ถ้าพูดถึงสถานที่สวยๆ ในประเทศญี่ปุ่น หนึ่งในจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจและเชื่อว่าใครได้ไปก็ต้องประทับใจก็คือ “ฮาคุบะ (Hakuba)” หมู่บ้านในหุบเขาทางตอนเหนือของจังหวัดนากาโนะ ทัศนียภาพงดงามราวกับภาพวาด เป็นอีกหนึ่งจุดที่มองเห็นวิวเทือกเขาเจแปนแอลป์ได้อย่างสวยงาม เป็นแดนสวรรค์ของคนรักธรรมชาติเลยก็ว่าได้ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมสนุกๆ ให้ทำมากมาย โดยเฉพาะไฮไลต์อย่างการเล่นสกีในช่วงฤดูหนาว วันนี้พี่เห็ด มัชรูมทราเวล เลยจะขออาสาพาทุกคน ไปทำความรู้จักกับ หุบเขาฮาคุบะ ให้มากขึ้น ที่นี่จะมีเสน่ห์น่าเที่ยวอย่างไร และมีจุดไหนที่ไม่ควรพลาดบ้าง ตามไปดูกันเลย!
ทำความรู้จักฮาคุบะ (Hakuba)
ฮาคุบะ เป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาของเทือกเขาฮิดะ (Hida Mountains) หรือเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นตอนเหนือ (Northern Alps) ในเขตคิตะอาสึมิ จังหวัดนากาโนะ ที่นี่เคยเป็นสถานที่จัดแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว เมื่อปี ค.ศ . 1998 ขึ้นชื่อเรื่องลานสกีและสกีรีสอร์ตที่มีชื่อเสียงระดับโลก เนื่องจากอากาศในบริเวณนี้ค่อนข้างชื้น และยังได้รับอิทธิพลจากทะเลญี่ปุ่น ทำให้ ฮาคุบะ มีหิมะตกหนักในฤดูหนาว โดยหิมะสะสมเฉลี่ยราว 11 เมตรต่อปี เป็นพาวเดอร์สโนว์ที่มีความนุ่มฟูเหมือนปุยนุ่น น่าเล่นสุดๆ อีกทั้งวิวธรรมชาติก็สวยงามตระการตา มีทั้งภูเขา แม่น้ำ ทะเลสาบ รวมถึงบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติ ในแต่ละฤดูบรรยากาศก็จะแตกต่างกันด้วย
เที่ยวฮาคุบะ ช่วงไหนดี ?
ฮาคุบะ สามารถมาเที่ยวได้ตลอดทั้งปี โดยหลักๆ แล้วแบ่งเป็น 2 ช่วงใหญ่ๆ คือช่วงที่ไม่มีหิมะ และช่วงที่มีหิมะ หรือ Green Season และ Winter Season โดยตลอดทั้งปีมี 4 ฤดูกาล ดังนี้
Green Season : มีนาคม – พฤศจิกายน
1. ฤดูใบไม้ผลิ (กลางเดือนมีนาคม – ต้นเดือนพฤษภาคม)
เมื่อหิมะละลาย ดอกไม้ก็เริ่มผลิบาน บรรยากาศของ ฮาคุบะ ในช่วงนี้จึงมีสีสันสดใส เป็นช่วงเวลาที่เหมาะจะมาเที่ยวชมซากุระ และดอกไม้ต่างๆ ในอุทยาน ในขณะเดียวกันก็สามารถขึ้นไปสัมผัสกับหิมะที่ยังหลงเหลือบนยอดเขาได้ด้วย อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 3 – 18 องศาเซลเซียส นักท่องเที่ยวบางส่วนชอบมาเที่ยวช่วงนี้ เพราะคนไม่เยอะ ที่พักรวมถึงสกีลิฟต์ก็มักจะมีส่วนลด ทำให้ราคาถูกลงด้วย แต่ก็มีข้อสังเกตคือ ร้านอาหารหรือบริการบางอย่างอาจไม่ได้เปิดให้บริการในช่วงนี้
2. ฤดูร้อน (กลางเดือนพฤษภาคม – ต้นเดือนตุลาคม)
หน้าร้อนของ ฮาคุบะ อากาศไม่ได้ร้อนมาก เรียกว่าสบายเลยด้วยซ้ำสำหรับคนไทย อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 14 – 28 องศาเซลเซียส อาจมีฝนตกบ้างเล็กน้อย ฤดูนี้ต้นไม้ใบหญ้าจะดูสดชื่น เขียวขจี แม่น้ำใสสะอาด เป็นช่วงที่เหมาะที่สุดในการชมทะเลสาบ และทำกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น เดินป่า ปีนเขา ปั่นจักรยาน พายเรือ หากมาช่วงปลายเดือนกรกฎาคม – กลางเดือนสิงหาคม จะสามารถชมหิ่งห้อยกลางทะเลสาบอาโอกิได้ด้วย
3. ฤดูใบไม้ร่วง (กลางเดือนตุลาคม – ต้นเดือนพฤศจิกายน)
