Mushroom Travel LINE
เราช่วยคุณได้
@mushroomtour
จันทร์ - เสาร์
9:00-22:00
อาทิตย์
9:00-18:00
Call Mushroom Travel
Call Center
02 105 6234
จอง 6 คนขึ้นไป
จอง 6 คนขึ้นไป
02 105 6244
Loading...

20 ที่เที่ยว จอร์เจีย เปิดประสบการณ์สุดขอบเอเชีย น่าเที่ยวกว่าที่คิด

ถ้าพูดถึงอีกหนึ่งประเทศที่เป็นกระแส มีนักท่องเที่ยวชาวไทยสนใจไปเที่ยวกันเยอะมากๆ ก็ต้องนึกถึง จอร์เจีย (Georgia) ประเทศที่ตั้งอยู่บนจุดตัดระหว่างทวีปเอเชียและยุโรป เป็นประเทศเก่าแก่ที่มีประวัติความเป็นมายาวนานกว่า 2,500 ปี อีกทั้งยังมีบรรยากาศบ้านเมืองทั้งสถาปัตยกรรมและวัฒนธรรมที่เหมือนกับทางยุโรป ส่วนนักท่องเที่ยวชาวไทยอย่างเราก็สามารถไป เที่ยวจอร์เจีย ได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องขอวีซ่า ใครอยากไปเปิดประสบการณ์ใหม่ตามมาเลยจ้า พี่เห็ด มัชรูมทราเวล จะพาไปตะลุย 20 ที่เที่ยว จอร์เจีย พิกัดยอดฮิตที่ไม่ควรพลาด บอกเลยว่าทริป ทัวร์จอร์เจีย นี้ประทับใจแน่นอน

1. เทือกเขาคอเคซัส (Caucasus Mountains)

ที่เที่ยว จอร์เจีย
Credit : Yulie N / shutterstock.com

เริ่มต้นตะลุย ที่เที่ยว จอร์เจีย ที่หลายคนอาจจะคุ้นๆ ชื่อนั่นก็คือ เทือกเขาคอเคซัส เทือกเขาสูงในยุโรป เป็นเทือกเขาขนาดใหญ่ ทำหน้าที่แบ่งพรมแดนระหว่างทวีปยุโรปและทวีปเอเชีย ทำให้เกิดกลุ่มประเทศต่างๆ ที่อยู่ทั้งสองทวีป ซึ่งบนเทือกเขาคอเคซัสในฝั่งประเทศจอร์เจีย ก็มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย อย่างเช่น ยอดเขาคาสเบก (Mt.Kazbek) หนึ่งในภูเขาบนเทือกเขาคอเคซัส ที่เราสามารถขึ้นไปชมวิวได้อย่างสุดลูกหูลูกตา แนะนำว่าถ้าใครไป เที่ยวจอร์เจีย ที่นี่แล้วเป็นคนเมารถง่าย อย่าลืมพกยาไปด้วยนะ เพราะต้องนั่งรถตู้ขึ้นเขาไปตามทางที่ค่อนข้างขรุขระเลยทีเดียว
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/LVdGEvwLtbkJvqH46

2. โบสถ์เกอร์เกติ (Gergeti Trinity Church)

ที่เที่ยว จอร์เจีย
Credit : suttirat wiriyanon / shutterstock.com

ตะลุย ที่เที่ยว จอร์เจีย ที่ถัดมาอย่าง โบสถ์เกอร์เกติ เป็นโบสถ์เก่าแก่ของประเทศจอร์เจีย สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 14 ตั้งอยู่ในเมืองคาสเบกิ บนหน้าผาริมแม่น้ำเชเครี (Chkheri) สูงกว่าระดับน้ำทะเลกว่า 2,000 เมตร ท่ามกลางวิวของเทือกเขาคอเคซัสเป็นฉากหลัง ซึ่งทัศนียภาพของโบสถ์นี้ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของประเทศจอร์เจียไปแล้ว
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/mfn8izsuS6yAYeCz8

