Glacier 3000 เป็นอีกหนึ่งยอดเขาสูง พิกัดท่องเที่ยวยอดฮิตในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มีจุดชมวิวที่สวยงามแบบพาโนรามา และยังเต็มไปด้วยกิจกรรมสุดเร้าใจให้ร่วมสนุกมากมาย เป็นสถานที่ที่สามารถเดินทางมาเที่ยวได้ตลอดทั้งปี บทความนี้พี่เห็ด มัชรูมทราเวล จะขอพาทุกคนไป สำรวจ Glacier 3000 ว่ามาฤดูไหนจะพบกับอะไรบ้าง ไปจนถึงวิธีการเดินทาง และจุดไฮไลต์ที่ไม่ควรพลาด ถ้าพร้อมแล้ว ออกเดินทางไปด้วยกันเลย!
ทำความรู้จักยอดเขากลาเซียร์ 3000 (Glacier 3000)

ยอดเขา Glacier 3000 ตั้งอยู่ในเทือกเขาแอลป์ ครอบคลุมพื้นที่ของมณฑลวาเลส์ (Valais), โว (Vaud) และเบิร์น (Bern) ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยมีความสูงเหนือระดับน้ำทะเล 3,000 เมตร ทำให้สามารถมองเห็นยอดเขาชื่อดังของยุโรปอย่าง จุงเฟรา (Jungfrau), แมทเทอร์ฮอร์น (Matterhorn) และ มองบลังค์ (Mont Blanc) ได้อย่างชัดเจน ยอดเขากลาเซียร์ 3000 ได้รับการพัฒนาให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอย่างเป็นทางการในช่วงกลางศตวรรษที่ 20 และมีการก่อสร้างกระเช้าลอยฟ้า ในปี ค.ศ.1964 เพื่ออำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางขึ้นไปบนยอดเขาได้ง่าย จึงนับเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนพื้นที่แห่งนี้ให้กลายเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวบนภูเขาได้อย่างเต็มรูปแบบ

ในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมาได้มีการขยายและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น เช่น Peak Walk by Tissot ซึ่งเปิดให้บริการในปี ค.ศ. 2014 โดยเป็น สะพานแขวนระหว่างยอดเขาแห่งเดียวในโลก และได้กลายเป็นไฮไลต์สำคัญที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้มาสัมผัสประสบการณ์การเดินข้ามสะพานเหนือเทือกเขาแอลป์สักครั้ง นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มกิจกรรมสนุกๆ ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสธารน้ำแข็งอย่างใกล้ชิดอีกด้วย
เที่ยวยอดเขากลาเซียร์ 3000 เดือนไหนดี?
Glacier 3000 เป็นจุดหมายปลายทางที่สามารถท่องเที่ยวได้ตลอดปี โดยในแต่ละฤดูต่างก็มีบรรยากาศและกิจกรรมน่าสนใจแตกต่างกันออกไป ดังนี้
ฤดูหนาว (พฤศจิกายน – เมษายน)

สำหรับใครที่อยากสัมผัสอากาศหนาวสุดขั้ม ฟินหิมะแบบเต็มอิ่ม พี่เห็ดแนะนำให้มาในช่วงฤดูหนาว อุณหภูมิประมาณ -10 องศา หรืออาจถึง -20 องศาเลยทีเดียว สภาพอากาศมีความหนาวเย็นตลอดวัน อาจมีลมแรงบางช่วง และท้องฟ้าสดใสเป็นส่วนใหญ่ โดยหิมะจะเริ่มตกตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายน และปกคลุมอย่างหนาแน่นจนถึงเมษายน ที่นี่จึงกลายเป็นสวรรค์ของนักเล่นสกี ผู้ที่ชื่นชอบกิจกรรมฤดูหนาว และผู้ที่ต้องการสัมผัสความงดงามของหิมะและธารน้ำแข็งที่ปกคลุมเทือกเขาแอลป์อย่างใกล้ชิด
ฤดูร้อน (พฤษภาคม – ตุลาคม)

