แนะนำแผนเที่ยว 2 วัน ใน ฮานอย เวียดนาม
หนาวนี้ สำหรับคู่รักที่ต้องการไปเที่ยวเวียดนามเหนือ โดยเฉพาะที่ ฮานอย เวียดนาม แต่ไม่รู้จะวางแผนเที่ยวอย่างไรให้รู้สึกว่าได้สัมผัสกับ ฮานอย เวียดนาม จริงๆ วันนี้มัชรูมทราเวลจึงมีคำตอบมาฝากทุกคนที่คิดว่าจะซื้อทัวร์หรือซื้อตั๋ว (เครื่องบิน) ไปเที่ยว ฮานอย เวียดนาม ว่าหากเรามีวันฟรีเดย์ให้สามารถเที่ยวได้ด้วยตัวเอง กิจกรรม 2 วันในเมืองหลวงของเวียดนามแห่งนี้ เราสามารถทำอะไรได้บ้าง
วันที่ 1 ย่านเมืองเก่า – ทะเลสาบฮหว่านเกี๊ยม – BBQ Chicken Street – Bia Hoi Corner
1. สำรวจย่านเมืองเก่า Old Quarter
วันแรกหลังจากรับประทานอาหารเช้ารองท้องเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จุดหมายปลายทางในฮานอยที่แรกที่มัชรูมทราเวลขอแนะนำก็คือการไปสำรวจย่านเมืองเก่าของ ฮานอย เวียดนาม ที่มีชื่อว่า Old Quarter ค่ะ เพื่อสัมผัสวิถีชีวิตของชาวฮานอยแบบดั้งเดิมว่าเค้าอยู่กันแบบไหน กินกันแบบไหน และใช้ชีวิตกันแบบไหนในย่านที่มีประวัติอันยาวนานกว่า 600 ปี ทั้งนี้ความพิเศษของ Old Quarter ก็คือ จะเป็นย่านที่มีถนนตัดผ่านมากถึง 36 สายด้วยกัน
โดยแต่ละสายก็จะเต็มไปด้วยแหล่งบันเทิงสำหรับนักท่องเที่ยว ทั้งกิน เที่ยว ดื่ม รวมไปถึงการช้อปปิ้งที่ถนนแต่ละสายก็จะมีของขายที่แตกต่างกันออกไป อย่างเช่นถนนสาย Hang Dau ก็จะขายเฉพาะรองเท้า ส่วนถนนสาย Hang Gai นั้นขายผ้าไหม เป็นต้น เรียกว่าถนนทั้ง 36 สายนี่มีของขายที่ไม่ซ้ำกันเลยล่ะค่ะ ใครที่ขยันเดิน มาช้อปปิ้งในย่านนี้น่าจะถูกใจอย่างแน่นอน
แผนที่:
2. เอนจอย อีทติ้งไปกับเมนู Bun Bo Nam Bo อันเลื่องชื่อ
หลังจากเดินช้อปปิ้งในย่าน Old Quarter มาพอสมควรแก่เวลาแล้ว ในมื้อเที่ยงหากยังนึกไม่ออกว่าจะรับประทานอะไรดี แนะนำว่าทางทิศตะวันตกของย่าน Old Quarter มีร้านขายเมนู Bun Bo Nam Bo ที่อร่อยสุดยอดอยู่ร้านนึงคือ Bún bò Nam Bộ ซึ่งเปิดให้บริการทุกวันในเวลา 11.00-22.00 น. โดยเมนู Bun Bo Nam Bo ก็คือก๋วยเตี๋ยวเส้นหมี่ราดด้วยเนื้อวัวผัดซอสนั่นเอง ถือเป็นเมนูขึ้นชื่อของเมือง ฮานอย เวียดนาม ที่เราอยากให้คุณได้ลิ้มลองดูสักครั้ง
แผนที่:
3. เดินเล่นรอบทะเลสาบฮหว่านเกี๊ยม
