้อเมล่อนญี่ปุ่นก็จะมีสีแตกต่างกันไปตามสายพันธุ์ ทั้งเนื้อสีส้ม สีเขียว และออกสีขาว สายพันธุ์ที่ได้รับความนิยม ได้แก่ คิโมจิ, คูนามิ, โมมิจิ, Andesu และ Quincy ที่มีรสชาติน่าลิ้มลอง หวานฉ่ำชื่นใจ ยิ่งแช่เย็นยิ่งอร่อย กินแล้วรู้สึกเฟรช ร่างกายสดชื่นขึ้นมาทันที สมกับเป็นผลไม้ประจำฤดูร้อนจริงๆ ค่ะ

5. พีช (Peach)

ช่วงเวลาแนะนำ : ปลายเดือนมิถุนายน – สิงหาคม
จังหวัดที่ปลูกมากที่สุด : ยามานาชิ (Yamanashi), ฟุกุชิมะ(Fukushima) และนางาโนะ (Nagano)

เมื่อไปถึงญี่ปุ่นต้องลองชิมกับ พีช ชาวญี่ปุ่นเรียกว่า โมโมะ (Momo) หรือรู้จักกันในชื่อ ลูกท้อ อีกหนึ่งผลไม้ที่อยากแนะนำ เพราะเป็นผลไม้ที่หากินได้ยากและไม่สามารถปลูกได้ในไทย บนผิวจะมีขนเล็กๆ ปกคลุม เนื้อนิ่ม รสชาติหวานอมเปรี้ยวนิดๆ มีกลิ่นหอมละมุนเฉพาะตัว กินแล้วฟินสุดๆ นอกจากจะกินกันสดๆ แล้ว คนญี่ปุ่นยังนิยมนำลูกพีชมาแปรรูปและทำขนมอีกด้วย หรือจะเป็นเหล้ารสพีช ก็หอมหวานถึงใจไปอีกแบบ

6. บลูเบอร์รี (Blueberry)

ช่วงเวลาแนะนำ : กรกฎาคม – สิงหาคม
จังหวัดที่ปลูกมากที่สุด : ชิบะ (Chiba), อิบารากิ (Ibaraki) และนางาโนะ (Nagano)

อีกหนึ่งกิจกรรมสนุกๆ ในช่วงฤดูร้อนของญี่ปุ่นคือ การเก็บ บลูเบอร์รี สดๆ จากต้น ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่นักท่องเที่ยว เป็นผลไม้สีน้ำเงินเข้มที่มีรสเปรี้ยวอมหวาน สายพันธุ์ที่ได้รับความนิยม ได้แก่ โอสึบุโฮชิ และอามาสึบุโฮชิ เพราะผลใหญ่ หวานอร่อย นิยมกินกันสดๆ หรือนำไปแปรรูป เช่น แยม หรือท็อปปิ้งต่างๆ ยิ่งในช่วงหน้าร้อนบลูเบอร์รีถือเป็นผลไม้ที่ฮอตสุดๆ มักนำไปทำเป็นไอศกรีมบลูเบอร์รี บลูเบอร์รีโซดา หรือโยเกิร์ตบลูเบอร์รี เป็นต้น บอกได้เลยว่ากินแล้วชื่นใจ คลายร้อนได้ดีมากๆ

7. แตงโม (Watermelon)

ช่วงเวลาแนะนำ : มิถุนายน – สิงหาคม
จังหวัดที่ปลูกมากที่สุด : คุมาโมโตะ (Kumamoto)

แน่นอนว่าช่วงฤดูร้อน แตงโม ลูกใหญ่ๆ เป็นผลไม้ที่คนนิยมกินกันมากที่สุด รสชาติหวานฉ่ำ น้ำเยอะ ยิ่งแช่เย็นแล้วนำมากิน บอกเลยว่าคลายร้อนได้ดีมากๆ โดยรูปทรงของแตงโมที่ญี่ปุ่นนั้นมีหลากหลาย ทั้งเป็นทรงรี ทรงสี่เหลี่ยม หรือทรงแปลกตา สร้างความเซอร์ไพรส์ให้กับคนชาติอื่นอยู่เสมอ นอกจากกินกันสดๆ แล้วยังมีผลิตภัณฑ์ที่ทำจากแตงโมมาวางขายกันถ้วนหน้า ไม่ว่าจะเป็น ไอศกรีมแตงโม เยลลี่แตงโม ลูกอมแตงโม หรือน้ำแตงโมปั่น ก็อร่อยสดชื่นฟินสุดๆ

8. ลูกแพร์ (Pear)