แม้จะเป็นช่วงฤดูร้อนแต่บนภูเขายังคงมีหิมะปกคลุมอยู่ตลอด ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถมาสัมผัสบรรยากาศเย็นสบาย และเพลิดเพลินกับกิจกรรมกลางแจ้งได้อย่างเต็มที่ โดยอุณหภูมิในช่วงนี้จะอยู่ที่ประมาณ 5 – 15 องศาเซลเซียส ช่วงกลางวันอากาศเย็นสบาย แต่ช่วงเช้าและเย็นอุณหภูมิลดลงอีก ทำให้อากาศค่อนข้างหนาว สภาพอากาศโดยรวมมีท้องฟ้าสดใส ปลอดโปร่ง มองเห็นยอดเขาได้อย่างชัดเจน ใครที่อยากเที่ยวชมภูเขาหิมะในอากาศที่ไม่หนาวจัด พี่เห็ดบอกเลยว่าช่วงนี้แหละตอบโจทย์
การเดินทางไปยังยอดเขากลาเซียร์ 3000
1. เดินทางด้วยรถไฟ
- สำหรับผู้เดินทางจาก Zurich, Bern หรือ Interlaken
จาก Zurich หรือ Bern ให้นั่งรถไฟไปที่ Spiez และต่อรถไฟไปยัง Zweisimmen จากนั้นขึ้นรถไฟขบวนพิเศษ Golden Pass Line ไปยัง Gstaad ซึ่งรถไฟสายนี้ขึ้นชื่อเรื่องวิวทิวทัศน์สวยงามตลอดเส้นทาง มีหน้าต่างขนาดใหญ่ช่วยให้สามารถชมวิวเทือกเขา ทะเลสาบ และหมู่บ้านตามข้างทางได้อย่างเต็มที่ เส้นทางนี้จึงเหมาะกับนักเดินทางที่ต้องการสัมผัสบรรยากาศของเทือกเขาสวิตเซอร์แลนด์อย่างใกล้ชิด โดยจะใช้เวลาเดินทางรวมประมาณ 3 ชั่วโมง (สามารถตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ https://www.gpx.swiss/en/) เมื่อถึง Gstaad ให้นั่งรถบัส สาย 180 หรือ Glacier 3000 Express ไปยัง Col du Pillon
- สำหรับผู้เดินทางจาก Geneva หรือ Lausanne
จาก Geneva หรือ Lausanne ให้นั่งรถไฟไป Montreux และเปลี่ยนขบวนไป Aigle แล้วจึงต่อรถไฟไปยัง Les Diablerets เมื่อถึง Les Diablerets ให้นั่งรถบัสสาย 180 ต่อไปยัง Col du Pillon

2. ขึ้นกระเช้าลอยฟ้าไปยัง Glacier 3000
จากสถานี Col du Pillon นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นกระเช้าลอยฟ้าที่สามารถรองรับได้ถึง 125 คนต่อรอบ ราคา 80 CHF โดยใช้เวลาประมาณ 15 นาทีในการขึ้นไปยังยอดเขา Scex Rouge ที่ความสูง 2,971 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ซึ่งเป็นจุดชมวิวหลักของยอดเขากลาเซียร์ 3000
หมายเหตุ : กระเช้าลอยฟ้ามีบางช่วงที่ปิดปรับปรุงประจำปี โดยในปี 2025 กำหนดการปิดปรับปรุงคือวันที่ 20 ตุลาคม 2025 ถึง 7 พฤศจิกายน 2025 แนะนำให้ตรวจสอบข้อมูลล่าสุดจากเว็บไซต์ www.glacier3000.ch ก่อนเดินทางเสมอ
สำหรับใครที่มี Swiss Travel Pass สามารถใช้สิทธิ์โดยสารรถไฟและรถบัสไปยัง Col du Pillon ได้ฟรี และยังได้รับ ส่วนลดอีก 50% สำหรับค่ากระเช้าลอยฟ้าไปบน ยอดเขากลาเซียร์ 3000 นอกจากนี้ หากวางแผนเดินทางไปยังหลายเมืองหรือขึ้นยอดเขาอื่นๆ ในสวิตเซอร์แลนด์ เช่น จุงเฟรา (Jungfraujoch), พิลาทุส (Pilatus) หรือ ทิตลิส (Titlis) บัตรนี้ก็ถือว่าคุ้มค่ามาก เพราะครอบคลุมการเดินทางด้วย รถไฟ, รถบัส, เรือ และรถไฟขึ้นเขาบางเส้นทางได้แบบไม่จำกัด ทั้งยังไม่ต้องเสียเวลาซื้อตั๋วแยกหลายครั้ง เพียงแสดงบัตรแล้วขึ้นขนส่งสาธารณะได้เลย
กิจกรรมแนะนำเมื่อมาเยือน Glacier 3000 ไม่ควรพลาด!
1. เล่นสกีและสโนว์บอร์ด

สำหรับสายเอ็กซ์ตรีมหรือผู้ที่ชื่นชอบกีฬาฤดูหนาว สามารถมาใช้บริการ ลานสกีบนยอดเขา ได้ตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายนไปจนถึงปลายเมษายน โดยมีเส้นทางสกียาวกว่า 7 กิโลเมตร ท่ามกลางยอดเขาสุดอลังการกว่า 24 ยอด พร้อมบริการเช่าชุดและอุปกรณ์แบบครบครันที่สถานี Col du Pillon เหมาะทั้งสำหรับมือใหม่ที่ต้องการฝึกพื้นฐาน และเส้นทางชันสำหรับมือโปรที่ต้องการความท้าทายมากขึ้น
2. สำรวจธารน้ำแข็งไปกับสุนัขลากเลื่อน

