Mushroom Travel LINE
เราช่วยคุณได้
@mushroomtour
จันทร์ - เสาร์
9:00-22:00
อาทิตย์
9:00-18:00
Call Mushroom Travel
Call Center
02 105 6234
จอง 6 คนขึ้นไป
จอง 6 คนขึ้นไป
02 105 6244
Loading...

พิชิต เขากรอนเนอร์แกรต Gornergrat จุดชมยอดเขาแมทเธอร์ฮอร์นที่สวยที่สุด

เขากรอนเนอร์แกรต (Gornergrat) เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของ สวิตเซอร์แลนด์ ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวหลายล้านคนจากทั่วทุกมุมโลกทุกปี เพราะนอกจากวิวทิวทัศน์อันน่าทึ่ง ที่นี่ยังเป็นจุดที่ดีที่สุดในการถ่ายรูปและชมความงดงามของ ยอดเขาแมทเธอร์ฮอร์น (Matterhorn) ที่ได้ฉายาว่าเป็น “มงกุฎแห่งสวิตเซอร์แลนด์” อีกด้วย วันนี้พี่เห็ด มัชรูมทราเวล เลยจะพาทุกคนไปเจาะลึกถึงความพิเศษของ เขากรอนเนอร์แกรต รวมถึงวิธีการเดินทาง และช่วงเวลาน่าไปเที่ยว พร้อมแล้วออกเดินทางไปกันได้เลย !

ทำความรู้จักเขากรอนเนอร์แกรต 

Credit : NattyPTG / canva.com

เขากรอนเนอร์แกรต หรือ Gornergrat ตั้งอยู่ห่างจากเมืองเซอร์แมท (Zermatt) ซึ่งเป็นเมืองสกีรีสอร์ตชื่อดังของสวิตเซอร์แลนด์ ไปทางตะวันออก ประมาณ 3 กิโลเมตร มีความสูงถึง 3,089 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล และเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขา Monte Rosa ซึ่งเป็นเทือกเขาที่สูงที่สูงที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ จากบนนี้จึงมองเห็นทิวทัศน์อันสวยงามอลังการของยอดเขาแมทเธอร์ฮอร์น และยอดเขาอีก 28 ยอดที่สูงกว่า 4,000 เมตร รวมถึง ธารน้ำแข็งกอร์เนอร์ (Gorner Glacier) ได้อย่างชัดเจน แต่บนนี้ไม่ได้มีแค่จุดชมวิวเท่านั้น ยังมีทั้งโรงแรม ร้านอาหาร และร้านขายของที่ระลึก เดินเล่นถ่ายรูปเพลินมาก !

เที่ยว เขากรอนเนอร์แกรต เดือนไหนดี

ฤดูใบไม้ผลิ : กลางเดือนเมษายน – มิถุนายน
ฤดูนี้จะเริ่มมีสีเขียวของพืชพรรณต่างๆ มาตัดกับสีขาวของยอดเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ -5 ถึง 4 องศาเซลเซียส แต่จะยังไม่สามารถปีนเขาได้ และเส้นทางเดินป่าบางเส้นทางอาจจะยังไม่เปิด เนื่องจากหิมะตก ดังนั้นใครที่จะมาเดินป่าแนะนำให้ตรวจสอบเส้นทางก่อน

ฤดูร้อน : กรกฎาคม – กันยายน
ฤดูร้อนเป็นหนึ่งในช่วงยอดฮิตของการมาเที่ยว เขากรอนเนอร์แกรต เพราะอากาศจะอบอุ่นขึ้น อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 7 – 10 องศาเซลเซียส เหมาะสำหรับการเดินป่า เที่ยวชมสวนอัลไพน์ และยังมีโอกาสจะได้เจอแกะจมูกดำด้วย

Credit : mbbirdy / canva.com

ฤดูใบไม้ร่วง : ตุลาคม – กลางเดือนธันวาคม
ฤดูนี้เป็นช่วง Low Season ของการท่องเที่ยว บรรยากาศจะเงียบสงบ คนน้อย อากาศจะค่อยๆ เย็นลง อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 4 ถึง -1 องศาเซลเซียส และมีหิมะตก เป็นช่วงสุดท้ายของปีสำหรับการเดินป่า ก่อนที่เส้นทางจะปิดในฤดูหนาว ซึ่งถ้าหิมะตกเร็ว อาจไม่สามารถเดินป่าในบางเส้นทางได้