หุบเขาฮาคุบะ เป็นจุดชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีที่มีความสวยงามเป็นอันดับต้นๆ ของญี่ปุ่น และยังมีไฮไลต์เด็ดที่เรียกว่า “ซันดันโคโย (Sandan Koyo)” หรือ วิว 3 สี ได้แก่ สีขาวของหิมะ ที่สะสมอยู่บนยอดเขา สีส้ม-แดงของใบไม้ที่เปลี่ยนสีแล้ว ค่อยๆ ไล่เฉดมายัง สีเขียวของใบไม้ที่ยังไม่เปลี่ยนสี นักท่องเที่ยวสามารถแวะไปชมวิวได้ที่ Hakuba Mountain Harbor ปรากฏการณ์นี้จะเกิดขึ้นประมาณเดือนตุลาคม แต่ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศว่าปีนั้นๆ หิมะเริ่มตกช่วงไหน ฤดูนี้ถือเป็นช่วงที่อากาศยังคงเย็นสบาย อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 20 – 26 องศาเซลเซียส
Winter Season : ธันวาคม – ต้นเดือนมีนาคม
ฤดูหนาวเรียกว่าเป็นไฮไลต์ของ ฮาคุบะ เลยทีเดียว โดยเฉพาะช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์คนจะเยอะเป็นพิเศษ ทุกอย่างรอบตัวจะกลายเป็นสีขาวเพราะถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ ส่วนใหญ่หิมะแรกจะตกช่วงต้น – กลางเดือนพฤศจิกายน อุณหภูมิในหมู่บ้านเฉลี่ยประมาณ -3 ถึง – 7 องศาเซลเซียส แต่ถ้าขึ้นไปบนเขาจะอยู่ที่ประมาณ -7 ถึง -13 องศาเซลเซียส นักท่องเที่ยวจะได้เพลิดเพลินกับการเล่นกีฬาหิมะหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น สกี, สโนว์บอร์ด, สโนว์โมบิล มีตั้งแต่ระดับง่ายไปถึงระดับขั้นเทพ ใครที่เล่นไม่เก่งก็ไม่ต้องกลัว เพราะเขามีบริการสอนให้ด้วย
การเดินทางไปเที่ยวฮาคุบะจากโตเกียว
รถบัส : จากสนามบิน Haneda หรือ Narita ขึ้นรถ Nagano Snow Shuttle ใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมง
รถไฟ : นั่งรถไฟ JR Azusa Limited Express จากสถานี Shinjuku มาลงที่ Hakuba Happo Bus ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง
จุดท่องเที่ยวแนะนำ
1. Hakuba Iwatake Mountain Resort
ฮาคุบะ มีรีสอร์ตหลายแห่ง แต่ที่ Hakuba Iwatake Mountain Resort เป็นรีสอร์ตยอดฮิต เพราะมีจุดชมวิวสวยงามอลังการอย่าง Hakuba Mountain Harbor ระเบียงที่สามารถชมวิวเทือกเขาได้แบบพาโนราม่า เปิดให้บริการฟรี และยังเป็นจุดที่เห็นวิว 3 สี ได้ชัดเจนในช่วงฤดูใบไม้ร่วง นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมให้ทำหลายอย่าง เช่น เล่นชิงช้าท้าความหวาดเสียวที่ Yoo-Hoo! SWING, ขี่ม้า, ขับ Mountaincart, เดินป่า และยังมีคาเฟ่ ให้นั่งพักจิบเครื่องดื่มร้อนๆ ทานขนมอร่อยๆ พร้อมชมวิวสวยๆได้อีกด้วย
2. อุทยานแห่งชาติสึไกเกะ (Tsugaike Nature Park)
อุทยานแห่งชาติสึไกเกะ อยู่ไม่ไกลจาก หุบเขาฮาคุบะ เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่อยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 1,900 เมตร จึงต้องขึ้นกระเช้าลอยฟ้าขึ้นไป ภายในอุทยานมีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ เต็มไปด้วยดอกไม้นานาชนิด ที่ผลัดกันผลิดอกในแต่ละฤดู เส้นทางถูกออกแบบมาให้เดินเที่ยวชมได้อย่างสะดวกสบาย มีเส้นทางเดินป่าความยาวกว่า 6 กิโลเมตรให้ได้เดินสำรวจ สามารถเลือกได้ตั้งแต่เส้นทางสั้นๆ ที่ใช้เวลา 1-2 ชั่วโมง หรือเส้นทางรอบอุทยานที่ใช้เวลาประมาณ 3.5 ชั่วโมง
3. บึงฮัปโป (Happo Pond)
อีกหนึ่งจุดน่าเที่ยวคือ บึงฮัปโป เป็นแอ่งน้ำที่เกิดจากหิมะละลายไหลลงมา ถูกโอบล้อมด้วยเทือกเขา เจแปนแอลป์ ใครจะมาแนะนำให้สวมชุดทะมัดทะแมง และใส่รองเท้าผ้าใบ เพราะต้องเดินทางหลายต่อ เริ่มต้นจากการนั่งกระเช้ากอนโดล่า ตามด้วยสกีลิฟต์ 2 ต่อ และเดินไปตามเส้นทางอีกประมาณ 1.5 ชั่วโมง แต่พี่เห็ดรับประกันเลยค่ะว่าไปถึงแล้วจะหายเหนื่อยปลิดทิ้ง เพราะวิวภูเขาสะท้อนลงบนผืนน้ำที่ใสราวกับกระจก สวยจนต้องตะลึง !