หนึ่งในกิจกรรมยอดนิยมที่เปิดให้บริการเฉพาะช่วงเดือนธันวาคมถึงเมษายน โดยเพื่อนๆ จะได้นั่งบน รถเลื่อนที่ลากโดยสุนัขฮัสกี้ พาเราลัดเลาะไปตามลานหิมะและธารน้ำแข็ง พร้อมดื่มด่ำกับวิวทิวทัศน์ที่สวยงามตระการตาของเทือกเขาแอลป์ในแบบฉบับนักสำรวจขั้วโลก
3. Alpine Coaster

ใครที่กำลังมองหากิจกรรมสุดมันส์บน Glacier 3000 Alpine Coaster รถไฟเหาะกลางภูเขาคือสิ่งที่ไม่ควรพลาด เพราะเป็นรถไฟความสูง 6 เมตรเหนือพื้นดิน ที่จะพาทุกคนโลดแล่นไปบนรางเลื่อนที่สูงที่สุดในโลก ด้วยความเร็วสูงสุด 40 กิโลเมตร/ชั่วโมง ผ่านวงเวียน 520 องศา, โค้งแคบ 10 จุด, คลื่น 6 ลูก, และการกระโดดอีก 3 ครั้ง พี่เห็ดรับรองว่าสนุกสุดเหวี่ยงกว่าเครื่องเล่นไหนๆ ที่เคยสัมผัสมาแน่นอน ที่สำคัญเปิดให้บริการเฉพาะในช่วงฤดูร้อนเท่านั้นนะจะบอกให้!
4. ร้านอาหาร Restaurant Botta

Restaurant Botta เป็นร้านอาหารที่ออกแบบโดย Mario Botta สถาปนิกระดับโลก โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมโมเดิร์น พร้อมมอบประสบการณ์การรับประทานอาหารท่ามกลางวิวแบบ 360 ซึ่งให้บริการเมนูสไตล์สวิสดั้งเดิม เช่น ชีสฟองดู (Cheese Fondue) และ รอสตี (Rösti) รวมถึงอาหารยุโรปหลากหลาย โดยช่วงฤดูหนาวสามารถเลือกนั่งรับประทานภายในอาคารที่อบอุ่นได้ ส่วนฤดูร้อนจะเหมาะกับการนั่งรับประทานอาหารกลางแจ้ง เพื่อสัมผัสอากาศบริสุทธิ์และลมเย็นของยอดเขาได้อย่างเพลิดเพลิน
5. Peak Walk by Tisso

ถ้าขึ้นมาถึงบนยอดเขากลาเซียร์ 3000 แล้วไม่ได้มาเดินบน Peak Walk by Tissot ขอบอกเลยว่ามาไม่ถึง! เพราะที่นี่คือสะพานแขวนที่เชื่อมระหว่างยอดเขา View Point และ Scex Rouge ซึ่งมีความยาวกว่า 107 เมตร เป็นสะพานที่มีความแข็งแรงและมั่นคงมาก เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี สามารถมองเห็นยอดเขาชื่อดังในเทือกเขาแอลป์ได้หลายแห่ง ทั้ง แมทเทอร์ฮอร์น (Matterhorn), มงบล็อง (Mont Blanc), ไอเกอร์ (Eiger), เมินช์ (Mönch) และ จุงเฟรา (Jungfrau) ท่ามกลางทะเลหิมะอันกว้างไกล ถือเป็นจุดชมวิวที่สวยและสูงที่สุดแห่งหนึ่งในสวิตเซอร์แลนด์เลยก็ว่าได้
ยอดเขากลาเซียร์ 3000 เต็มไปด้วยเสน่ห์ของเทือกเขาหิมะที่ชวนให้หลงใหล ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวทุกสไตล์ หากใครกำลังวางแผนเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์และอยากสัมผัสมนต์เสน่ห์ของยอดเขากลาเซียร์ 3000 ด้วยตัวเอง พี่เห็ดมีโปรแกรม ทัวร์สวิตเซอร์แลนด์ ที่พร้อมพาทุกคนไปเปิดประสบการณ์สุดพิเศษ เที่ยวสนุกครบทุกไฮไลต์ ไม่พลาดทุกกิจกรรม รีบจองทัวร์แล้วออกเดินทางไปสัมผัสเสน่ห์แห่งเทือกเขาแอลป์ด้วยกันได้เลย!