@MushroomTravelเตรียมตัวให้พร้อมก่อนตะลุยฮ่องกง เวลาฮ่องกง ที่คุณต้องรู้!
อะแฮ่ม…ทุกคนคะ วันนี้ มัชรูมทราเวล ขอปรับโหมดเป็นผู้รอบรู้ เพราะว่าเราจะพาไป… เที่ยวต่างประเทศใกล้ๆ แบบที่ไม่ต้องรอวันหยุดยาวก็ไปได้ นั่นก็คือประเทศฮ่องกง นั่นเองงง…. ด้วยความที่เป็นประเทศบ้านใกล้เรือนเคียงเดินทางไม่นาน แถม เวลาฮ่องกง เองก็ต่างจากบ้านเราแค่ไม่กี่นาทีอีกด้วย ทำให้เป็นอีกหนึ่งประเทศที่ชาวไทยนิยมไปเยี่ยมเยียนกันอยู่บ่อยๆ เรียกได้ว่าเดินไปทางไหนก็แทบจะเจอแต่คนไทยเลยก็ว่าได้
สำหรับประเทศฮ่องกง หรือ เกาะฮ่องกง ซึ่งถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีความทันสมัย เต็มไปด้วยแสงสีเสียง โดดเด่นด้วยตึกสูงระฟ้า วัดวาอาราม และแหล่งช้อปปิ้งที่ดึงดูดนักช้อปจากทั่วทุกมุมโลก แต่ก็ยังผสมผสานความเป็นประเทศกสิกรรมได้อย่างลงตัว ทำให้ดินแดนแห่งนี้ร่ายมนต์เสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้อย่างมากมาย
การขอวีซ่าและสถานทูตไทยในฮ่องกง
นักท่องเที่ยวชาวไทยสามารถเข้าฮ่องกงได้ โดยไม่ต้องมีวีซ่า และสามารถอยู่ได้นานถึง 3 เดือน จากเดิมนั่นสามารถอยู่ได้เพียง 14 วัน แต่ก่อนเข้าไปยังฮ่องกง ท่านจะได้รับแบบฟอร์มการเข้าเมือง ซึ่งต้องกรอกให้สมบูรณ์ แล้วแนบไปกับหนังสือเดินทางเพื่อนำไปแสดงต่อเจ้าหน้าที่ ที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง
การคมนาคมขนส่ง
90% เป็นการใช้ขนส่งสาธารณะ ที่ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพเมืองหนึ่งของโลกเพื่อความสะดวกสบายจึงมีบัตรเงินสด Octopus เป็นบัตรที่ไว้ใช้จ่ายค่าโดยสารรถไฟ, รถราง, รสบัส, เรือข้ามฟาก และยังสามารถใช้ได้ที่ร้านสะดวกซื้อกับร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดเช่นกัน และหากพอใจในการบริการต่างๆ ก็สามารถให้ทิปได้ ไม่ถือว่าผิดนะจ๊ะ
การสื่อสาร
ด้านการสื่อสารก็ทั่วไป เพราะคนฮ่องกงใช้ 3 ภาษาร่วมกัน คือ ภาษาจีนกวางตุ้งเป็นภาษาหลัก ส่วนภาษาจีนกลางและ ภาษาอังกฤษตามมาติดๆ ส่วนตามแหล่งช้อปปิ้งยอดฮิตแบ่งเป็น 3 เขต คือ เกาะฮ่องกง ฝั่งเกาลูน เขตนิวเทอร์ริทอรี่ส์ และหมู่เกาะต่างๆ นั่นก็สามารถพบชาวฮ่องกงที่คุยภาษาไทยได้ … ก็บอกแล้วว่า คนไทยเนี่ยถือเป็นผู้สนับสนุนทางการค้ารายใหญ่ของประเทศฮ่องกงเลยทีเดียว
เอกสารสำคัญ หนังสือเดินทาง (Passport) และเอกสารสำคัญอื่นๆ
ควรเตรียมสำเนาหนังสือเดินทางเก็บไว้ในกรณีที่หนังสือเดินทางของท่านสูญหาย ส่วนของมีค่านั้นไม่ควรนำติดตัวไป และระมัดระวังกระเป๋าเงิน โดยเฉพาะช่วงที่ท่านเลือกซื้อ สินค้าในย่านต่างๆ เพราะอาจสูญหายหรือถูกขโมยได้
เงินตราฮ่องกง