ช่วงเวลาแนะนำ : สิงหาคม – ตุลาคม
จังหวัดที่ปลูกมากที่สุด : ชิบะ (Chiba), อิบารากิ (Ibaraki) และทตโตริ (Tottori)

พอผ่านพ้นช่วงฤดูร้อน เข้าสู่ฤดูเก็บเกี่ยวก็จะมี ลูกแพร์ หรือเรียกกันว่า สาลี่ ผลไม้สีเหลืองลูกกลมๆ บางพื้นที่เป็นทรงเรียว สาลี่ญี่ปุ่นนั้นมีเอกลักษณ์เป็นเนื้อทราย รสชาติหวาน กรอบ ฉ่ำน้ำ มีหลายสายพันธุ์ให้ลิ้มลอง แต่ละพันธุ์ก็จะมีรสชาติที่แตกต่างกันออกไป แต่ที่ได้รับความนิยมก็คือ สายพันธุ์นิจุสเซกิ รสชาติอมเปรี้ยว ส่วนใครชอบหวานๆ แนะนำเป็นสายพันธุ์โคะซุยุ และโฮะซุยุ เป็นผลไม้ที่นิยมกินกันในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ลักษณะของต้นสาลี่จะมีความสูงไม่มากนัก ประมาณ 1.5 เมตร ทำให้เด็ดลูกได้ง่าย ไม่ต้องปีนบันไดไปเก็บก็อร่อยได้เลย

9. แอปเปิ้ล (Apple)

ช่วงเวลาแนะนำ : กันยายน – ธันวาคม
จังหวัดที่ปลูกมากที่สุด : อาโอโมริ (Aomori), นางาโนะ (Nagano) และอิวาเตะ (Iwate)

ตามไปเก็บ ผลไม้ตามฤดูกาล ญี่ปุ่น อีกหนึ่งชนิด นั่นก็คือ แอปเปิ้ล สายพันธุ์ฟูจิลูกสีแดงสด เนื้อกรอบ กัดแล้วแน่นเต็มคำ หวานฉ่ำ หรืออีกสายพันธุ์ที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กันก็คือ สายพันธุ์โอริน ลูกสีเขียวเหลือง รสหวานอมเปรี้ยว เป็นสองสายพันธุ์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในญี่ปุ่น นอกจากแอปเปิ้ลญี่ปุ่นจะให้รสชาติหวานกรอบอร่อย เป็นที่ถูกอกถูกใจของใครต่อใครแล้ว ยังเป็นผลไม้ที่ให้ประโยชน์ต่อร่างกายอีกด้วย รับรองใครได้ชิมแล้วต้องติดใจ

10. องุ่น (Grape)

ช่วงเวลาแนะนำ : สิงหาคม – กันยายน
จังหวัดที่ปลูกมากที่สุด : ยามานาชิ (Yamanashi), นางาโนะ(Nagano) และยามางาตะ (Yamagata)

อีกหนึ่งความอร่อย ผลไม้ตามฤดูกาล ญี่ปุ่น ที่ต้องมากินที่ญี่ปุ่นเท่านั้น นั่นคือ องุ่น ลูกเล็กลูกโตมีให้เลือกได้ตามใจชอบ แต่ที่แน่ๆ องุ่นญี่ปุ่นรสหวานฉ่ำ หยิบเม็ดเดียวไม่พอ จนต้องกินหมดพวง มีหลายสายพันธุ์ รสชาติและขนาดก็แตกต่างกันไป แต่เดอะเบสที่ห้ามพลาดคงหนีไม่พ้น องุ่นสีดำลูกใหญ่ รสชาติหวานอมเปรี้ยวอย่าง สายพันธุ์เคียวโฮ (Kyoho) เป็นพันธุ์ที่นิยมมากๆ ในญี่ปุ่น แต่ใครที่อยากฟินแบบฟินๆ ไม่มีสะดุด ไร้เมล็ด ก็ต้องเป็น องุ่นพันธุ์เดลาแวร์ (Delaware) ในช่วงฤดูกาลสามารถหาซื้อได้ง่าย ราคาไม่แพง หรือจะเข้าสวนไปเก็บองุ่นสดๆ จากต้น ก็สนุกเพลินดี

11. เกาลัด (Chestnut)

ช่วงเวลาแนะนำ : กันยายน – ตุลาคม
จังหวัดที่ปลูกมากที่สุด : อิบารากิ (Ibaraki) และกิฟุ (Gifu)