3. อนุสรณ์สถานรัสเซีย-จอร์เจีย (Russia–Georgia Friendship Monument)

ที่เที่ยว จอร์เจีย
Credit : Michal Piec / shutterstock.com

อนุสรณ์สถานรัสเซีย-จอร์เจีย เป็นอนุสรณ์หินคอนกรีตทรงกลมขนาดใหญ่ สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1983 เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสครบรอบ 200 ปี ของสนธิสัญญา Georgievsk ด้านในอนุสรณ์มีการตกแต่งด้วยกระเบื้องโมเสกเป็นภาพขนาดใหญ่ บอกเล่าประวัติศาสตร์ของชาวรัสเซียและจอร์เจีย ถือเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวยอดนิยม เนื่องจากตั้งอยู่บนจุดที่สามารถมองเห็นวิวเทือกเขาสวยๆ ที่รวมถึงหุบเขาปีศาจ (Devil’s Valley) ได้อีกด้วย
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/hRLdUZTrrHLhnnW86

4. ย่านเมืองเก่าแห่งนครหลวงทบิลิซี (Old town of Tbilisi)

ที่เที่ยว จอร์เจีย
Credit : efired / canva.com

ย่านเมืองเก่าแห่งนครหลวงทบิลิซี เป็นหัวใจทางประวัติศาสตร์ของจอร์เจียที่เต็มไปด้วยอาคารสถาปัตยกรรมโบราณที่ผสมผสานวัฒนธรรมยุโรปและเอเชียอย่างลงตัว จุดเด่นคือ สะพานแห่งสันติภาพ (Bridge of Peace) ที่เปิดทำการเมื่อปี ค.ศ. 2010 มีดีไซน์แบบโค้งงอทันสมัยตัดกับความเก่าแก่ของเมือง และยังมี โบสถ์เมเตคี (Metekhi Church) โบสถ์เก่าแก่ที่ตั้งอยู่บนหน้าผาริมแม่น้ำคูรา และ โรงอาบน้ำกำมะถันอะบาโนตูบานี (Abanotubani Sulfur Baths) ซึ่งมีชื่อเสียงด้านสปาธรรมชาติ โดยหากเดินเล่นตามตรอกซอกซอยจะได้สัมผัสกับเสน่ห์ของอาคารไม้ ระเบียงแกะสลัก และบรรยากาศสุดคลาสสิกที่ชวนให้หลงมนต์เสน่ห์จนแทบไม่อยากกลับ!
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/JrpvbUxPwEJrMFvCA

5. สะพานแห่งสันติภาพ (The Bridge of Peace)

ที่เที่ยว จอร์เจีย
Credit : onlyfabrizio / canva.com

อีกหนึ่ง ที่เที่ยว จอร์เจีย ที่ไม่ควรพลาด นั่นคือ สะพานแห่งสันติภาพ เป็นสะพานคนเดินรูปโค้ง ก่อสร้างด้วยเหล็กและแก้ว ประดับไฟ LED จำนวนมากเหนือแม่น้ำคูรา อยู่ในตัวเมืองทบิลิซี เมืองหลวงของประเทศจอร์เจีย ตัวสะพานทอดยาว 150 เมตร เป็นสะพานเชื่อมต่อเขตเมืองเก่ากับเขตเมืองใหม่เข้าด้วยกัน ในเวลากลางคืนสะพานจะถูกส่องสว่างด้วยไฟ LED สีขาวนับพันบริเวณหลังคา เป็นภาพที่สวยงามมากๆ
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/4HKSS5AVd7uNvAAz7

6. ประติมากรรมอลิและนิโน่ (Ali & Nino Statue)