หากพูดเรื่องช้อปปิ้ง ก็ไม่พ้นเรื่องเงินๆ ทองๆ ดังนั้น ต้องศึกษาข้อมูลก็สักหน่อยมิเช่นนั้นอาจขาดทุนได้ สกุลเงินที่ใช้คือฮ่องกงดอลลาร์ (HK$) ซึ่งอัตราแลกเปลี่ยน 1 HK$ กับเงินบาท อยู่ที่ประมาณ 4-5 บาท นักท่องเที่ยวสามารถแลกเปลี่ยนเงินได้จากธนาคารหรือผู้ รับแลกเปลี่ยนเงิน ธนาคารหรือผู้รับแลกเปลี่ยน ซึ่งจะเรียกเก็บค่าคอมมิชชั่น ดังนั้นนักท่องเที่ยวจึงควรดูอัตราแลกเปลี่ยนดีๆ ก่อน
เวลาและสภาพอากาศ
และด้วยเวลาฮ่องกง นั้นเร็วกว่าประเทศไทยเพียงแค่ 1 ชั่วโมงเท่านั้น ทำให้ใน เวลาฮ่องกง ดูไม่ค่อยแตกต่างจากเมืองไทยมากนัก ส่วนอุณหภูมิอยู่ระหว่าง 26 – 30 องศาเซลเซียส เรียกว่า อากาศกำลังดี เหล่าแฟชั่นนิสต้าสายช้อปก็จัดเต็มกันได้อย่าจุใจ แต่หากอยากสัมผัสบรรยากาศความหนาวเย็น แนะนำช่วงกลางเดือน ธ.ค. – ก.พ. เพราะอุณหภูมิอาจลดถึง 10 องศาเซลเซียส อากาศเย็น สบาย และแห้ง น้อยครั้งที่มีอุณหภูมิต่ำกว่า 5 องศาเซลเซียส และส่วนเดือน พ.ค .– ก.ย. ฝนตกชุกและ ลมแรง ควรพกเสื้อกันฝน และในฤดูร้อนมักเกิดลมมรสุม ติดเสื้อสเวตเตอร์บางไปด้วยในช่วงนี้
โทรคมนาคม
ส่วนระบบโทรคมนาคมนั้น การใช้โทรศัพท์ภายในฮ่องกงนั้นไม่เสียค่าบริการ ซึ่งร้านค้าและที่พักส่วนใหญ่มี โทรศัพท์ไว้ให้บริการอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ควรสอบถามจากทางโรงแรมก่อนว่ามีการคิดค่า บริการโทรศัพท์ และชาร์จอย่างไร ยังมีเครื่องโทรศัพท์สาธารณะระบบ IDD ท่านสามารถโทรออก นอกประเทศได้ มีทั้งแบบหยอดเหรียญ และใช้บัตร โดยสามารถหาซื้อได้จากร้านค้า ศูนย์บริการข้อมูลการท่องเที่ยว โทรศัพท์หยอดเหรียญสาธารณะคิดค่าบริการครั้งละ 1 HK$ ใช้ได้นาน 5 นาที สำหรับการโทรกลับเมืองไทยแบบอัตโนมัติ กด 00 + 66 + รหัสจังหวัด + เบอร์โทรศัพท์ แล้วกดโทรออก หากเปิดเบอร์มือถือมาจากประเทศไทย กด 0066 ต่อด้วยเบอร์โทรศัพท์ที่ต้อง การโทรออกได้เลยเช่นกัน
สิ่งสำคัญที่มัชรูมทราเวล มักย้ำเสมอนั่นคือ หากเกิดกรณีฉุกเฉิน กรุณาติดต่อ สถานกงสุลใหญ่ โทรศัพท์ 2521-6481-5 โทรสาร 2521-8629 กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ โทรศัพท์ 0-2575-1046-51 โทรสาร 0-2575-1052
ไฟฟ้าและปลั๊กไฟ
ประเทศฮ่องกงใช้ไฟฟ้าระบบ 220 โวลต์ ความถี่ 50 เฮิรตซ์ ใช้ปลั๊กแบบ G และ M (ปัจจุบันในฮ่องกง นิยมใช้ปลั๊กตัวผู้แบบ G ปลาย แบน แต่แบบปลายกลมก็ยังมีใช้อยู่)
สุดท้าย… ท้ายสุด ที่ทำให้ประเทศฮ่องกงเป็นท็อปลิสต์ที่ไม่ควรพลาด คือความเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมอย่างมาก แถม เวลาฮ่องกง เองก็ไม่แทบไม่แตกต่างกับประเทศไทยเลยทีเดียว และที่สำคัญคือแหล่งช้อปปิ้งที่ฮอตฮิตติดอันดับขนาดนี้ ถ้าอย่างนั้น เอาไปเลย 5 ดาว…!!!!!
บทความแนะนำ ที่เกี่ยวข้อง