4. สวนพฤกษศาสตร์ฮาคุบะโกะริว (Hakuba Goryu Alpine Botanical Garden)
จุดนี้เดินทางไม่ยาก ขึ้นกระเช้าต่อด้วยลิฟต์ก็ถึงเลย สวนพฤกษศาสตร์ฮาคุบะโกะริว เป็นสวนที่ตั้งอยู่บนเขาระดับความสูง 1,515 เมตรจากน้ำทะเล บรรยากาศร่มรื่นสวยงาม มีพืชอัลไพน์มากกว่า 2 ล้านต้น รวม 300 ชนิด และดอกไม้ที่หาชมยาก เช่น Himalayan blue poppy, Magnolia kobus, Erythronium. Edelweiss รวมถึง Dicentra peregrina ราชินีแห่งพืชอัลไพน์ที่มีถึง 50,000 ต้น โดยจะดอกไม้ผลัดกันผลิบานตั้งแต่ช่วงเดือนมิถุนายน – เดือนกันยายน แต่จะบานสะพรั่งพร้อมกันมากที่สุดในเดือนกรกฎาคม
5. ทะเลสาบอาโอกิ (Lake Aoki)
ทะเลสาบอาโอกิ มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 และเป็นทะเลสาบที่ลึกที่สุดของจังหวัดนากาโนะ จุดที่ลึกที่สุดของทะเลสาบอยู่ที่ 58 เมตร ตั้งอยู่ห่างจาก ฮาคุบะ ประมาณ 10 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที ที่นี่บรรยากาศดีมาก น้ำใสสะอาด เพราะเป็นน้ำที่มาจากน้ำฝนและหิมะที่ละลายจากเทือกเขา ด้านล่างของทะเลสาบเป็นแหล่งน้ำพุร้อน ช่วงกลางวันแสงแดดส่องกระทบเป็นประกายสวยงาม เหมาสำหรับมาทำกิจกรรมกลางแจ้ง อย่างเช่น พายเรือแคนู เรือคายัค และว่ายน้ำ หรือจะมานั่งปิกนิกริมน้ำชมวิวชิลๆ ก็ได้
6. สวนสาธารณะโออิเดะ (Oide Park)
สวนสาธารณะโออิเดะ เป็นหนึ่งในจุดที่คนนิยมมาชมดอกซากุระในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ริมสองฝั่งแม่น้ำฮิเมะคาวะ (Himekawa) จะมีดอกซากุระสีชมพูเรียงราย โดยมีฉากหลังเป็นเทือกเขาสูงที่ยังมีหิมะปกคลุมอยู่บนยอด มาถึงแล้วก็อย่าลืมไปถ่ายรูปเช็กอินที่สะพานแขวนโออิเดะ สัญลักษณ์ของสวนนี้กันด้วย
ญี่ปุ่นเต็มไปด้วยสถานที่น่าเที่ยวมากมาย และมีความหลากหลายมาก ใครเที่ยวในเมืองบ่อยแล้ว ลองเปลี่ยนบรรยากาศมาเที่ยวธรรมชาติ เดินป่า แช่ออนเซ็น เล่นสกีดูบ้าง เปิดประสบการณ์ใหม่ๆ เป็นสีสันให้ชีวิต อยากเที่ยวเดือนไหน ฤดูไหน ก็ทักหาพี่เห็ดได้เลย