ฤดูหนาว : กลางเดือนธันวาคม – กลางเดือนเมษายน
ฤดูหนาวถือเป็นไฮไลต์ของการเที่ยว เขากรอนเนอร์แกรต นักท่องเที่ยวนิยมมาเล่นสกี สโนว์บอร์ด รถเลื่อน และกีฬาฤดูหนาวกัน โดยเฉพาะช่วงกลางเดือนธันวาคม – กุมภาพันธ์ เพราะหลังจากนี้หิมะจะเริ่มลดลง อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ -3 ถึง -6 องศาเซลเซียส เส้นทางบางเส้นอาจปิดให้บริการเนื่องจากหิมะตกหนัก

เขากรอนเนอร์แกรต สามารถไปเที่ยวได้ตลอดทั้งปี แต่พี่เห็ดแนะนำ 2 ช่วง คือ ฤดูร้อน และฤดูหนาว ถ้าใครอยากเล่นสกี หรืออยากชมวิวสีขาวโพลนแบบ 360 องศา ก็มาฤดูหนาวเลยค่ะ แต่ถ้าใครกลัวว่าจะหนาวเกินไป หรือชอบสัมผัสธรรมชาติ เดินป่า อยากได้วิวที่มีทั้งสีเขียวชอุ่มและยอดเขาหิมะ ก็มาฤดูร้อนได้เลย สวยคนละแบบ

วิธีเดินทางไปเขากรอนเนอร์แกรต

Credit : Ondrej Bucek / canva.com

การเดินทางไปยัง เขากรอนเนอร์แกรต ให้นั่งรถไฟมาที่เมืองเซอร์แมท ถ้าใครเที่ยวเองแนะนำให้ใช้ “Swiss Travel Pass” ซึ่งเป็นบัตรแบบเหมาจ่าย รวมทุกการเดินทาง ทั้งรถไฟ รถบัส และเรือ ทั่วสวิตเซอร์แลนด์ นอกจากนี้ยังมีส่วนลดสูงสุด 50% ให้สำหรับบริการต่างๆ ในเมืองเซอร์แมท เช่น รถไฟ Gornergrat Bahn, ลิฟต์ Klein Matterhorn Glacier Paradise 3S, รถกระเช้า Sunegga, รถเคเบิล Rothorn และยังสามารถเข้าชมพิพิธภัณฑ์เซอร์แมทได้ฟรีอีกด้วย สามารถเลือกระยะเวลาของบัตรได้ มีให้เลือกแบบ 3, 4, 6, 8 หรือ 15 วันติดต่อกัน ราคาเริ่มต้นที่ 244 ฟรังก์สวิส สำหรับ 3 วัน

เมื่อมาถึงเมืองเซอร์แมทแล้ว เราต้องเดินทางต่อด้วยรถไฟเท่านั้น เพราะเมืองนี้เป็นเมืองปลอดรถยนต์ (Car-Free Zone) โดยให้ลงรถไฟที่ สถานีเซอร์แมท และเดินออกจากสถานีมาขึ้น รถไฟสายกรอนเนอร์แกรต ที่สถานีกรอนเนอร์แกรต (Gornergrat Bahn) ซึ่งอยู่ห่างออกไปราว 50 เมตร ค่าตั๋วอยู่ที่ 88 – 126 ฟรังก์สวิส แตกต่างกันไปตามแต่ฤดูกาล แต่ถ้าเรามี Swiss Travel Pass ก็จะได้ลด 50% ด้วย