เอาใจคนชอบเคี้ยวอะไรเพลินๆ กับ เกาลัด หรือภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า คูริ (Kuri) รสชาติหวานมัน หอมธรรมชาติ หากินได้ง่ายทั่วญี่ปุ่น นอกจากนำมาคั่วร้อนๆ ในกระทะ กะเทาะเปลือกกินแล้ว คนญี่ปุ่นนิยมนำไปทำเป็นเมนู ข้าวอบเกาลัด และยังมีขนมพื้นเมืองอีกหลายชนิดที่ใช้เกาลัดเป็นส่วนประกอบ บอกได้เลยว่าอร่อยไม่แพ้เกาลัดสายพันธุ์จากจีนแน่นอน

12. ลูกพลับ (Persimmon)

ช่วงเวลาแนะนำ : ตุลาคม – ธันวาคม
จังหวัดที่ปลูกมากที่สุด : นารา (Nara), ฟุกุโอกะ (Fukuoka) และกิฟุ (Gifu)

ลองชิมแล้วอร่อยแน่กับ ลูกพลับ ผลไม้ลูกสีเหลืองอมส้ม เนื้อนิ่ม ผลไม้ขึ้นชื่อประจำฤดูใบไม้ร่วงของญี่ปุ่นที่มีการเพาะปลูกกันมาอย่างยาวนาน และเป็นที่นิยมของชาวญี่ปุ่นอย่างมาก ซึ่งลูกพลับมีทั้งแบบหวาน สำหรับกินสดๆ หรือแบบฝาดสำหรับทำลูกพลับตากแห้ง เก็บไว้กินในช่วงฤดูหนาว เพื่อช่วยให้ความอบอุ่นกับร่างกายนั่นเอง ฉะนั้นหากเพื่อนๆ จะซื้อลูกพลับญี่ปุ่น อย่าลืมถามแม่ค้าให้ดีๆ นะคะว่าเป็นแบบหวานหรือฝาด

13. มันหวาน (Sweet Potato)

ช่วงเวลาแนะนำ : ตุลาคม – พฤศจิกายน
จังหวัดที่ปลูกมากที่สุด : อิบารากิ (Ibaraki) และคาโกชิมะ(Kagoshima)

มันหวาน ผลสีม่วงทรงรี เนื้อด้านในสีเหลืองทอง ตอนย่างร้อนๆ จะมีกลิ่นหอม หวานอร่อย เนื้อหนึบกำลังดี มีให้เลือกหลายสายพันธุ์ตามความชื่นชอบ ทั้งพันธุ์เนื้อแน่น พันธุ์หวานปานกลาง พันธุ์เนื้อฉ่ำ แต่สายพันธุ์ขึ้นชื่อก็คือ เบนิฮารุกะ (Beni-haruka) เป็นที่นิยมทั้งในญี่ปุ่นและทั่วทุกมุมโลก นอกจากจะกินเพลิน เน้นความอร่อยแล้ว ยังมีประโยชน์ต่อร่างกายด้วยนะ

14. ส้มยูซุ (Yuzu Orange)

ช่วงเวลาแนะนำ : ตุลาคม – ธันวาคม
จังหวัดที่ปลูกมากที่สุด : เอฮิเมะ (Ehime), ชิบะ(Chiba), ไอจิ (Aichi) และโคจิ (Kochi)

พอเข้าสู่ช่วงฤดูหนาวของญี่ปุ่นจะมีผลไม้เพียงไม่กี่ชนิด ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ ส้ม รสชาติหวานหอม ฉ่ำน้ำ กินแล้วสดชื่น ดีต่อใจ ดีต่อร่างกาย แถมราคาไม่แพง โดยส้มญี่ปุ่นนั้นมีมากถึง 100 สายพันธุ์ มีขนาด รูปร่างและรสชาติที่แตกต่างกันไป แต่สายพันธุ์ยอดฮิตและเป็นที่นิยมในบ้านเรานั่นก็คือ ส้มยูซุ (Yuzu) ที่นำมาเป็นส่วนประกอบของเมนูอาหาร ขนมหวาน และเครื่องดื่ม กินได้ไม่มีเบื่อ เป็นอีกหนึ่งผลไม้ญี่ปุ่นที่ไม่ควรพลาด

ถ้าได้กิน ผลไม้ตามฤดูกาล ญี่ปุ่น รับรองว่าอร่อยถูกใจ ไปเที่ยวช่วงไหนอย่าลืมชิมของเด็ดให้ฟิน หรือจะไปเก็บที่สวนเลยก็ได้ ได้ทั้งชิมผลไม้สดๆ และยังได้ประสบการณ์ใหม่ไปอีกแบบ มั่นใจได้เลยว่าใครที่ชอบความหอมหวาน อยากเติมความสดชื่นให้กับร่างกาย ผลไม้ญี่ปุ่น จะไม่ทำให้เพื่อนๆ ผิดหวังแน่นอน