ที่เที่ยว จอร์เจีย
Credit : Mazur Travel / shutterstock.com

ประติมากรรมอลิและนิโน่ รูปปั้นเหล็ก ความสูงประมาณ 8 เมตร เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กที่โดดเด่นของเมืองบาทูมี ได้รับแรงบันดาลใจจากนวนิยายรักชื่อดัง โดยเล่าเรื่องราวของชายมุสลิมชาวอาเซอร์ไบจานและหญิงคริสเตียนชาวจอร์เจียที่รักกันแต่ต้องพรากจากกันเพราะสงคราม จุดเด่นของรูปปั้นนี้คือการเคลื่อนไหว ที่ทำให้ทั้งสองร่างขยับเข้าใกล้และซ้อนทับกัน ก่อนจะค่อยๆ แยกจากกัน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความรักที่ไม่มีวันสมหวัง ตั้งอยู่ริมชายฝั่งทะเลดำ ท่ามกลางบรรยากาศโรแมนติก โดยเฉพาะในช่วงค่ำที่มีการเปิดไฟประดับอย่างสวยงาม ทำให้เป็นจุดถ่ายภาพยอดนิยมและสถานที่ที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนเมืองบาทูมี
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/hunEcuPQ9DysJ5YZ7

7. มหาวิหารศักดิ์สิทธิ์ทบิลิซี (Holy Trinity Cathedral of Tbilisi)

Credit : Maria Komar / shutterstock.com

ที่เที่ยว จอร์เจีย อีกหนึ่งพิกัดสำคัญก็คือ มหาวิหารศักดิ์สิทธิ์ทบิลิซี หรือ มหาวิหารโฮลี่ทรินิตี้ ตั้งอยู่ในเมืองหลวงทบิลิซี เป็นโบสถ์หลักของคริสตจักรออร์ทอดอกซ์จอร์เจีย ตัวโบสถ์มีขนาดใหญ่และได้รับการจัดอันดับเป็นสิ่งก่อสร้างทางศาสนาที่ใหญ่ที่สุดในแถบอ่าวเปอร์เซีย รวมถึงสูงเป็นอันดับ 3 ของโลก ใครมาเที่ยวต้องไม่พลาด ไปชมความยิ่งใหญ่ของมหาวิหารแห่งนี้กัน
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/sa6R2inYNaDF5CgRA

8. เมืองถ้ำอุพลิสชิเค่ (Uplistsikhe)

Credit : Oleg Golovnev / shutterstock.com

เปลี่ยนบรรยากาศ เที่ยวจอร์เจีย ไปชมเมืองถ้ำยุคโบราณที่มีมาตั้งแต่ยุคหินกันที่ เมืองถ้ำอุพลิสชิเค่ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำมิกวาริ ตัวถ้ำเป็นการเจาะตีนเขาให้เป็นโพรงทะลุถึงกัน ภายนอกมีบันไดและมีถนนหินเป็นส่วนเชื่อมต่อแต่ละถ้ำ มีการสันนิษฐานว่าถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยก่อนคริสตกาลเพื่อเป็นที่อยู่อาศัย ส่วนด้านบนสุดของถ้ำมีโบสถ์นิกายโรมันคาทอลิก สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 9 หรือ 10 หลังจากคริสต์ศาสนาเผยแผ่เข้ามาในจอร์เจีย ปัจจุบันได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก นอกจากนี้ภายในเมืองยังมีพิพิธภัณฑ์ให้เราได้ไปศึกษาประวัติศาสตร์ของเมืองนี้อีกด้วยค่ะ
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/GkH83MwL4d4PfrjVA

9. พิพิธภัณฑ์สตาลิน (Joseph Stalin Museum)