รถไฟเปิดให้บริการทั้งปี โดยจะออกจากสถานีกรอนเนอร์แกรตทุกๆ 24 นาที ตั้งแต่เวลา 08.00 – 16.24 น. หลังจากนั้นจะออกทุกๆ 1 ชั่วโมง ไปจนถึง 19.24 น. ใช้เวลาประมาณ 33 นาที จะถึงยอดเขา โดยผ่านทั้งหมด 4 สถานี คือ Findelbach, Riffecap, Rifflberg และ Rotenboden ระยะทางรวม 9.4 กิโลเมตร ระหว่างทางจะลอดผ่านอุโมงค์ ข้ามสะพาน เห็นวิวทิวเขา ป่าไม้ และธรรมชาติมากมาย ถ้าอยากชมวิวสวยๆ แบบไม่มีอะไรกั้น แนะนำว่าขาขึ้นให้นั่งฝั่งขวา ส่วนขาลงให้นั่งฝั่งซ้าย ขณะที่รถไฟวิ่งสามารถลดกระจกถ่ายรูปได้อีกด้วย

จุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจบนเขากรอนเนอร์แกรต

1. จุดชมวิวแมทเธอร์ฮอร์น (Matterhorn Viewpoint)
Credit : Christian Buergi / pexels.com

จริงๆ แล้วบน เขากรอนเนอร์แกรต สามารถมองเห็นยอดเขาแมทเธอร์ฮอร์นได้จากหลายจุดเลยค่ะ แต่จะมีจุดชมวิวเป็นระเบียงอยู่ทางด้านหลังของโรงแรม 3100 Kulmhotel Gornergrat ที่สามารถมองเห็นยอดเขาแมทเธอร์ฮอร์น ซึ่งเป็นยอดเขารูปทรงพีระมิดที่สวยที่สุดในโลกได้แบบเต็มตา และยังจะได้ดื่มด่ำกับทัศนียภาพของยอดเขาสูงอีกหลายแห่ง รวมถึงยอดเขา Dom และ Dufourspitze สองยอดเขาที่สูงที่สุดของสวิตเซอร์แลนด์ด้วย

2. ธารน้ำแข็งกอร์เนอร์ (Gorner Glacier)
Credit : aaron choi / shutterstock.com

ธารน้ำแข็งกอร์เนอร์ ตั้งอยู่ท่ามกลางเทือกเขาสูงชัน มีอายุหลายพันปี ในอดีตมีความยาวถึง 16 กิโลเมตร แต่ด้วยการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ ทำให้ปัจจุบันมีความยาวลดลงเหลือประมาณ 12 กิโลเมตรเท่านั้น แต่ก็ยังคงเป็นธารน้ำแข็งที่ยาวเป็นอันดับสามในเทือกเขาแอลป์ ของจริงสวยมากๆ โดยเฉพาะเวลาแสงแดดส่องลงมากระทบจะเป็นประกายระยิบระยับ ซึ่งนอกจากจะมาชมวิวสวยๆ แล้ว ที่นี่ยังเป็นจุดสำหรับทำกิจกรรม เช่น ปีนเขา โดดร่ม ปั่นจักรยาน รวมทั้งการเรียงหินเป็นชั้นๆ เพื่อขอพรอีกด้วย

3. พิพิธภัณฑ์ซูม (ZOOOM the Matterhorn)
Credit : Alexandre.ROSA / shutterstock.com

พิพิธภัณฑ์ซูม เป็นที่เที่ยวใหม่บน เขากรอนเนอร์แกรต ใช้เงินลงทุนในการสร้างไปกว่า 9 ล้านฟรังก์สวิส เป็นพิพิธภัณฑ์แบบมัลติมีเดีย ที่จะพาทุกคนไปสัมผัสบรรยากาศของยอดเขาแมทเธอร์ฮอร์นทั้ง 4 ฤดูแบบซูมอิน 3 ระดับ ผ่านประสาทสัมผัสทั้งหมด มีนิทรรศการเกี่ยวกับความเป็นมา ผู้ที่เคยพิชิตภูเขา สัตว์และพืชในแถบนี้ นอกจากนี้ยังมีโรงภาพยนตร์ 3 มิติ, กล้องส่องทางไกล รวมถึงพาราไกลดิ้ง หรือร่มร่อนจำลองให้เล่นด้วย สามารถเข้าชมได้ฟรี เพราะค่าเข้าชมรวมอยู่ในค่าตั๋วรถไฟแล้ว