หลังมื้อเที่ยงก็มาเดินย่อยรอบทะเลสาบฮหว่านเกี๊ยมหรือทะเลสาบคืนดาบ ที่ตั้งอยู่บริเวณใจกลางเมืองเก่าของกรุงฮานอย ที่มีตำนานเล่าขานมาตั้งแต่ในช่วงศตวรรษที่ 15 เมื่อจักรพรรดิเล เหล่ยได้ใช้ดาบศักดิ์สิทธิ์ในการขับไล่ชาวจีนให้ออกไปจากเวียดนาม ซึ่งในขณะที่พระองค์กำลังประทับอยู่บนเรือ ณ ทะเลสาบแห่งนี้ ก็มีตะพาบยักษ์ตัวหนึ่งโผล่ขึ้นมาจากผิวน้ำ เพื่อบอกให้พระองค์ส่งดาบนั้นกลับคืนแด่จ้าวมังกร ทันใดนั้นดาบก็ได้พุ่งออกจากฝักดาบเข้าไปในปากของตะพาบก่อนที่จะหายกลับลงไปสู่ใต้ผิวน้ำ และนั่นก็เป็นที่มาของทะเลสาบคืนดาบแห่งนี้นี่เอง
ปัจจุบันทะเลสาบฮหว่านเกี๊ยมถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจของชาวฮานอย ที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติก็นิยมมาเยือน เนื่องจากทางรัฐบาลเวียดนามได้สร้างสวนสาธารณะล้อมรอบทะเลสาบแห่งนี้เอาไว้ อีกทั้งที่นี่ยังเป็นที่ตั้งของวัดหง็อกเซินที่มีสะพานไม้สีแดงอย่างสะพานเทฮุกที่เป็นจุดถ่ายรูปยอดนิยม รวมไปถึงหอคอยโบราณที่โผล่พ้นน้ำอย่างหอคอยเต่าก็ทำให้ภาพที่ถ่ายออกมานั้นดูสวยเป็นเอกลักษณ์เช่นเดียวกัน
แผนที่:
4. นั่งชิลล์ๆ จิบกาแฟไข่รสกลมกล่อม
หากเดินรอบทะเลสาบคืนดาบแล้วเหนื่อย อยากพักขาหาเครื่องดื่มอุ่นๆ ดื่มให้ชื่นใจ ขอแนะนำให้ไปที่ร้าน Cafe Đinh ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณรอบๆ ทะเลสาบค่ะ ซึ่งร้านนี้จะเปิดให้บริการนับตั้งแต่ 07.00-22.30 น. โดยมีเมนูเด็ดที่ต้องสั่งให้ได้คือ Egg Coffee กาแฟท้องถิ่นของชาวเวียดนามที่มีความพิเศษคือฟองครีมไข่ที่ผสมในกาแฟ ซึ่งไม่กลิ่นหรือรสคาวเลยค่ะ ตรงกันข้าม ฟองครีมไข่นี้กลับอร่อยและกลมกล่อมกว่าฟองนมตามปกติทั่วไปที่เค้าใส่ในกาแฟด้วยซ้ำ นอกจากนี้ราคาก็ยังไม่แพงอีกด้วย โดยสนนราคาต่อแก้วหากคิดเป็นเงินไทยจะอยู่ประมาณ 20-30 บาทเท่านั้นเอง
แผนที่:
5. รับประทานค่ำที่ BBQ Chicken Street
ในช่วงค่ำ อาหารเย็นในวันฟรีเดย์นี้ ขอแนะนำว่าลองไปหาไก่ย่างอร่อยๆ ทานในย่าน Ly Van Phuc ก็ดีเหมือนกันนะคะ ซึ่งย่านนี้จะรู้จักกันดีในหมู่คนท้องถิ่นว่าเป็น BBQ Chicken Street เพราะตั้งแต่ต้นซอยไปจนถึงท้ายซอย อาหารที่ตั้งขายกันเกลื่อนก็คงจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจาก ไก่ย่างหอมๆ ที่เคลือบน้ำผึ้งอย่างดีก่อนจะนำไปย่างจนเหลืองสวย ส่งกลิ่นหอมเย้ายวนกระเพาะอาหารไปทั่วบริเวณ โดยเค้าจะเสิร์ฟมาพร้อมกับขนมปังแบบเวียดนามและมันฝรั่งนุ่มๆ โดยจะริ่มเปิดขายตั้งแต่เวลา 6 โมงถึง 1 ทุ่ม และเปิดยาวไปจนถึงดึกดื่นเลยทีเดียว
แผนที่:
6. สำรวจ Bia Hoi Corner รอบทะเลสาบคืนดาบ
หลังอาหารเย็น หากยังไม่อยากกลับไปนอนแกร่วในโรงแรม ลองกลับมาแถวๆ ทะเลสาบคืนดาบอีกรอบ ก็จะพบกับร้านค้ารวมไปถึงพ่อค้าแม่ค้าหาบเร่แผงลอยที่จะมาเปิดขายอาหารและเครื่องดื่มเรียงรายอยู่ตามท้องถนน ซึ่งได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี โดยเฉพาะเบียร์ฮอย (Bia Hoi) ที่ถนน Ta Hien โดยเบียร์ฮอยคือเบียร์สดสไตล์เวียดนามที่โดดเด่นด้วยรสชาติที่นุ่มลิ้ม แถมยังราคาถูกอีกต่างหาก ประมาณแก้วละ VND 5,000 – VND 8,000ใครไม่อยากนอนไวต้องรีบมาจัดเบียร์ฮอยสักแก้วก่อนนอน จะทำให้หลับง่ายยิ่งขึ้นค่ะ
แผนที่:
วันที่ 2 สุสานโฮจิมินห์ – พิพิธภัณฑ์เรือนจำ Hoa Lo – ตลาดดงซวน – สะพาน Long Bien
1. เยี่ยมชมสุสานโฮจิมินห์
สำหรับวันที่ 2 นี้ จะเริ่มต้นกันที่หลุมศพขนาดใหญ่อันเป็นเก็บร่างของโฮจิมินห์ อดีตประธานาธิบดีของเวียดนาม ซึ่งได้เสียชีวิตลงในปี 1969 และร่างของเค้าก็ได้ถูกดองและเก็บเอาไว้ในสุสานโฮจิมินห์แห่งนี้ ที่ปัจจุบันกลายเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวในฮานอยที่มีคนเข้าเยี่ยมชมมากที่สุด ทำให้คิวของการเข้าไปชมสุสานในแต่ละวันนั้นค่อนข้างยาวเหยียด ภายในสุสานจะไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพนะคะ ซึ่งข้างในก็จะเป็นโลงแก้วที่บรรจุร่างของอดีตประธานาธิบดีที่ยิ่งใหญ่แห่งเวียดนามนอนแน่นิ่งอยู่ ส่วนภายนอกก็ถูกจัดแต่งให้เป็นสวนที่สวยงาม
แผนที่:
2. เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์เรือนจำ Hoa Lo
หลังจากเสร็จจากการคาราวะอดีตท่านผู้นำให้เวียดนาม ก็ขอแนะนำให้ไปลุยกันต่อที่พิพิธภัณฑ์เรือนจำ Hoa Lo ซึ่งได้ชื่อว่าเป็น 1 ในเรือนจำที่โหดร้ายที่สุดของเวียดนามในยุคที่เวียดนามได้ตกเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศสและสงครามเวียดนาม โดยเรือนจำแห่งนี้สร้างขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ซึ่งดูจากภายนอกอาจจะเห็นเป็นอาคารสีเหลืองอ่อนธรรมดา แต่ภายในนั้นเต็มไปด้วยความโหดร้ายทารุณที่ถูกซุกซ่อนเอาไว้ ทั้งห้องขังขนาดเล็กขนาด 1.8 x 1.8 เมตร รวมไปถึงเครื่องทรมานอื่นๆ และรูปปั้นนักโทษในอิริยาบถต่างๆ ที่จัดแสดงไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ชม ซึ่งหลังจากชมพิพิธภัณฑ์เรือนจำแห่งนี้เสร็จแล้ว จะทำให้ผู้มาเยือนเห็นคุณค่าของการมีชีวิตอยู่อย่างอิสระนอกกรงขังมากขึ้นค่ะ