Credit : Andrey X. / canva.com

มาศึกษาประวัติศาสตร์กันที่ พิพิธภัณฑ์สตาลิน สถานที่รวบรวมเรื่องราวของ โจเซฟ สตาลิน ผู้นำลัทธิคอมมิวนิสต์ ภายในพิพิธภัณฑ์จัดแสดงชีวประวัติของสตาลินตั้งแต่เกิดจนถึงเสียชีวิต ข้อมูลต่างๆ รวมถึงสิ่งของเครื่องใช้ที่เกี่ยวกับสตาลิน โดยแบ่งโซนจัดแสดงเป็นห้องๆ อีกทั้งยังมีการสร้างอาคารต่างๆ ให้คล้ายกับสถานที่เกิดของสตาลินอีกด้วย
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/VAk7jtWjtUAxYqPc9

10. โบสถ์เกอลาติ (Gelati Monastery)

Credit : nsafonov / shutterstock.com

ที่เที่ยว จอร์เจีย ที่ถัดมาคือ โบสถ์เกอลาติ อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวของจอร์เจียที่ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลก สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1106 ทางตะวันตกของประเทศจอร์เจีย นับว่าเป็นสถาปัตยกรรมชิ้นเอกของยุคทองของเศรษฐกิจและการเมือง ในจอร์เจียช่วงยุคกลางระหว่างศตวรรษที่ 11 และ 13 ตัวโบสถ์โดดเด่นด้วยด้านหน้าของตัวอาคารที่ใช้อิฐบล็อกขนาดใหญ่ ช่องประตูและหน้าต่างโค้งได้สัดส่วนสวยงาม โบสถ์เกอลาติ เป็นหนึ่งในโบสถ์ยุคออร์โธด็อกซ์ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นศูนย์กลางของวิทยาศาสตร์และการศึกษา อีกทั้งยังเป็นศูนย์รวมวัฒนธรรมที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในจอร์เจียโบราณ ภายในโบสถ์มีจิตรกรรมฝาผนังบอกเล่าเรื่องราวของพระเยซูและนักบุญต่างๆ ของศาสนาคริสต์
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/S271kouLDfZ7jvaa7

11. ป้อมนาริกาลา (Narikala Fortress)

Credit : Monticello / shutterstock.com

ป้อมนาริกาลา ป้อมปราการโบราณ ตั้งอยู่เหนือเขตเมืองเก่าของทบิลิซี สร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 4 และในสมัยต่อๆ มาก็ได้มีการขยายและก่อสร้างเพิ่มเติม เป็นป้อมปราการสำคัญสำหรับการปกป้องเมืองในศึกสงคราม ในปัจจุบันก็เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ใครอยากมาชมวิวเมืองทบิลิซีจากมุมสูงก็สามารถนั่งกระเช้าขึ้นมายังป้อมปราการแห่งนี้ได้
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/dpBC5mR6hHajVaTQ9

12. อนุสาวรีย์ประวัติศาสตร์จอร์เจีย (The Chronicle of Georgia)

Credit : Joe Dordo Brnobic / shutterstock.com

อนุสาวรีย์ประวัติศาสตร์จอร์เจีย เป็น ที่เที่ยว จอร์เจีย ที่สะท้อนเรื่องราวทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของจอร์เจียออกมาได้อย่างชัดเจน โดยบอกเล่าผ่านเสาหินขนาดมหึมา ความสูงกว่า 30 เมตร จำนวน 16 ต้น ที่แกะสลักภาพพระมหากษัตริย์ นักบุญ และเหตุการณ์สำคัญของชาติ ตั้งอยู่บนเนินเขาสูง บรรยากาศเงียบสงบ ให้มุมมองแบบพาโนรามาของเมืองทบิลิซี เหมาะสำหรับการเดินชมและซึมซับเสน่ห์ของศิลปะที่ทรงพลัง ท่ามกลางธรรมชาติที่โอบล้อมอย่างงดงาม
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/fLXTi8EUSjaAdWMYA

13. โรงอาบน้ำโบราณ อะบาโนตูบานี (Abanotubani Tbilisi Sulfur Baths)

Credit : KO-SIM / shutterstock.com

โรงอาบน้ำโบราณ อะบาโนตูบานี เป็นแหล่งน้ำพุร้อนธรรมชาติที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในทบิลิซี โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมโดมอิฐแบบเปอร์เซียที่เรียงตัวอย่างสวยงาม โดยมีน้ำแร่กำมะถันของที่ขึ้นชื่อเรื่องคุณสมบัติช่วยบำรุงผิวและบรรเทาความเมื่อยล้า ดีต่อสุขภาพ นักท่องเที่ยวสามารถเลือกอาบน้ำในบ่อสาธารณะหรือห้องส่วนตัวก็ได้ พร้อมสัมผัสประสบการณ์สปาแบบจอร์เจียแท้ๆ นอกจากนี้บรรยากาศรอบๆ ยังเต็มไปด้วยเสน่ห์ของเมืองเก่า มีตรอกซอยเล็กๆ ให้เดินเล่นและถ่ายภาพ รวมถึงคาเฟ่และร้านอาหารที่สามารถมานั่งชิล พักผ่อนได้
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/AKF6rkkWYDWaorxN9

14. วิหารจวารี (Jvari Monastery)

Credit : George Trumpeter / shutterstock.com

มา เที่ยวจอร์เจีย ทั้งที ต้องห้ามพลาดมาแวะชมความสวยงามของ วิหารจวารี หนึ่งในสถานที่สำคัญทางศาสนาและประวัติศาสตร์ของจอร์เจีย มีอายุเก่าแก่กว่า 600 ปี ตั้งอยู่บนยอดเขาที่มองลงมาเห็นจุดบรรจบของแม่น้ำอารักวีและแม่น้ำคูราแบบพาโนรามา โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมแบบจอร์เจียยุคแรกที่เรียบง่ายแต่ทรงพลัง ภายในเงียบสงบ เต็มไปด้วยบรรยากาศอันศักดิ์สิทธิ์ เชื่อกันว่าวิหารแห่งนี้เป็นที่ตั้งของไม้กางเขนที่นักบุญนีโนได้ปักไว้เมื่อศาสนาคริสต์เริ่มเผยแผ่ในจอร์เจีย ซึ่งความเก่าแก่และความงดงามของสถานที่แห่งนี้ ทำให้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโกอีกด้วย
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/dDyCL7M7WW8p82Nf7

15. อ่างเก็บน้ำซินวาลี (Zhinvali Reservoir)

Credit : goffkein.pro / shutterstock.com

อ่างเก็บน้ำซินวาลี เป็น ที่เที่ยว จอร์เจีย ที่โอบล้อมด้วยภูเขาสูงสลับซับซ้อน สร้างขึ้นเพื่อกักเก็บน้ำและผลิตพลังงานไฟฟ้า แต่ปัจจุบันกลายเป็นหนึ่งในจุดชมวิวที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของจอร์เจีย ความพิเศษของที่นี่คือ สีน้ำที่เปลี่ยนไปตามฤดูกาล ตั้งแต่ฟ้าใสไปจนถึงเขียวมรกต โดยเฉพาะในช่วงพระอาทิตย์ขึ้นและตก ที่บรรยากาศจะสวยงามเป็นพิเศษ เหมาะแก่การมาถ่ายรูปและพักผ่อน เป็นจุดหมายที่รวมทั้งธรรมชาติและประวัติศาสตร์เข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/XJLsA6p7tWEg7qxM7

16. ป้อมอนานูรี (Ananuri Fortress)

Credit : Leonid Andronov / shutterstock.com

ที่เที่ยว จอร์เจีย อีกหนึ่งแห่งที่ไม่ควรพลาดคือ ป้อมอนานูรี ปราสาทเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ริมอ่างเก็บน้ำซินวาลี ท่ามกลางทิวทัศน์ภูเขาสูงอันงดงาม ถือเป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของจอร์เจีย เพราะเคยเป็นป้อมปราการหลักของขุนนางอารักวีในศตวรรษที่ 16 – 17 โดยโครงสร้างของป้อมประกอบด้วยกำแพงหินสูงตระหง่าน โบสถ์อันเก่าแก่ และหอคอยที่ยังคงสภาพสมบูรณ์ ภายในมีจิตรกรรมฝาผนังโบราณที่สะท้อนถึงศิลปะยุคกลาง ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเดินขึ้นไปยังหอคอยเพื่อชมวิวมุมสูงของอ่างเก็บน้ำซินวาลีที่มีน้ำสีฟ้าใสตัดกับฉากหลังของภูเขา ป้อมอนานูรีจึงเป็นจุดหมายที่ผสมผสานทั้งประวัติศาสตร์และธรรมชาติได้อย่างลงตัว ใครอยากมาชมสถาปัตยกรรมเก่าแก่ พร้อมถ่ายภาพสวยๆ บอกเลยว่าห้ามพลาด
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/7bbZSoBVHBWi12mL8

17. หมู่บ้านจูทา (Juta Village)

Credit : Foofa Jearanaisil / shutterstock.com

หมู่บ้านจูทา เป็นหนึ่งในหมู่บ้านที่อยู่ในพื้นที่สูงที่สุดในจอร์เจีย ความสูงประมาณ 2,200 เมตรจากระดับน้ำทะเล ตั้งอยู่ท่ามกลางเทือกเขาคอเคซัสที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติอันบริสุทธิ์ ความพิเศษของที่นี่คือ วิวภูเขาชูคา (Chaukhi Massif) ที่ถูกขนานนามว่าเป็น “โดโลไมต์แห่งจอร์เจีย” ทำให้เป็นจุดหมายยอดนิยมของนักเดินป่าและผู้ที่ชื่นชอบการผจญภัย มีอากาศเย็นสดชื่นตลอดปี โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อนที่ดอกไม้ป่าบานสะพรั่งเพิ่มความงดงามให้กับทิวทัศน์ ซึ่งหมู่บ้านยังคงวิถีชีวิตดั้งเดิมของชาวจอร์เจีย มีที่พักสไตล์โฮมสเตย์และคาเฟ่เล็กๆ ที่ให้บรรยากาศอบอุ่น เหมาะสำหรับการมาพักผ่อนแบบใกล้ชิดธรรมชาติและสัมผัสเสน่ห์ของเทือกเขาคอเคซัสอย่างแท้จริง
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/pu2onpU6a7Pou1ce6

18. วิหารสเวติสโคเวลี (Svetitskhoveli Cathedral)

Credit : Andrey X. / canva.com

วิหารสเวติสโคเวลี เป็นหนึ่งในวิหารศักดิ์สิทธิ์ตั้งอยู่ในเมืองมตสเคตา (Mtskheta) อดีตเมืองหลวงเก่าแก่ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมแบบจอร์เจียยุคกลางที่สง่างาม เต็มไปด้วยจิตรกรรมฝาผนังที่เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับศาสนา และความเชื่อที่ว่าวิหารแห่งนี้เป็นที่เก็บรักษาเสื้อคลุมของพระเยซู ทำให้เป็นศูนย์กลางแห่งความศรัทธาของคริสตชนในจอร์เจีย นอกจากนี้บริเวณโดยรอบยังมีตรอกซอกซอยเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยร้านค้าและคาเฟ่ที่ให้อารมณ์เมืองโบราณ เหมาะสำหรับการเดินชมและซึมซับมนต์เสน่ห์ทางวัฒนธรรม
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/HqGMM2iuN4HrhFNH9

19. เมืองกูดาอูรี (Gudauri)

Credit : Evgeny Eremeev / shutterstock.com

เมืองกูดาอูรี เป็นเมืองสกีรีสอร์ตที่มีชื่อเสียงที่สุดในจอร์เจีย ตั้งอยู่ท่ามกลางเทือกเขาคอเคซัสที่สูงตระหง่าน ให้บรรยากาศราวกับอยู่ในเทือกเขาแอลป์ โดยจุดเด่นของที่นี่คือลานสกีขนาดใหญ่ ที่เปิดให้เล่นตั้งแต่ระดับเริ่มต้นไปจนถึงนักสกีมืออาชีพ รวมถึงกิจกรรมน่าตื่นเต้นอย่าง พาราไกลดิ้ง (Paragliding) ที่จะพาทุกคนลอยขึ้นเหนือภูเขาพร้อมชมวิวพาโนรามาสุดอลังการ ซึ่งในช่วงฤดูหนาว (ธันวาคม – เมษายน) ถือเป็นไฮซีซั่นของที่นี่ เพราะหิมะปกคลุมหนาแน่นเหมาะสำหรับการเล่นสกี ส่วนในฤดูร้อนทิวเขาจะเปลี่ยนเป็นสีเขียวสด เหมาะกับการเดินป่าและขี่จักรยานชมวิว ไม่ว่าจะมาในฤดูไหน กูดาอูรีก็เป็นจุดหมายที่ไม่ควรพลาดสำหรับคนรักธรรมชาติและกีฬากลางแจ้ง
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/bJDgxX3EDQ6WnruL9

20. เมืองบอร์โจมิ (Borjomi)

Credit : Andrey X. / canva.com

ส่งท้ายกันที่ เมืองบอร์โจมิ เป็นเมืองตากอากาศที่โดดเด่นด้วยน้ำแร่ธรรมชาติ ที่มีแร่ธาตุสูงและเป็นที่นิยมไปทั่วโลก พิกัดไฮไลต์ของเมืองคือ Borjomi Central Park สวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่มีบ่อน้ำแร่ให้ลองชิมโดยตรงจากแหล่งกำเนิด ท่ามกลางบรรยากาศป่าเขาอันร่มรื่น นอกจากนี้บอร์โจมิยังเป็นเมืองที่เป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางเดินป่าไปยัง อุทยานแห่งชาติบอร์โจมิ – คารากาอูลี (Borjomi-Kharagauli National Park) ซึ่งเป็นหนึ่งในอุทยานที่ใหญ่ที่สุดของจอร์เจีย ครอบคลุมพื้นที่กว่า 851 ตารางกิโลเมตร มีอากาศบริสุทธิ์ตลอดทั้งปี เหมาะสำหรับการพักผ่อน ฟื้นฟูร่างกาย และสัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิด อีกทั้งยังมีสถาปัตยกรรมสไตล์ยุโรปยุคเก่าที่ช่วยเติมเสน่ห์ให้เมืองนี้เป็นจุดหมายที่น่าหลงใหลมากยิ่งขึ้น
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/RxQNjvPaJ2sxaWgH8

เห็นสถานที่ท่องเที่ยวแล้วบอกเลยว่าน่าเที่ยวไม่แพ้ที่อื่นๆ เลยนะคะ ใครอยากออกไปหาประสบการณ์ใหม่ๆ มัชรูมทราเวลก็มี ทัวร์จอร์เจีย หลายโปรแกรมที่น่าสนใจ ใครอยากไปเที่ยวสถานที่สวยๆ แบบนี้ก็ทักหาพี่เห็ดได้เลย ถ้ามีโอกาสได้ไปเที่ยวจอร์เจีย อย่าลืมแชร์ภาพสถานที่สวยๆ มาให้ชมกันบ้างนะคะ 🙂


ชอบ บทความ มัชรูมทราเวล ทำไงดี…?
1. กดแชร์ต่อ ให้เพื่อนอ่านบ้าง
2. คลิก Like และ ติดตามเราได้ที่ Facebook www.facebook.com/mushroomtravel/

—————

Mushroom Travel มีโปรแกรม ทัวร์จอร์เจีย ให้เลือกมากที่สุด
โทร. 02-105-6234 (30 คู่สาย)
[email protected]
Line id : @mushroomtravel

สินค้าที่เกี่ยวข้อง