4. โบสถ์ Bernhard von Aosta
Credit : Alexandre.ROSA / shutterstock.com

Bernhard von Aosta เป็นโบสถ์เล็กๆ สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1950 เพื่ออุทิศให้กับ เซนต์เบอร์นาร์ด ตั้งอยู่ระหว่างสถานี Gornergrat และโรงแรม Kulmhotel ตัวโบสถ์เป็นสีขาว ด้านบนเป็นหอระฆัง เข้ากับภูมิทัศน์โดยรอบที่ปกคลุมด้วยหิมะ พื้นด้านในโบสถ์เป็นหิน เพดานเป็นไม้ ตรงกลางมีแท่นบูชาซึ่งแกะสลักไม้แบบนูนต่ำเป็นรูปนักบุญ สามารถเข้าชมได้ตลอด และไม่เสียค่าเข้าชมเช่นกัน

5. สวนอัลไพน์กรอนเนอร์แกรต (The Gornergrat Alpine Garden)
Credit : narya / canva.com

สวนอัลไพน์ที่สูงที่สุดในยุโรป ตั้งอยู่ที่ความสูง 2,800 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ครอบคลุมพื้นที่กว่า 5,000 ตารางเมตร โดยตั้งอยู่ที่สถานี Rotenboden แนะนำว่าให้ขึ้นไปชมวิวด้านบนก่อน จากนั้นค่อยแวะที่สถานีนี้ตอนขาลง จะได้ชมพืชพรรณต่างๆ ที่เจริญเติบโตอยู่บนเทือกเขาแอลป์ รวมถึงพันธุ์ไม้บางชนิดที่หายาก ใกล้สูญพันธุ์ แต่ดอกไม้จะบานเป็นช่วงสั้นๆ ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม – เดือนสิงหาคมเท่านั้น

6. ทะเลสาบริฟเฟลซี (Riffelsee Lake)
Credit : saiko3p / shutterstock.com

เป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวสวยๆ ใกล้สถานี Rotenboden โดยจะต้องเดินต่อไปประมาณ 10 นาที จึงจะถึงทะเลสาบ มีความยาวประมาณ 100 เมตร ความกว้าง 50 เมตร ที่นี่จะได้เห็นทั้งวิวของยอดเขาแมทเธอร์ฮอร์นที่อยู่ตรงหน้า และยอดเขาแมทเธอร์ฮอร์นที่สะท้อนอยู่บนผืนน้ำ เหมือนเป็นภาพสะท้อนแบบกลับหัว สวยงามมาก ใครอยากได้ภาพสวยๆ แนะนำเป็นวันที่ฟ้าเปิด อากาศแจ่มใส ช่วงเช้าตรู่ หรือเย็น เพราะจะเห็นแสงอาทิตย์ส่องไปที่ยอดเขาพอดี

บอกเลยว่าเป็นอีกหนึ่งยอดเขาน่าเที่ยวในสวิตเซอร์แลนด์ที่พี่เห็ดไม่อยากให้พลาด เพราะจะได้ชมวิวเทือกเขาหิมะและยอดเขาแมทเธอร์ฮอร์นแบบชัดเต็มตา สวยงามมาก การเดินทางก็สะดวกสบายด้วย สามารถนั่งรถไฟไปขึ้น-ลงที่สถานีไหนก็ได้ เพราะไม่ใช่แค่จุดหมายปลายทางบนยอดเขาที่สวยจนต้องตะลึงเท่านั้น แต่ระหว่างทางที่นั่งรถไฟขึ้นไป ก็จะได้ชมวิวสวยๆ ไปตลอดทาง บอกเลยทริปนี้คุ้มค่าและประทับใจสุดๆ ใครอยากไปสัมผัสความสวยงามแบบนี้ ติดต่อจองทัวร์กับ พี่เห็ด มัชรูมทราเวล ได้เลย


ชอบ บทความ มัชรูมทราเวล ทำไงดี…?
1. กดแชร์ต่อ ให้เพื่อนอ่านบ้าง
2. คลิก Like และ ติดตามเราได้ที่ Facebook www.facebook.com/mushroomtravel/

—————

Mushroom Travel มีโปรแกรม ทัวร์สวิตเซอร์แลนด์ ให้เลือกมากที่สุด
โทร. 02-105-6234 (30 คู่สาย)
[email protected]
Line id : @mushroomtravel

สินค้าที่เกี่ยวข้อง