แผนที่:
3. แวะรับประทานอาหารเที่ยงที่ร้าน Cha Ca La Vong
หลังจากเที่ยวสถานที่ทั้ง 2 แห่งเสร็จก็คงเป็นเวลาเที่ยงพอดี สำหรับทางเลือกที่ 2 นี้ขอแนะนำที่ Cha Ca La Vong ร้านอาหารชื่อดังแห่งกรุงฮานอยที่มีเมนูขึ้นชื่ออย่าง Cha Ca La Vong ซึ่งเป็นชื่อเดียวกับชื่อร้าน โดยเป็นเมนูปลาทอดที่มีความพิเศษคือ ก่อนจะทอดเค้าจะนำปลาหั่นเป็นชิ้นแล้วหมักขมิ้นเอาไว้ จากนั้นจึงนำไปย่างก่อนที่จะนำไปทอด โดยนิยมทานคู่กับผักชีลาว ต้นหอม ถั่วลิสงคั่ว และเส้นขนมจีน ส่วนน้ำจิ้มจะทำมาจากกะปิและน้ำปลาเวียดนาม ปรุงรสด้วยน้ำมะนาว และโรยพริกสดเล็กน้อยเพื่อให้ความเผ็ดนิดๆ เป็นเมนูยอดนิยมของร้านมีอายุยาวนานมากว่า 140 ปี
แผนที่:
4. แวะช้อปปิ้งของฝากที่ตลาดดงซวน
ตลาดดงซวนคือตลาดที่ใหญ่ที่สุดในฮานอยซึ่งตั้งอยู่ใจกลางย่านเมืองเก่า ลักษณะเป็นอาคารขนาดใหญ่ที่ประกอบด้วยหลังคาโค้ง 5 หลัง ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดมากกว่า 6,500 ตารางเมตร ที่ภายในถูกแบ่งออกเป็นทางเดินเล็กๆ ลัดเลาะทั่วตึก ภายในมีสินค้าหลากหลายประเภทให้ได้เลือกซื้อ นับตั้งแต่สินค้าแฟชั่นเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า ผ้าคลุมไหล่ ไปจนถึงของเล่น และของที่ระลึกชิ้นเล็กๆ นอกจากนั้นตลาดดงซวนยังมีบริเวณที่เป็นตลาดกลางคืนที่อยู่บริเวณภายนอกอาคารด้วยเช่นกัน โดยจะเปิดทุกคืนวันศุกร์ เสาร์และอาทิตย์ โดยจุดนี้จะเต็มไปด้วยสินค้าประเภทเครื่องปั้นดินเผาและของที่ระลึกมากกว่าภายในอาคารเสียอีก
แผนที่:
5. ชมวิวสวยๆ ที่สะพาน Long Bien
ปิดท้ายวันที่สองของการเที่ยวฮานอย ด้วยการไปชมทัศนียภาพสวยๆ ของเมืองฮานอย บนสะพานที่ไม่ได้ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในสถาปัตยกรรมสิ่งก่อสร้างที่สง่างามที่สุดในภาคตะวันออก ที่เต็มไปด้วยความสำคัญทางประวัติศาสตร์ในยุคสมัยของการการยึดครองของฝรั่งเศสและสงครามเวียดนาม โดยปัจจุบันสะพานที่ความยาวเพียง 2.3 กิโลเมตรแห่งนี้ กลับเป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก เพราะเป็นที่ที่เหมาะสำหรับการมาเดินเล่นหรือขี่จักรยานกินลมชมวิวแม่น้ำแดง และเรือบรรทุกสินค้าที่แล่นลอดใต้สะพานเป็นระยะ โดยเฉพาะในช่วงที่พระอาทิตย์ใกล้จะตกดิน ที่นี่จะยิ่งสวยงามมากเป็นพิเศษ ด้วยสีสันของท้องฟ้าที่สะท้อนบนแม่น้ำ ซึ่งเหมาะสำหรับการถ่ายภาพเป็นที่สุด
แผนที่: